ความเสียใจ จากการที่พาหมาไปพบสัตย์แพทย์ที่ไร้น้ำใจ

สวัสดีค่ะ เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก เนื่องจากเสียใจมาก อยากระบาย
            เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24/7/19 น้องหมาที่บ้านป่วย ตอนเช้ามีอาการอ้วกออกมาและเป็นลม คุณพ่อเลยรีบพาไปส่งคลีนิกใกล้บ้าน น้องหมาอาย 12 ปี พันธุ์พิตบูล หมอที่คลีนิกใกล้บ้านบอกว่า น้ำตาลในเลือดต่ำมาก ต้องคอยให้น้ำตาลเข้าเส้นเลือดตลอดเวลา พอหยุดให้น้ำตาลจะตก ซึ่งเป็นอันตรายกับหมา ตรวจเลือดแล้วหมอสงสัยว่าเป็นที่ตับอ่อนซึ่งมีหน้าที่ผลิตอินซูลินไว้ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย จึงแนะนำให้อัลต้าซาวน์ ซึ่งคลีนิกไม่มีเครื่องมือนี้ เราจึงฝากสุนัขไว้ที่คลีนิก 1 คืน แล้วจะพาไตรวจที่ รพ.สัตว์ที่มีเครื่องมือพร้อม
             เช้าวันที่ 25/7/19 เราลางาน 1 วันเพื่อพาหมาไป รพ.สัตว์จุฬา เราโทรไปถามก่อนว่า สามารถเข้าไปพบแพทย์ได้เลยไหม หมออัลตาซาวน์อยู่กี่โมง เค้าบอกไปพบได้เลย ซึ่งหมออัลต้าซาวน์ทำงานในเวลาราชการ เราจึงออกจากคลีนิกแถวบ้านเวลาประมาณ 9.45 แล้วพาน้องนั่งรถกระบะ ซึ่งให้น้ำเกลือที่ผสมน้ำตาลอยู่ตลอดเวลา เราต้องคอยดูว่าน้ำเกลือไหล เพื่อไม่ให้น้ำตาลในเลือดตก รถติดมากไปถึง รพ.สัตว์จุฬาเวลาประมาณ 11.40 ระหว่างทางน้องอ้วกเพราะเมารถ เราก็สงสาร พอถึงรีบพาเข้าคลีนิกฉุกเฉิน พร้อมใบส่งตัวที่ทางคลีนิกเขียนมาให้ น้องเดินไม่ไหว ต้องหามเข้าไป มีผู้ช่วยเข้ามารับเอกสารแล้วส่งต่อให้ น.สพ. เราบอกผู้ช่วยว่าสายน้ำเกลือไม่ไหล เค้ารีบมาแก้ไขให้ทันที พอหมออกมาพบ เค้าอ่านใบส่งตัวแล้วถามว่า ได้โทรมาเช็คก่อนไหม ว่าคลีนิกมีที่ให้แอดมินหรือปล่าว เราตอบว่าโทรมาถามเมื่อวานนี้ เค้าบอกเค้ามาพบแพทย์ได้เลย หมอบอกว่าต้องโทรถามวันต่อวัน วันนี้เตียงเต็มเพิ่งรับเคสหมาถูกรถชน หมอถามกลับมาว่า "แล้วคุณจะให้ผมทำอะไร" เราก็อึ้งเลย อย่างน้อยเราคาดหวังให้หมอช่วยดูน้องบ้าง หลงจากอ่านใบส่งตัวหมอพูดแต่ว่า รพ.เต็ม ไม่ช่วยดูน้องหมาให้เลย เราก็บอกว่าพบหมออัลต้าซาวน์ได้ไหม หมอบอกไม่ได้ ต้องแอดมิด พอหมอเห็นสายน้ำเกลือ แล้วพูดว่า " แล้วรู้หรอว่าให้น้ำเกลือแบบนี้น้ำจะไม่ท่วมปอด" เราก็ยิ่งงง ว่าทำไมหมอถามแบบนี้ หมอที่คลีนิกจัดมาให้เราคิดว่าไม่อันตรายกับน้อง เราตอบว่าไม่รู้ หมอบอกผมทำได้แค่ตรวจน้ำตาล แล้วก็เอาใบที่มีเบอร์ติดต่อโรงพยาบาลอื่นมาให้ บอกว่าหาที่อื่นนะ เราก็อึ้งมาก ว่าหมอไร้น้ำใจได้ขนาดนี้ บอกว่าอาจจะน้ำท่วมปอดน้องแต่ไม่แนะนำอะไรต่อเลย ควรหยุดให้หรือให้ต่อ แล้วถามกลับว่าคุณจะให้ผมทำอะไรอีก เรามองที่น้อง เห็นน้องเหนื่อยมาก หมดแรง นั่งรถ 2 ชม. สงสารมาก หมอไม่แม่แต่จะช่วยจับดูอะไรน้องเลย เลยออกมาหน้าคลีนิก แม่โทรมาเราร้องไห้ เหมือนเราคาดหวังว่าอย่างน้อยหมอน่าจะให้อะไรให้น้องได้บ้าง ช่วยอะไรบ้าง ไม่ใช่พูดจาไร้น้ำใจแบบนี้ ไม่ให้คำแนะนำแล้วพูดจาประชดประชัน

            จากนั้นเราเลยรีบกลับเข้าไปพาน้องไป รพ.สัตว์เกษตรต่อ เราเริ่มหมดหวัง แต่พอไปถึงเกษตรประมาณ 12.30 ห้องฉุกเฉิน หมออ่านใบส่งตัวจากคลีนิกใบเดียวกัน (หมอที่จุฬาส่งคืนมา) แล้วรีบพาน้องไปตรวจทันที เราเริ่มรู้สึกมีหวัง เค้าตรวจให้อย่างดี ตรวจเลือด วัดความดัน พาไปอัลต้าซาวน์ต่อ เพราะสงสัยว่าเป้นเนื้องอกที่ตับอ่อน ผลออกมาช่วง 5.20 หมอเค้ามาพบบอกว่าน้องไม่เป็นไร เราดีใจมาก แต่ข่าวร้ายคือยังหาสาเหตุที่น้องน้ำตาลตก ค่าตับค่าไต ค่าโปรตีนไม่ดีไม่เจอ จึงเอาปัสสาวะไปตรวจต่อ มีนัดอีกวันเสาร์ที่ 27/7/19 เราจึงพาน้องกลับบ้าน ถึงบ้านเกือบ 1 ทุ่ม พอถึงบ้านน้องอาการทรุด อ้วก แต่อ้วกไม่ออกเหมือนติดหลอดลม เราพยายามล้วงแต่ไม่ทัน น้องขาดอากาศจึงจากไปหลังจากถึงบ้านได้ไม่นาน เหมือนน้องอยากกลับบ้าน เราเสียใจมาก วันนี้น้องเหนื่อยทั้งหมด ทั้งนั่งรถให้น้ำเกลือ เราก็คิดว่าเป็นความผิดเราไหม ที่พาน้องไปตะลอนทั้งวัน น้องเหนื่อยมาก พ่อกับแม่กับน้องชายได้ดูใจน้องก่อนจากไป วันนี้เพิ่งฝังศพให้

               สรุปคือเสียความรู้สึกกับ น.สพ.คนนั้นที่จุฬามาก ไม่ช่วยแล้วยังพูดจาไม่ดี เราแค่คาดหวังว่าเค้าจะช่วยอย่างเต็มที่ อย่างน้อยที่เกษตรเค้าช่วยเต็มที่แล้ว แค่อยากฝากคนที่เป็นสัตว์แพทย์ว่า ช่วยพูดจาให้ระวัง บางทีคุณอาจจะไม่คิดมาก แต่คนไข้ที่ฝากความหวังกับคุณได้ยินแล้วเสียใจมาก

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่