สวัสดีค่ะ กระทู้นี้คือกระทู้แรกของเรานะคะ
เรามีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังและอยากรู้คำตอบของเพื่อนๆ ในนี้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง คือเราทำงานได้ครบ 1 ปีแล้ว
เริ่มเลยนะคะ วันจันทร์ ที่ 15 ก.ค. 62 ประมาณ 5 โมงเย็น เราได้รับข่าวร้ายจากทางบ้านว่าย่าเสีย (ที่จริงแล้วเรียกยาย เพราะเป็นพี่สาวของยาย แต่เรียกตามลูกน้าเลยเรียกว่าย่า)
วันอังคาร ที่ 16 ก.ค. 62 เราเลยกลับบ้านไปงานศพย่า ประมาณเที่ยงเราเลยไลน์ไปลางานกับหัวหน้าแผนกว่า
เรา : ....ค่ะ วันพฤหัส ที่ 18 ก.ค. 62 หนูขอลานะคะ ย่าเสียค่ะ
หัวหน้าแผนกตอบว่า
👱♀️: ค่ะ เสียใจด้วยนะคะ หนูส่งรูปงานมาให้พี่หน่อยนะคะ พี่จะส่งให้....
เราก็ถ่ายรูปตัวเองอยู่หน้าโลงศพให้ดู
จากนั้นจบการคุยกันกับหัวหน้า เราก็อยู่งานศพย่าทั้งวัน แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าลูกสาวของย่าจะทำบุญหาด้วยหลังจากฌาปณกิจเสร็จ เรามารู้ประมาณ 4 โมงเย็น เราเลยไลน์หาหัวหน้าแผนกอีกครั้ง
เรา : .....ค่ะ หนูขอลาวันศุกร์ด้วยนะคะ เพราะว่าจะทำบุญหาย่าด้วยค่ะ
หัวหน้าแผนกตอบแค่ว่า
👱♀️ : ค่ะ
(เราลืมบอกว่าวันอังคารกับวันพุธเป็นวันหยุดยาว)
เราก็ช่วยงานศพย่า พอถึงวันพฤหัสที่ 18 ก.ค. 62 ฌาปณกิจย่าเสร็จกว่าจะเก็บของที่วัดเสร็จก็ประมาณ 6 โมงเย็น เราเลยกลับบ้านไปอาบน้ำที่บ้าน อาบน้ำเสร็จเลยเห็นไลน์กลุ่มของพี่ๆ ที่สนิทในบริษัทแอดเราว่า "น้อง...น้องโดนหัก 2,000 บาทนะ"
คือตอนนั้นเราเสียใจกับย่าที่เสียไปไม่พอใช่ไหม แล้วยังมาเจอเรื่องานบอกว่าโดนหัก 2,000 อีก
เงินที่โดนหักนี้คือหักที่เราลามางานศพย่าแท้ๆ ของเรา
เราก็เข้าใจนะว่าเราทำผิดกฎของบริษัท
กฎของบริษัทมีอยู่ว่าถ้าลาต่อวันหยุดจะโดนหักวันละ 1,000 บาท
แต่คำว่าเห็นใจบุคลากรของบริษัทมีมั้ย??
แม้แต่คำว่า "ขอความเสียใจ" ก็ไม่มี เจ้าของบริษัทอยู่ใกล้ๆ ห่างกับบ้านเราไม่ถึง 10 กม. ด้วยซ้ำยังไม่กล้าที่จะไปกราบศพย่าเราเลย ไม่มีแม้แต่เงินช่วยเหลือ
งานศพย่าเรา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำหรับเรา
คือเราโกรธมากที่สุดคือ วันที่อังคารที่ 16 เราไลน์บอกหัวหน้าแผนกว่าลา แล้วบอกเราถ่ายรูปงานศพให้ดูเพื่ออะไร ถ่ายรูปงานศพแล้วยังโดนหัก 2,000 ไม่ต้องบอกได้ก็ได้ใช่มั้ยคะ?
ตอนนั้นบอกเลยว่าเราเสียความรู้สึกมากกับเรื่องนี้
ทำไมไม่ลงให้เลยว่าลากิจ จะถามหาหลักฐานทำไม
เราเลยคิดว่าเราเอาเงิน 2,000 ที่บริษัทนี้หักทำบุญให้ย่าไปเลย
และก่อนหน้านี้ยายของบุคลากรที่บริษัทนี้ก็เสียเช่นกัน เสียก่อนย่าเราประมาณ 1 เดือน
แต่อีคนนี้มันไม่โดนหักสักบาท แถมให้ลาหยุดจนกว่าจะงานเสร็จ หัวหน้าแผนกเลยประชุมกันเรื่องของเรา ที่เราได้ยินมาเราได้ยินว่า "ถ้าเราถามเรื่องของอีคนที่ยายเสียทำไมไม่ได้จ่ายเงินลาที่ยายเสีย ให้บอกเราว่าอีคนเนี้ยเป็นผู้ช่วย ผอ."
เราถามจริงๆ ความเท่าเทียมของบริษัทนี้มันยังมีอยู่มั้ย ความยุติธรรมมันมีมั้ย??
เราก็ได้แต่ภาวะนาว่าสักวันการสูญเสียแบบนี้มันต้องเจอกับบริษัทนี้
ในที่สุดก็เป็นจริง คือเมื่อวานเห็นในไลน์กลุ่มของบริษัทนี้ว่าพี่สาวของเจ้าของบริษัทเสียชีวิต
บุคลากรแต่คนก็พากันพิมพ์ร่วมแสดงความเสียใจ
แต่เราไม่ขอแสดงความเสียใจเลย
เพราะทีย่าเราเสียมันยังไม่มาแสดงความเสียใจเลย
พอวันนี้จัดบุคลากรให้ไปช่วยงานศพที่วัดอีก
และแน่ใจเลยว่าเราไม่ลงชื่อไปช่วยงานศพนี้แน่นอน
เพราะเขาไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา
ถ้าจะอ้างว่าบริษัทนี้มีบุญคุณต่อเรา เราตอบเลยว่าสำหรับเราไม่มีค่ะ
เรามาทำงานใช้กำลังกายแลกด้วยเงิน ไม่ใช่เรามานั่งเอาเงินเขาเฉยๆ
เพราะบริษัทนี้ไม่เคยให้บุคลากรเลยสักครั้ง เราทำงานที่นี้มา 1 ปี 2 เดือนแล้วยังไม่เคยได้อะไรเลย
มีแต่ทางบริษัทที่จะเอาแต่ของๆ เรา เราว่าเขาเห็นแก่ตัวมากเลย
เราเลยอยากรู้ว่าถ้าคุณเป็นเราคุณจะไปงานศพพี่สาวของเจ้าของบริษัทมั้ย?
ปล. ตอนนี้เรากำลังหางานใหม่
เป็นคุณคุณจะไปมั้ย?
เรามีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังและอยากรู้คำตอบของเพื่อนๆ ในนี้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง คือเราทำงานได้ครบ 1 ปีแล้ว
เริ่มเลยนะคะ วันจันทร์ ที่ 15 ก.ค. 62 ประมาณ 5 โมงเย็น เราได้รับข่าวร้ายจากทางบ้านว่าย่าเสีย (ที่จริงแล้วเรียกยาย เพราะเป็นพี่สาวของยาย แต่เรียกตามลูกน้าเลยเรียกว่าย่า)
วันอังคาร ที่ 16 ก.ค. 62 เราเลยกลับบ้านไปงานศพย่า ประมาณเที่ยงเราเลยไลน์ไปลางานกับหัวหน้าแผนกว่า
เรา : ....ค่ะ วันพฤหัส ที่ 18 ก.ค. 62 หนูขอลานะคะ ย่าเสียค่ะ
หัวหน้าแผนกตอบว่า
👱♀️: ค่ะ เสียใจด้วยนะคะ หนูส่งรูปงานมาให้พี่หน่อยนะคะ พี่จะส่งให้....
เราก็ถ่ายรูปตัวเองอยู่หน้าโลงศพให้ดู
จากนั้นจบการคุยกันกับหัวหน้า เราก็อยู่งานศพย่าทั้งวัน แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าลูกสาวของย่าจะทำบุญหาด้วยหลังจากฌาปณกิจเสร็จ เรามารู้ประมาณ 4 โมงเย็น เราเลยไลน์หาหัวหน้าแผนกอีกครั้ง
เรา : .....ค่ะ หนูขอลาวันศุกร์ด้วยนะคะ เพราะว่าจะทำบุญหาย่าด้วยค่ะ
หัวหน้าแผนกตอบแค่ว่า
👱♀️ : ค่ะ
(เราลืมบอกว่าวันอังคารกับวันพุธเป็นวันหยุดยาว)
เราก็ช่วยงานศพย่า พอถึงวันพฤหัสที่ 18 ก.ค. 62 ฌาปณกิจย่าเสร็จกว่าจะเก็บของที่วัดเสร็จก็ประมาณ 6 โมงเย็น เราเลยกลับบ้านไปอาบน้ำที่บ้าน อาบน้ำเสร็จเลยเห็นไลน์กลุ่มของพี่ๆ ที่สนิทในบริษัทแอดเราว่า "น้อง...น้องโดนหัก 2,000 บาทนะ"
คือตอนนั้นเราเสียใจกับย่าที่เสียไปไม่พอใช่ไหม แล้วยังมาเจอเรื่องานบอกว่าโดนหัก 2,000 อีก
เงินที่โดนหักนี้คือหักที่เราลามางานศพย่าแท้ๆ ของเรา
เราก็เข้าใจนะว่าเราทำผิดกฎของบริษัท
กฎของบริษัทมีอยู่ว่าถ้าลาต่อวันหยุดจะโดนหักวันละ 1,000 บาท
แต่คำว่าเห็นใจบุคลากรของบริษัทมีมั้ย??
แม้แต่คำว่า "ขอความเสียใจ" ก็ไม่มี เจ้าของบริษัทอยู่ใกล้ๆ ห่างกับบ้านเราไม่ถึง 10 กม. ด้วยซ้ำยังไม่กล้าที่จะไปกราบศพย่าเราเลย ไม่มีแม้แต่เงินช่วยเหลือ
งานศพย่าเรา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำหรับเรา
คือเราโกรธมากที่สุดคือ วันที่อังคารที่ 16 เราไลน์บอกหัวหน้าแผนกว่าลา แล้วบอกเราถ่ายรูปงานศพให้ดูเพื่ออะไร ถ่ายรูปงานศพแล้วยังโดนหัก 2,000 ไม่ต้องบอกได้ก็ได้ใช่มั้ยคะ?
ตอนนั้นบอกเลยว่าเราเสียความรู้สึกมากกับเรื่องนี้
ทำไมไม่ลงให้เลยว่าลากิจ จะถามหาหลักฐานทำไม
เราเลยคิดว่าเราเอาเงิน 2,000 ที่บริษัทนี้หักทำบุญให้ย่าไปเลย
และก่อนหน้านี้ยายของบุคลากรที่บริษัทนี้ก็เสียเช่นกัน เสียก่อนย่าเราประมาณ 1 เดือน
แต่อีคนนี้มันไม่โดนหักสักบาท แถมให้ลาหยุดจนกว่าจะงานเสร็จ หัวหน้าแผนกเลยประชุมกันเรื่องของเรา ที่เราได้ยินมาเราได้ยินว่า "ถ้าเราถามเรื่องของอีคนที่ยายเสียทำไมไม่ได้จ่ายเงินลาที่ยายเสีย ให้บอกเราว่าอีคนเนี้ยเป็นผู้ช่วย ผอ."
เราถามจริงๆ ความเท่าเทียมของบริษัทนี้มันยังมีอยู่มั้ย ความยุติธรรมมันมีมั้ย??
เราก็ได้แต่ภาวะนาว่าสักวันการสูญเสียแบบนี้มันต้องเจอกับบริษัทนี้
ในที่สุดก็เป็นจริง คือเมื่อวานเห็นในไลน์กลุ่มของบริษัทนี้ว่าพี่สาวของเจ้าของบริษัทเสียชีวิต
บุคลากรแต่คนก็พากันพิมพ์ร่วมแสดงความเสียใจ
แต่เราไม่ขอแสดงความเสียใจเลย
เพราะทีย่าเราเสียมันยังไม่มาแสดงความเสียใจเลย
พอวันนี้จัดบุคลากรให้ไปช่วยงานศพที่วัดอีก
และแน่ใจเลยว่าเราไม่ลงชื่อไปช่วยงานศพนี้แน่นอน
เพราะเขาไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา
ถ้าจะอ้างว่าบริษัทนี้มีบุญคุณต่อเรา เราตอบเลยว่าสำหรับเราไม่มีค่ะ
เรามาทำงานใช้กำลังกายแลกด้วยเงิน ไม่ใช่เรามานั่งเอาเงินเขาเฉยๆ
เพราะบริษัทนี้ไม่เคยให้บุคลากรเลยสักครั้ง เราทำงานที่นี้มา 1 ปี 2 เดือนแล้วยังไม่เคยได้อะไรเลย
มีแต่ทางบริษัทที่จะเอาแต่ของๆ เรา เราว่าเขาเห็นแก่ตัวมากเลย
เราเลยอยากรู้ว่าถ้าคุณเป็นเราคุณจะไปงานศพพี่สาวของเจ้าของบริษัทมั้ย?
ปล. ตอนนี้เรากำลังหางานใหม่