เรามีปมเกี่ยวกับแม่คะ แม่เรารักพี่ชายมากกว่าเรา เช่น ตั้งแต่เด็กๆแม่ก็ซื้อของเล่นมาให้ชิ้นเดียวนั้นก็คือรถซื้อให้พี่ชาย เราถามเขาว่าแล้วของเราละ แม่ก็บอกว่า เดี่ยวแม่ซื้อให้ เรารอทุกมาทุกๆปีเราก็ไม่เคยได้แต่ก็เก็บไว้ในใจมาตลอด แก้วนั้นวางไม่เป็นที่แม่ไม่ทันถามใครเป็นทำแต่แม่หันมาด่าเราแล้วซึ่งเรารับไม่ได้ ตอนเด็กเรารักพ่อกับแม่มากนะใครให้เราทำอะไรเราก็ทำไม่เคยเกเรพูดคำหยาบคายเลยเขาเรียกให้ทำอะไรก็ทำตามใจเขาทุกอย่างต่อให้ไม่ว่างไม่อยากทำอะไรก็ต้องรีบมาทำให้เขา เรารักเขาเหมือนที่พวกคุณรักแม่คุณนั้นแหละแต่ตอนนี้ด้วยสิ่งที่ต่างๆที่แม่ทำร้ายจิตใจเรา ความรักที่มันมีให้เขามันลดน้อยลงจนเป็นความเฉยชามันเพราะมันเป็นระยะเวลาหลายปีคงเกือบ 20 ปี
นิสัยพี่ชายเราเกเรแต่ไม่มาก เคยเขาห้องปกครอง ชอบโมยเงินแม่(แม่ก็รู้แต่ไม่เคยทำอะไร) ไม่เคยช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่เคยมาดูแล เรียนก็เรียนไม่จบแถมแต่ละเดือนยังขอเงินต่อเดือน ไม่ต่ำกว่า 20,000 ใช่เวลาเรียน 6 ปี เพราะซิ่วมา ไม่เคยคิดว่าพ่อมีหรือไม่มี ชอบขโมยเสื้อพ่อตัวแพงๆไป พ่อก็เคยว่านะ
นิสัยเราเป็นผู้หญิงเราเเชื่อฟังพ่อแม่ตลอดช่วยทำงานบ้านทุกอย่างไม่เคยนอกลู่นอกทางอยู่ในกฎตลอดอะไรที่แพงๆก็ไม่ซื้อและทุกๆครั้งพ่อเราจะซื้อของให้แม่จะชอบมองตาเราเขม่งๆแล้วสายหัวว่าไม่ต้องเอาหรอกตลอดทุกๆครั้งแต่เด็กเราก็หัวเราะร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไปแต่แม่เราว่าหัวเราะทำไมมีความสุขมากหรอเมื่อเราได้ยินคำนั้นตอนนั้นเราก็ร้องไห้แล้วถามเขาว่าทำไมแม่ไม่อยากให้น้องมีความสุขหรอมันไม่เหมือนที่เราเห็นในTVเราเห็นแม่คนอื่นอยากให้ลูกยิ้มมีความสุขจากนั้นเราก็ไม่กล้าหัวเราะเยอะให้แม่เห็นอีกเลยกลายเป็นเก็บตัวไม่กล้ามีความสุขให้เขาเห็นซึ้งนั้นมันก็เป็นเหตุการณ์ในวัยเด็กที่เรายังไม่ลืมบางทีเราก็ไม่เขาใจว่าทำเราทำดีถึงไม่ได้ดีไม่ได้อะไรเลย แต่พี่ชายเราไม่ต้องทำอะไรก็ได้ไปหมดทุกอย่าง
มันมีหลายเหตุการณ์ที่เรามั่นใจว่าแม่เรารักเรามากกว่าพี่ชายซึ่งที่ผ่านเราพึงไปหานักจิตวิทยาเขาก็ให้คำแนะนำเราแล้วเราก็ยอมรับได้แล้วว่าถึงแม่จะรักพี่มากว่าก็เป็นสิทธิ์ของแม่เราพยายามเปลี่ยนเขาจนเราทุกข์หลายครั้งแล้วก็ยอมรับได้แล้วว่าไม่เป็นไรและยอมอภัยให้เขาได้แล้วกับสิ่งที่เขาเคยทำลายจิตใจเราหลายเราก็รู้สึกจิตเราโอเคขึ้น
แต่เมื่อวานวันแม่วันเกิดเหตุชัดเจนที่แม่เราแสดงออกมันเหมือนสกิตรอยแผลใหญ่ที่ไม่นานมานี้พึงตกสะเก็ดให้เลือดมันออกมากเยอะมากๆอีกครั้งเรานึกถึงความตายอีกครั้งเรารู้สึกเขาใกล้มันมากเราพยายามแก้ปมนั้นแล้ว เราพยายามแล้ว
เรายอมรับว่าเรารู้สึกหงุดหงิดที่เห็นใครต่อใครแสดงว่ารักที่มีแต่แม่อย่างรักกันมากมายแต่เราไม่รู้สึกแบบนั้นเลยเราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกนั้นเลยและจะให้เราไปเอาพวงมาลัยมาไหว้แม่เราก็รู้สึกขัดต่อความรู้สึกเราและเราเชื่อว่าขัดต่อความรู้สึกแม่ด้วยมันเหมือนแสดงแต่ภายใจจิตใจเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
สิ่งที่เราเสียใจมาตลอดชีวิตนั้นคือเรื่องครอบครัวคะเราไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้นะคะสมัยเด็กๆเราก็คาดหวังให้ตัวเองมีครอบครับที่อบอุ่นเชื่อเขาทุกอย่างให้เขารู้สึกสบายใจไม่เหนื่อยกับเราแต่เราก็ไม่รู้ว่ามันไม่ความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไงทั้งที่เราเคยรักเขาที่สุดคิดมาตลอดว่าจะไม่มีครอบครัวอยากอยู่ดูแลพ่อกับแม่ไปจนเขาแก่แต่ตอนนี้เราอยากไปหาทำงานที่มันไกล้บ้านไปเลยคะนานๆกลับมาหาเขาบางทีอะไรๆมันอาจจะดีกว่านี้แต่ปัญหาเขทก็คงไม่ให้ไปอีกเพราะคงเห็นเราเป็นผู้หญิงแต่เราอึดอัดมาก!!! ที่จะอยู่บ้านนี้มันไม่แย่อะไรเยอะแต่เราก็ไม่มีความสุข จนคิดอยากหนีออกจากบ้านไปใช่ชีวิตของตัวเองเจอเรื่องร้ายก็ถือเป็นประการณ์แต่ประเด็นคือใจเรากล้ารึป่าว
เพิ่มเติมนะคะเรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดความรู้สึกให้เขาฟังเลยอย่างเช่นเราไม่พอใจเราไม่อยากทำอะไรหรือเรารู้สึกไม่ดียังไง เราไม่เคยพูดเราเก็บมันเอาไว้จนถึงในวัยหนึ่งที่เรารู้สึกไม่ไหวแล้วก็เลยระเบิดมันออกมาจนเราเปลี่ยนนิสัยไปเลยคะจากหน้ามือเป็นหลังมือแต่ก็ไม่ถือว่ามันร้ายแรงมากแค่เปลี่ยนทัสนคติตัวเองที่มีต่อแม่ไปเลยมันเปลี่ยนไปน่าจะม.ต้นคงจะได้และมันเปลี่ยนมาเรื่อยมา
สิ่งที่เราทำมาพูดมันเล็กน้อยจริงคะเมื่อเทียบกับเรื่องของคนอื่นๆแหละมันมีเรื่องอีกมายมากที่เรายังไม่ได้เล่าให้ฟังและทุกๆครั้งมันก็จบไปพร้อมความเสียใจและความรักที่มีต่อเขาก็หายไปโดยที่เราไม่รู้ตัวนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงร้ายแรงต่อความรู้สึกเรานักก็ไม่รู้ส่วนหนึ่งเราให้ความสำคัญกับความครัวเป็นที่1มาตลอดเรื่องผู้ชายเราไม่เคยให้ความสำคัญเพราะไม่หวังจะมีในอนาคตอยู่แล้วเลยโฟกัสอยู่แค่พ่อแม่พอไม่เป็นอย่างที่หวังเราก็เสียใจมากๆที่สุดเลยคะ
เราขอถามว่าเราผิดมากมั้ยคะที่รู้สึกแบบนี้?
เกลียดแม่ตัวเองผิดมั้ยค่ะ?
นิสัยพี่ชายเราเกเรแต่ไม่มาก เคยเขาห้องปกครอง ชอบโมยเงินแม่(แม่ก็รู้แต่ไม่เคยทำอะไร) ไม่เคยช่วยพ่อแม่ทำงาน ไม่เคยมาดูแล เรียนก็เรียนไม่จบแถมแต่ละเดือนยังขอเงินต่อเดือน ไม่ต่ำกว่า 20,000 ใช่เวลาเรียน 6 ปี เพราะซิ่วมา ไม่เคยคิดว่าพ่อมีหรือไม่มี ชอบขโมยเสื้อพ่อตัวแพงๆไป พ่อก็เคยว่านะ
นิสัยเราเป็นผู้หญิงเราเเชื่อฟังพ่อแม่ตลอดช่วยทำงานบ้านทุกอย่างไม่เคยนอกลู่นอกทางอยู่ในกฎตลอดอะไรที่แพงๆก็ไม่ซื้อและทุกๆครั้งพ่อเราจะซื้อของให้แม่จะชอบมองตาเราเขม่งๆแล้วสายหัวว่าไม่ต้องเอาหรอกตลอดทุกๆครั้งแต่เด็กเราก็หัวเราะร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไปแต่แม่เราว่าหัวเราะทำไมมีความสุขมากหรอเมื่อเราได้ยินคำนั้นตอนนั้นเราก็ร้องไห้แล้วถามเขาว่าทำไมแม่ไม่อยากให้น้องมีความสุขหรอมันไม่เหมือนที่เราเห็นในTVเราเห็นแม่คนอื่นอยากให้ลูกยิ้มมีความสุขจากนั้นเราก็ไม่กล้าหัวเราะเยอะให้แม่เห็นอีกเลยกลายเป็นเก็บตัวไม่กล้ามีความสุขให้เขาเห็นซึ้งนั้นมันก็เป็นเหตุการณ์ในวัยเด็กที่เรายังไม่ลืมบางทีเราก็ไม่เขาใจว่าทำเราทำดีถึงไม่ได้ดีไม่ได้อะไรเลย แต่พี่ชายเราไม่ต้องทำอะไรก็ได้ไปหมดทุกอย่าง
มันมีหลายเหตุการณ์ที่เรามั่นใจว่าแม่เรารักเรามากกว่าพี่ชายซึ่งที่ผ่านเราพึงไปหานักจิตวิทยาเขาก็ให้คำแนะนำเราแล้วเราก็ยอมรับได้แล้วว่าถึงแม่จะรักพี่มากว่าก็เป็นสิทธิ์ของแม่เราพยายามเปลี่ยนเขาจนเราทุกข์หลายครั้งแล้วก็ยอมรับได้แล้วว่าไม่เป็นไรและยอมอภัยให้เขาได้แล้วกับสิ่งที่เขาเคยทำลายจิตใจเราหลายเราก็รู้สึกจิตเราโอเคขึ้น
แต่เมื่อวานวันแม่วันเกิดเหตุชัดเจนที่แม่เราแสดงออกมันเหมือนสกิตรอยแผลใหญ่ที่ไม่นานมานี้พึงตกสะเก็ดให้เลือดมันออกมากเยอะมากๆอีกครั้งเรานึกถึงความตายอีกครั้งเรารู้สึกเขาใกล้มันมากเราพยายามแก้ปมนั้นแล้ว เราพยายามแล้ว
เรายอมรับว่าเรารู้สึกหงุดหงิดที่เห็นใครต่อใครแสดงว่ารักที่มีแต่แม่อย่างรักกันมากมายแต่เราไม่รู้สึกแบบนั้นเลยเราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกนั้นเลยและจะให้เราไปเอาพวงมาลัยมาไหว้แม่เราก็รู้สึกขัดต่อความรู้สึกเราและเราเชื่อว่าขัดต่อความรู้สึกแม่ด้วยมันเหมือนแสดงแต่ภายใจจิตใจเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
สิ่งที่เราเสียใจมาตลอดชีวิตนั้นคือเรื่องครอบครัวคะเราไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้นะคะสมัยเด็กๆเราก็คาดหวังให้ตัวเองมีครอบครับที่อบอุ่นเชื่อเขาทุกอย่างให้เขารู้สึกสบายใจไม่เหนื่อยกับเราแต่เราก็ไม่รู้ว่ามันไม่ความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไงทั้งที่เราเคยรักเขาที่สุดคิดมาตลอดว่าจะไม่มีครอบครัวอยากอยู่ดูแลพ่อกับแม่ไปจนเขาแก่แต่ตอนนี้เราอยากไปหาทำงานที่มันไกล้บ้านไปเลยคะนานๆกลับมาหาเขาบางทีอะไรๆมันอาจจะดีกว่านี้แต่ปัญหาเขทก็คงไม่ให้ไปอีกเพราะคงเห็นเราเป็นผู้หญิงแต่เราอึดอัดมาก!!! ที่จะอยู่บ้านนี้มันไม่แย่อะไรเยอะแต่เราก็ไม่มีความสุข จนคิดอยากหนีออกจากบ้านไปใช่ชีวิตของตัวเองเจอเรื่องร้ายก็ถือเป็นประการณ์แต่ประเด็นคือใจเรากล้ารึป่าว
เพิ่มเติมนะคะเรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดความรู้สึกให้เขาฟังเลยอย่างเช่นเราไม่พอใจเราไม่อยากทำอะไรหรือเรารู้สึกไม่ดียังไง เราไม่เคยพูดเราเก็บมันเอาไว้จนถึงในวัยหนึ่งที่เรารู้สึกไม่ไหวแล้วก็เลยระเบิดมันออกมาจนเราเปลี่ยนนิสัยไปเลยคะจากหน้ามือเป็นหลังมือแต่ก็ไม่ถือว่ามันร้ายแรงมากแค่เปลี่ยนทัสนคติตัวเองที่มีต่อแม่ไปเลยมันเปลี่ยนไปน่าจะม.ต้นคงจะได้และมันเปลี่ยนมาเรื่อยมา
สิ่งที่เราทำมาพูดมันเล็กน้อยจริงคะเมื่อเทียบกับเรื่องของคนอื่นๆแหละมันมีเรื่องอีกมายมากที่เรายังไม่ได้เล่าให้ฟังและทุกๆครั้งมันก็จบไปพร้อมความเสียใจและความรักที่มีต่อเขาก็หายไปโดยที่เราไม่รู้ตัวนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงร้ายแรงต่อความรู้สึกเรานักก็ไม่รู้ส่วนหนึ่งเราให้ความสำคัญกับความครัวเป็นที่1มาตลอดเรื่องผู้ชายเราไม่เคยให้ความสำคัญเพราะไม่หวังจะมีในอนาคตอยู่แล้วเลยโฟกัสอยู่แค่พ่อแม่พอไม่เป็นอย่างที่หวังเราก็เสียใจมากๆที่สุดเลยคะ
เราขอถามว่าเราผิดมากมั้ยคะที่รู้สึกแบบนี้?