โรคลมชัก ชักซ้ำๆ อันตราย ทำให้สมองเสื่อม



โรคลมชัก ชักซ้ำๆ อันตราย ทำให้สมองเสื่อม



โรคลมชักเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมอง เช่น อาจจะมีจุดที่ไฟฟ้าในสมองช็อต หรือลัดวงจร อาการชักเกิดขึ้นได้หลายแบบ ซึ่งบางรายที่มาพบแพทย์อาจมีอาการแค่เหมือนเหม่อ ไม่รับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว แค่กระพริบตาหรือขยับเคี้ยวปากนิดหน่อย หรือในบางคนรับรู้ มีสติ เพียงแค่ควบคุมอาการกระตุก หรืออาการสั่นที่เกิดขึ้นไม่ได้ มีการกระตุกหรือสั่นเป็นจังหวะ บางคนก็เดินพูดซ้ำๆ เบลอๆ หมุนไปหมุนมา หรือไม่ก็มีน้ำลายไหลอย่างรุนแรง หลายคนอาจเรียกโรคนี้ว่า “ลมบ้าหมู” เพราะมีอาการเกร็งชักกระตุก ชักทั้งตัว หมดสติ บางคนก็อาจมีอาการวูบล้มทันทีก็มีได้



ทำไม? ถึงเป็นโรคลมชัก


สาเหตุที่ชักมีหลายอย่างจากปัจจัยทางสมองเองก็ได้ ขณะที่บางคนมีโรคความพิการทางสมองมาแต่กำเนิด หรือมาจากกรรมพันธุ์ มีประวัติคนในครอบครัวมีอาการชัก บางคนมีเนื้องอกในสมองหรือเคยมีเลือดออกในสมอง มีแผลเป็นเนื้องอกเกิดขึ้นจากการที่สมองมีการพัฒนาที่ผิดปกติ หรือเกิดจากการติดเชื้อทำให้เนื้อสมองอักเสบหรือเป็นฝีในเนื้อสมองก็ได้ ส่วนบางคนที่ไม่มีความผิดปกติในเนื้อสมองโดยตรง แต่มีไฟฟ้าในสมองลัดวงจรก็เกิดอาการชัก หรืออาจเกิดจากการมีตัวกระตุ้น เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้ามากเกินไป หรือได้รับสารกระตุ้น เช่น สารเสพติด แอลกอฮอล์ รวมถึงยาบางตัวก็กระตุ้นสมองทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน

ความอันตรายของโรคลมชัก คือ ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่รู้สึกตัว จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะเกิดอาการชักได้ เช่น กำลังทำอะไรอยู่บนที่สูงขณะเกิดอาการชัก ก็อาจล้มหรือพลัดตกลงมาได้ ชักขณะว่ายน้ำก็อาจจมน้ำได้ หรือชักขณะขับรถก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้



ชักบ่อยๆ อันตรายต่อสมอง?


การชักแต่ละครั้งจะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับเซลล์สมอง และในรายที่มีอาการชักซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ในระยะยาวก็จะเกิดผลเสียต่อสมองในเรื่องของความจำ โดยจะทำให้ความจำถดถอยช้าลง อาจทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง จนในที่สุดเกิดภาวะสมองเสื่อมได้



โรคลมชักรักษาอย่างไร?


สำหรับการรักษา เมื่อเราตรวจพบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น เกิดจากเนื้องอกในสมอง หรือเป็นฝีในสมอง ผู้ป่วยก็อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด แต่ส่วนใหญ่ในการควบคุมอาการชักจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงภาวะเครียด ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น สารเสพติดต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ในรายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก อาจต้องได้รับยารักษาและควรทานยาต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดยาเอง เพราะอาการชักในบางคนไม่มีอาการเตือนแต่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ และควรไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่