วันนี้คึกครับ เลยจะมาเล่าประสบการณ์ในการเป็นเซลล์อสังหาริมทรัพย์ให้ฟังครับ
ต้องบอกก่อนว่า ผมเพิ่งทำในสายนี้ได้ 1ปี 3เดือน จะเล่าเฉพาะสิ่งที่ตัวเองพบเจอมานะครับ ถ้าพี่ๆท่านใดจะเสริม หรือเข้ามาเเนะนำ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
คำเตือน : ถ้าใครจะเข้ามาในวงการอสังหาช่วงนี้ ผมต้องเบรคเลยว่า อย่ามานะครับ ช่วงนี้ยากมากๆ คิดดีๆครับ
1. ต้องรู้อะไรบ้าง : แน่นอนครับต้องรู้จักสินค้า ใน 1ห้อง ต้องรู้ครับว่าประตูทำมาจากอะไร กำแพงกันห้องเป็นแบบไหน พื้นเป็นแบบไหน
1.1 รู้จักสินเชื่อธนาคารครับ : คุณต้องรู้เรทอัตตราดอกเบี้ย ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกันทุกธนาคาร วงเงินที่กู้ต้องผ่อนเท่าไหร่ต่อเดือน
1.2 ประเมินลูกค้าเบื้องต้นได้ : ถ้าคุณขายโครงการพร้อมอยู่ สิ่งนี้สำคัญมากๆครับ รายได้ -ภาระลูกค้า แล้วยังสามารถผ่อนได้ไหม
เพราะถ้าไม่อย่างนั้น โอกาสในการกู้ผ่านน้อยมากๆ ถ้ากู้ไม่ผ่าน นั่นหมายถึงคุณจะไม่ได้ค่าคอมมิสชั่น เหนื่อยฟรีๆ
2. วันๆทำอะไรบ้าง : เหมือนเซลล์ทั่วไปครับ โทรหาลูกค้า รับลูกค้า แค่ไม่ต้องวิ่งออกไปหาลูกค้าเท่านั้นเอง ยกเว้นออกบูท
3. ลูกค้า : แน่นอนครับของราคาหลักล้าน การตัดสินใจไม่ง่ายเหมือนซื้อของเซเว่นแน่ๆ ผมแบ่งลูกค้ามาเป็น 3ประเภทตามงบประมาณ ที่ผมเคยได้ขายมานะครับ
3.1 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 1-3 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจง่ายครับ ส่วนใหญ่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ ประมาณว่าชอบ ก็จองเลย (เน้นว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนนะครับ)
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุดในเรื่องของยื่นกู้ ตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมเอกสาร จนถึงภาระหนี้สิน เรียกว่าแทบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการยื่นกู้เลยเลย ปวดหัวสุดๆครับ
สรุป : ลูกค้ากลุ่มนี้จองง่าย โอนกรรมสิทธิ์ง่าย แต่จะเหนื่อยตอนทำเรื่องขอสินเชื่อครับ
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 15,000 - 30,000 บาท
3.2 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 4 - 6 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจยาก กังวลหลายสิ่ง มีข้อมูลโครงการเปรียบเทียบเยอะ เน้นขอของแถมและส่วนลดตัวราคา หรือส่วนต่างของราคา ว่าง่ายๆยื่นกู้เกินราคาซื้อขายจริงๆกับทางโครงการ
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุดในเรื่องของแถม และการต่อรองราคา รวมถึงตัวสัญญาที่อ่านละเอียดมากๆ มีคำถามเกือบทุกบรรทัด (แต่ดีครับ ผมชอบลูกค้าแบบนี้ จะได้กระจ่างทีเดียว)
สรุป : ลูกค้ากลุ่มนี้จองยากครับ โอนกรรมสิทธิ์ยาก แต่ส่วนใหญ่กู้ผ่านเกือบทุกคน เพราะเตรียมเรื่องการขอสินเชื่อเป็นอย่างดี
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 40,000 - 100,000 บาท
3.3 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 7 - 15 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ต่างจาก 2กลุ่มบนครับ ส่วนใหญ่เน้นลงทุนมากกว่าอยู่อาศัยเอง ถ้าทำเลดีจริง กลุ่มนี้ยอมจ่ายได้ง่ายๆเลยครับ
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุด ในเรื่องราคาครับ ราคาเท่านั้นที่เป็นตัวแปรหลัก อย่างอื่นไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ถ้าราคาไม่ได้อย่างที่คิดไว้ ก็ไม่เอา อำนาจการต่อรองลูกค้ากลุ่มนี้สูงมากๆครับ
สรุป : กลุ่มนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เพราะการคิดผลกำไร และจุดคุ้มทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ขายสินค้าให้ลูกค้ากลุ่มนี้อย่าพูดมั่วๆ อย่าพูดไปเรื่อย ลูกค้ากลุ่มนี้ศึกษามาดี มีความรู้ความเข้าใจมากกว่าเซลล์อีกด้วยซ้ำ
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 100,000 บาทขึ้นไป
เอาเท่านี้ก่อนครับ ทั้งหมดนี้ตามประสบการณ์ที่ผมได้ทำมานะครับ ผิดบ้างถูกบ้าง แนะนำหรือติเตียนมาได้เลยนะครับ
มาเล่าประสบการณ์ของเซลล์อสังหาริมทรัพย์ให้ฟังครับ
ต้องบอกก่อนว่า ผมเพิ่งทำในสายนี้ได้ 1ปี 3เดือน จะเล่าเฉพาะสิ่งที่ตัวเองพบเจอมานะครับ ถ้าพี่ๆท่านใดจะเสริม หรือเข้ามาเเนะนำ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
คำเตือน : ถ้าใครจะเข้ามาในวงการอสังหาช่วงนี้ ผมต้องเบรคเลยว่า อย่ามานะครับ ช่วงนี้ยากมากๆ คิดดีๆครับ
1. ต้องรู้อะไรบ้าง : แน่นอนครับต้องรู้จักสินค้า ใน 1ห้อง ต้องรู้ครับว่าประตูทำมาจากอะไร กำแพงกันห้องเป็นแบบไหน พื้นเป็นแบบไหน
1.1 รู้จักสินเชื่อธนาคารครับ : คุณต้องรู้เรทอัตตราดอกเบี้ย ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกันทุกธนาคาร วงเงินที่กู้ต้องผ่อนเท่าไหร่ต่อเดือน
1.2 ประเมินลูกค้าเบื้องต้นได้ : ถ้าคุณขายโครงการพร้อมอยู่ สิ่งนี้สำคัญมากๆครับ รายได้ -ภาระลูกค้า แล้วยังสามารถผ่อนได้ไหม
เพราะถ้าไม่อย่างนั้น โอกาสในการกู้ผ่านน้อยมากๆ ถ้ากู้ไม่ผ่าน นั่นหมายถึงคุณจะไม่ได้ค่าคอมมิสชั่น เหนื่อยฟรีๆ
2. วันๆทำอะไรบ้าง : เหมือนเซลล์ทั่วไปครับ โทรหาลูกค้า รับลูกค้า แค่ไม่ต้องวิ่งออกไปหาลูกค้าเท่านั้นเอง ยกเว้นออกบูท
3. ลูกค้า : แน่นอนครับของราคาหลักล้าน การตัดสินใจไม่ง่ายเหมือนซื้อของเซเว่นแน่ๆ ผมแบ่งลูกค้ามาเป็น 3ประเภทตามงบประมาณ ที่ผมเคยได้ขายมานะครับ
3.1 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 1-3 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจง่ายครับ ส่วนใหญ่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ ประมาณว่าชอบ ก็จองเลย (เน้นว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนนะครับ)
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุดในเรื่องของยื่นกู้ ตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมเอกสาร จนถึงภาระหนี้สิน เรียกว่าแทบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการยื่นกู้เลยเลย ปวดหัวสุดๆครับ
สรุป : ลูกค้ากลุ่มนี้จองง่าย โอนกรรมสิทธิ์ง่าย แต่จะเหนื่อยตอนทำเรื่องขอสินเชื่อครับ
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 15,000 - 30,000 บาท
3.2 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 4 - 6 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจยาก กังวลหลายสิ่ง มีข้อมูลโครงการเปรียบเทียบเยอะ เน้นขอของแถมและส่วนลดตัวราคา หรือส่วนต่างของราคา ว่าง่ายๆยื่นกู้เกินราคาซื้อขายจริงๆกับทางโครงการ
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุดในเรื่องของแถม และการต่อรองราคา รวมถึงตัวสัญญาที่อ่านละเอียดมากๆ มีคำถามเกือบทุกบรรทัด (แต่ดีครับ ผมชอบลูกค้าแบบนี้ จะได้กระจ่างทีเดียว)
สรุป : ลูกค้ากลุ่มนี้จองยากครับ โอนกรรมสิทธิ์ยาก แต่ส่วนใหญ่กู้ผ่านเกือบทุกคน เพราะเตรียมเรื่องการขอสินเชื่อเป็นอย่างดี
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 40,000 - 100,000 บาท
3.3 ลูกค้าที่มีงบประมาณ 7 - 15 ล้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ต่างจาก 2กลุ่มบนครับ ส่วนใหญ่เน้นลงทุนมากกว่าอยู่อาศัยเอง ถ้าทำเลดีจริง กลุ่มนี้ยอมจ่ายได้ง่ายๆเลยครับ
กลุ่มนี้จะมีปัญหามากที่สุด ในเรื่องราคาครับ ราคาเท่านั้นที่เป็นตัวแปรหลัก อย่างอื่นไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ถ้าราคาไม่ได้อย่างที่คิดไว้ ก็ไม่เอา อำนาจการต่อรองลูกค้ากลุ่มนี้สูงมากๆครับ
สรุป : กลุ่มนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เพราะการคิดผลกำไร และจุดคุ้มทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ขายสินค้าให้ลูกค้ากลุ่มนี้อย่าพูดมั่วๆ อย่าพูดไปเรื่อย ลูกค้ากลุ่มนี้ศึกษามาดี มีความรู้ความเข้าใจมากกว่าเซลล์อีกด้วยซ้ำ
รายได้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 100,000 บาทขึ้นไป
เอาเท่านี้ก่อนครับ ทั้งหมดนี้ตามประสบการณ์ที่ผมได้ทำมานะครับ ผิดบ้างถูกบ้าง แนะนำหรือติเตียนมาได้เลยนะครับ