เช้าวันเสาร์แสงแดดอ่อนๆช่วงหกโมงเช้ามันช่างสดชื่นเหมาะแก่การออกมารับวิตามินเอเหลือเกิน นี่ถ้าอยู่ในกรุงเทพไม่มีทางที่จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้
รถลาวิ่งเต็มท้องถนน เหมือนกลับว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั่นไม่ยอมหลับยอมนอน แม้จะเป็นช่วงเช้าๆใช่ว่าอากาศจะบริสุทธิ์เช่นที่นี่ ทั้งกลุ่มควันจากรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ ยังไม่พอยังมีกลุ่มควันที่มาจากพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวเหนียวหมูปิ้งรถเข็นอีก ที่จอดขายตามข้างถนนตามแหล่งผู้คนผุกผล่าน
จากวันที่เนสมาอยู่บ้านกับยาย เนสนอนเร็วตื่นเช้าทุกวัน เพราะที่นี่ยังไม่เจริญเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีน้ำปะปา ไฟฟ้าใช้ แถมยังมีเครือข่ายไวไฟล์บางเครือข่ายเข้ามาติดตั้ง แต่สามทุ่มเป็นต้นไปถนนก็เงียบสงัดแล้ว จะเหลือแค่เสียงจิ้งหรีดเรไรเท่านั้น ที่ยังคงไม่ยอมหลับนอน
เนสตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งของวันนี้ เพื่อมาหุงข้าวทำกับข้าวให้ยายทานในตอนเช้า แต่เนสก็ตื่นไม่ทันยายอยู่ดี เลยต้องนั่งเล่นมือถือคร่าเวลาไป จะกลับเข้าไปนอนต่อก็ตาสว่างแล้ว
พอถึงเวลาหกโมงเช้า ฟ้าก็เริ่มสว่างมากขึ้น แสงแดดเริ่มออกมาให้ความอบอุ่นแก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ เนสออกมานั่งเล่นที่เปลตัวเดิม สายตาก็แอบมองไปยังบ้านย่าบูม อาทิตย์นี้มามั้ยนะ ได้ยินว่ามาทุกอาทิตย์นี่คงจะตื่นสายละสิ หรือไม่ก็น่าจะมาวันนี้แต่ยังไม่ถึง
“พี่เนส!!”
เด็กน้อยตะโกนและวิ่งมาทางเนสที่นั่งเปลอยู่หน้าบ้าน น้องเบสนั้นเอง ในมือก็ถือไอแพดมาด้วย เด็ก ป.2 ใช้ไอแพดในการเรียนแล้วหรอ ทันสมัยจริงๆ
มาถึงน้องเบสก็กระโดดขึ้นนั่งเปลกับเนส โดยที่ไม่ขออนุญาตก่อน แต่เนสก็ไม่ถือสา สองคนสนิทกันอยู่แล้ว เพื่อนซี้ต่างวัย
“น้องเบสทำไมตื่นเช้าจังเลย”
“ย่าปลุก ย่าบอกว่าใครอยากเป็นเศรษฐีต้องตื่นเช้า อีกอย่างรอพี่บูมด้วย”
เนสอดที่จะขำเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เลย นี่แหละที่เขาว่าเด็กน้อยคือผ้าขาว หรือ เมมเมอร์รี่การ์ดที่ว่างป่าว เราจะแต่งเติมอะไรลงไปก็ได้หมด
ถ้าเติมแต่สิ่งที่ดีๆเด็กก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ ถ้าเติมสิ่งที่ไม่ดี ใส่อะไรลงไปเด็กก็จะกลายเป็นแบบนั้น เกือบร้อยเปอร์เซ็น เด็กจะนิสัยเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนเลี้ยงดูด้วย
สองสาวต่างวัยนั่งเปลหันหน้าเข้าหากัน นั่งในท่าขัดสะหมาด เนสก็จิ้มโทรศัพท์เล่น เลื่อนดูเฟสบุ๊คไปเรื่อย ช่องแชทมีแต่เพื่อนๆแชทมาบอกคิดถึง อยากให้กลับมาเรียนที่เดิม
ส่วนน้องเบสก็ดูการ์ตูนในยูทูป บูมสอนแค่ครั้งเดียวก็ทำเป็นแล้ว เด็กสมัยนี้ความจำดีมาก
สักพักเนสก็มองเห็นรถมอเตอร์ซ้อนกันมาสองคน มาจอดที่บ้านย่าบูม คนซ้อนเป็นบูมคนขับดูมีอายุน่าจะราวๆสี่สิบปลายๆ ก็คงจะเป็นญาติบูมนั้นแหละ
“น้องเบส ลุงคนนั้นเป็นใครอ่ะ ลูกยายก้านเหมือนกันหรอ”
“อ่อ ลุงพรไง บ้านอยู่ถัดบ้านน้องเบสไปอีก สอง สาม สี่ห้า หลัง ลุงพรไม่ใช่ลูกยาย เป็นลูกยายเกดพี่เนสไม่รู้เหรอ”
“เอ้า แล้วพี่เนสจะรู้มั้ยเนี่ย”
“พี่เนสปะๆไปเล่นบ้านน้องเบสป่ะ พี่บูมมาแล้ว”
เด็กน้อยกระโดดลงจากเปล มือก็เขย่าแขนเนสให้ไปกับตน เมื่อเนสปฏิเสธไม่ไป เบสก็วิ่งกลับไปบ้านตัวเองทันที เพื่อไปเล่นกับพี่บูมของเขา
“ตื่นเที่ยวเล่นแต่เช้าเลยนะแห้ง”
“น้องเบสไปบ้านยายจันทร์มา นั่งเล่นกับพี่เนส”
บูมมองไปทางบ้านยายจันทร์ ประสานสายตากับเนสพอดี ใครจะรู้ว่าเนสกำลังมองตนเองอยู่
ทันใดนั้นเนสก็รีบก้มหน้าลง ทำเป็นเลื่อนโทรศัพท์ไม่สนใจ แล้วลงจากเปลเดินเข้าไปในบ้าน
วันนี้ยายจันทร์กับเนสจะมาทานข้าวเช้าด้วยอีกมั้ยนะ ระหว่างคิดในใจบูมก็กดโทรศัพท์โทรบอกแม่ว่าถึงบ้านย่าแล้ว และไม่ลืมที่จะส่งไปบอกอาร์ด้วย
ไลน์! เสียงไลน์ดังขึ้นเมื่อมีคนส่งข้อความมา อาร์ไม่ได้ปิดเสียงมือถือไว้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่อกับแม่สงสัย เพราะมือถืออยู่ในกระเป๋ากางเกงของอาร์
บูมถึงบ้านย่าแล้วนะ!!
เป็นข้อความที่บูมส่งมาให้อาร์
อาร์รับแซบ!!
อาร์ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ตอบกลับไปแทนคำพูด จากนั้นก็สอดมือถือลงไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม ก่อนที่พ่อกับแม่จะมองเห็น
ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ห้ามใช้โทรศัพท์ แต่อาร์เป็นคนโกหกไม่เก่ง ถ้าเป็นเพื่อนๆอาร์จะไม่หลบๆซ่อนๆ แต่ถ้าเป็นบูมต้องแอบ ครั้งหนึ่งเคยเกือบโดนจับได้ แต่ก็รอดมาเพราะเพื่อนพ่อมาหา
ที่ไร่มันสำประหลังของอาร์วันนี้ ช่วงเช้าแดดยังไม่ร้อนต้องรีบทำเวลา ปลูกมันสำประหลังให้ได้มากที่สุด แค่ห้าไร่ยังไงก็เสร็จภายในเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว
พ่อกับแม่พาอาร์ตื่นมาที่ไร่ตั้งแต่เช้าตรู่ หกโมงตรงต้องออกมาจากบ้านแล้ว เมื่อมาถึงที่ไร่ก็จัดแจงหาข้าวหาน้ำมาวางไว้ที่กระท่อมปลายไร่ ทานข้าวเช้าก่อน ค่อยลงมือปลูก
ถึงยังไงต้องรีบกินให้เสร็จเร็วๆ แล้วลงไปปลูกมันสำประหลัง ช่วงเช้าแดดอ่อนแบบนี้แหละ เหมาะที่สุดแล้ว สิบโมงแดดก็เริ่มร้อนแล้ว
พ่อเป็นคนไถยกร่องคูมันด้วยควายเหล็ก แม่เป็นคนทิ้งท่อนมันลงบนคูดินที่พ่อไถยกเป็นคูร่องไว้ ส่วนอาร์เป็นคนปักท่อนมันลงดินตามหลังแม่
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง เพราะมันคือรายได้ของครอบครัว พ่อแม่อาร์ไม่จ้างคนมาทำช่วย ไร่แค่นี้ทำสามคนพ่อแม่ลูกได้สบาย แค่สองวันก็เสร็จแล้ว
“เหนื่อยมั้ยลูก”
สองแม่ลูกนั่งพักในร่มประดู่ที่มันเกิดเองตามธรรมชาติ
หลังจากพากันทำงานมาได้สามชั่วโมงแล้ว สายตาก็มองพ่อที่ยกคูดินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือก็ตักน้ำในกระติกเย็นๆเพราะใส่น้ำแข็งมากิน
“ไม่เหนื่อยเลยแม่”
อาร์ยิ้มให้แม่พร้อมรับแก้วน้ำจากแม่มาดื่ม
“รู้แล้วใช่มั้ยว่าเป็นชาวนา ชาวไร่ มันเหนื่อยแค่ไหน อาร์ต้องเรียนให้สูงๆ ให้ได้รับปริญญา รับราชการนะจะได้ไม่ลำบาก”
“อาร์จะตั้งใจเรียนสอบครูให้ได้ ทำความฝันพ่อแม่ให้สำเร็จนะจ๊ะ”
“เรื่องแฟนแม่ขอก่อนนะ เรียนจบแล้วค่อยว่ากัน แม่ไม่ห้ามหรอกจะคบใครถึงเวลานั้น”
“จะแม่”
อาร์หันหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบตาแม่ พ่อกับแม่จะรู้มั้ยนะว่าอาร์แอบมีแฟน หรือพ่อแม่รู้อยู่แล้วแค่ไม่พูด อาร์คุ้นคิดในใจ มือก็จับมือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเองไว้
“เฮ้ย สองแม่ลูกพักกันหายเหนื่อยหรือยัง มาๆจะเที่ยงแล้ว มาปลูกฝั่งนี้ให้เสร็จก่อนเที่ยง ตอนบ่ายจะได้ไปลงฝั่งนู้น”
เสียงผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกสองแม่ลูกให้มาทำงานต่อ อาร์ตักน้ำใส่แก้วถือไปให้พ่อด้วย แม่พาพักเหนื่อยก็ไม่ยอมพัก ห่วงแต่ไม่เสร็จ มีเวลาอีกตั้งหนึ่งวัน พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ไม่รู้จะรีบไปไหน
“ขอบคุณครับ ครูอาร์”
พ่อกล่าวขอบคุณอาร์ สามคนพ่อแม่ลูกหัวเราะชอบใจท่ามกลางแสงแดดที่ตอนนี้ เป็นเวลาเกือบๆสิบเอ็ดโมงแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรสามคนนี้ได้เลย ทั้งสามช่วยกันปลูกมันสำประหลังอย่างตั้งใจที่สุด
“ย่ามื้อเที่ยงทอดไข่ให้ไอ้แห้งหน่อย เดี๋ยวบูมไปเก็บชะอมให้”
“ใครอยากกิน พี่บูมต่างหากอยากกิน”
บูมหาข้ออ้างอยากไปส่องเนสว่าทำอะไรอยู่ หากจะมองจากหน้าบ้านตัวเองก็เห็น แต่อยากไปแอบมองใกล้ๆ
บูมนั้งตำหมากให้ย่าเคี้ยว ส่วนน้องเบสก็นั้งดูการ์ตูนในไอแพด
“ดูมากๆนะไอแพดนิ เดี๋ยวไม่ได้หนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก”
“ยายน้องเบสพึ่งดู”
“พึ่งดูอะไร ยายเห็นถือไอแพดวิ่งไปหานางเนสแต่เช้านู้น”
ผู้เป็นยายบ่นหลานคนเล็ก ยิ่งโตมันก็ยิ่งหน้าเหมือนแม่จริงๆ ยิ่งทำให้ยายก้านคิดถึงลูกสาว มองหน้าหลานทีไรก็นึกแต่ว่าลูกสาวมาหา หากแต่ว่าน้องเบสตัวเล็ก และยังเป็นเด็ก ถ้าอายุสักยี่สิบ ยายก้านคงคิดว่าลูกสาวกลับมาหาตัวเองแน่นอน
“หัดเถียงยาย มันไม่ดีรู้มั้ย”
ทีบูมเอ็ดน้องบ้าง
“น้องเบสไม่ได้เถียง น้องเบสอธิบาย”
“แนะยังจะมาเถียงอีก”
บูมอยากรู้ว่าเนสเรียนโรงเรียนอะไร ยังไง จะเริ่มต้นยังไงนะ ใช้แผนไปเก็บชะอมก็ไม่สำเร็จ งั้นรอให้ย่าเข้าไปในบ้านก่อน จะชวนน้องเบสไป แต่ย่าก็ไม่ยอมเข้าไปในบ้านสักที
บูมตำหมากให้ย่าเรียบร้อยแล้ว ก็ตักป้อนย่าเอามืออีกข้างรองไว้กันหกใส่พื้น
“เอาแห้งเคี้ยว”
“หยี๋ๆๆๆ พี่บูมแหละเคี้ยว อย่าเอามาใกล้เดี๋ยวหกใส่ไอแพดน้องเบส”
“แน่!! สองคนนี้นั่งกันคนละมุมเลยไป คนโตก็พอคนโต คนเล็กก็ไม่อยู่ส่วนเล็ก”
ยายก้านดุหลานชายกับหลานสาว เสียงออกมาได้ไม่เต็มปาก เพราะกำลังเคี้ยวหมากอยู่
และแล้วโชคก็เข้าข้างบูม ยายให้เอาปลาที่ปู่เอามาจากนาไปให้ยายจันทร์ทำกับข้าวตอนเย็น ทำไมบูมถึงอยากเห็นเนสนะ เมื่อเช้าก็เห็นแป๊บเดียวเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรด้วยทำไมถึงอยากเจออยากคุย
หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ สวยสู้อาร์ก็ไม่ได้ แต่ทำไมถึงอยากคุย อยากเจอหน้า หรือเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ บูมต้องการเพื่อนเหรอ ที่ผ่านมาบูมมาบ้านย่าก็ไม่มีเพื่อนเล่นเลย นอกจากน้องเบส ถ้าน้องเบสเป็นผู้ชายก็คงดี
บูมให้น้องเบสพาไป ให้ไปเป็นกองหน้าก่อน น้องเบสเดินตัวป่าวนำหน้าบูมไป ส่วนบูมเป็นคนถือถังปลา ในถังมีปลาช่อนสองตัว ปลาดุกหนึ่งตัว และปลาหมออีกสองตัว
ปู่ได้มาจากนา ปู่ทำไซดักปลา ทุกเช้าปู่จะออกไปทุ่งนาเพื่อไปดูไซที่ดักไว้ บางวันก็ไม่ได้เพราะมีหัวขโมยมาเอาไปก่อน ขโมยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนาใกล้ๆกันนี่แหละ สองวันครั้ง สามวันครั้ง ถ้าจะเอาทุกวันก็กลัวปู่กับย่าจับได้
ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ปลากำลังเยอะ สองคนเดินไปยังบ้านยายจันทร์ น่าจะมีคนอยู่บ้านนะ เมื่อเช้ายังเห็นนั่งอยู่ที่เปลอยู่เลย
“ยายจันทร์ ยายจันทร์ อยู่มั้ย”
น้องเบสตะโกนเรียกยาย ที่ตอนนี้หน้าบ้านปิดไว้ไม่มีคนอยู่เลย
“อยู่นี้ๆ อะไรๆเบส”
ยายจันทร์จำเสียงเด็กน้อยได้ดี เลี้ยงมาแต่เล็กๆไม่ต่างจากยายแท้ๆของเบสเลย ด้วยความที่บ้านติดกัน ช่วงน้องเบสเกิดใหม่ๆ ยายจันทร์ก็ไปช่วยเลี้ยง ไปเล่นด้วยเพราะยายจันทร์เป็นคนชอบเด็ก
“อยู่ทางไหนยาย”
“หลังบ้าน”
เมื่อได้ยินดังนั้นสองพี่น้องพากันเดินไปทางหลังบ้านตามเสียงที่ได้ยิน เห็นสองยายหลานกำลังยุ่งอยู่กับการจัดสวนหลังบ้าน เวลานี้ถึงจะเป็นเวลาห้าโมงเช้า แดดออกเยอะแล้ว แต่หลังบ้านยายจันทร์ก็ร่มรื่น
ยายปลูกต้นมะม่วงเขียวเสวยสองต้น มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงแก้ว อย่างละต้น ถ้าอยากกินมะม่วงไม่ต้องซื้อเลยนอกจากนั้นก็มีหลังคาบ้านช่วยบังแดดให้อีกด้วย
จึงทำให้เวลานี้ที่ตรงนี้ไม่ร้อนมาก ยายจันทร์จึงพาเนสทำแปลงผักสวนครัวเล็กๆเพิ่มขึ้นอีกจากของเดิม
“เอาปลามาให้จะยาย ตาได้มาอีกแล้ว”
มาถึงน้องเบสก็เป็นคนจัดแจง พูดแทนทุกอย่าง ทีถือไม่ยอมถือช่วย ทีมาถึงเอาหน้าพูดอยู่คนเดียวเลย
“เอ้ายกมาสิพี่บูมยืนงงอะไร”
บูมยืนเก้ๆกังๆ ไม่กล้าเข้าไปทั้งที่ก็ยืนอยู่ใกล้ๆกันนั้นแหละ กลัวอะไรก็ไม่รู้ ก็แค่เอาปลามาให้จะอะไรมากมาย
บูมเดินเข้าไปยื่นถังปลาให้เนส เนสวางเสียมที่กำลังดายหญ้าลง ลุกขึ้นจับถังปลาจากบูมแล้วเอาไปเทเปลี่ยนใส่ถังของตัวเอง จากนั้นก็เอาถังมาคืนบูม
“เธอ... เอ่อ เนส เรียนโรงเรียนอะไร”
บูมเดินตามหลังเนสไป
“เรียนโรงเรียนใกล้บ้านนี่แหละ วันจันทร์ก็ไปโรงเรียนแล้ว”
“นึกว่าจะเข้ามาเรียนที่เดียวกันกับเราสะอีก”
“ยายไม่อยากให้ไป มันไกลต้องตื่นแต่เช้า”
“อ่อ ดีแล้วละ เรียนที่นี้ใกล้บ้านดี เดินทางสะดวกด้วย”
“เธอ... เอ้ย เนสเราขอแลกเฟสบุ๊คได้ป่ะ มีอะไรจะได้ถามได้ไง เอาไว้ติดต่อกันยามจำเป็น เพื่อมีไรให้ช่วย”
เนสทำท่าคิดเหมือนลังเลว่าจะให้หรือไม่ให้นะ แต่สุดท้ายก็ให้อยู่ดี อย่างที่บูมบอกนั้นแหละ เผื่อยามฉุกเฉิน เผื่อจำเป็นต้องให้ช่วยอะไรจะได้ติดต่อได้
บูมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เข้าแอ็บเฟสบุ๊ค แล้วกดพยัญชนะภาษาอังกฤษตามที่เนสบอก กดค้นหาแล้วรูปโปร์ไฟล์เนสก็ขึ้นมา พร้อมคำว่าเพิ่มเพื่อน
บูมกดเพิ่มเพื่อน แล้วเงยหน้าขึ้นมองเนส สักพักก้มลงมองรูปโปร์ไฟล์
“อะไร”
“หน้าไม่ตรงปกนี่หว่า”
“หมายความว่าไง เดี๋ยวบล็อคสะเลย”
“ป่าวๆ แค่จะบอกว่าตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก”
“เหรอ ของนายก็เหมือนกันแหละ ในรูปก็ไม่หล่อ ตัวจริงยิ่งไม่หล่อเอาสะเลย”
“จ้าแม่คนสวย”
เมื่อสองคนแลกเฟสบุ๊คกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับไปหายายจันทร์กับน้องเบสที่นั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ยายก็กำลังพรวนดิน ส่วนน้องเบสก็นั่งดูยายทำ
บูมยืนดูสองยายหลานทำสวนสักพักก็พากันกลับ เพราะได้ยินเสียงย่าตะโกนเรียกให้มากินข้าวเที่ยงได้แล้ว ส่วนยายจันทร์กับเนสก็หยุดทำเหมือนกัน ต้องไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวเป็นลมเพราะหิวข้าวจะยุ่งไปอีก
เรื่องสั้น..... รักสามเศร้า.....4
รถลาวิ่งเต็มท้องถนน เหมือนกลับว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั่นไม่ยอมหลับยอมนอน แม้จะเป็นช่วงเช้าๆใช่ว่าอากาศจะบริสุทธิ์เช่นที่นี่ ทั้งกลุ่มควันจากรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ ยังไม่พอยังมีกลุ่มควันที่มาจากพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวเหนียวหมูปิ้งรถเข็นอีก ที่จอดขายตามข้างถนนตามแหล่งผู้คนผุกผล่าน
จากวันที่เนสมาอยู่บ้านกับยาย เนสนอนเร็วตื่นเช้าทุกวัน เพราะที่นี่ยังไม่เจริญเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีน้ำปะปา ไฟฟ้าใช้ แถมยังมีเครือข่ายไวไฟล์บางเครือข่ายเข้ามาติดตั้ง แต่สามทุ่มเป็นต้นไปถนนก็เงียบสงัดแล้ว จะเหลือแค่เสียงจิ้งหรีดเรไรเท่านั้น ที่ยังคงไม่ยอมหลับนอน
เนสตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งของวันนี้ เพื่อมาหุงข้าวทำกับข้าวให้ยายทานในตอนเช้า แต่เนสก็ตื่นไม่ทันยายอยู่ดี เลยต้องนั่งเล่นมือถือคร่าเวลาไป จะกลับเข้าไปนอนต่อก็ตาสว่างแล้ว
พอถึงเวลาหกโมงเช้า ฟ้าก็เริ่มสว่างมากขึ้น แสงแดดเริ่มออกมาให้ความอบอุ่นแก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ เนสออกมานั่งเล่นที่เปลตัวเดิม สายตาก็แอบมองไปยังบ้านย่าบูม อาทิตย์นี้มามั้ยนะ ได้ยินว่ามาทุกอาทิตย์นี่คงจะตื่นสายละสิ หรือไม่ก็น่าจะมาวันนี้แต่ยังไม่ถึง
“พี่เนส!!”
เด็กน้อยตะโกนและวิ่งมาทางเนสที่นั่งเปลอยู่หน้าบ้าน น้องเบสนั้นเอง ในมือก็ถือไอแพดมาด้วย เด็ก ป.2 ใช้ไอแพดในการเรียนแล้วหรอ ทันสมัยจริงๆ
มาถึงน้องเบสก็กระโดดขึ้นนั่งเปลกับเนส โดยที่ไม่ขออนุญาตก่อน แต่เนสก็ไม่ถือสา สองคนสนิทกันอยู่แล้ว เพื่อนซี้ต่างวัย
“น้องเบสทำไมตื่นเช้าจังเลย”
“ย่าปลุก ย่าบอกว่าใครอยากเป็นเศรษฐีต้องตื่นเช้า อีกอย่างรอพี่บูมด้วย”
เนสอดที่จะขำเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เลย นี่แหละที่เขาว่าเด็กน้อยคือผ้าขาว หรือ เมมเมอร์รี่การ์ดที่ว่างป่าว เราจะแต่งเติมอะไรลงไปก็ได้หมด
ถ้าเติมแต่สิ่งที่ดีๆเด็กก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ ถ้าเติมสิ่งที่ไม่ดี ใส่อะไรลงไปเด็กก็จะกลายเป็นแบบนั้น เกือบร้อยเปอร์เซ็น เด็กจะนิสัยเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนเลี้ยงดูด้วย
สองสาวต่างวัยนั่งเปลหันหน้าเข้าหากัน นั่งในท่าขัดสะหมาด เนสก็จิ้มโทรศัพท์เล่น เลื่อนดูเฟสบุ๊คไปเรื่อย ช่องแชทมีแต่เพื่อนๆแชทมาบอกคิดถึง อยากให้กลับมาเรียนที่เดิม
ส่วนน้องเบสก็ดูการ์ตูนในยูทูป บูมสอนแค่ครั้งเดียวก็ทำเป็นแล้ว เด็กสมัยนี้ความจำดีมาก
สักพักเนสก็มองเห็นรถมอเตอร์ซ้อนกันมาสองคน มาจอดที่บ้านย่าบูม คนซ้อนเป็นบูมคนขับดูมีอายุน่าจะราวๆสี่สิบปลายๆ ก็คงจะเป็นญาติบูมนั้นแหละ
“น้องเบส ลุงคนนั้นเป็นใครอ่ะ ลูกยายก้านเหมือนกันหรอ”
“อ่อ ลุงพรไง บ้านอยู่ถัดบ้านน้องเบสไปอีก สอง สาม สี่ห้า หลัง ลุงพรไม่ใช่ลูกยาย เป็นลูกยายเกดพี่เนสไม่รู้เหรอ”
“เอ้า แล้วพี่เนสจะรู้มั้ยเนี่ย”
“พี่เนสปะๆไปเล่นบ้านน้องเบสป่ะ พี่บูมมาแล้ว”
เด็กน้อยกระโดดลงจากเปล มือก็เขย่าแขนเนสให้ไปกับตน เมื่อเนสปฏิเสธไม่ไป เบสก็วิ่งกลับไปบ้านตัวเองทันที เพื่อไปเล่นกับพี่บูมของเขา
“ตื่นเที่ยวเล่นแต่เช้าเลยนะแห้ง”
“น้องเบสไปบ้านยายจันทร์มา นั่งเล่นกับพี่เนส”
บูมมองไปทางบ้านยายจันทร์ ประสานสายตากับเนสพอดี ใครจะรู้ว่าเนสกำลังมองตนเองอยู่
ทันใดนั้นเนสก็รีบก้มหน้าลง ทำเป็นเลื่อนโทรศัพท์ไม่สนใจ แล้วลงจากเปลเดินเข้าไปในบ้าน
วันนี้ยายจันทร์กับเนสจะมาทานข้าวเช้าด้วยอีกมั้ยนะ ระหว่างคิดในใจบูมก็กดโทรศัพท์โทรบอกแม่ว่าถึงบ้านย่าแล้ว และไม่ลืมที่จะส่งไปบอกอาร์ด้วย
ไลน์! เสียงไลน์ดังขึ้นเมื่อมีคนส่งข้อความมา อาร์ไม่ได้ปิดเสียงมือถือไว้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่อกับแม่สงสัย เพราะมือถืออยู่ในกระเป๋ากางเกงของอาร์
บูมถึงบ้านย่าแล้วนะ!!
เป็นข้อความที่บูมส่งมาให้อาร์
อาร์รับแซบ!!
อาร์ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ตอบกลับไปแทนคำพูด จากนั้นก็สอดมือถือลงไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม ก่อนที่พ่อกับแม่จะมองเห็น
ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ห้ามใช้โทรศัพท์ แต่อาร์เป็นคนโกหกไม่เก่ง ถ้าเป็นเพื่อนๆอาร์จะไม่หลบๆซ่อนๆ แต่ถ้าเป็นบูมต้องแอบ ครั้งหนึ่งเคยเกือบโดนจับได้ แต่ก็รอดมาเพราะเพื่อนพ่อมาหา
ที่ไร่มันสำประหลังของอาร์วันนี้ ช่วงเช้าแดดยังไม่ร้อนต้องรีบทำเวลา ปลูกมันสำประหลังให้ได้มากที่สุด แค่ห้าไร่ยังไงก็เสร็จภายในเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว
พ่อกับแม่พาอาร์ตื่นมาที่ไร่ตั้งแต่เช้าตรู่ หกโมงตรงต้องออกมาจากบ้านแล้ว เมื่อมาถึงที่ไร่ก็จัดแจงหาข้าวหาน้ำมาวางไว้ที่กระท่อมปลายไร่ ทานข้าวเช้าก่อน ค่อยลงมือปลูก
ถึงยังไงต้องรีบกินให้เสร็จเร็วๆ แล้วลงไปปลูกมันสำประหลัง ช่วงเช้าแดดอ่อนแบบนี้แหละ เหมาะที่สุดแล้ว สิบโมงแดดก็เริ่มร้อนแล้ว
พ่อเป็นคนไถยกร่องคูมันด้วยควายเหล็ก แม่เป็นคนทิ้งท่อนมันลงบนคูดินที่พ่อไถยกเป็นคูร่องไว้ ส่วนอาร์เป็นคนปักท่อนมันลงดินตามหลังแม่
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง เพราะมันคือรายได้ของครอบครัว พ่อแม่อาร์ไม่จ้างคนมาทำช่วย ไร่แค่นี้ทำสามคนพ่อแม่ลูกได้สบาย แค่สองวันก็เสร็จแล้ว
“เหนื่อยมั้ยลูก”
สองแม่ลูกนั่งพักในร่มประดู่ที่มันเกิดเองตามธรรมชาติ
หลังจากพากันทำงานมาได้สามชั่วโมงแล้ว สายตาก็มองพ่อที่ยกคูดินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือก็ตักน้ำในกระติกเย็นๆเพราะใส่น้ำแข็งมากิน
“ไม่เหนื่อยเลยแม่”
อาร์ยิ้มให้แม่พร้อมรับแก้วน้ำจากแม่มาดื่ม
“รู้แล้วใช่มั้ยว่าเป็นชาวนา ชาวไร่ มันเหนื่อยแค่ไหน อาร์ต้องเรียนให้สูงๆ ให้ได้รับปริญญา รับราชการนะจะได้ไม่ลำบาก”
“อาร์จะตั้งใจเรียนสอบครูให้ได้ ทำความฝันพ่อแม่ให้สำเร็จนะจ๊ะ”
“เรื่องแฟนแม่ขอก่อนนะ เรียนจบแล้วค่อยว่ากัน แม่ไม่ห้ามหรอกจะคบใครถึงเวลานั้น”
“จะแม่”
อาร์หันหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบตาแม่ พ่อกับแม่จะรู้มั้ยนะว่าอาร์แอบมีแฟน หรือพ่อแม่รู้อยู่แล้วแค่ไม่พูด อาร์คุ้นคิดในใจ มือก็จับมือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเองไว้
“เฮ้ย สองแม่ลูกพักกันหายเหนื่อยหรือยัง มาๆจะเที่ยงแล้ว มาปลูกฝั่งนี้ให้เสร็จก่อนเที่ยง ตอนบ่ายจะได้ไปลงฝั่งนู้น”
เสียงผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกสองแม่ลูกให้มาทำงานต่อ อาร์ตักน้ำใส่แก้วถือไปให้พ่อด้วย แม่พาพักเหนื่อยก็ไม่ยอมพัก ห่วงแต่ไม่เสร็จ มีเวลาอีกตั้งหนึ่งวัน พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ไม่รู้จะรีบไปไหน
“ขอบคุณครับ ครูอาร์”
พ่อกล่าวขอบคุณอาร์ สามคนพ่อแม่ลูกหัวเราะชอบใจท่ามกลางแสงแดดที่ตอนนี้ เป็นเวลาเกือบๆสิบเอ็ดโมงแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรสามคนนี้ได้เลย ทั้งสามช่วยกันปลูกมันสำประหลังอย่างตั้งใจที่สุด
“ย่ามื้อเที่ยงทอดไข่ให้ไอ้แห้งหน่อย เดี๋ยวบูมไปเก็บชะอมให้”
“ใครอยากกิน พี่บูมต่างหากอยากกิน”
บูมหาข้ออ้างอยากไปส่องเนสว่าทำอะไรอยู่ หากจะมองจากหน้าบ้านตัวเองก็เห็น แต่อยากไปแอบมองใกล้ๆ
บูมนั้งตำหมากให้ย่าเคี้ยว ส่วนน้องเบสก็นั้งดูการ์ตูนในไอแพด
“ดูมากๆนะไอแพดนิ เดี๋ยวไม่ได้หนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก”
“ยายน้องเบสพึ่งดู”
“พึ่งดูอะไร ยายเห็นถือไอแพดวิ่งไปหานางเนสแต่เช้านู้น”
ผู้เป็นยายบ่นหลานคนเล็ก ยิ่งโตมันก็ยิ่งหน้าเหมือนแม่จริงๆ ยิ่งทำให้ยายก้านคิดถึงลูกสาว มองหน้าหลานทีไรก็นึกแต่ว่าลูกสาวมาหา หากแต่ว่าน้องเบสตัวเล็ก และยังเป็นเด็ก ถ้าอายุสักยี่สิบ ยายก้านคงคิดว่าลูกสาวกลับมาหาตัวเองแน่นอน
“หัดเถียงยาย มันไม่ดีรู้มั้ย”
ทีบูมเอ็ดน้องบ้าง
“น้องเบสไม่ได้เถียง น้องเบสอธิบาย”
“แนะยังจะมาเถียงอีก”
บูมอยากรู้ว่าเนสเรียนโรงเรียนอะไร ยังไง จะเริ่มต้นยังไงนะ ใช้แผนไปเก็บชะอมก็ไม่สำเร็จ งั้นรอให้ย่าเข้าไปในบ้านก่อน จะชวนน้องเบสไป แต่ย่าก็ไม่ยอมเข้าไปในบ้านสักที
บูมตำหมากให้ย่าเรียบร้อยแล้ว ก็ตักป้อนย่าเอามืออีกข้างรองไว้กันหกใส่พื้น
“เอาแห้งเคี้ยว”
“หยี๋ๆๆๆ พี่บูมแหละเคี้ยว อย่าเอามาใกล้เดี๋ยวหกใส่ไอแพดน้องเบส”
“แน่!! สองคนนี้นั่งกันคนละมุมเลยไป คนโตก็พอคนโต คนเล็กก็ไม่อยู่ส่วนเล็ก”
ยายก้านดุหลานชายกับหลานสาว เสียงออกมาได้ไม่เต็มปาก เพราะกำลังเคี้ยวหมากอยู่
และแล้วโชคก็เข้าข้างบูม ยายให้เอาปลาที่ปู่เอามาจากนาไปให้ยายจันทร์ทำกับข้าวตอนเย็น ทำไมบูมถึงอยากเห็นเนสนะ เมื่อเช้าก็เห็นแป๊บเดียวเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรด้วยทำไมถึงอยากเจออยากคุย
หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ สวยสู้อาร์ก็ไม่ได้ แต่ทำไมถึงอยากคุย อยากเจอหน้า หรือเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ บูมต้องการเพื่อนเหรอ ที่ผ่านมาบูมมาบ้านย่าก็ไม่มีเพื่อนเล่นเลย นอกจากน้องเบส ถ้าน้องเบสเป็นผู้ชายก็คงดี
บูมให้น้องเบสพาไป ให้ไปเป็นกองหน้าก่อน น้องเบสเดินตัวป่าวนำหน้าบูมไป ส่วนบูมเป็นคนถือถังปลา ในถังมีปลาช่อนสองตัว ปลาดุกหนึ่งตัว และปลาหมออีกสองตัว
ปู่ได้มาจากนา ปู่ทำไซดักปลา ทุกเช้าปู่จะออกไปทุ่งนาเพื่อไปดูไซที่ดักไว้ บางวันก็ไม่ได้เพราะมีหัวขโมยมาเอาไปก่อน ขโมยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนาใกล้ๆกันนี่แหละ สองวันครั้ง สามวันครั้ง ถ้าจะเอาทุกวันก็กลัวปู่กับย่าจับได้
ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ปลากำลังเยอะ สองคนเดินไปยังบ้านยายจันทร์ น่าจะมีคนอยู่บ้านนะ เมื่อเช้ายังเห็นนั่งอยู่ที่เปลอยู่เลย
“ยายจันทร์ ยายจันทร์ อยู่มั้ย”
น้องเบสตะโกนเรียกยาย ที่ตอนนี้หน้าบ้านปิดไว้ไม่มีคนอยู่เลย
“อยู่นี้ๆ อะไรๆเบส”
ยายจันทร์จำเสียงเด็กน้อยได้ดี เลี้ยงมาแต่เล็กๆไม่ต่างจากยายแท้ๆของเบสเลย ด้วยความที่บ้านติดกัน ช่วงน้องเบสเกิดใหม่ๆ ยายจันทร์ก็ไปช่วยเลี้ยง ไปเล่นด้วยเพราะยายจันทร์เป็นคนชอบเด็ก
“อยู่ทางไหนยาย”
“หลังบ้าน”
เมื่อได้ยินดังนั้นสองพี่น้องพากันเดินไปทางหลังบ้านตามเสียงที่ได้ยิน เห็นสองยายหลานกำลังยุ่งอยู่กับการจัดสวนหลังบ้าน เวลานี้ถึงจะเป็นเวลาห้าโมงเช้า แดดออกเยอะแล้ว แต่หลังบ้านยายจันทร์ก็ร่มรื่น
ยายปลูกต้นมะม่วงเขียวเสวยสองต้น มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงแก้ว อย่างละต้น ถ้าอยากกินมะม่วงไม่ต้องซื้อเลยนอกจากนั้นก็มีหลังคาบ้านช่วยบังแดดให้อีกด้วย
จึงทำให้เวลานี้ที่ตรงนี้ไม่ร้อนมาก ยายจันทร์จึงพาเนสทำแปลงผักสวนครัวเล็กๆเพิ่มขึ้นอีกจากของเดิม
“เอาปลามาให้จะยาย ตาได้มาอีกแล้ว”
มาถึงน้องเบสก็เป็นคนจัดแจง พูดแทนทุกอย่าง ทีถือไม่ยอมถือช่วย ทีมาถึงเอาหน้าพูดอยู่คนเดียวเลย
“เอ้ายกมาสิพี่บูมยืนงงอะไร”
บูมยืนเก้ๆกังๆ ไม่กล้าเข้าไปทั้งที่ก็ยืนอยู่ใกล้ๆกันนั้นแหละ กลัวอะไรก็ไม่รู้ ก็แค่เอาปลามาให้จะอะไรมากมาย
บูมเดินเข้าไปยื่นถังปลาให้เนส เนสวางเสียมที่กำลังดายหญ้าลง ลุกขึ้นจับถังปลาจากบูมแล้วเอาไปเทเปลี่ยนใส่ถังของตัวเอง จากนั้นก็เอาถังมาคืนบูม
“เธอ... เอ่อ เนส เรียนโรงเรียนอะไร”
บูมเดินตามหลังเนสไป
“เรียนโรงเรียนใกล้บ้านนี่แหละ วันจันทร์ก็ไปโรงเรียนแล้ว”
“นึกว่าจะเข้ามาเรียนที่เดียวกันกับเราสะอีก”
“ยายไม่อยากให้ไป มันไกลต้องตื่นแต่เช้า”
“อ่อ ดีแล้วละ เรียนที่นี้ใกล้บ้านดี เดินทางสะดวกด้วย”
“เธอ... เอ้ย เนสเราขอแลกเฟสบุ๊คได้ป่ะ มีอะไรจะได้ถามได้ไง เอาไว้ติดต่อกันยามจำเป็น เพื่อมีไรให้ช่วย”
เนสทำท่าคิดเหมือนลังเลว่าจะให้หรือไม่ให้นะ แต่สุดท้ายก็ให้อยู่ดี อย่างที่บูมบอกนั้นแหละ เผื่อยามฉุกเฉิน เผื่อจำเป็นต้องให้ช่วยอะไรจะได้ติดต่อได้
บูมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เข้าแอ็บเฟสบุ๊ค แล้วกดพยัญชนะภาษาอังกฤษตามที่เนสบอก กดค้นหาแล้วรูปโปร์ไฟล์เนสก็ขึ้นมา พร้อมคำว่าเพิ่มเพื่อน
บูมกดเพิ่มเพื่อน แล้วเงยหน้าขึ้นมองเนส สักพักก้มลงมองรูปโปร์ไฟล์
“อะไร”
“หน้าไม่ตรงปกนี่หว่า”
“หมายความว่าไง เดี๋ยวบล็อคสะเลย”
“ป่าวๆ แค่จะบอกว่าตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก”
“เหรอ ของนายก็เหมือนกันแหละ ในรูปก็ไม่หล่อ ตัวจริงยิ่งไม่หล่อเอาสะเลย”
“จ้าแม่คนสวย”
เมื่อสองคนแลกเฟสบุ๊คกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับไปหายายจันทร์กับน้องเบสที่นั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ยายก็กำลังพรวนดิน ส่วนน้องเบสก็นั่งดูยายทำ
บูมยืนดูสองยายหลานทำสวนสักพักก็พากันกลับ เพราะได้ยินเสียงย่าตะโกนเรียกให้มากินข้าวเที่ยงได้แล้ว ส่วนยายจันทร์กับเนสก็หยุดทำเหมือนกัน ต้องไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวเป็นลมเพราะหิวข้าวจะยุ่งไปอีก