[SR] รีวิว New MG Extender สัมผัสแรก กระบะคันแรกของค่าย สั้นๆ 2 รอบ ทั้ง On Track และ Off-Road

กระทู้รีวิว

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว Pantip เมื่อวันก่อนทางทีม Pantip Garage เราได้รับเกียรติจากทาง MG Sales ประเทศไทย เดินทางไปกันที่ สนาม 8 Speed เขาใหญ่ เพื่อร่วมงานเปิดตัวครั้งแรกในไทย พร้อมทดสอบ New MG Extender ไปพร้อมกันเลย 


สำหรับเรื่องของราคาเปิดตัวพร้อมรายละเอียดเราได้นำเสนอ ไปแล้วใน
https://pantip.com/topic/39121609


ในกระทู้นี้ เราจึงขอเข้ามาในส่วนของบรรยากาศการทดสอบกันเลยครับ 
สามารถดู Live ย้อนหลัง ที่เราได้พูดคุยไปเบื้องต้นกับความรู้สึกหลังทดสอบกันได้ที่ https://www.facebook.com/pantipgarage/videos/897435620616301/


โดยการทดสอบครั้งนี้นั้น อย่างที่กล่าวไปว่า เป็นสัมผัสแรก 1st Impression จึงได้ลองกันแค่คนละ 1 รอบ เท่านั้น
ซึ่งการทดสอบ จะถูกแบ่งออกเป็นทั้งแบบ On Track และ Off Road


เราได้มาเริ่มที่ Session แรก On Track กันก่อนเลย วิ่งตามเส้นทางโดยรอบสนาม 8 Speed แห่งนี้
รถที่ใช้ทุกคันในช่วงนี้เป็น ตัวท๊อป 4 ประตู ขับ 2 ล้อ ยกสูง (DC Grand X 6AT)


เริ่มต้น ในการทดสอบ ช่วงแรกจะเป็นการทดสอบ อัตราเร่ง โดยต้อง กดคันเร่งออกตัว แบบ Full Throttle (มิด Teen) 
ไปจนถึง ไพล่อน ที่วางขวางอยู่ให้ลองกระทืบเบรก ABS จนหยุดนิ่ง


ผมต้องขอเรียนตามจริงเลย ในช่วงนี้ มันเป็นทางชันแบบลาดขึ้น ผมจึงไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่า
อัตราเร่งนั้นดีขนาดไหน หากเทียบกับรถกระบะคันอื่นๆ
แต่โดยรวมก็ต้องถือว่า ไม่ได้เกินจากที่คาดไว้ เพราะสเป็ก แรงม้า 161 ตัว บนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ TCDI เทอร์โบ ลูกเล็ก

ก็ถือว่า ตามคาด ไม่ได้จี๊ดจ๊าด การออกตัวนั้น ไม่กระชากนัก กับแรงบิดระดับ 375 Nm ต้องถือว่าเพียงพอกับการใช้งานจริงบนถนนทั่วๆไป

แต่กับการขับสนามเช่นนี้ นั้นไม่ได้ให้ความรู้สึก ว่าอัตราเร่งนั้นตอบสนองทันใจ คือ ไม่กระฉับกระเฉง สักเท่าใดนัก 


และเมื่อถึงจุดเราต้องกระทีบเบรกจนหยุดนิ่ง ขณะนั้นความเร็วตามหน้าปัด ราว 80 กม./ชม. ผมต้องกระทืบเบรกที่ต้องขอเรียกว่า “มิด
Teen” จน ABS ทำงาน

ในช่วงนี้ เบรกถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ระบะเบรกรู้สึกว่ายืดยาว เนื่องจากการใช้ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ ก็ถือว่าทำงานได้ดีตามประสิทธิภาพ
ตัวรถไม่มีปัดมีเป๋ Brake Balance ใช้ได้เลย จากความเร็ว 80 - 0 กม./ชม.


ก่อนที่เราจะเดินคันเร่งต่อมา เข้า Slalom ซ้าย-ขวา-ซ้าย ไปเรื่อยๆ
ในช่วงนี้ Instructor แนะนำให้ใช้ความเร็ว ประมาณ 40 กม./ชม. กำลังดี

ผมขอลองเข้าที่ 40+ เกินไปหน่อย โดยรวมก็ถือว่ายังเข้า Slalom ได้ไม่ยาก อาการโยนโคลงตัวไม่ค่อยมีนัก


ในขณะที่พวงมาลัย น้ำหนักโดยรวมกลางๆ ไม่ถึงกับเบานัก
ยังให้ควบคุมการเลี้ยวได้ค่อนข้างง่าย ยังพอรู้สึกถึงน้ำหนัก ระยะฟรีไม่มากเท่าใดนัก

หลังออกไพล่อน ก็เข้าตามไลน์ครึ่งหลังสนาม 8 Speed ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นโค้ง S ขึ้น-ลง ต่างระดับ
และไลน์ที่ทาง MG วางไพล่อนไว้ มันถูกบีบให้ต้องเข้าแคบ


ทำให้ การเข้าโค้งหากมาด้วยความเร็ว นั้นเข้าได้ยากทีเดียว ผมลองพยายามเข้าด้วยความเร็วเท่าที่จะพอควบคุมรถไปได้ ไม่ให้ขนกรวย
ซึ่งก็พบว่า อาการรถโยนออกมาบ้างตามสไตล์รถกระบะยกสูง มีเสียงกรีดยางบ้างเล็กน้อย เมื่อต้องหักพวงมาลัยจากโค้งขวา มาซ้าย แบบหักต่อเนื่องเกินครึ่งรอบ ในโค้ง S แบบเร็วๆ


ผมลอง เติมคันเร่ง ะออกโค้งให้เร็ว เพื่อดูบาลานซ์รถ และอาการต่างๆ พบว่าระบบ TCS ได้เข้ามาตัดทำงานจริง แต่ดูจะมาช้าไปหน่อย
ตัวรถมีอาการท้ายแถออกมาให้เห็นอยู่บ้าง ก่อนที่ระบบจะเข้ามาช่วย


และปิดท้ายด้วยการทดสอบช่วงล่าง ในเรื่องของการดูดซับแรงสะเทือน ด้วยการขึงเชือกเป็นแนวให้เราขับผ่าน 
โดยรวม ผมถือว่า ซับแรงใช้ได้ ไม่สะเทือนขึ้นท้องน้อย ก็ยังเป็นจุดที่น่าปรับใจในส่วนของช่วงล่าง Brit Dynamic อันขึ้นชื่อของ MG


หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ Session ของ Off-Road รถทุกคันใน Session นี้ จะเป็นตัวท๊อป 4 ประตู ขับ 4 ล้อ ยกสูง (DC Grand 4WD X 6AT)

ซึ่ง ในส่วนการทดสอบ จะคล้ายกับการทดสอบรถ SUV หรือ Pick Up หลายๆ ค่าย ที่เคยทดสอบกันไปก่อนหน้านี้


โดยในคันที่ผมขับนั้น Instructor บังคับให้ใช้ได้เพียง 4Lo เท่านั้น
ซึ่งการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อน ให้บิดที่แป้นวงกลมทางซ้ายถัดจากคันเกียร์ ในส่วนของการปรับมาเป็นโหมด 4Lo นั้น ไม่สามารถ Shift On Fly ได้ทาง Instructor ให้จอดรถหยุดนิ่งก่อนและค่อยบิดหมุน และให้เราสังเกตุที่หน้าปัด ว่า โหมดขับเคลื่อนถูกเปลี่ยนมา 4Lo แล้ว

อย่างไรก็ดี Instructor คันผม ไม่อนุญาตให้ลองขับในโหมด 4H หรือ 2H ในการขับ Off-Road Session นี้ ทั้งที่
มีช่วงที่ต้องออกมาบนถนน และเป็นทางลูกรังปกติ ที่จริง วิ่งแค่ 2H ก็พอ! (ดูภาพ รถเทสคันอื่น สิ ยัดกันมาซะควันท่วมเลย คงจะไม่ใช่ 4Lo แบบ คันผมที่โดนเป็นแน่) 


ด้วยความข้องใจ หลังจากเทสเสร็จ ผมก็แอบถามพี่ๆ นักข่าวท่านอื่น หลายคนก็บอกว่า Instructor คันอื่นๆ
เขาไม่ได้ว่าอะไรเลย สามารถขับปรับโหมดอะไรก็ได้ เอาที่สะดวก 
พาพันเศร้าสงสัยผมจะโชคดีไปหน่อยนะ เทสแบบนี้ ก็ไม่แปลกใจเลย ที่ผมจะจับอะไรไม่ค่อยได้สักเท่าไร 


เอาละขออภัยครับ เดี๋ยวจะนอกเรื่องไปกันใหญ่ ผมขอกลับมาในส่วนการทดสอบกันต่อครับ


มาเริ่มแรกที่ เนินกระดก ซ้าย-ขวา ไม่มีอะไรเลย ก็แค่ ควบคุมล้อให้ตรง และไต่ขึ้นเนิน ช้าๆ
ค่อยๆ หย่อนเบรกให้รถค่อยๆ ไหล ขึ้น-ลง ผ่านเนินกระดกเหล่านั้นไปอย่างช้าๆ เป็นอันเสร็จพิธี


เนื่องจาก Clearance ของรถกระบะยกสูง สมัยนี้นั้น ต้องบอกว่า มันสูงอยู่แล้ว จึงไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด


ต่อมาก็ขับไปตามทางลูกลัง ต่างๆ ซึ่งก็ได้ช่วงล่างมาช่วยซับแรงกระแทกได้อยู่บ้าง ซึ่งก็ไม่มีอะไร 
ผมโดนบอกให้ค่อยๆ ขับเคลื่อนไปอย่างช้าๆ หย่อนๆไป ตามเดิม


ต่อมาปีนขึ้นทางลาดชันที่สูงหลายเมตร อันนี้ แน่นอนครับ 4Lo จำเป็นมาก เพราะต้องการอัตราทดสูงในการส่งกำลังปีนป่าย
ทำให้ สามารถปีนผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายๆ เลย


หลังจากนั้นก็ขับวนอ้อม ตามทางดินแดง จริงๆ มีออกข้ามถนนมาก่อนด้วย เพื่อไปที่เนินสูง ทดสอบระบบ Hill Start Assist และ Hill Decent Control

ในส่วนนี้ เมื่อเราขึ้นทางชัน ไปถึงใกล้ยอดเนิน ก็ให้ เบรก และยกเท้าออกจากแป้นเบรก
ระบบ HSA จะช่วยเบรกอัตโนมัติ ซึ่งในระบบนี้ จะช่วยได้มากเลยในรถเกียร์ MT


ต่อมาที่ขาลงเนิน ให้เราปล่อยไหล ยกเท้าออกจากเบรก ให้รถมันชะลอเบรกให้เองด้วยระบบ HDC  
ซึ่งพบว่า HDC ก็ เป็นอีกระบบ นอกจาก TCS ที่ดูจะทำงานค่อนข้างช้า จนผมก็แอบมีเหวอนิดๆ
ช่วงแรก รถดูจะพุ่งลงมาเร็วเลย ก่อนที่ HDC จะช่วยเบรก แอบช้าไปนิดนึง


สุดท้าย ลงบ่อโคลน ก็ไม่มีอะไรมาก ใจจริงอยากจะ
ซุ่ม..... ให้น้ำโคลน กระจาย (แบบภาพปก) หวังให้ช่างภาพเก็บภาพสวยๆ

แต่คันผมก็โดน Instructor เบรกเอาไว้เช่นเคย
ผมทำได้ แค่ ค่อยๆ หย่อนลง ภาพก็จะออกมาประมาณนี้ครับ 555+  


แต่จริงๆ ก็ถือว่าที่ Instructor พูดก็ถูกแล้วครับ เพราะว่าหากเราไม่รู้ความลึกทางข้างหน้าเราซัดเข้าไปเต็มที่ลุยไปทั้งคัน หากมันลึกเกินที่รถจะไปไหวก็อาจได้น็อคกัน 


ซึ่ง MG Extender คันนี้ ทาง Instructor ได้บอกเราว่า พอจะไปไหวได้ที่ความลึกราว 50 ซม. 


ขอสรุป ปิดท้าย รีวิว New MG Extender สัมผัสแรก แบบสั้นๆ 2 รอบ แบ่งเป็น On Track 1 และ Off-Road 1
อาจจะไม่ได้อะไรมากมายนัก เราคงต้องรอไปทดสอบจริง บนถนนอีกครั้งเมื่อมีโอกาสอีกครั้ง


ในครั้งนี้ เท่าที่ผมพอจะจับได้เลย ก็คือ เครื่องยนต์ กำลังไม่มากเท่าไร กระบะสมัยนี้
น่าจะมีสัก 180 แรงม้าขึ้นไป โดยเฉพาะในรุ่นท๊อป ราคา ล้านกว่า! กลับใช้เครื่องเดียวกับ ตัวเริ่มต้น 5 แสนกว่าบาท มีกำลังแค่ 161 แรงม้า

ในส่วนของเบรก + ช่วงล่าง ค่อนข้างทำได้ดีครับ
ตีวช่วงล่าง แม้จะไม่ได้ดีที่สุดในกระบะเมืองไทยตอนนี้ แต่ก็ถือว่าทำได้ในลำดับต้นๆ อยู่เหมือนกัน

ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ แอบรู้สึกว่าเข้ามาช่วยช้าไปสักหน่อย อาทิ TCS และ HDC


นอกจากนี้ ในส่วนของผิวสัมผัสวัสดุภายในนั้น ก็ยังดูไม่ดีมากนัก
ขณะที่ภายนอก และการดีไซน์ภายในหลายๆ ส่วนก็ยอมรับว่าทันสมัยขึ้น
และพื้นที่ห้องโดยสารยอมรับ ตอนหลังกว้างขวางนั่งสบายจริง Leg Room เหลือๆ เลย นั่งไม่อึดอัดแน่นอนในตัว 4 ประตู


ถามว่าคุ้มไหม ผมยังบอกไม่ได้เต็มปาก ถ้าใครสนใจแนะนำให้ไปลอง ชมตัวจริง ทดสอบที่ ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายดูก่อนครับ


ส่วนตัวมองว่า รุ่นที่น่าสนใจดูจะเป็นพวกรุ่นเริ่มต้นมากกว่า ตัวแพงๆ สำหรับผมว่า ยังไม่น่าเล่นนะ
อย่างไรก็ดีผู้บริหารบอกว่า มันเป็นรถกระบะที่ค่าบำรุงรักษาถูกสุด
และมี i-SMART ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในกระบะ (เรายังไม่มีโอกาสได้ทดสอบในครั้งนี้)

 
ชื่อสินค้า:   MG Extender
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • MG เชิญทีมงาน Pantip Garage เราไปร่วมทดสอบ ที่สนาม 8 Speed
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่