[CR] รีวิวย้อนความคิดถึง >กิน อิน ลอนดอน<


สวัสดีค่า ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวตั้งแต่ปี 2016 แล้ว แต่ว่าก่อนหน้าเราลงไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว และบังเอิญวันนี้อยู่ๆก็นึกครึ้มไปนั่งไล่ดูเฟซบุ๊คของตัวเอง ทำให้เห็นมหากาพย์รีวิวของตัวเองที่ลงไว้ตอนนู้นนน โดยในรีวิวจะเป็นความรู้สึกจริงๆของ"ตอนนั้น"ซึ่งเราไปเจอไปชิมมากับตัว เราเลยอยากนำมาแบ่งปันในพันทิปด้วย เผื่อใครมีแพลนจะไปลอนดอน อีกอย่างค่าเงินปอนด์ตอนนี้ก็ถูกมากกกกไม่ถึง 40 บาท เทียบกับตอนนั้นที่เราไป 1 ปอนด์= 50 บาทเลยค่ะ /กระอักเลือด

โดยในรีวิวนี้เกิดขึ้นได้เพราะเราได้รับทุนจากทางคณะให้ไปแลกเปลี่ยนที่ลอนดอนเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ให้โอกาสมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ /กราบแบบไม่แบมือ  แต่ๆๆๆ เราได้ทุนไปเรียนก็จริงแต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่ากินเราออกเองค่ะ และผู้ที่มีแพชชั่นในการกินอย่างเราก็หาข้อมูลล่วงหน้าไว้ว่าของกินเด็ดๆ ร้านดังๆในลอนดอนมีร้านอะไรบ้าง บางร้านก็ได้ไปกินตามรีวิว บางร้านก็เกิดจากการสุ่มมั่วๆของเราเอง บางร้านก็ไปกับอาจารย์เลยได้กิน เป็นต้น และหลักๆอีกอย่างคือเราไปอยู่ที่บ้านโฮสค่ะ ดังนั้นอาหารที่โฮสทำให้หรือซื้อให้เราก็จะขอนำมารีวิวด้วยนะคะ ถือเป็นการแบ่งปันประสบการณ์การอยู่(กินอาหาร)ที่บ้านโฮสต่างประเทศครั้งแรกของเราเลย 

ปล.ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียงวันนะคะ เพราะเราอ้างอิงจากรีวิวเก่าที่เราเคยลงในเฟซบุ๊คค่ะ

1)

เริ่มกันด้วยร้าน Burger & lobster ร้านขายล็อบสเตอร์ชื่อดังที่ใครมาถึงลอนดอนก็ไม่ควรพลาด มีหลายสาขา สามารถเข้าไปเช็คได้ที่เว็บของทางร้านเลย แต่สาขาที่เราไปคือสาขา Mayfair


ร้านนี้จะพิเศษอย่างคือร้านจะมีเมนูแค่สามอย่าง และจะมีพนักงานมาบอกชื่อเมนูสามอย่างนั้นให้ ส่วนในรูปคือเมนูเครื่องดื่ม ใครใคร่สั่งก็สั่ง ส่วนเราเปิดไปเจอราคาก็ปิดทันที พร้อมกับพูดว่า Tap water , plese ถถถ


เมนูที่เราเลือกมาก็คือ Lobster roll ขนมปังร้อนๆกรอบนอกนุ่มใน ด้านในมีเนื้อล็อบสเตอร์เน้นๆ อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆ ยิ่งบีบเลมอนและราดซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่เปรี้ยวแต่กลมกล่อมนิดๆลงไปด้วยนี่ฟินนนนนลืม (แต่ส่วนตัวว่าสลัดกับเฟรนฟรายส์ยังเฉยๆ) และอีกสองเมนูที่มีแต่ไม่ได้สั่งก็คือเบอร์เกอร์เนื้อ และล็อบสเตอร์ที่มาเป็นตัวแบบผ่าครึ่งให้แงะเนื้อกินเอง ซึ่งถ้าสั่งแบบเป็นตัวก็จะมีแบบย่างกับแบบนึ่งสามารถเลือกลั่งได้เลยตามความชอบ ราคาตกอยู่ที่จานละ 22.5 ปอนด์ (รวมเซอร์วิสชาร์จ)


2)

ร้าน Wagamama เห็นมีหลายสาขาอยู่ในลอนดอนเป็นอาหารญี่ปุ่น อย่างชามนี้มาแบบเยอะมาก เครื่องให้ไม่อั้น แต่เสียตรงที่น้ำซุปจืดไปหน่อย แล้วก็ไม่ร้อนเลย ไร้ซึ่งควันฉุยๆ รูปนี้คือถ่ายตอนที่เพิ่งเอามาเสิร์ฟ แต่ไม่ร้อนเลย มันไม่ใช่อ่ะะ ราเมงต้องกินแบบร้อนๆเส่ะะ ค่าเสียหายมื้อนี้คือ 11.45 ปอนด์

3)

ร้านไก่ย่างperi peri ยอดฮิต เปิดสาขาอยู่ทั่วอังกฤษ ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า Nando’s วิธีการสั่งของร้านนี้จะแตกต่างกับร้านทั่วไปเล็กน้อย คือเมื่อเข้าร้านไปจะมีพนักงานพาไปนั่งที่โต๊ะพร้อมเมนูอาหารวางให้ แต่เวลาจะสั่งอาหารต้องเดินไปสั่งที่เคาท์เตอร์เอง(อย่าลืมจำหมายเลขโต๊ะไปด้วยนะ) หลังจากนั้นก็เดินกลับมานั่งรออาหารที่โต๊ะเก๋ๆ


อันนี้เป็นเครื่องเคียงที่เราเลือกมา (จำชื่อไม่ได้555) ฝั่งขวาเป็นข้าวเม็ดแห้งๆเผ็ดนิดๆเอามากินกับไก่และราดซอสของร้าน ก็อร่อยดี ส่วนฝั่งขวาเป็นพวกธัญพืช รสชาติแปลกมาก บอกไม่ถูกว่าอร่อยรึไม่อร่อย (ปล.จำราคาไม่ได้แต่อันนี้สั่งเป็นเซ็ทใหญ่สุดมีไก่สองตัวและเลือกเครื่องเคียงได้ห้าอย่าง หารกันกับเพื่อนสี่คนตกคนละ11ปอนด์กว่าๆ)


ได้มาเดินเล่นที่ Borough Market ยกให้เป็นตลาดในดวงใจเลย ขายของกินเยอะ ตลาดก็สวย ใครไปลอนดอนนี่แนะนำมากๆ

4)

ประเดิมร้านแรกในตลาดด้วยร้านขายหอย5555 จะมีกองหอยวางหน้าร้านและก็มีราคาแปะไว้ ตอนแรกก็สั่งไม่เป็นเลยจิ้มมั่วๆ อันนี้สอง อันนี้อีกสองพลีส


แล้วเขาก็จะงัดให้เลยยยย เห็นขนาดนั่นไหม ใหญ่มากกกกก (จริงๆไม่ได้บอกไซส์ไป ลุงเลยเลือกตัวใหญ่ๆมาให้หมดเลย)


หน้าตาเป็นแบบนี้ บีบเลมอนไปแล้วกินสดๆได้เลยหรือใครอยากจะจิ้มกินกับซอสของทางร้านก็ได้ ดูจากรูปอาจจะไม่รู้สึกว่าหอยมันตัวใหญ่ แต่จริงๆสี่ตัวนี้ใหญ่กว่าฝ่ามือทุกตัว ยิ่งอันที่หน้าตาคล้ายหอยตลับยักษ์นี่กินไม่หมดในคำเดียวอ่ะ ท่ากินตอนนั้นน่าเกลียดมากเพราะต้องยัดเข้าปาก มันใหญ่เกิน5555 เนื้อเยอะแน่นมาก และสดมากกกกกกกกก หวานมากกกกกกกกกกกกกกกก ค่าเสียหายของเจ้าสี่ตัวนี้คือ 17 ปอนด์ ที่แพงอาจจะเป็นเพราะไม่ได้บอกว่าจะเอาไซส์เล็กตั้งแต่ตอนแรก แต่ว่าก็คุ้มนะเพราะมันสดหวานอร่อยมากจริงๆ อวยมากเพราะติดใจสุดๆ555

5)

อันนี้เบอร์เกอร์เป็ดของเพื่อน แอบฉกกินนิดหน่อย มันไปนิดแต่อร่อยดี ให้ความรู้สึกเป็ดมาก (เอ้า ก็มันเป็ด)

6)

เดินมาเรื่อยๆก็เจอนี่


อารมณ์เหมือนฮ็อทด็อกที่ชิ้นใหญ่มาก ตัวไส้กรอกอร่อยดี หนังกรอบเนื้อแน่น แต่ขนมปังไม่โอเคเลย แห้งมากกัดไปก็มีเศษๆร่วงไป ราคาโดนไปที่ 4.5 ปอนด์

7)

มาตลาดนี้ทั้งทีจะพลาดร้านกาแฟที่เขาว่าดังมากร้านนี้ไปได้ยังไง ร้านกาแฟ Mommouth (ในรูปสั่งลาเต้ร้อน)สำหรับคอกาแฟน่าจะชอบ แต่สำหรับคนที่ปกติไม่กินกาแฟอย่างนี่ก็หาความแตกต่างไม่เจอ อาจจะละมุนลิ้นกว่าหน่อยล่ะมั้ง


ถ่ายกับป้ายร้านสักหน่อย ลืมบอก กาแฟแก้วนี้ราคา2.5 ปอนด์

8)

อันนี้ซื้อมากินกับเพื่อน สามสกู๊ป6 ปอนด์ เป็นไอศกรีมนมแพะ สีเหลืองรสวนิลาอร่อยสุด หอมนมแพะ ส่วนสีเขียวรสพิตาชิโอกับอีกลูกรสเฮเซลนัทยังเฉยๆ

9)
มาดูอาหารที่โฮสทำบ้าง การจัดจานหน้าตาแบบนี้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของที่บ้านโฮสไปแล้วเรียบร้อย เกือบทุกมื้อจะแบ่งจานอาหารเป็นสามส่วน ประกอบด้วยผัก แป้ง และเนื้อ (แต่อันหลังดูจะมีน้อยสุดฮืออ) อย่างในรูปนี้เป็นมันฝรั่งที่จะมาเป็นหัวก็ไม่ใช่ จะบดก็ไม่เชิงราดด้วยซอสเกรวี่เค็มนิดๆแต่อร่อย ข้างๆกันนั้นคือผักอะไรก็ไม่รู้ต้มสุก ก็กินได้อร่อยดี และสุดท้ายยย เห็นเนื้อที่โผล่มานิดๆนั่นมะ เป็นเนื้อหมูที่โคตรรรรรรรรรรรรรรรรอร่อย!!! เป็นเนื้อหมูที่นุ่มและอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิต(เว่อร์) รสชาติแบบโอ้ยยยเค็มนิดๆ กลมกล่อมมาก นุ่มละมุนลิ้นสุด จริงๆนะไม่โม้ แต่ก็เคืองเบาๆคือในชิ้นมันแอบมีกระดูกชิ้นเล็กๆติดมา นี่ก็เอาเข้าปากแบบไม่ทันสังเกตใดๆทั้งสิ้น กร้วม! พระเจ้า ฟันสั่นเลย ตอนแรกยังงงนั่นเสียงอะไรในปากฉัน คายออกมาชิ้นแรกอ๋อกระดูก คายออกมาชิ้นที่สอง โอ้โห เหล็กดัดฟันค่ะ หลุด!! แถมเป็นซี่ในสุดด้วยจ้า งามไส้ไหมล่ะเหล็กหลุดจากฟันตอนที่อยู่ต่างประเทศ แถมยังเพิ่งสามวันแรกด้วย ทำไงล่ะ ก็นั่งกินเหมือนเดิม กลับไทยค่อยหาหมอละกันเนาะ5555555 #ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่

10)
ซีเรียลที่ต้องเจอในทุกๆวัน เป็นซีเรียลธัญพืช ฟังดูดีดูเฮลตี้ รสชาติก็เฮลลลลลลลตี้ดี คือจืดแบบจื๊ดดดดดดดจืดอ่ะ ครั้งแรกที่กินนี่คืออยากจะเดินไปตักแยมที่โฮสวางไว้มาคลุกกินด้วยกันมาก อาจเป็นเพราะซีเรียลของไทยมันหวานด้วยล่ะมั้งเลยไม่ชินแต่อย่าว่าแต่ซีเรียลที่จืดเลย นมก็จืด (งงมะ) คือนมจืดมันไม่ใช่นมจืดที่จืดแบบหอมเหมือนของบ้านเรานะ จืดแบบจืดสนิทอะ แต่กินไปกินมาทุกวันก็ชิน เพราะยังไงมันก็ดีกว่าขนมปังแข็งๆที่ต้องเจอออ

11)
ทาดาาาาา มาอังกฤษก็ต้องกินชาอังกฤษสิจ๊ะ สีดูเหมือนชานมเพราะจริงๆมันก็คือชานมนี่แหละ555 รสชาติหอมมัน ได้กินทุกวันในมื้อเช้า จริงๆถ้าไม่ใส่นมมันก็จะเป็นสีของชาทั่วไปนั่นแหละ แต่พอใส่สีมันเลยกลายเป็นแบบนี้ มีครั้งหนึ่งเคยจะลองกินแบบไม่ใส่นมดู โฮสรีบเบรกเลยบอกว่ามันจะเข้มไปสำหรับยูนะ ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกคิดในใจว่า โธ่ ชาจีนขมๆหนูยังเคยกิน แค่นี้อะนะ สบายยย ลองกินไปอึกแรก เห้ยมันก็ขมนิดหน่อยพอกินได้อยู่ อึกที่สองมันฝาดๆลิ้นแหะ อึกที่สาม โอยมันขมๆคอแถมฝาดลิ้นอีก พอ เลิก กลับไปกินแบบใส่นมก็ดีอยู่แล้ว (แต่ถ้าเอามากินตัดรสหวานนี่คือดีมากๆ)

12)
ขนมปังปิ้งทาแยมสตอเบอร์รี่ ต้องปิ้งนะไม่ปิ้งก็ไม่ได้ โฮสจะทำหน้าแบบ วายยยยย วายยูถึงไม่ปิ้งมันล่ะ มันควรจะต้องปิ้งนะ ยูจะกินแบบไม่ปิ้งจริงๆเหรออ เหมือนเป็นเรื่องประหลาดมากถึงมากที่สุดตอนโฮสเห็นว่ากินขนมปังแผ่นแบบไม่ปิ้ง แล้ว คืออยากจะบอกว่าหนูแค่ขี้เกียจค่ะ อยู่ไทยปกติก็กินแบบไม่ปิ้งแต่สุดท้ายก็ต้องเอาไปปิ้งตามใจเขาล่ะ- -

13)
นี่เป็นอาหารกลางวันมื้อแรกในลอนดอนไงล่ะ จำได้ว่าตอนนั้นรีบๆอยู่เลยหาอะไรก็ได้ที่ง่ายๆกินก่อน ก็มาจบที่ร้านฟ้าสฟู้ดยอดนิยมอย่างแมคโดนัลล์นี่แหละ อันนี้เป็นเบอร์เกอร์ไก่ ราคาของมื้อนี้คือ 4.69ปอนด์ แพงกว่าประเทศไทย แต่ถ้าคนไหนมีหนังสือพิมพ์ metro ที่แจกฟรีตามสถานีรถไฟล่ะก็ จงพลิกหาคูปองส่วนลดซะ ลดเยอะมาก เคยเปิดเจอ เป็นเซ็ทเบอร์เกอร์ ใช้คูปองแลกซื้อราคาไม่ถึงสองปอนด์ ถูกกกมากกกก

14)
เห็นนั่นไหมมม เนื้อหมูในดวงใจ คราวนี้มาชิ้นหนาให้กินกันฟินลืมม นอกจากนี้วันนี้ยังได้กินกับข้าวอีก ปลื้มปริ่มมากน้ำตาจะไหลพูดเลย ส่วนผักนั้นคราวนี้มาแบบมิกซ์แอนด์แมชต์ กี่อย่างก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าทำไมผักมันเส้นยาวจัง ใช้ส้อมม้วนกินเป็นสปาเก็ตตี้ยังได้เลย

15)

ครัวซอง(โฮสว่างี้) ชิ้นใหญ่เบิ้ม กรอบๆแต่รสชาติเฉยๆ มันแห้งๆอะ ถ้าไม่มีเนยรึแยมกินด้วยนี่คงต้องเอาไปจิ้มจุ่มกับชากินให้หายฝืดคอ

ต่อด้านล่างนะคะ
ชื่อสินค้า:   อาหารในลอนดอน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่