ครั้งแรกในชีวิตที่ OSAKA

EP.1คุณเคยเจอจุดหักมุมในชีวิตไหมครับ ทำงานมา 5 ปีเป็นนายธนาคาร สีน้ำเงิน และ ชมพู สุดท้ายก็ลาออกแล้วไปเที่ยว OSAKA กับ แฟน ที่ลาออกเหมือนกัน
(แฟนผมทำงานแบงค์ สีน้ำเงิน เหมือนกันครับ ) ผมเชื่อเรื่องจังหวะของชีวิตของแต่ละคนผู้อ่านในกระทู้เชื่อเหมือนผมไหมครับ พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยครับ 

เริ่มจากการวางแผน 1 ปี ก่อนไป OSAKA  ในชีวิตนึงของผมอยากไปสักครั้งประเทศ JAPAN  ตอนนั้นผมทำงานธนาคาร สีชมพูแล้ว และแฟนผม ก็ทำงานธนาคารสีน้ำเงิน เราอยู่ไกลกันมาก เราจะเจอกันเสาร์-อาทิตย์(บางสัปดาห์เท่านั้นกรณีโดนเร่งเป้า) ต้องบอกก่อนนะครับการไปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของแฟนผม เห็นตั๋วถูก จอง ตั๋ว แล้วก็ชวนผมไปทำพาสปอร์ต ทันที ไม่ถามสุขภาพทางการเงินสักคำ^^ เราใช้บัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพเป็นหลักครับ(บัตรตั๋วเครื่องบิน AIR ASIA สีแดงๆ รูปเครื่องบินแบบหรูๆอันนี้ผมว่าเท่ดีครับดูมีระดับแต่ทุกคนจับต้องได้)  แนะนำว่าทำไว้เลยครับดียังไง อันดับแรก สะสมไมล์ BIG POINT (ไว้แลกตั๋วเครื่องบิน) , แลกน้ำฟรีมูลค่า 50 บาทบนเครื่อง และแสดงบัตรเข้าเครื่องก่อนได้เลยครับ (เท่าที่ทราบนะครับ)  สิ่งที่ผมจะบอกคือบัตรเครดิตสำคัญมากและหากเราใช้เป็นจะเป็นผลดีมากกว่าเสียครับอีกบัตรเครดิตที่ขาดไม่ได้ JCB ของ AEON ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉินในประเทศญี่ปุ่นครับเช่นเงินเยนที่เราแลกไปหมดอันนี้ช่วยได้เลยครับ
เรามาเริ่มขั้นตอนการเตรียมตัวของผมและแฟนได้เลยครับ 
-เรื่มศึกษาก่อนว่าเราจะไปที่ไหนในญี่ปุ่น สรุป คือ OSAKA (มีUSJ สวนสนุกที่มี HARRY POTTER)อันนี้อยากไปจริงๆเพราะผมเห็นในรีวิวแล้ว
แต่อยากไปที่จริงมากๆ เราวางแพลนว่าจะไปกันช่วงเดือนกุมพาพันธ์กำหนดการครั้งนี้ 6 คืนกับ 7 วัน 
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 2 คน 30,000 บาท เริ่มตั้งแต่สนามบินเชียงใหม่ ต่อเครื่องที่ดอนเมืองและบินตรงยังโอซาก้า
ค่ากินเราเตรียมไว้ 200,000 เยนคิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,000 บาท 
สิ่งที่สำคัญที่ผมขอแนะนำและขาดไม่ได้คือ พอกเก็ตwifi 2,500 บาท
เงินสดติดตัว 5,000 บาท เสื้อผ้ากันหนาว 5,000 บาท บัตรเข้าสวนสนุกUSJแบบธรรมดา 2 คน 4,700 บาท(แนะนำสำหรับคนที่เซฟต้นทุนแต่สนุกมากตอนวิ่งแข่งเข้าไปจองเครื่องเล่นถ้าอยู่หัวแถวไม่ต้องรีบครับแนะนำเลย)
ค่าโรงแรมที่พัก อยู่ในย่านโอซาก้าติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แบบเหมา 12,000 บาท ชื่อHOSTEL Q ห้องน้ำรวมแต่ไม่ใช่ปัญหาครับบริการดีมากที่สำคัญพนักงานต้อนรับหน้าตาดี พี่สาวผมเป็นคนแนะนำ
สรุปค่าใช้จ่ายเบื้อต้น 119,200 บาท สำหรับ 2 คน 

หนังสือนี้ดีมากครับแนะนำเลยที่จริงหาในเน็ตก็ได้ครับแต่สำหรับผมชอบแบบวิธีนี้มากกว่าเพราะเขารวบรวมทุกสิ่งให้เราแล้วที่เหลือคือเราจะไปเก็บประสบการณ์จริงที่ผมบอกเลยว่าต้องไปเองถึงจะรู้ว่าคั้งแรกในต่างแดนเป็นยังไง
หลังจากมีพอตสถานที่งบประมาณที่ตั้งแล้วที่สำคัญแลกไว้เลยครับ เงินเยน ^^ควรแบ่งไว้สองกระเป๋าครับเนื่องจากกรณีเกิดปัญหาเราก็ยังมีสำรอง
เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยิ่งแบงค์ที่เราแลกไปเป็นแบงค์ใหญ่ๆตอนไปจ่ายนี่สนุกครับแต่หารู้ไม่ว่าแพงมากๆ
ก่อนเข้าประเทศ ญี่ปุ่น หรือทุกประเทศต้องผ่าน ตม.ครับซึ่งอันนี้ผมก็หาข้อมูลมาจากพันทิปอีกทีถ่ายแล้วแคปหน้าจอไว้ช่วยได้เยอะครับ^^
เมื่อมาถึงประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก คือตื่นเต้นมากตอนเข้าตม.เพราะมีคนก่อนหน้าเราโดนเชิญเข้าห้อง^^ ในใจนี่คิดถึงบุญที่ทำเลยครับ
ขออย่าให้เราโดนส่งกลับเลย เพราะเราอยากไปเที่ยวจริงๆ ตอนผมไปนี่เป็นหน้าหนาวครับ อากาศตอนนั้น 13 องศากำลังเย็นสบายเลยครับ
เราเตรียมเสื้อกันหนาวไป3ชุดและที่สำคัญเสื้อบัพข้างในควรมีครับเพราะจะทำให้อุ่นมาก ผ้าปิดปากแบบเท่ๆแบบเกาหลีและผ้าพันคอครับ
สิ่งที่ผมสัมผัสได้ในประเทศญี่ปุ่นคือการมีระเบียบวินัยครับ การปฎิบัติหน้าที่ของเขาแต่ละอาชีพตั้งใจมากครับไม่มีแวกแวกเลยและการขึ้นลงบันไดเลื่อน
คนไม่รีบจะยืนชิดซ้ายสำหรับคนรีบก็เดินลงไปได้เลยครับ ทุกสิ่งทุกอย่างหน้าตื่นเต้นไปหมดบ้านเมืองเขานี่สุดยอดครับแค่ประตูเสาวัดรูปปั้น
เราถ่ายทุกรูปใครจะว่าบ้าก็ตามครับ โมเม้นต์นั้นยอมรับว่าเราติดใจไปแล้ว เรามาถึงเกือบสี่ทุ่มของเวลาญี่ปุ่น เดินทาง 7 ชมจากไทย
พอมาถึงต้องรีบหาตั๋วรถไฟไปที่พักในเมืองให้เร็วที่สุดครับเพราะเรามาสาย ทางโรงแรมเขาติดต่อผ่านพี่สาวผมที่ไทยให้รีบเช็คอิน
ผมกับแฟนวิ่งขาลากพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และอากาศที่หนาวแสบปอดมากครับนี่คือเหตุการณ์แรกที่ตื่นเต้นครับ
HOSTEL Q พื้นที่เล็กๆแต่การบริการเป็นกันเองมากครับแนะนำเลย ผมไปถึงตอนดึกเขาส่งพลาสเวิสให้พี่สาวผมและเขียนป้ายติดตรงประตู
ว่าพรุ่งนี้เจอกันฝันดีนะครับ เราประทับใจมากครับบอกเลยกลัวจะได้หาที่พักใหม่และดึกแล้วอันตรายอากาศก็หนาวใจผมนี่เครียดเพราะมา
ครั้งแรกก็ลำบากเลยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี  เช้าวันแรกที่สดใสของญี่ปุ่น ติดตามต่อ EP.2ครับ มีอะไรแนะนำคอมเม้นมาได้เลยครับผมพึ่งเคยทำกระทู้ครั้งแรก
EP2. เริ่มวันใหม่ที่สดใส"ไปไม่ งง แสดงว่าไปไม่ถึง OSAKA!!!^^ 🎌🎌🎌" 📍📍
และแล้ววันนี้ก็ได้อัพเดตการท่องเที่ยว🌎🏃🏃
ทั้งการมึน การ งง งงกับการหาสถานี360องศาของจริง รถไฟขึ้นไม่ยากสิ่งที่ยากคือการหาสถานีครับภาษาอังกฤษเราพอสื่อสารได้ครับ 
พอเจอเหตุการณ์จริงง คือคนญี่ปุ่นชาตินิยมมากครับแต่เขาเก่งเรื่องภาษามือเข้าใจง่าย
Day 1 ที่เราวางไว้คือการไปกินสเต็กที่โกเบครับ🐂🐂 แต่ด้วยความที่เวลาที่นี้มันก็เร็วกว่าเราไป2 ชม.เราก็แอบตื่นสาย  เข้าๆออกๆขึ้นๆลงๆ ข้ามถนนไปมาผมคิดว่าคงไม่ได้ไปเที่ยวแน่ๆ^^เพราะสถานีมีหลายชั้นครับทั้งใต้ดิน และ ชั้นบน เราวนหาตามGPSเชื่อไหมครับเจ้าหน้าที่สถานีแจ้งว่าเดินไปทางด้านล่างทีนี้ตาสว่างเลยครับขึ้นรถไฟเป็นทันทีทันได เดินจนหมดแรงจะไปต้องมาจบที่กินข้าวกันก่อนอารมดีแล้วเดี๋ยวสมองงใสจะได้มีแรงเที่ยวกันต่อครับสิ่งที่คิดจะกิน ข้าวหน้าปลาไหลครับ อู้หือน่ากินมากแต่สุดท้ายผมก็ลากแฟนไปกินอย่างอื่น(ผมเป็นคนไม่กินปลา)ขอโทษนะคุณแฟนT T
ไม่รู้จะเรียกเป็นภาษาไทยว่าเมนูอะไร ข้าวหน้าหมูไข่ลาวาละกันครับ^^ กับซุปอุด้ง เราสองคนมองว่าเมนูไหนไม่ถึง 1,000 เยน เราพอรับได้
ณ ช่วงเวลานั้นนะครับแต่กลับมาไทย ก็ถือว่าคุณภาพกับราคาไม่แพงครับ(คล้ายๆเซ็ตของยาโยอิแต่ที่ไทยเราคงไม่กินแบบนี้ทุกวันครับ)
และของผมจะเป็นข้าวเบอเกอร์หมู กับเท็มปุระครับ กินไปคุยกันไป ผมเป็นคนชอบสังเกตุ ตั้งแต่เข้าร้านพนักงานต้อนรับ ทุกสิ่งทุกอย่างการบริการ
ผมชอบความคิดคนญี่ปุ่นครับถ้าเป็นพนักงานต้อนรับเขาจะยืนรอต้อนรับลูกค้าแบบใจจดใจจ่อมากครับไม่มีการเล่นโทรศัพท์หรือใดๆเลยขนาดจะคุยกัน
กับพนักงานด้วยกันยังไม่มีเลยครับเหมือนกับงานคืองานจริงๆ ประทับใจมากเลยถ้าลองคิดว่าเราเป็นเจ้าของร้านที่ประเทศไทยแล้วมีพนักงานแบบนี้
คงจะดี^^  เราจะไปกินเนื้อโกเบที่เขาว่าอร่อยๆยอมจ่ายแพงๆสักครั้งระหว่างเดินเที่ยวในเมืองโกเบเราก็ไปเจอวัด(ศาลเจ้า)ไม่รู้ว่าชื่ออะไรนะครับ แต่ที่แน่ๆเราไปถ่ายรูปอย่างเดียวเลย^^จุดเด่นของวัดนี้คือเสาแดงที่เรียงรายกันเป็นแถบๆซึ่งปกติจะมีที่ โตเกียว แต่ต้องขึ้นรถไฟซินคันเซนค่าตั๋ยวแบบว่าตั๋วเครื่องบินย่อมๆผมกับแฟนเลยถ่ายรูปให้ท่านผู้ติดตามได้ชมครับ มาเริ่มเรื่องที่หลายๆคนสงสัยว่าจุดหักมุมในชีวิตผมดีกว่าครับ 
-ผมทำงานในธนาคารชมพูแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นธนาคารเก่าแก่ที่หลายๆคนใฝ่ฝัน(ตำแหน่งลูกจ้างครับ)ผมโตมาในสายสินเชื่อ และการทำงานของธนาคารนี้
ค่อนข้างสนุกตรงพบปะกับประชาชนได้ลงพื้นที่จริง และนโยบายใหม่ๆของภาครัฐ มั่นคง เหมือนจะดูดีครับ พี่ๆที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผมเสมอความรู้
ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมทำมาได้เกือบ 2 ปีวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหน้า ช่วงกุมภาพันธ์  สุดท้ายผมมาลาออกเนื่องจาก บุคลากรภายใน(หัวหน้างาน)
ผมลาออกเดือนกุมภาพันธ์ครับ ใช้เวลาเที่ยวและที่เหลือลงเป็นลาพักร้อนลากิจลาทุกอย่างให้ครบตามสิทธิ์ของผม วันที่ผมยื่นใบลาออกใจนึงผมคิดถูกแล้วครับถ้าวันนั้นย้อนไปได้ผมก็เลือกแบบเดิม งานทุกอย่างหัวหน้างานและพี่พนักงานจะโหลดงานมาที่ ลูกจ้างทั้งหมด แทบจะทุกอย่างผลิตภัณฑ์ของธนาคารมีเยอะมากครับแต่พนักงานน้อย ยิ่งโครงการรัฐเข้ายิ่งเหนื่อยครับ(บัตรคนจน)ทำทุกสิ่งทุกอย่างครับ เอาเป็นว่าเคยฝันเรื่องงานบ่อยมากๆ เราทำงานเกินค่าแรงครับบอกเลย ยิ่งผมอยู่ที่ห่างไกล การทำงานเกินเวลาแทบทุกวัน OT ไม่มีครับ มีแต่ Oใจ โบนัสไม่มีครับ มีแต่โบใจจากพี่ๆพนักงานที่เขาแบ่งให้แต่ละปี ผมเจอพี่ๆที่เป็นลูกจ้างมบางคนทำมา 4-5 ปียังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงาน ที่ผมลาออกเพราะสำหรับผมไม่คุ้มค่ากับเงินเดือนครับ
15,000 บาทหลายๆคนคงบ่นผมไม่สู้งานผมบอกไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกครับถ้าได้มาสัมผัสเองจะรู้^^ผมมองว่าอนาคตต้องมีครอบครัวแค่ตัวเองหาเลี้ยงแค่นี้ไม่พอคนอื่นคงไม่ต้องพูดถึงครับลองคิดเล่นๆนะครับสมมุติ ไม่ได้บรรจุ 5 ปี ผมเอาเวลา 5 ปีไปสมัครงานที่ใหม่ได้ค่าจ้างที่สูงกว่าเดิม และได้โบนัส ปีๆนึงพนักงานที่บันจุได้มีประมาณ 10 กว่าคนคนที่สอบติดปีที่แล้วก็รอและสอบใหม่ใหม่ไปเรื่อยๆธนาคารนี้เขาเน้นต้องร่วมกิจกรรมให้ผู้ใหญ่เห็นหน้าครับ คนที่ไม่ไปทำงานดีแค่ไหน ก็ไม่มีผลครับยิ่งไม่ไปยิ่งมีผลลบบอกได้เลยครับ ทำงานบางครั้งเสาร์-อาทิตย์ไม่ได้หยุดครับ หายอดหาเป้ากันอย่างหนักออกตลาดนัดบ้าง แจกใบปลิวบ้าง หลายอย่างครับ  อีกอย่างผมตั้งใจทำงานมากแต่พนักงานกับลูกจ้างต่างกันเหลือเกินครับผมไม่ชอบระบบนี้วันนันปัญหามารวมกันผมเลยฟิวขาดครับ ยื่นใบลาออกโดยไม่คิดอะไรเลยไม่คิดว่าจะไปหางานที่ไหน ไปตายเอาดาบหน้าครับ มีเพื่อนๆหลายคนว่าผมบ้าได้งานดีจะตาย
ลาออกทำไมอยากให้มาสัมผัสครับผมไม่เคยโกรธเพื่อนๆที่ว่าผมซึ่งมันก็จริงครับผมยอมรับ ก่อนจะไปเที่ยว 1 อาทิตย์หลังจากลาออกผมพ่อกับแม่ผม
ท่านก็เป็นห่วงว่าลูกจะหางานได้ไหมผมก็เครียดครับเพราะต้องส่งค่างวดรถเดือนละ 10,600 ต่อเดือน หลังจากลาออกผมหางานใหม่ทันที JOB TOP GUN หางานในเชียงใหม่ เกี่ยวกับการเงินทุกอย่าง ขอแค่ให้ได้เงินค่ารถครับ(เอกชนที่มีโบนัสด้วย) แฟนผมก็เริ่มหาลู่ทางฃาออกครับเพราะธนาคารน้ำเงินก็ใช่ย่อยกดยอดทุกวัน ผมไปเจองานนึง งานเกี่ยวกับวิเคราะห์บัตรสีม่วง ผมกับแฟนยื่นใบสมัครพร้อมกันครับ (การสัมภาษ์ต้องเตี๋ยมกันนิดนึงว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจบจากมหาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน)ผมกับแฟนคบกันมาตั้งแต่มหาลัยครับ ผมคิดว่าถ้าผมกับแฟนได้งานนี้คงดีแน่ๆเลยจะได้อยู่ใกล้กัน
พูดสะยาวขออนุญาติต่อEP3.ครับ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่