สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคน ตัดสินใจอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีมั้ย แต่ไม่ทราบว่าควรไปปรึกษาใครดี
ตอนนี้เราเองอายุ 30 ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนเดียว อยู่กับแม่ แม่เราอายุ 56 ปี เป็น single mom แม่ทำงานเป็นเชฟอาหารไทยรายได้ประมาณ 7-80,000 บาทต่อเดือนค่ะ
เมื่อเดือน กพ ที่ผ่านมา แม่เริ่มป่วยมีอาการเจ็บเส้นประสาทบริเวณใบหน้า ไปตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกที่เยื่อหุ้มสมองขนาดประมาณ 2.5 cm ค่ะ เพิ่งผ่าตัดไปเมื่อต้นเดือน กค ที่ผ่านมา ตอนนี้อยู่ในช่วงพักฟื้น
แม่เราเป็นคนใช้เงินมือเติบมาแต่ไหนแต่ไร เคยมีประวัติเปนหนี้บัตรเครดิตเมื่อ 10 ปีก่อน ประมาณ หลายแสนบาท เครียดจนเกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นทางบ้านช่วยกันเคลียร์หนี้ได้จนหมด และคิดว่าคงไม่มีอีห
แต่หลังจากที่แม่ป่วยครั้งนี้ ที่บริษัททวงหนี้บัตรเครดิตติดต่อมาที่เราเยอะ เนื่องจากแม่ปิดโทรศัพท์ช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดสมอง ทำให้เราทราบว่าแม่กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกครั้ง จริงๆเราเองพอทราบและพอเดาได้ แต่ไม่เคยทราบว่าจำนวนเงินสุทธิของหนี้คือเท่าไหร่
จนเมื่อวานแม่ได้บอกกับเราว่า อยากให้เราเอารถไป refinance เนื่องจากแม่ต้องการเงินมาชำระบัตรเครดิต เราจึงเปิดใจคุยกับแม่ว่าสรุปมีหนี้เท่าไหร่ จนทราบว่ามีบัตน 12 ปี มียอดเต็มวงเงิน 200,000 บาท ทั้งหมด 7 ใบ ยอดรวมทั้งหมดประมาณ ล้านกว่าบาท
เราตกใจมาก แต่ในใจก็ยังคิดว่าน่าจะปิดได้ เพราะเมื่อสิบปีก่อน ยังทำได้เลย ตอนพอเราปรึกษากับครอบครัว ทุกคนบอกว่ามันเยอะเกินไปสามารถปิดได้แน่นอน เนื่องจากตอนนี้แม่ไม่สามารถทำงานได้ปกติ
เลยอยากขอคำแนะนำจากทุกๆคนว่าสถานการณ์เช่นนี้ควรทำยังไงดีคะ
แม่อายุ 56 ปี เมื่อก่อนทำงานรายได้ 7-80,000 บาทต่อเดือน ตอนนี้ไม่น่าจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ จากอาการป่วย และแม่ไม่มีรถหรือบ้านที่เป็นทรัพย์สมบัติของตัวเอง มีที่ดินที่ป็นโฉนดร่วมกับน้า ราคาประมาณ 10 ล้านบาท แต่น้าเรายังไม่ยอมขายค่ะ
ส่วนเราทำงานรายได้ประมาณ 4-50,000 บาทต่อเดือน มีภาระผ่อนคอนโดเดือนละประมาณ 15,000 บาทค่ะ
และอีกประเด็นหนึ่งคือ เราคิดว่าแม่น่าจะมีอาการทางจิตร่วมด้วย ถึงมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่ปกติ (ซื้อของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น บางครั้งให้เงินคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล) ควรพาไปปรึกษาจิตแพทย์ดีมั้ยคะ
ขอบคุณทุกความเห็นคืะ
เพิ่งมทราบว่า แม่ เป็นหนี้บัตรเครดิต 12 ใบ วงเงินรวมเกือบ 2 ล้านบาท
ตอนนี้เราเองอายุ 30 ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนเดียว อยู่กับแม่ แม่เราอายุ 56 ปี เป็น single mom แม่ทำงานเป็นเชฟอาหารไทยรายได้ประมาณ 7-80,000 บาทต่อเดือนค่ะ
เมื่อเดือน กพ ที่ผ่านมา แม่เริ่มป่วยมีอาการเจ็บเส้นประสาทบริเวณใบหน้า ไปตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกที่เยื่อหุ้มสมองขนาดประมาณ 2.5 cm ค่ะ เพิ่งผ่าตัดไปเมื่อต้นเดือน กค ที่ผ่านมา ตอนนี้อยู่ในช่วงพักฟื้น
แม่เราเป็นคนใช้เงินมือเติบมาแต่ไหนแต่ไร เคยมีประวัติเปนหนี้บัตรเครดิตเมื่อ 10 ปีก่อน ประมาณ หลายแสนบาท เครียดจนเกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นทางบ้านช่วยกันเคลียร์หนี้ได้จนหมด และคิดว่าคงไม่มีอีห
แต่หลังจากที่แม่ป่วยครั้งนี้ ที่บริษัททวงหนี้บัตรเครดิตติดต่อมาที่เราเยอะ เนื่องจากแม่ปิดโทรศัพท์ช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดสมอง ทำให้เราทราบว่าแม่กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกครั้ง จริงๆเราเองพอทราบและพอเดาได้ แต่ไม่เคยทราบว่าจำนวนเงินสุทธิของหนี้คือเท่าไหร่
จนเมื่อวานแม่ได้บอกกับเราว่า อยากให้เราเอารถไป refinance เนื่องจากแม่ต้องการเงินมาชำระบัตรเครดิต เราจึงเปิดใจคุยกับแม่ว่าสรุปมีหนี้เท่าไหร่ จนทราบว่ามีบัตน 12 ปี มียอดเต็มวงเงิน 200,000 บาท ทั้งหมด 7 ใบ ยอดรวมทั้งหมดประมาณ ล้านกว่าบาท
เราตกใจมาก แต่ในใจก็ยังคิดว่าน่าจะปิดได้ เพราะเมื่อสิบปีก่อน ยังทำได้เลย ตอนพอเราปรึกษากับครอบครัว ทุกคนบอกว่ามันเยอะเกินไปสามารถปิดได้แน่นอน เนื่องจากตอนนี้แม่ไม่สามารถทำงานได้ปกติ
เลยอยากขอคำแนะนำจากทุกๆคนว่าสถานการณ์เช่นนี้ควรทำยังไงดีคะ
แม่อายุ 56 ปี เมื่อก่อนทำงานรายได้ 7-80,000 บาทต่อเดือน ตอนนี้ไม่น่าจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ จากอาการป่วย และแม่ไม่มีรถหรือบ้านที่เป็นทรัพย์สมบัติของตัวเอง มีที่ดินที่ป็นโฉนดร่วมกับน้า ราคาประมาณ 10 ล้านบาท แต่น้าเรายังไม่ยอมขายค่ะ
ส่วนเราทำงานรายได้ประมาณ 4-50,000 บาทต่อเดือน มีภาระผ่อนคอนโดเดือนละประมาณ 15,000 บาทค่ะ
และอีกประเด็นหนึ่งคือ เราคิดว่าแม่น่าจะมีอาการทางจิตร่วมด้วย ถึงมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่ปกติ (ซื้อของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น บางครั้งให้เงินคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล) ควรพาไปปรึกษาจิตแพทย์ดีมั้ยคะ
ขอบคุณทุกความเห็นคืะ