หลังจบเกมส์ที่ 22 ในไทยลีก ก็จะเท่ากับว่าไทยลีก ฤดูกาล 2019 นั้นได้เดินทางมาสามในสี่ของเส้นทางทั้งหมดแล้ว
ซึ่งปีนี้ไทยลีก หลังจากปรับเหลือเพียง 16 ทีม ก็ทำให้การลุ้นแชมป์ ลุ้นตกชั้น ดูจะขับเคี่ยว และมีความสนุกมากขึ้นทีเดียว
เพราะในขณะนี้ แม้จะเหลือเกมส์ในลีกเพียง 8 เกมส์ หรือ 9 เกมส์สำหรับบางทีม และทุกเกมส์ก็ยังคงมีความหมายอยู่
ไม่มีผู้นำแบบทิ้งห่าง หรือผู้ที่สามารถสรุปว่าตกชั้นอย่างแน่นอนแล้วได้เลย
ส่วนสำคัญอีกส่วนคือ การเสริมทัพ ปรับทีม เปลี่ยนโค้ช ในช่วงกลางฤดูกาล ที่หลายทีมทำได้ดีมากทีเดียว
เพราะเมื่อพ้นช่วงนั้นมาแล้ว มีหลายทีมที่ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนี้เราจะมีสรุปสถานการณ์ไทยลีก และเส้นทางที่เหลืออยู่ของแต่ละทีมกัน
โดยเริ่มจากภาพรวมของตาราง และจะสรุปสถานการณ์ของแต่ละทีม จาก 7 เกมส์ที่ผ่านมา และเส้นทางที่เหลือของแต่ละทีมกัน
สรุปภาพรวมตาราง ในเกมส์ที่ 22 (21สำหรับบางทีม)
จากตารางตอนนี้ เริ่มจะมีการแยกกลุ่มทิ้งระยะกันพอสมควร จากผลของแต่ละเกมส์ในช่วงสองเกมส์สุดท้าย
และจะส่งผลถึงการลุ้นแชมป์ หรือตกชั้นของแต่ละทีมอย่างแน่นอน
กลุ่มนำลุ้นแชมป์ ที่เหลือเพียง บุรีรัมย์ และเชียงราย ที่เบียดกันมา 4- 5 เกมส์หลัง ก็ยังคงเบียดกันต่อไป
เชียงรายที่ปีนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นคู่แข่งในการแย่งแชมป์จากถิ่นปราสาทสายฟ้าอย่างแท้จริง
และจากความสามารถการยืนระยะในฤดูกาลนี้ รวมถึงแชมป์บอลถ้วยสองรายการในปีที่แล้ว ปีนี้การลุ้นแชมป์น่าจะสนุกได้ยาวๆ
ทีมอันดับสาม ถึงอันดับหก ห่างกันเพียง 4 แต้ม และเป็นกลุ่มที่ทุกทีมพร้อมจะพลาดในทุกเกมส์ จะเรียกได้ว่าอันดับสามยังเปิดกว้างคงไม่ผิดนัก
แม้ว่าเมืองทอง จะพุ่งพรวด และร้อนแรงจากท้ายตารางมาอยู่อันดับ 6 นี้ได้ แต่นั่นคือ 5 เกมส์ในบ้าน ที่ทำให้เมืองทองมีเวลานี้ได้
ซึ่งทีมในกลุ่มเดียวกันนี้ มีเพียงสมุทรปราการที่มีเกมส์ในบ้าน 4 เกมส์ ที่เหลือล้วนมีเพียงสามเกมส์
นี่คือความได้เปรียบในช่วงหลังครึ่งฤดูกาลที่เมืองทองมีมาจนถึงปัจจุบัน แต่จากนี้ไป ในกลุ่มนี้จะมีเกมส์ในบ้าน 4 เกมส์ และนอกบ้าน 4 เกมส์ เท่ากันแล้ว โดยยกเว้นเพียง แบ็งค๊อคที่มี เกมส์ในบ้าน 5 เกมส์ และนอกบ้าน 3 เกมส์ การเล่นในบ้านทีมากกว่าของแบ๊งค๊อค จะสามารถสร้างความแตกต่างในกลุ่มนี้ได้หรือไม่ คงต้องรอดูกัน
อันดับเจ็ด ถึงสิบเอ็ด กลุ่นนี้คือตัวอย่างของการปรับทีมช่วงครึ่งฤดูกาลได้อย่างดีมาก
โดย ราชบุรี และชลบุรี แต่เดิมมีปัญหาในการเก็บแต้มเมื่อเป็นทีมเยือน ใน 7-8 เกมส์ของครึ่งแรกของพวกเขาเก็บแต้มในฐานะทีมเยือนได้ 5-6 แต้ม แต่ในเวลานี้ เพียง 3-4 เกมส์ในฐานทีมเยือนพวกเขาสามารถเก็บแต้มได้ 4-5 แต้มเลย ส่วนระยองนั้นก็ดีขึ้นทั้งในบ้าน และนอกบ้านเลยทีเดียว โดยครึ่งฤดูกาลก่อนนั้น พวกเขาชนะ 4 เกมส์ จาก 15 เกมส์ แต่ในปัจจุบันที่ผ่านมา 8 เกมส์ พวกเขาเก็บชัยชนะไปแล้ว 4 เกมส์ จากในบ้าน 4 เกมส์ และนอกบ้านอีก 4 เกมส์ ที่น่าสนใจคือตราดที่ยังรักษาคุณภาพได้อย่างคงที่จากครึ่งฤดูกาล
สุดท้ายคือโซนลุ้นตกชั้น อันดับสิบสอง ถึงอันดับสิบหก
ทำไมถึงนับรวมสุพรรณ กับเชียงใหม่รวมด้วย เพราะจากอันดับสิบสองถึงสิบสี่นั้น เป็นกลุ่มฟอร์มตก
ส่วนสองทีมท้ายตารางนั้นกลับกลายเป็นทีมที่มีฟอร์มดีกว่า ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสองทีมนั้นออกจากกลุ่มที่กำลังหนีตกชั้นได้เลย
และยิ่งไปกว่านั้น สองทีมท้ายตารางก็มีเกมส์ที่เจอกันเองอยู่ ซึ่งถ้าหากเชียงใหม่สามารถเอาชนะสุพรรณได้ กลุ่มนี้แต้มจะห่างกันเพียงสามแต้มเท่านั้น
ห้าทีมนี้ใครพลาดขึ้นมา มีโอกาสสลับตำแหน่งกันได้เลย ซึ่งทั้งสามทีมข้างบนก็พร้อมจะพลาดได้เสมออีกด้วย
โค้งสุดท้ายของแต่ละกลุ่มน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย
โค้งสุดท้ายไทยลีก 2019 ในโค้งของแต่ละทีมเป็นเช่นไรกันบ้าง 1/3
โค้งสุดท้ายไทยลีก 2019 ในโค้งของแต่ละทีมเป็นเช่นไรกันบ้าง 2/3
โค้งสุดท้ายไทยลีก 2019 ในโค้งของแต่ละทีมเป็นเช่นไรกันบ้าง 3/3
ปล. แก้คำว่า สมุทธปราการ -> สมุทรปราการ
โค้งสุดท้ายไทยลีก 2019 ในโค้งของแต่ละทีมเป็นเช่นไรกันบ้าง 1/3
ซึ่งปีนี้ไทยลีก หลังจากปรับเหลือเพียง 16 ทีม ก็ทำให้การลุ้นแชมป์ ลุ้นตกชั้น ดูจะขับเคี่ยว และมีความสนุกมากขึ้นทีเดียว
เพราะในขณะนี้ แม้จะเหลือเกมส์ในลีกเพียง 8 เกมส์ หรือ 9 เกมส์สำหรับบางทีม และทุกเกมส์ก็ยังคงมีความหมายอยู่
ไม่มีผู้นำแบบทิ้งห่าง หรือผู้ที่สามารถสรุปว่าตกชั้นอย่างแน่นอนแล้วได้เลย
ส่วนสำคัญอีกส่วนคือ การเสริมทัพ ปรับทีม เปลี่ยนโค้ช ในช่วงกลางฤดูกาล ที่หลายทีมทำได้ดีมากทีเดียว
เพราะเมื่อพ้นช่วงนั้นมาแล้ว มีหลายทีมที่ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนี้เราจะมีสรุปสถานการณ์ไทยลีก และเส้นทางที่เหลืออยู่ของแต่ละทีมกัน
โดยเริ่มจากภาพรวมของตาราง และจะสรุปสถานการณ์ของแต่ละทีม จาก 7 เกมส์ที่ผ่านมา และเส้นทางที่เหลือของแต่ละทีมกัน