เป็นคนแบบนี้แปลกมั้ย(กระทู้ระบาย)

คือเราเป็นคนที่เงียบถึงเงียบมากค่ะ  ตั้งแต่เด็กเลยเราเป็นเด็กเก็บตัว  เราจำได้ว่าเราเป็นเด็กงี่เง่ามากก(ฮ่าๆๆๆ)  แต่ตอนเด็กไม่ค่อยเก็บตัวก็จะมีไปเล่นโดดยาง เล่นซ่อนแอบ เล่นไล่จับกับเพื่อนบ้าง  และเราจะมีเพื่อนอยู่คนนึงเกิดปีเดียวกับเรา  อยู่บ้านไกล้ๆกันตอนเด็ก พ่อแม่ของพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปเรียนก็เรียนที่เดียวกันห้องเดียวกัน  แต่ตอนเด็กๆจำได้ว่าเราไม่ชอบเพื่อนคนนี้มาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อาจจะเป็นความคิดของเด็กที่ว่าพ่อแม่มักจะยกชื่อเพื่อนคนนี้ขึ้นมาพูดเปรียบเทียบกับเราเสมอ เนี่ยน้อง...กินเผ็ดได้นะ น้อง..เก่งมาก ทำไมหนูถึงทำไม่ได้เหมือนเพื่อนล่ะ บลาๆๆ  อาจเป็นคำพูดพวกนี้เราเลยไม่ค่อยชอบเพื่อนคนนี้เท่าไหร่ในตอนเด็ก  จนกระทั่งป.4 เราได้ย้ายโรงเรียนไปคนเดียว  ไปเจอสังคมเพื่อนใหม่  กลายเป็นเรากลายเป็นคนเงียบนิ่งเก็บตัวไปเลย ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนใหม่ได้  นั่งเงียบ ไปกินข้าวเที่ยงคนเดียวเงียบๆ เรียนเงียบๆ เพื่อนเข้ามาชวนคุยก็ถามคำตอบคำ เอาจริงๆเราอยากมีเพื่อนแหละ แต่ไม่รู้จะเข้าไปคุยกับเพื่อนยังไง เงียบจนแม่เรากังวล พาเราไปให้หมอจิตเวชดู (แต่ตอนเด็กนั้นเราก็คิดว่าแม่พาเที่ยว ก็ไชโยไป เพราะโรงบาลที่แม่พาไปเป็นโรงบาลกลางกทม. โรงบาลใหญ่ สวย  อีกอย่างคือได้หยุดเรียนด้วย เราก็พึ่งมาคิดได้ทีหลังตอนขึ้นม.3 คิดย้อนๆไปว่าไอแผนกที่ไปนั้นคือ แผนกจิตเวช) จนจบป.4 ด้วยค่าเทอมรร.ที่เราเรียนตอนป.4 มันเเพงมากก เเม่เราเลยย้ายเรามาเรียนรร.เดียวกับพี่สาวเรา ช่วงป.5 จนถึงจบม.ปลายนั้น เราก็ยังเงียบ หน้านิ่ง ดูเฉยเมย ไม่เข้ากับเพื่อนเหมือนเดิม เลยกลายเป็นเป้า เพื่อนทั้งห้องทั้งระดับชั้นจะล้อเราเป็นผี ลอยไปลอยมา อยู่ก็เหมือนไม่อยู่(บวกกับเราเป็นคนผิวขาวซีด แบบลูกครึ่งจีนด้วยแหละ เลยยิ่งเหมือนผีเข้าไปใหญ่ ฮ่าๆๆ) พอเข้าช่วงวัยรุ่น ช่วงม.1 เราก็ถึงเริ่มมีกลุ่มเพื่อน ไปกินข้าวด้วยกัน เริ่มคุย แต่ไม่มาก เน้นไปกินข้าวกับนั่งฟังเพื่อนคุย(นินทา)มากกว่า  ตอนนี้มมาคิดย้อนไปแล้วตัวเองทนมาได้ไงไม่รู้  แต่เรามาดีขึ้นตอนจบม.6  ได้ไปทำpart timeร้ายขายเสื้อผ้าในห้าง  ได้คุยกับลูกค้ามากหน้าหลายตา ชวนลูกค้าคุย  แนะนำเสื้อผ้าให้ลูกค้า  เลยเหมือน up skill การพูดขึ้นมาหน่อย5555  ตอนขึ้นมหาลัยเราเลยไม่ค่อยมีปัญหาการเข้าสังคมเท่าไหร่ เหมือนเป็นคนละคนถ้าเราบอกเพื่อนในกลุ่มมหาลัยว่าตอนเราเรียนอยู่รร.เราเป็นคนเงียบและเก็บตัวมาก เพื่อนจะไม่เชื่อค่ะ5555+  ช่วงมหาลัยเป็นช่วงที่มีความสุขมากค่ะ  แต่ถึงเราจะเข้าสังคมได้แล้ว เราก็ยังมีช่วงที่เราจะนิ่งเงียบอยู่ค่ะ คือ นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนแหละเเต่ไม่คุย นั่งเล่นโทรศัพท์หาการ์ตูนอ่าน หรือไม่ก็หากระทู้pantip สปอยการ์ตูน onepiece อ่านไปเรื่อย เหมือนเข้าโลกตัวเองไป เพื่อนๆนอกกลุ่มจะเห็นว่าเราเป็นคนเงียบ  จนจบมหาลัยมาแต่ยังไม่ได้รับปริญญา เรามาหางานทำ เราเรียนบัญชี อยากทำบัญชีสายสอบฯ เลยหาสมัครทางสำนักงานบัญชี แต่แถวๆบ้านคือเต็มหมด ก็เลยหางานบริษัท ได้งานที่บริษัทหนึ่ง งานไม่ยากมากค่ะ แต่ต้องโทรติดต่อลูกค้าตลอด เรื่องการวางบิล การส่งใบเสร็จรับเช็ค/เงินโอน  ตอนทำงานเหมือนเรากลับไปเป็นเหมือนตอนอยู่รร.เลยค่ะ แต่ไม่เงียบขนาดนั้น เรายังมีถามพี่ๆเรื่องงานบ้าง แต่กับพี่ๆที่อยู่ฝั่งอื่นคือเราไม่คุยค่ะ เราไม่รู้จะคุยอะไรกับเค้า ไปกินข้าวเที่ยงกับพี่ฝั่งเดียวกันก็แทบจะไม่คุยกับพี่ เรารู้สึกว่าพี่ที่สอนงานเราไม่ค่อยพอใจกับเราเท่าไหร่ โอเค มันเพราะเราถามพี่เรื่องซ้ำๆซากๆเพราะไม่มั่นใจกลัวพลาด  เพราะสอนเราแล้วเราไม่เข้าใจ จดไม่ละเอียดอ่านไม่เข้าใจไปถามพี่ พี่เลยต้องสอนงานใหม่ พวกภาษีจบบัญชีมามันต้องรู้อยู่แล้วแต่เราดันไม่รู้ซะนี่(ในหมู่เรื่องที่เรียนมาของบัญชี เราไม่ชอบภาษีมากสุด เพราะมันเยอะยิบย่อย) อันนี้เราว่าพี่พยายามทำใจเย็นสุดๆแล้ว แต่เราเพิ่งรู้วันนี้ว่าพี่ไม่ชอบคนเงียบ  ในแผนกบัญชีเรา หลังเราทำงานได้เดือนนึงก็มีเพื่อนเราคนนึง ชื่อ ก. เรียนสาขาเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน เราไม่ค่อยคุยด้วย เเต่ก็เพื่อนกัน เข้ามาทำงานแต่คนละฝั่งกับเรา เพื่อนคนนี้เป็นคนยิ้มเก่ง ร่าเริง เข้ากับคนง่าย พี่ๆก็ชอบกัน พี่ที่สอนงานเรามักไปบ่นกับเพื่อนพี่เค้าว่าสอนงานแล้วเราไม่เข้าใจ ถามซ้ำซาก ไม่รู้เรื่องที่ควรรู้ อันนี้เรารู้ตัวว่าผิดแล้วกำลังพยายามปรับปรุงตัวอยู่ แล้ววันนึงช่วงเที่ยงหลังกินข้าวเสร็จ พี่ก็พูดขึ้นกับเพื่อนพี่เค้า แต่เรานั่งห่างแค่เก้าอี้กั้น เลยได้ยิน แต่เสียงดังอย่างงั้น เราคิดว่าถึงจะนั่งห่างสุดติดผนังก็ยังได้ยิน พี่พูดว่า"น้อง ก. น่ารักมาก ยิ้มน่ารัก น่าจะมาอยู่ฝั่งเดียวกัน ฝั่งนั้นน้องใหม่แต่ละคนน่ารัก ชอบคนคุยเก่ง ไม่ชอบคนเงียบ เข้ากับคนยาก ไม่น่าคบหา" เราไม่ใช่คนมองโลกแง่ร้ายเท่าไหร่ แต่เรามั่นใจว่าพี่เค้าหมายถึงเรา  เราเป็นคนเงียบแต่เราก็พยายามพูดเสียงให้ดังฟังชัด พยายามปรับการพูดไม่ให้ห้วน เราพยายามทำงานให้ดีไม่มีผิดพลาดแต่อาจไม่คล่องเท่าไหร่เลยค่อนข้างช้าไม่ได้ไปช่วยพี่ทำงาน อย่างที่พี่บอกว่าพี่ที่ทำงานคนก่อนและเป็นคนสอนงานพี่มักทำงานเสร็จเร็ว และมาช่วยพี่ทำงาน เป็นคนเข้าใจอะไรยากแต่ก็พยายามฟังและนึกภาพตาม แล้วทวนซ้ำงาน  เราผิดมากมั้ยที่เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดค่อยคุย ตั้งแต่มาทำงานนี่เราคิดมาตลอดว่างานบริษัทอาจไม่เหมาะกับเรา เราอาจต้องหางานที่เหมาะกับนิสัยเราที่นิ่งๆ ชอบไปไหนคนเดียว
ปล.มันอัดอั้นมาจากการทำงานค่ะ เลยพิมพ์ซะเยอะเลย ฮ่ะๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่