เริ่มต้นเลยละกัน เราทั้งคู่ทำงานเป็นเซลล์ คนละบริษัทกัน เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นต่างกัน
ตัวผม เงินเดือนเยอะ แต่ค่าคอมมิชชั่นน้อย ซึ่งเดือนไหนไม่มียอด ก็สามารถอยู่ได้
ส่วน "แฟน" เงินเดือนน้อย ค่าคอมมิชชั่นเยอะ เดือนไหนไม่มียอดก็จะแย่หน่อย
.
.
.
เข้าเรื่อง
..
เราทั้งคู่อยู่ต่างจังหวัด. ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 7 ปี แต่งงานช่วง 4 ปีหลัง มีเจ้าตัวเล็กด้วยกัน 1 คน ผมอายุแก่กว่าแฟน 2 ปี ผมทำงานในบริษัทขายรถทางการเกษตรค่ายหนึ่ง(ค่ายสีส้ม) ส่วนแฟนทำงานบริษัทขายรถยนต์ ซึ่งสังคมในการทำงานก็จะแตกต่างกันมาก สังคมการทำงานของผมก็จะมีเพื่อนส่วนมากเป็นผู้ชาย ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก็ไม่เยอะ. อาหารการกินก็จะง่ายๆอาหารตามสั่งก็อิ่มแล้ว ส่วนแฟนเพื่อนในการทำงานก็จะเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด ก็อย่างว่าละครับตามสไตล์ของผู้หญิง(บางคน ไม่ขอเหมารวม)ในแต่ละวันก็ต้องมี กาแฟ ชาไข่มุก เป็นเรื่องธรรมดา แต่ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ซึ่งในวงการทำงานทำงานของเขามักจะมีการแข่งขันกันเป็นธรรมดา เดือนไหนที่ยอดขายเขาได้เยอะ ค่าตอบแทนก็จะเยอะหน่อย แต่เดือนไหนที่ไม่มียอดก็ได้แค่เงินเดือนอันน้อยนิด ผมเองก็คอยบอกเขาอยู่ตลอดว่าเดือนไหนที่ได้เยอะก็ให้แบ่งเก็บบ้าง ไม่ใช่เอาไปใช้จ่ายจนหมด
เราแบ่งกันรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้าน เริ่มแรกก็ราบรื่นไม่มีปัญหา แต่ก็จะมีปัญหาในช่วงหลังเพราะยอดขายเขาตก บางเดือนไม่มียอดเลยด้วยซ้ำ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละวันกลับไม่ลดลง แอบสมัครเครดิตเพื่อไปซื้อโทรศัพท์ ตอนไปซื้อผมเองก็คิดว่าเขามีเงินเก็บ. แล้วมาบอกผมภายหลังว่ากดบัตรไปซื้อ จึงทำให้เงินค่าใช้จ่ายที่เขารับผิดชอบมีไม่พอ ผมเองก็ต้องคอยเอาเงิน(เงินที่แอบซ่อนเขาไว้ จริงๆก็เอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน)มาชดเชยส่วนนั้นเสมอ ซึ่งผมอ้างว่ายืมแม่ของผม ยืมพี่ที่ทำงานมาบ้าง ผมจึงคุยกับแฟนเรื่องการใช้เงินในแต่ละวัน ผมเองก็แค่ต้องการให้แฟนคิดให้รอบคอบ แต่กลับกลายเป็นทะเลาะกัน
บางครั้งผมเองก็เหนื่อย เหนื่อยที่จะพูดกับการที่แฟนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้เงิน ล่าสุดทะเลาะกันเรื่องเงิน จนไม่คุยกันมา 5-6 วันละ
.
.
.
เดี๋ยวมาต่ออีกกระทู้ ขอตัวไปล้างขวดนมก่อน
ทะเลาะกับ"แฟน"เพราะเรื่องเงิน
ตัวผม เงินเดือนเยอะ แต่ค่าคอมมิชชั่นน้อย ซึ่งเดือนไหนไม่มียอด ก็สามารถอยู่ได้
ส่วน "แฟน" เงินเดือนน้อย ค่าคอมมิชชั่นเยอะ เดือนไหนไม่มียอดก็จะแย่หน่อย
.
.
.
เข้าเรื่อง
..
เราทั้งคู่อยู่ต่างจังหวัด. ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 7 ปี แต่งงานช่วง 4 ปีหลัง มีเจ้าตัวเล็กด้วยกัน 1 คน ผมอายุแก่กว่าแฟน 2 ปี ผมทำงานในบริษัทขายรถทางการเกษตรค่ายหนึ่ง(ค่ายสีส้ม) ส่วนแฟนทำงานบริษัทขายรถยนต์ ซึ่งสังคมในการทำงานก็จะแตกต่างกันมาก สังคมการทำงานของผมก็จะมีเพื่อนส่วนมากเป็นผู้ชาย ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก็ไม่เยอะ. อาหารการกินก็จะง่ายๆอาหารตามสั่งก็อิ่มแล้ว ส่วนแฟนเพื่อนในการทำงานก็จะเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด ก็อย่างว่าละครับตามสไตล์ของผู้หญิง(บางคน ไม่ขอเหมารวม)ในแต่ละวันก็ต้องมี กาแฟ ชาไข่มุก เป็นเรื่องธรรมดา แต่ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ซึ่งในวงการทำงานทำงานของเขามักจะมีการแข่งขันกันเป็นธรรมดา เดือนไหนที่ยอดขายเขาได้เยอะ ค่าตอบแทนก็จะเยอะหน่อย แต่เดือนไหนที่ไม่มียอดก็ได้แค่เงินเดือนอันน้อยนิด ผมเองก็คอยบอกเขาอยู่ตลอดว่าเดือนไหนที่ได้เยอะก็ให้แบ่งเก็บบ้าง ไม่ใช่เอาไปใช้จ่ายจนหมด
เราแบ่งกันรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้าน เริ่มแรกก็ราบรื่นไม่มีปัญหา แต่ก็จะมีปัญหาในช่วงหลังเพราะยอดขายเขาตก บางเดือนไม่มียอดเลยด้วยซ้ำ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละวันกลับไม่ลดลง แอบสมัครเครดิตเพื่อไปซื้อโทรศัพท์ ตอนไปซื้อผมเองก็คิดว่าเขามีเงินเก็บ. แล้วมาบอกผมภายหลังว่ากดบัตรไปซื้อ จึงทำให้เงินค่าใช้จ่ายที่เขารับผิดชอบมีไม่พอ ผมเองก็ต้องคอยเอาเงิน(เงินที่แอบซ่อนเขาไว้ จริงๆก็เอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน)มาชดเชยส่วนนั้นเสมอ ซึ่งผมอ้างว่ายืมแม่ของผม ยืมพี่ที่ทำงานมาบ้าง ผมจึงคุยกับแฟนเรื่องการใช้เงินในแต่ละวัน ผมเองก็แค่ต้องการให้แฟนคิดให้รอบคอบ แต่กลับกลายเป็นทะเลาะกัน
บางครั้งผมเองก็เหนื่อย เหนื่อยที่จะพูดกับการที่แฟนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้เงิน ล่าสุดทะเลาะกันเรื่องเงิน จนไม่คุยกันมา 5-6 วันละ
.
.
.
เดี๋ยวมาต่ออีกกระทู้ ขอตัวไปล้างขวดนมก่อน