จริงๆ ก่อนที่คุณจะลงทุนในตลาด คุณเคยรู้ตัวเองบ้างไหม ว่าคุณเป็นนักพนัน เป็นนักเก็งกำไร หรือเป็นนักลงทุนจริงๆ ไม่เป็นไร วันนี้ข้ามประเด็นนี้ไปก่อนครับ
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า ธุรกิจการเรียน การสอน การลงทุนในตลาด มีมูลค่ามากกว่า สามพันล้านต่อปี ซึ่งถ้ามัน Work ตลาดบ้านเรา คงมีสัดส่วนรายย่อย เพิ่มขึ้นทุกปี พวกเราคงตบกองทุน ป๊อปเทรด และต่างชาติ..ย่อยยับไปแล้ว...แต่กลายเป็นว่า...คำว่าย่อยยับ กลับมีความหมายตรงตัวจริงๆ...ทุกวันนี้สัดส่วนพวกเราอนาจลงเรื่อยๆ....อืมก้อนะ...จาก 60% ของยอดซื้อขาย เหลือแค่ 35% พวกเราหายไปไหนล่ะ...
แต่ช่างมันก่อน....วันนี้ มาดูกลุ่มคนที่สามารถนำเงินออกมาจากตลาดได้จริงๆ ว่ามีกี่ประเภทกันดีกว่า
กลุ่มที่ 1 คือ พวกใช้ศาสตร์ Tape Reading นั่นคือ การอ่าน Bid Offer นั่นเอง ถ้าคุณรู้โครงสร้างว่า Indicator สร้างจากแท่งเทียน แท่งเทียนสร้างจาก Tick matched ไหล TM ก้อมาจาก Bid Offer อยู่ดี....คุณจะเห็นอีกมิติหนึ่งทันที....เช่น ถ้าคุณอยากได้ AOT 1000 หุ้นเดี๋ยวนั้น...สิ่งที่คุณทำได้คือ ยิงฝั่ง Offer ใช่มั้ยล่ะ...ทันที...แต่ถ้าฝั่ง offer มี สองล้านหุ้นขวางอยู่ มันก็เหมือนเอาก้อนหินปาหน้าผาไง แต่ถ้ามันเหลือ สองพัน แล้วคุณตามไป 1000 สิ่งที่คุณจะได้ คืออะไรล่ะ...คนที่ใช้ศาสตร์นี้ กลับเป็นคนที่ความรู้ไม่สูง และเข้าใจว่า พวกเค้าเล่นกับคน เล่นให้ได้ต้องเกาะสิบล้อ ไม่ใช่มอร์ไซรับจ้าง...%win พวกเค้าสูงจนละเลย MM RM ได้เลย...พวกจบสูงอายม้วนกันเลยทีเดียว
หมายเหตุ...คือ ถ้าเมื่อสองสามปีก่อนมันยังเป็นสวรรค์ แต่ ณ วันนี้ บอกเลยว่า ดูไม่ทัน และยากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
กลุ่มที่สอง คือ พวก Risk จ๋า พวก Manage Risk ทุกอิลิเม้นท์ พวกคนกลุ่มนี้ จะรู้ความลับของแกนราคา และแกนเวลา พวกเค้าจะมีผลตอบแทนที่ไม่ผันผวนมากนัก และส่วนใหญ่จะเล่นกับคำว่า ได้แน่ๆ มีกลยุทธ์การเทรดซับซ้อน มีการบริหารกอง มีการใช้สินค้าที่หลากหลาย เป็นการนำศาสตร์ Mathmatics ที่ซับซ้อนมาใช้ เช่น พวกเค้ารู้ว่า ในกราฟราคาและเวลา มี Noise และ Noise ยังแบ่งประเภทได้อีกล่ะ พวกเค้าจะไม่ทำนายราคา แต่พวกเค้าจะทำนายความผันผวน แล้วเก็บกินมันซะ กลุ่มนี้ ไม่มีคำว่า เจ๊ง...ในทุกสภาพตลาด...งง ไหม
กลุ่มที่สาม คือ พวก VI Master ย้ำว่า Master กลุ่มนี้ จะมีจุด common กับกลุ่มสอง คือ ไม่สนแกนเวลาเหมือนกัน พวกเค้าสนแต่ แกนราคาต่างหาก และพวกเค้าใช้ มาร์ติงเกลอย่างเชี่ยงชาญเลย ความลับของพวกเค้า คือ พวกเค้าไม่ได้หาค่า Fair Value ในอนาคต แต่พวกเค้าหา Valuation แบบแย่ที่สุดต่างหากล่ะ....เช่น ถ้าเค้าเล็ง cpall แต่ถ้าราคาปัจจุบัน คือ แปดสิบบาท คิดว่าจะได้กินตังค์พวกเค้าหรือ....แต่ถ้ามันสามสิบบาทล่ะ คำว่า ขายบ้านเล่น ไม่ใช่เรื่องตลกนะ มันคือเรื่องจริง การวางเงินมากขึ้นตาม probability ในการกลับตัวต่างหาก...คือ VI ของจริง พวกเค้ารอได้แบบไม่มีเวลา เข้ามาเกี่ยวข้อง งงไหม...
กลุ่มสี่ ไม่อยากเว้ามาก แต่บอกได้ว่า เป็นพวก Liar Game เช่นการใช้ข่าวปลอม วงใน บ้างไรบ้าง ประมาณ บริษัทขนส่ง จะทำพลังงาน ทดแทน หรือ q นี้กำไรทะลุฟ้า หรือ takeover หรือ backdoor สนุกกันเข้าไป....บางบริษัท โกงบัญชีกันเลยทีเดียว เล่นแรง เล่นหนัก ลากโหด ทุบจมดิน...ช่วงนี้นึกว่าจะลดลง แต่ก็เข้ามาหลอกหลอนยามตลาดขึ้นทุกที...ข่าวที่ออก กับสิ่งที่เกิด คือ คนละเรื่องเสมอ....
ขอให้โชคดี....ครับ
หมายเหตุ ...ทำไมไม่มี พวก Technical Analysis ล่ะ จะบอกว่า TA เป็นแค่ระดับ Tactics Asset Allocation ครับ ไม่ได้อยู่ในระดับ Stratigics Asset Allocation ถามว่าสำคัญไหม ตอบคือ สำคัญ แต่เพียงพอไหม ตอบคือ ไม่พอ เฟืองเล็กๆหนึ่งตัวใน เครื่องยนต์ คงยากที่จะขับเคลื่อนรถทั้งคัน Holy Grail ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
วันนี้ มาดูนักลงทุนที่รวยจากตลาดกัน ว่ามีกี่ประเภท แล้วคุณล่ะ ไปอยู่ที่ไหนมา....
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า ธุรกิจการเรียน การสอน การลงทุนในตลาด มีมูลค่ามากกว่า สามพันล้านต่อปี ซึ่งถ้ามัน Work ตลาดบ้านเรา คงมีสัดส่วนรายย่อย เพิ่มขึ้นทุกปี พวกเราคงตบกองทุน ป๊อปเทรด และต่างชาติ..ย่อยยับไปแล้ว...แต่กลายเป็นว่า...คำว่าย่อยยับ กลับมีความหมายตรงตัวจริงๆ...ทุกวันนี้สัดส่วนพวกเราอนาจลงเรื่อยๆ....อืมก้อนะ...จาก 60% ของยอดซื้อขาย เหลือแค่ 35% พวกเราหายไปไหนล่ะ...
แต่ช่างมันก่อน....วันนี้ มาดูกลุ่มคนที่สามารถนำเงินออกมาจากตลาดได้จริงๆ ว่ามีกี่ประเภทกันดีกว่า
กลุ่มที่ 1 คือ พวกใช้ศาสตร์ Tape Reading นั่นคือ การอ่าน Bid Offer นั่นเอง ถ้าคุณรู้โครงสร้างว่า Indicator สร้างจากแท่งเทียน แท่งเทียนสร้างจาก Tick matched ไหล TM ก้อมาจาก Bid Offer อยู่ดี....คุณจะเห็นอีกมิติหนึ่งทันที....เช่น ถ้าคุณอยากได้ AOT 1000 หุ้นเดี๋ยวนั้น...สิ่งที่คุณทำได้คือ ยิงฝั่ง Offer ใช่มั้ยล่ะ...ทันที...แต่ถ้าฝั่ง offer มี สองล้านหุ้นขวางอยู่ มันก็เหมือนเอาก้อนหินปาหน้าผาไง แต่ถ้ามันเหลือ สองพัน แล้วคุณตามไป 1000 สิ่งที่คุณจะได้ คืออะไรล่ะ...คนที่ใช้ศาสตร์นี้ กลับเป็นคนที่ความรู้ไม่สูง และเข้าใจว่า พวกเค้าเล่นกับคน เล่นให้ได้ต้องเกาะสิบล้อ ไม่ใช่มอร์ไซรับจ้าง...%win พวกเค้าสูงจนละเลย MM RM ได้เลย...พวกจบสูงอายม้วนกันเลยทีเดียว
หมายเหตุ...คือ ถ้าเมื่อสองสามปีก่อนมันยังเป็นสวรรค์ แต่ ณ วันนี้ บอกเลยว่า ดูไม่ทัน และยากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
กลุ่มที่สอง คือ พวก Risk จ๋า พวก Manage Risk ทุกอิลิเม้นท์ พวกคนกลุ่มนี้ จะรู้ความลับของแกนราคา และแกนเวลา พวกเค้าจะมีผลตอบแทนที่ไม่ผันผวนมากนัก และส่วนใหญ่จะเล่นกับคำว่า ได้แน่ๆ มีกลยุทธ์การเทรดซับซ้อน มีการบริหารกอง มีการใช้สินค้าที่หลากหลาย เป็นการนำศาสตร์ Mathmatics ที่ซับซ้อนมาใช้ เช่น พวกเค้ารู้ว่า ในกราฟราคาและเวลา มี Noise และ Noise ยังแบ่งประเภทได้อีกล่ะ พวกเค้าจะไม่ทำนายราคา แต่พวกเค้าจะทำนายความผันผวน แล้วเก็บกินมันซะ กลุ่มนี้ ไม่มีคำว่า เจ๊ง...ในทุกสภาพตลาด...งง ไหม
กลุ่มที่สาม คือ พวก VI Master ย้ำว่า Master กลุ่มนี้ จะมีจุด common กับกลุ่มสอง คือ ไม่สนแกนเวลาเหมือนกัน พวกเค้าสนแต่ แกนราคาต่างหาก และพวกเค้าใช้ มาร์ติงเกลอย่างเชี่ยงชาญเลย ความลับของพวกเค้า คือ พวกเค้าไม่ได้หาค่า Fair Value ในอนาคต แต่พวกเค้าหา Valuation แบบแย่ที่สุดต่างหากล่ะ....เช่น ถ้าเค้าเล็ง cpall แต่ถ้าราคาปัจจุบัน คือ แปดสิบบาท คิดว่าจะได้กินตังค์พวกเค้าหรือ....แต่ถ้ามันสามสิบบาทล่ะ คำว่า ขายบ้านเล่น ไม่ใช่เรื่องตลกนะ มันคือเรื่องจริง การวางเงินมากขึ้นตาม probability ในการกลับตัวต่างหาก...คือ VI ของจริง พวกเค้ารอได้แบบไม่มีเวลา เข้ามาเกี่ยวข้อง งงไหม...
กลุ่มสี่ ไม่อยากเว้ามาก แต่บอกได้ว่า เป็นพวก Liar Game เช่นการใช้ข่าวปลอม วงใน บ้างไรบ้าง ประมาณ บริษัทขนส่ง จะทำพลังงาน ทดแทน หรือ q นี้กำไรทะลุฟ้า หรือ takeover หรือ backdoor สนุกกันเข้าไป....บางบริษัท โกงบัญชีกันเลยทีเดียว เล่นแรง เล่นหนัก ลากโหด ทุบจมดิน...ช่วงนี้นึกว่าจะลดลง แต่ก็เข้ามาหลอกหลอนยามตลาดขึ้นทุกที...ข่าวที่ออก กับสิ่งที่เกิด คือ คนละเรื่องเสมอ....
ขอให้โชคดี....ครับ
หมายเหตุ ...ทำไมไม่มี พวก Technical Analysis ล่ะ จะบอกว่า TA เป็นแค่ระดับ Tactics Asset Allocation ครับ ไม่ได้อยู่ในระดับ Stratigics Asset Allocation ถามว่าสำคัญไหม ตอบคือ สำคัญ แต่เพียงพอไหม ตอบคือ ไม่พอ เฟืองเล็กๆหนึ่งตัวใน เครื่องยนต์ คงยากที่จะขับเคลื่อนรถทั้งคัน Holy Grail ไม่ได้อยู่ตรงนั้น