ต่อจากกระทู้ 6ปี การเข้ารักษาตัวที่ รพ.

จากกระทู้ที่แล้วต้องกราบขอบคุณทุกๆท่านสำหรับกำลังใจ ไมตรีที่ดี ทุกๆอย่างที่หยิบยื่นให้ ทำให้วันนี้มีรอยยิ้ม บนคราบน้ำตา เป็นน้ำตาที่ไหลจากความตื้นตันแบบไม่สามารถบรรยาย มันมีพลัง มันทำให้ดิฉันอยากสู้ต่อ รู้สึกมีเพื่อน ไม่เหงา ขอบพระคุณมากๆนะคะ ขอบพระคุณพันทิปที่มีพื้นที่ให้ดิฉันได้เจอเพื่อนใหม่ ขอบพระคุณจริงๆค่ะ กระทู้นี้ดิฉันจะมาเล่าบรรยากาศที่ รพ.ในวันที่ต้องรักษาตัวและจิตใจ มาแบ่งบันเผื่อใครกำลังป่วยจะได้รู้ตัวและจะได้รักษาตั้งแต่เบื้องต้น อย่ากลัวการพบแพทย์ แม้วันนี้อารมณ์เพื่อนเก่ากลับมาเยือนแต่สิ่งที่เราไม่เหมือนเดิม คือเราเข้มแข็งขึ้นและพยายามรับมือกับมันมากกว่าแต่ก่อน มาค่ะเริ่มกันเลยนะคะ ยาวอีกแล้วนะคะ

ก่อนอื่นต้องขออนุญาติ รพ. คุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่อาจมีการกล่าวถึงบางตอนและขอขอบพระคุณที่ช่วยดูแลนะคะ หากผิดพลาดประการใดกราบขออภัยมา ณ ที่นี่ ค่ะ

รพ. ตั้งอยู่เขตคลองสาน กทม เป็นสถาบันรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ ทั้งจากผลกระทบจากการใช้ชีวิต ผิดหวัง ฮอร์โมนในสมอง ทั้งจากการใช้สารเสพติด และอื่นๆ ดิฉันเรียนแถวๆฝั่งธนบุรี ผ่านบ่อยมาก เคยอยากเข้าไปดูแต่ไม่เอาดีกว่า กลัวเค้าหาว่าบ้า เวลาเดินออกมา แต่ใครจะไปรู้ละคะ ว่าจะได้ใช้บริการเข้าสักวัน

         เริ่มแรกของการป่วยเนื่องจากมีเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก ที่ลำบากอดทนส่งตัวเองเรียน วัยทำงาน จนท้อง จนสร้างครอบครัว เราหวังจะมีครอบครัวที่ดีชดเชยวัยเด็กที่เราขาดหาย มันสะสมมาเรื่อยๆและนานมาก ซึ่งเราอดทนเก่ง สู้กับทุกปัญหาที่เกิด จนวันนึงมีปัญหาใหญ่เข้ามามันกระทบกระเทือนจิตใจที่ถือว่ารุนแรงมาก สำหรับคนที่วางแผนชีวิตเป็นขั้นตอน เราต้องดีกว่าวันเก่าๆ เราจะมีลูก  มีสามี มีฐานะที่มั่นคงเราทำทุกอย่างจริงๆเพื่อสร้าง  แต่มันไม่สำเร็จและพังพินาศ ลำบากหนีหนี้และต้องไปนอนที่โกดังเก็บของ ของเพื่อนสนิทเพราะเรามีเพื่อนน้อย และเพื่อนสะดวกแบบนี้ ดีกว่านอนข้างถนนละวะ นั่นคือเหตุที่ทำให้เริ่มเก็บตัว อายคน เกิดความไม่มั่นใจที่จะเจอใคร ระแวงคนจะจับส่งเจ้าหนี้ กลัวคนแปลกหน้า เดินวนๆบ่นๆคนเดียว รู้ตัวนะคะและพยายามห้ามการกระทำของตัวเองที่ทำแบบนี้แต่ห้ามไม่ได้ มือไม้สั่น เห็นกำแพงว่างก็เอาหัวโขกเล่น เอามีดมาจิ้มๆแขน หนักสุดทำต่อหน้าลูก รู้ตัวว่าลูกกลัวแต่ก็ทำ ลูกสาวร้องไห้ ยิ่งลูกร้องยิ่งทำยิ่งเครียด อยากจิ่มลูก แต่ยับยั่งได้ สุดท้ายสามีต้องเอาลูกออกห่าง เวลาทะเลาะกันก็จะตบตีตัวเอง ดึงผม ถอนผม ตรงกลางนี้ล้านตอนนี้ก็ยังดึง ทุบขา ต่อยกำแพง

    เข้าสู่ภาวะหนักขึ้น กินยาแก้แพ้ทั้งกระปุก แต่เกิดอาการอาเจียนออกมาซะหมด ตัวสั่น ใจสั่น คือทรมาน ต้องล้างท้อง แอดมิท เสียเงินอีกยิ่งมีน้อยๆมารู้สึกผิดบอกตัวเองไม่เอาไม่ทำแล้ว ยิ่งเงียบ ยิ่งโทษตัวเอง

        ครั้งที่ 2 รู้สึกตัวเองไร้คุณค่าไม่มีประโยชน์จึงกระโดดน้ำ ดิฉันว่ายน้ำไม่เป็นคงตายแน่คราวนี้ดีจะได้จบไม่ต้องรับรู้อะไรซึ่งเป็นความคิดที่แย่มากเห็นแก่ตัว และหากไม่ตายคงไม่ต้องเสียเงินค่าหมอล้างท้อง ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ อยากจบ ไม่อยากฝันร้ายแล้ว จิตตกไม่มีความสุข กระโดดตูมลงน้ำ นะหว่างกำลังจมเกิดนึกกลัวตายขึ้นมาเหมือนกันนี่หว่า แล้วจะตายทำไมวะ แต่ไม่ทันแล้วโดดใจจะขาดนะตอนนั้น ทันใดนั้นมีมือคว้าเสื้อ ดึงขึ้นมา เป็นคนหาปลาแถวนั้นพอดี 2 คนผัวเมีย พอขึ้นมาได้เอาแต่ร้องไห้ๆๆ คุณป้าคุณลุงปลอบใจ แต่ท่านคง งง อยู่ร้องเรื่องอะไรเพราะดิฉันไม่พูดอะไรเลย นอกจากคำว่าขอบคุณ ขอบคุณมากๆนะคะ เดินกลับบ้านสภาพมอมแม สามีหน้าถอดสีแล้วพูดว่าจะตายให้ได้ใช่ไหม ไปเอามีดมาเดี่ยวแทงให้เอง ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ไปอีกรู้ไหม ครั้งสุดท้าย หลังจากสามีบอกจะเอามีดแทง ดิฉันทราบดีว่าเค้าโมโห แต่นั่นแหละคะ มันทำให้ดิฉันน้อยใจเสียใจ แล้วบ่นในใจว่า เพราะเธอแหละ เพราะคุณนั่นแหละ ทำร้ายฉัน ทำร้ายเรา ไม่อยากอยู่แล้ว

       ครั้งที่3นอนไม่หลับ กลางดึก เดินออกมาร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็ร้องไห้ ตีอกชกหัว ทรมานกับอาการแบบนี้ มองขึ้นไป เห็นขื่อโกดัง เห็นเชือก ในสมองเหมือนแบ่งเป็นฝ่าย อีกฝ่ายบอกอย่าทำนะอย่าทำ ไม่ใช่ความผิดเรา เราทำดีแล้ว อดทนสิ อีกฝ่ายบอกทำเลยจะได้จบๆไม่ต้องฝันร้าย ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว แต่เราดันเชื่อฝั่งที่บอกให้ปลิดชีพตัวเองนี่สิ ตัดสินใจเอาบรรไดเหล็กพับมากาง น้ำตาก็ไหล คิดถึงลูกมาก สงสารลูกมาก คิดถึงแม่ บอกแม่มารับ คิดถึงสามีและบอกว่าฝากดูลูกด้วย คิดถึงเจ้าหนี้ว่าขอโทษที่ใช้ให้ไม่หมด สุดท้ายเอาคอคล้องเข้าห่วง ถีบบรรไดออก สามีมารับตัวทัน เพราะจริงๆสามียังคงเดินมาแอบมองว่าจะทำจริงหรือไม่ พอแขวนคอจริงเค้าเลยรับทันค่ะ ขื่อไม่สูง สามีสูงเลยช่วยได้สบาย ดิฉันร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ขาดสติ สามีเรียกรถพยาบาลนำส่ง รพ.ใกล้บ้าน คุณหมอน่าจะให้ยานอนหลับเพื่อจะให้พัก และสามีส่งต่อไปยัง รพ.ที่คลองสานตอนเช้า ตื่นนอนบนเตียงสีขาว มีเสียงจอแจ *จะบอกว่าอาการและความรู้สึกที่ต้องรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายมันทรมานมากนะคะ เพื่อนท่านใดรู้สึกแย่ รู้สึกหดหู่ ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง รู้สึกโดดเดี่ยว ควรรีบปรึกษาเพื่อน หมอ คนใกล้ตัว และที่สำคัญ คนใกล้ตัวอย่าลำคาญและควรให้กำลังใจนะคะ แม้จะต้องให้กำลังใจบ่อยๆก็ตาม เค้าไม่ได้สำออยนะคะ แต่พวกเราอ่อนแอและบอบบางจริงๆ* ต่อในคอมเม้นท์นะคะกลัวจะยาวเกินไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่