ตอนนี้ผมอยู่ม.4มครับ มีปัญหาทางทางจิตใจค่อนข้างนานถึง1ปีแล้ว แต่ทางบ้านหรือส่วนมากคนรู้จักกันยังไม่ได้บอกเขาครับ กลัวลำบากใจ
ผมที่ได้สังเกตุอาการตัวเองมาระยะเวลา6เดือนกว่าๆแล้ว ก็รู้ได้ว่าตัวเองเริ่มขาดความมั่นใจจากมีมากแต่ก่อน ไม่กล้ามองหน้าคน อารมณ์เศร้ามากๆบ่อยครั่งจนอยากเอามีดมาแทงตัวเองดู
้เคยไปปรึกษาครูแนะแนวที่โรงเรียนแล้วครับว่า
ถ้าไม่ไหวจริงๆให้ครูพาไปหาหมอด้วยก็ได้นะ เธอขอว่าจะสังเกตุอาการก่อน ครูจะทำตามที่เธอขอก่อนละกัน เพื่อความสบายใจเธอด้วย
สาเหตุต่างๆที่อารมณ์และจิตใจผมเริ่มทรุด
มีเพื่อนที่โรงเรียนคอยแกล้งทุกๆวันตั้งแต่เปิดภาคเรียนมา มีทั้งคนแกล้งเพื่อสอนให้ผมสู้ด้วยความหวังดีบ้าง และแกล้งเพื่อสนุกเพราะผมทำตัวอ่อนแอ ไม่เอาอะไรคนมาก ให้อภัยคนอื่นเสมอ แต่ภายนอกช่วงนั้นและแต่ก่อนผมทำตัวที่เขาเรียกบ้า "ติ๊งต๊อง" ครับ
อันที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่พูดให้ง่ายๆคือ"อกหัก" ครับ
ผมเองก็ไม่กล้าพูดแบบนั้นเต็มปากเท่าไหร่
เพราะเพื่อนสนิทผู้หญิงของผมเราสองคนคุยกันมานาน4ปีได้ มีทุกข์สุขก็เล่าและระบายให้กันบ่อย
จนเกิดความรักที่ว่าผูกพันธ์กันสุดๆ ให้เทียบประมาณว่า พี่ชายกับน้องสาวได้เลย
เพือนผมเขาก็มีแฟนมาหลายคนตลอด4ปีนั่นล่ะครับ แต่ด้วยความที่ผมมุ่งมั่น และปฏิญาณตนว่า"เราแค่ต้องการเพื่อน"
กับความที่ผมกล้าแสดงออกสุดๆเลยคุยกับเขาเยอะมาก ทั้งๆที่เขามีแฟน คุยซะเหมือนเขาไม่มีเลย(ก็แบ่งเวลาถูกนั่นล่ะฮะ)
ผมซึ่งเปรียบเหมือนพี่ชาย ก็ทำหน้าที่ไม่ต่าง
จากพี่ชายมากในขณะนั้น ถึงทำตัวไม่ดีบ้างก็ตาม
มาแล้ววันหนึ่ง ปีก่อนผมอยู่ม.3จุดเริ่มต้นของแฟนวัยเดียวกันคือวันเกิดผมครับ
ก็นัดเพื่อนมากินเนื้อย่างเลี้ยงฉลองกัน
ไม่นึกว่าเพื่อนหญิงผมจะมาด้วย ดีใจมากๆ
ไปๆมาๆในงาน เพื่อนชายผมคนหนึ่งเขาได้ฉายาว่า"ผักบุ้ง" เพื่อนในงานเรียกแบบนั้นเยอะเพราะว่า เขาหยิบแต่ผักบุ้งกิน เพื่อนหญิงผมก็นึกมีใจและสนใจคนนั้น (ด้วยเพื่อนหญิงผมและเพื่อนชายเขาเป็นนักวาดรูป เลยสนใจกันดีขึ้นด้วย ผมก็นักวาดเหมือนกัน แต่ไม่เก่ง) ผ่านไปสองสามสัปดาห์หลังจากวันเกิดนั้น เขาก็คุยกับทั้งผมและเพื่อนชายคนนั้นด้วย ผมรู้เพราะว่าเพื่อนหญิงผมเขาเปิดเผย และส่งภาพแชทของเพื่อนชายบางทีที่คนนั้นคุยแปลกๆไรงี้ ผมก็เริ่มเดาได้ละว่า เพื่อนชายคนนั้นต้องการจีบเพื่อนหญิงผมแน่ๆ เพราะเขาเป็นคนจีบหญิงเป็น ตัวผมที่ต้องการแค่เพื่อนผมก็ไม่คิดจะจีบอะไรอยู่แล้ว ไม่สนเลยด้วย
หลังจากนั้นวันไปเรียนผมก็เริ่มกังวลใจ
เพราะท่าทีสองคนนั้นเขาเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ ไปไหนมาไหนก็เริ่มตามติดกันไป
้เวลาพักเพื่อนๆในห้องก็ตั้งโต๊ะวงคุยกัน สองคนนั้นนั่งใกล้กันชิดมาก และแสดงออดความรักเห็นได้ชัดเจน เพื่อนในห้องหลายๆคนก็ต่างพูดกันว่า ลองคบกันดูเลย คู่นี้ออกจะน่ารักมากๆ แล้วก็มีเสียงวี๊ดว๊ายด้วยความอวยของเพื่อนในห้อง และผมก็ทำตัวไม่ถูก เหมือนกับมีหนามคอยแทงหัวใจไปเรื่อยๆ ผมที่ทำอะไรไม่ได้แล้วนั้น ก็อยู้เงียบๆไป
จนผ่านไปสามวัน เขาก็ได้คบกันจริงๆ
หลังๆนั้นผมก็เริ่มคุยแบบสนุกสนานกับเขาไม่ได้เลยอีก
ตัวผมที่ทำอะไรไม่ถูกนั้น สภาพจิตใจก็เริ่มแย่ขึ้นทุกที ความมั่นใจอะไรก็ห่างหายเรื่อยๆ
และทางบ้านก็มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยในครอบครัว
มันเริ่มบั่นทอนจิตใจผมไปเรื่อยๆ การตั้งใจเรียนอะไรก็ไม่ค่อยมีเหมือนก่อนแล้ว ติดเพื่อนมากขึ้นจากแต่ก่อนไม่เคย การบ้านมีก็ไม่ค่อยทำส่ง จนแม่กังวลและพูดกับผมว่าผมเป็นเด็กเกเร เหลวไหล ไม่ตั้งใจเรียน
ผมซึ่งโดนพูดแบบนั้นใส่ มันบั่นทอนจิตใจสุดๆ อาการก็เริ่มแย่ลงทุกที
ทางหนึ่งที่ทำให้ผมมีกำลังใจเป็นช่วงๆนั้นคือ
ดูอนิเมะกับมีเพื่อนหญิงอีกคนคุยด้วยครับ
ของเหล่านี้ก็ทำได้แค่เป็นระยะนั่นล่ะครับ ใช่ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของผมและทางบ้านแล้วว่า จะยอมรับตัวผมแล้วทำใจกับมันโดยแสดงออกสีหน้าด้วยความหายห่วงใจ แล้วบอกว่า"ตั้งตัวใหม่เถอะลูก ไปแก้แล้วนับใหม่ให้ได้" ผมที่อยู่ได้แค่จิตนาการนั้น ก็ฝันถึงคำพูดนี้ได้ เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่คนเป็นพ่อแม่คนมีนิสัยที่เด็ดขาด แน่วแน่ ผิดหวังมาเยอะจนเครียดและทุกข์ใจจนอยากระเบิดออกมาใส่คนทางบ้าน
ผมที่ผิดหวังในเรื่องความรักนั้น ตัวผมเองก็ไม่เสียใจเลย ดีใจด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะฮอร์โมนวัยรุ่นกำลังหลั่งหรือง่ายๆคือโตเป็นหนุ่มแล้วเลยออกมาแบบนี้ได้
ในปัจจุบันขณะนี้
ผมก็ไม่ค่อยมีจิตใจอยากไปเรียนเท่าไหร่ เลยชอบตื่นสายบ่อย สายแล้วนอนที่บ้านเพลินยาวๆเลย บางทีก็ไปโรงเรียนเวลาบ่ายสองบ่ายสาม เพื่อนจากที่เคยแกล้งบ่อยๆ บางคนก็เป็นห่วงผมขึ้นมาเลย ตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เวลาผมมาสาย เขาก็โทรตามผมตลอด ก็มีบางช่วงบ้างที่ผมมีใจฮึดพอดีเลยไปได้เร็วสุดคือ9-10โมงเช้า ช้าสุดคือ15:30น. จนตอนนี้ได้ติด มส.มาสองวิชาแล้วครับ คือ ภาษาจีนที่ครูพึ่งเป็นวัยรุ่นอยู่ เลยไม่ค่อยคิดสงสารคนมาก ติดแล้วคือแก้(27-30มั้งอายุ)
กับอีกคนเป็นภาษาอังกฤษที่ผมเกรงว่าจะติดหากขาดอีกคาบเรียนเดียว (34-45ครับอายุครูคนนี้)หรือไม่ก็ติดแล้ว ด้วยที่ว่าม.4ครูแต่ละคนถ้าไม่เคร่งกฏหรือเห็นใจคนมาก จะไม่ให้ติดเลย แต่แลกด้วยทำงานเยอะขึ้นหรืออยากเห็นอนาคตคนนั้นมีได้
ตอนนี้ก็ได้อีกคือ ไม่ผ่านการเข้าแถว ซึ่งต้องมาลุ้นอีกว่าจะติดจริงๆไหม ถ้าติดผมก๊มีเพื่อนอีกคนที่มาโรงเรียนสายประจำไม่ต่างจากผมแต่เขามาไวได้ไม่ขาดเรียนมาก
ที่บ้านผมตอนนี้ผมอยู่กับน้าสองคน พ่อกับแม่ก็แวะมาหาครั้งคราวบ้าง ซึ่งไม่ต่างกับผมอยู่บ้านคนเดียวครับ วินัยอะไรต้องฝึกเอง พลาดก็ได้รู้ซึ้งมาหมดเหมือนตอนนี้
วันนี้ผมมีเรียนลูกเสือครับ เมื่อคืนผมนอนก่อนเวลาควร เพราะเหนื่อยมากับแดดร้อนๆ นอนแอร์เย็น ผมนึกได้อีกทีตอนเช้าเกือบจะแปดโมงเช้าว่า ยังไม่ซักชุดลูกเสือเลยเว้ย ซวยละไง แล้วผมก็ได้รอเสั้อผ้าที่ซักนั่น
รอนานๆมันเกิดความหดหู่และความหวาดระแหวงคนรอบข้างมากขึ้นๆ ในใจก็มีคำพูดแม่ขึ้นมา"ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้ แย่สุดๆ" ยิ่งบาดใจขึ้นเรื่อยๆจนผมตัดใจที่จะไปเรียน ทั้งที่รีดผ้าอะไรเสร็จแล้ว(ผมมีชุดลูกเสือตัวเดียวไม่ได้สำรองไว้เลยซักเสร็จคือรีด)
จนตอนนี้เวลาเลยเที่ยงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ไปเรียนเลยครับ มานั่งระบายที่กระทู้นี้อยู่
จากนี้แล้ว ผมควรจะบอกครูแนะแนวให้พาไปตรวจโรคซึมเศร้าไหมครับกับหมอ
และติดมส.ต้องทำยังไงบ้างครับ นอกจากบอกทางบ้านและทำใจ
ส่วนเรื่องระเบียบวินัยที่ผมทำแย่ๆแบบนี้ผมได้รู้ตัวเองแล้วครับและเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างเเล้วช่วง1สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงจะสายบ้างบางวัน ได้กำลังใจมาจากการดูอนิเมะครับเลยมีแรงผลักดันตัวเองได้
ส่วนตัวผมเป็นคนเรียนเก่พอตัวครับ ติดแค่งานไม่ค่อยส่งเพราะขี้เกียจบ้างตามประสาคนไม่มีแรงจูงใจเรียน
เกรดเฉลี่ยรวมเลยออกมาไม่โดดเด่นมาก 3.5
3.3
3.0ครับตลอดภาคเรียนมัธยม1ขึ้นมา
เพื่อนบางคนเลยเรียกผมว่า"เก่งเทียบเท่าหัวกะทิได้"
ผมเป็นคนอ่อนไหวได้มากครับ อีกอย่างลืมบอก😅
ขอความกรุณาในคำแนะนำด้วยนะครับ รุนแรงไปผมก็พอรับได้
ผมติดมส.ครับ ทำอย่างไรดี
ผมที่ได้สังเกตุอาการตัวเองมาระยะเวลา6เดือนกว่าๆแล้ว ก็รู้ได้ว่าตัวเองเริ่มขาดความมั่นใจจากมีมากแต่ก่อน ไม่กล้ามองหน้าคน อารมณ์เศร้ามากๆบ่อยครั่งจนอยากเอามีดมาแทงตัวเองดู
้เคยไปปรึกษาครูแนะแนวที่โรงเรียนแล้วครับว่า
ถ้าไม่ไหวจริงๆให้ครูพาไปหาหมอด้วยก็ได้นะ เธอขอว่าจะสังเกตุอาการก่อน ครูจะทำตามที่เธอขอก่อนละกัน เพื่อความสบายใจเธอด้วย
สาเหตุต่างๆที่อารมณ์และจิตใจผมเริ่มทรุด
มีเพื่อนที่โรงเรียนคอยแกล้งทุกๆวันตั้งแต่เปิดภาคเรียนมา มีทั้งคนแกล้งเพื่อสอนให้ผมสู้ด้วยความหวังดีบ้าง และแกล้งเพื่อสนุกเพราะผมทำตัวอ่อนแอ ไม่เอาอะไรคนมาก ให้อภัยคนอื่นเสมอ แต่ภายนอกช่วงนั้นและแต่ก่อนผมทำตัวที่เขาเรียกบ้า "ติ๊งต๊อง" ครับ
อันที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่พูดให้ง่ายๆคือ"อกหัก" ครับ
ผมเองก็ไม่กล้าพูดแบบนั้นเต็มปากเท่าไหร่
เพราะเพื่อนสนิทผู้หญิงของผมเราสองคนคุยกันมานาน4ปีได้ มีทุกข์สุขก็เล่าและระบายให้กันบ่อย
จนเกิดความรักที่ว่าผูกพันธ์กันสุดๆ ให้เทียบประมาณว่า พี่ชายกับน้องสาวได้เลย
เพือนผมเขาก็มีแฟนมาหลายคนตลอด4ปีนั่นล่ะครับ แต่ด้วยความที่ผมมุ่งมั่น และปฏิญาณตนว่า"เราแค่ต้องการเพื่อน"
กับความที่ผมกล้าแสดงออกสุดๆเลยคุยกับเขาเยอะมาก ทั้งๆที่เขามีแฟน คุยซะเหมือนเขาไม่มีเลย(ก็แบ่งเวลาถูกนั่นล่ะฮะ)
ผมซึ่งเปรียบเหมือนพี่ชาย ก็ทำหน้าที่ไม่ต่าง
จากพี่ชายมากในขณะนั้น ถึงทำตัวไม่ดีบ้างก็ตาม
มาแล้ววันหนึ่ง ปีก่อนผมอยู่ม.3จุดเริ่มต้นของแฟนวัยเดียวกันคือวันเกิดผมครับ
ก็นัดเพื่อนมากินเนื้อย่างเลี้ยงฉลองกัน
ไม่นึกว่าเพื่อนหญิงผมจะมาด้วย ดีใจมากๆ
ไปๆมาๆในงาน เพื่อนชายผมคนหนึ่งเขาได้ฉายาว่า"ผักบุ้ง" เพื่อนในงานเรียกแบบนั้นเยอะเพราะว่า เขาหยิบแต่ผักบุ้งกิน เพื่อนหญิงผมก็นึกมีใจและสนใจคนนั้น (ด้วยเพื่อนหญิงผมและเพื่อนชายเขาเป็นนักวาดรูป เลยสนใจกันดีขึ้นด้วย ผมก็นักวาดเหมือนกัน แต่ไม่เก่ง) ผ่านไปสองสามสัปดาห์หลังจากวันเกิดนั้น เขาก็คุยกับทั้งผมและเพื่อนชายคนนั้นด้วย ผมรู้เพราะว่าเพื่อนหญิงผมเขาเปิดเผย และส่งภาพแชทของเพื่อนชายบางทีที่คนนั้นคุยแปลกๆไรงี้ ผมก็เริ่มเดาได้ละว่า เพื่อนชายคนนั้นต้องการจีบเพื่อนหญิงผมแน่ๆ เพราะเขาเป็นคนจีบหญิงเป็น ตัวผมที่ต้องการแค่เพื่อนผมก็ไม่คิดจะจีบอะไรอยู่แล้ว ไม่สนเลยด้วย
หลังจากนั้นวันไปเรียนผมก็เริ่มกังวลใจ
เพราะท่าทีสองคนนั้นเขาเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ ไปไหนมาไหนก็เริ่มตามติดกันไป
้เวลาพักเพื่อนๆในห้องก็ตั้งโต๊ะวงคุยกัน สองคนนั้นนั่งใกล้กันชิดมาก และแสดงออดความรักเห็นได้ชัดเจน เพื่อนในห้องหลายๆคนก็ต่างพูดกันว่า ลองคบกันดูเลย คู่นี้ออกจะน่ารักมากๆ แล้วก็มีเสียงวี๊ดว๊ายด้วยความอวยของเพื่อนในห้อง และผมก็ทำตัวไม่ถูก เหมือนกับมีหนามคอยแทงหัวใจไปเรื่อยๆ ผมที่ทำอะไรไม่ได้แล้วนั้น ก็อยู้เงียบๆไป
จนผ่านไปสามวัน เขาก็ได้คบกันจริงๆ
หลังๆนั้นผมก็เริ่มคุยแบบสนุกสนานกับเขาไม่ได้เลยอีก
ตัวผมที่ทำอะไรไม่ถูกนั้น สภาพจิตใจก็เริ่มแย่ขึ้นทุกที ความมั่นใจอะไรก็ห่างหายเรื่อยๆ
และทางบ้านก็มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยในครอบครัว
มันเริ่มบั่นทอนจิตใจผมไปเรื่อยๆ การตั้งใจเรียนอะไรก็ไม่ค่อยมีเหมือนก่อนแล้ว ติดเพื่อนมากขึ้นจากแต่ก่อนไม่เคย การบ้านมีก็ไม่ค่อยทำส่ง จนแม่กังวลและพูดกับผมว่าผมเป็นเด็กเกเร เหลวไหล ไม่ตั้งใจเรียน
ผมซึ่งโดนพูดแบบนั้นใส่ มันบั่นทอนจิตใจสุดๆ อาการก็เริ่มแย่ลงทุกที
ทางหนึ่งที่ทำให้ผมมีกำลังใจเป็นช่วงๆนั้นคือ
ดูอนิเมะกับมีเพื่อนหญิงอีกคนคุยด้วยครับ
ของเหล่านี้ก็ทำได้แค่เป็นระยะนั่นล่ะครับ ใช่ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของผมและทางบ้านแล้วว่า จะยอมรับตัวผมแล้วทำใจกับมันโดยแสดงออกสีหน้าด้วยความหายห่วงใจ แล้วบอกว่า"ตั้งตัวใหม่เถอะลูก ไปแก้แล้วนับใหม่ให้ได้" ผมที่อยู่ได้แค่จิตนาการนั้น ก็ฝันถึงคำพูดนี้ได้ เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่คนเป็นพ่อแม่คนมีนิสัยที่เด็ดขาด แน่วแน่ ผิดหวังมาเยอะจนเครียดและทุกข์ใจจนอยากระเบิดออกมาใส่คนทางบ้าน
ผมที่ผิดหวังในเรื่องความรักนั้น ตัวผมเองก็ไม่เสียใจเลย ดีใจด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะฮอร์โมนวัยรุ่นกำลังหลั่งหรือง่ายๆคือโตเป็นหนุ่มแล้วเลยออกมาแบบนี้ได้
ในปัจจุบันขณะนี้
ผมก็ไม่ค่อยมีจิตใจอยากไปเรียนเท่าไหร่ เลยชอบตื่นสายบ่อย สายแล้วนอนที่บ้านเพลินยาวๆเลย บางทีก็ไปโรงเรียนเวลาบ่ายสองบ่ายสาม เพื่อนจากที่เคยแกล้งบ่อยๆ บางคนก็เป็นห่วงผมขึ้นมาเลย ตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เวลาผมมาสาย เขาก็โทรตามผมตลอด ก็มีบางช่วงบ้างที่ผมมีใจฮึดพอดีเลยไปได้เร็วสุดคือ9-10โมงเช้า ช้าสุดคือ15:30น. จนตอนนี้ได้ติด มส.มาสองวิชาแล้วครับ คือ ภาษาจีนที่ครูพึ่งเป็นวัยรุ่นอยู่ เลยไม่ค่อยคิดสงสารคนมาก ติดแล้วคือแก้(27-30มั้งอายุ)
กับอีกคนเป็นภาษาอังกฤษที่ผมเกรงว่าจะติดหากขาดอีกคาบเรียนเดียว (34-45ครับอายุครูคนนี้)หรือไม่ก็ติดแล้ว ด้วยที่ว่าม.4ครูแต่ละคนถ้าไม่เคร่งกฏหรือเห็นใจคนมาก จะไม่ให้ติดเลย แต่แลกด้วยทำงานเยอะขึ้นหรืออยากเห็นอนาคตคนนั้นมีได้
ตอนนี้ก็ได้อีกคือ ไม่ผ่านการเข้าแถว ซึ่งต้องมาลุ้นอีกว่าจะติดจริงๆไหม ถ้าติดผมก๊มีเพื่อนอีกคนที่มาโรงเรียนสายประจำไม่ต่างจากผมแต่เขามาไวได้ไม่ขาดเรียนมาก
ที่บ้านผมตอนนี้ผมอยู่กับน้าสองคน พ่อกับแม่ก็แวะมาหาครั้งคราวบ้าง ซึ่งไม่ต่างกับผมอยู่บ้านคนเดียวครับ วินัยอะไรต้องฝึกเอง พลาดก็ได้รู้ซึ้งมาหมดเหมือนตอนนี้
วันนี้ผมมีเรียนลูกเสือครับ เมื่อคืนผมนอนก่อนเวลาควร เพราะเหนื่อยมากับแดดร้อนๆ นอนแอร์เย็น ผมนึกได้อีกทีตอนเช้าเกือบจะแปดโมงเช้าว่า ยังไม่ซักชุดลูกเสือเลยเว้ย ซวยละไง แล้วผมก็ได้รอเสั้อผ้าที่ซักนั่น
รอนานๆมันเกิดความหดหู่และความหวาดระแหวงคนรอบข้างมากขึ้นๆ ในใจก็มีคำพูดแม่ขึ้นมา"ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้ แย่สุดๆ" ยิ่งบาดใจขึ้นเรื่อยๆจนผมตัดใจที่จะไปเรียน ทั้งที่รีดผ้าอะไรเสร็จแล้ว(ผมมีชุดลูกเสือตัวเดียวไม่ได้สำรองไว้เลยซักเสร็จคือรีด)
จนตอนนี้เวลาเลยเที่ยงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ไปเรียนเลยครับ มานั่งระบายที่กระทู้นี้อยู่
จากนี้แล้ว ผมควรจะบอกครูแนะแนวให้พาไปตรวจโรคซึมเศร้าไหมครับกับหมอ
และติดมส.ต้องทำยังไงบ้างครับ นอกจากบอกทางบ้านและทำใจ
ส่วนเรื่องระเบียบวินัยที่ผมทำแย่ๆแบบนี้ผมได้รู้ตัวเองแล้วครับและเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างเเล้วช่วง1สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงจะสายบ้างบางวัน ได้กำลังใจมาจากการดูอนิเมะครับเลยมีแรงผลักดันตัวเองได้
ส่วนตัวผมเป็นคนเรียนเก่พอตัวครับ ติดแค่งานไม่ค่อยส่งเพราะขี้เกียจบ้างตามประสาคนไม่มีแรงจูงใจเรียน
เกรดเฉลี่ยรวมเลยออกมาไม่โดดเด่นมาก 3.5
3.3
3.0ครับตลอดภาคเรียนมัธยม1ขึ้นมา
เพื่อนบางคนเลยเรียกผมว่า"เก่งเทียบเท่าหัวกะทิได้"
ผมเป็นคนอ่อนไหวได้มากครับ อีกอย่างลืมบอก😅
ขอความกรุณาในคำแนะนำด้วยนะครับ รุนแรงไปผมก็พอรับได้