สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
1)อิหยิปต์ มีการตรึงค่าเงินให้แข็งมานาน ส่งผลจูงใจให้มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาบริโภคภายในประเทศ มากกว่าผลิตในประเทศตัวเอง
2)ภาคเอกชนมีบทบาทน้อย เอกชนมีอุปสรรค์ในการทำธุรกิจมาก แต่รัฐวิสาหกิจที่เต็มไปด้วยคอรัปชันมีบทบาทในเศษฐกิจของประเทศมาก
3)จากการที่ค่าเงินของอีหยิปต์แข็งนี่เอง ทำใหสัดส่วนการบริโภคของครัวเรือนต่อจีดีพีสูงถึงราว 85% ส่วนการส่งออกของอิหยิปต์มีบทบาทน้อยมาก เพราะขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ไทยนั้นสัดส่วนการบริโภคในประเทศอยุ่ที่ประมาณ 52% ของจีดีพี เศษฐกิจไทยเติบโตด้วยการส่งออก นอกจากนี้สัดส่วนภาคโรงงานผลิตนั้นไทยมีมากกว่าอียิปต์ ถึง 2 เท่า
4)ด้วยสภาพการณ์อย่างนี้นี่เอง ทำให้อีหยิปต์มีปัญหาขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และขาดดุลงบประมาณแต่ละปีราว ๆ 10% ของจีดีพีมานานแล้ว อิหยิปต์ไม่ได้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ฐานภาษีต่ำ นอกจากนั้นรัฐบาลยังนำเงินไปอุดหนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
5)แม้อียิปต์จะผลิตน้ำมันได้ราววันละ 600,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ว่าด้วยประชากร 97 ล้านคน ทำให้อีหยิปต์บริโภคน้ำมันวันละ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งก็ต้องนำเข้า
6)จากการที่อียิปต์ ขาดดุลงบประมาณในระดับสูงในแต่ละปีเป็นเวลานาน ทำให้หนี้สาธารณะของอียิปต์เกิน 100% แล้วหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ต่างประเทศ เมื่อหนี้ต่างประเทศเกิน 100% การกุ้เงินจากต่างประเทศก็ทำได้ลำบาก เพราะดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้เรียกนั้นสูง
7)อิยิปต์ จึงจำเป็นต้องเข้าโครงการ IMF เพื่อขอกู้เงินมาเป็นทุนสำรองของประเทศ และ IMF มีเงื่อนไข ให้อียิปต์ปล่อยค่าเงินให้ลอยตัว เมื่อเดือนตุลาคม 2016 ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อียิปต์อ่อนค่าลงไปราว 90%
8)การที่ค่าเงินอ่อน ทำให้เงินเฟ้อสูงตามมา เงินเฟ้อในอียิปต์ นับตั้งแต่ปล่อยค่าเงินลอยตัวนั้นอยู่ราว ๆ 10 - 25% ต่อปี สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนระดับล่างมาก เพราะในอดีตเป็นประเทศที่เน้นนำเข้าเพื่อการบริโภค การผลิตในประเทศขาดความสามารถในการแข่งขัน
9) แม้ว่าอียิปต์ จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งชายหาด และประวัติศาสตร์ แต่ว่าช่วงหลัง ๆ นั้นมีปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนือง กับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ ชาติ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าอียิปต์ น้อยลง ที่หนักที่สุดคือการที่เครื่องบินรัสเซียระเบิด รัสเซียจึงแบนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าอียิปต์ ซึ่งก็ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียซึ่งเดิมมีจำนวนมากเป็นลูกค้าหลัก แทบจะหายไปจากอียิปต์ โดยปี 2015 นักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็นสัดส่วน 68% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด พอถึงปี 2016 ตกลงเหลือเพียง 13% ถึงตอนนี้นักท่องเที่ยวรัสเซีย ก็ยังไม่กลับเข้าไปอียิปต์ ปีที่เครื่องบินรัสเซียตก ทำให้นักท่องเที่ยวเหลือแค่ 5.4 ล้านคนในปี 2016 เทียบกับ 9.3 ล้านคน ในปี 2015 ในปี 2017
10) ปี 2017 นักท่องเที่ยวเยอรมันมีสัดส่วนมากสุดคือราว 35% ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เข้าอียิปต์นั้น 70% มาจากยุโรป ส่วนที่เหลือ 26% มาจากประเทศอาหรับในภฺมิกาคแถบนั้น
11)ผลจากอาหรับสปริง ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของอียิปต์ ประสบปัญหาการเมืองไร้เสถียรภาพ เกิดรัฐล้มเหลว มันก็ย่อมจะส่งผลกระทบถึงอียิปต์ ด้วย
12)อียิปต์ออกจากโครงการ IMF ในเดือนมิถุนายน 2019 ทั้งนี้หนี้สาธารณะของอียิปต์อยู่ที่ 97% ของจีดีพี เมื่อสินปี 2018 หนี้ต่างประเทศยังคงเป็นหนี้ส่วนใหญ่ของภาครัฐ แต่ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็ดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการลดค่าเงิน และ IMF ให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดและเลิกอุดหนุนราคาน้ำมัน ปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ แต่การลงทุนจากต่างชาติก็ยังมีน้อยเพราะมีอุปสรรคมากในการทำธุรกิจ แม้ว่า IMF จะเข้าไปแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างแล้วก็ตาม
2)ภาคเอกชนมีบทบาทน้อย เอกชนมีอุปสรรค์ในการทำธุรกิจมาก แต่รัฐวิสาหกิจที่เต็มไปด้วยคอรัปชันมีบทบาทในเศษฐกิจของประเทศมาก
3)จากการที่ค่าเงินของอีหยิปต์แข็งนี่เอง ทำใหสัดส่วนการบริโภคของครัวเรือนต่อจีดีพีสูงถึงราว 85% ส่วนการส่งออกของอิหยิปต์มีบทบาทน้อยมาก เพราะขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ไทยนั้นสัดส่วนการบริโภคในประเทศอยุ่ที่ประมาณ 52% ของจีดีพี เศษฐกิจไทยเติบโตด้วยการส่งออก นอกจากนี้สัดส่วนภาคโรงงานผลิตนั้นไทยมีมากกว่าอียิปต์ ถึง 2 เท่า
4)ด้วยสภาพการณ์อย่างนี้นี่เอง ทำให้อีหยิปต์มีปัญหาขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และขาดดุลงบประมาณแต่ละปีราว ๆ 10% ของจีดีพีมานานแล้ว อิหยิปต์ไม่ได้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ฐานภาษีต่ำ นอกจากนั้นรัฐบาลยังนำเงินไปอุดหนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
5)แม้อียิปต์จะผลิตน้ำมันได้ราววันละ 600,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ว่าด้วยประชากร 97 ล้านคน ทำให้อีหยิปต์บริโภคน้ำมันวันละ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งก็ต้องนำเข้า
6)จากการที่อียิปต์ ขาดดุลงบประมาณในระดับสูงในแต่ละปีเป็นเวลานาน ทำให้หนี้สาธารณะของอียิปต์เกิน 100% แล้วหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ต่างประเทศ เมื่อหนี้ต่างประเทศเกิน 100% การกุ้เงินจากต่างประเทศก็ทำได้ลำบาก เพราะดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้เรียกนั้นสูง
7)อิยิปต์ จึงจำเป็นต้องเข้าโครงการ IMF เพื่อขอกู้เงินมาเป็นทุนสำรองของประเทศ และ IMF มีเงื่อนไข ให้อียิปต์ปล่อยค่าเงินให้ลอยตัว เมื่อเดือนตุลาคม 2016 ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อียิปต์อ่อนค่าลงไปราว 90%
8)การที่ค่าเงินอ่อน ทำให้เงินเฟ้อสูงตามมา เงินเฟ้อในอียิปต์ นับตั้งแต่ปล่อยค่าเงินลอยตัวนั้นอยู่ราว ๆ 10 - 25% ต่อปี สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนระดับล่างมาก เพราะในอดีตเป็นประเทศที่เน้นนำเข้าเพื่อการบริโภค การผลิตในประเทศขาดความสามารถในการแข่งขัน
9) แม้ว่าอียิปต์ จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งชายหาด และประวัติศาสตร์ แต่ว่าช่วงหลัง ๆ นั้นมีปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนือง กับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ ชาติ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าอียิปต์ น้อยลง ที่หนักที่สุดคือการที่เครื่องบินรัสเซียระเบิด รัสเซียจึงแบนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าอียิปต์ ซึ่งก็ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียซึ่งเดิมมีจำนวนมากเป็นลูกค้าหลัก แทบจะหายไปจากอียิปต์ โดยปี 2015 นักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็นสัดส่วน 68% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด พอถึงปี 2016 ตกลงเหลือเพียง 13% ถึงตอนนี้นักท่องเที่ยวรัสเซีย ก็ยังไม่กลับเข้าไปอียิปต์ ปีที่เครื่องบินรัสเซียตก ทำให้นักท่องเที่ยวเหลือแค่ 5.4 ล้านคนในปี 2016 เทียบกับ 9.3 ล้านคน ในปี 2015 ในปี 2017
10) ปี 2017 นักท่องเที่ยวเยอรมันมีสัดส่วนมากสุดคือราว 35% ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เข้าอียิปต์นั้น 70% มาจากยุโรป ส่วนที่เหลือ 26% มาจากประเทศอาหรับในภฺมิกาคแถบนั้น
11)ผลจากอาหรับสปริง ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของอียิปต์ ประสบปัญหาการเมืองไร้เสถียรภาพ เกิดรัฐล้มเหลว มันก็ย่อมจะส่งผลกระทบถึงอียิปต์ ด้วย
12)อียิปต์ออกจากโครงการ IMF ในเดือนมิถุนายน 2019 ทั้งนี้หนี้สาธารณะของอียิปต์อยู่ที่ 97% ของจีดีพี เมื่อสินปี 2018 หนี้ต่างประเทศยังคงเป็นหนี้ส่วนใหญ่ของภาครัฐ แต่ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็ดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการลดค่าเงิน และ IMF ให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดและเลิกอุดหนุนราคาน้ำมัน ปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ แต่การลงทุนจากต่างชาติก็ยังมีน้อยเพราะมีอุปสรรคมากในการทำธุรกิจ แม้ว่า IMF จะเข้าไปแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างแล้วก็ตาม
แสดงความคิดเห็น
อียิปต์ประเทศนี้มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายติดทะเล2ฝั่งเป็นอู่อารยะธรรมเก่าแต่ทำไมรายได้ต่อหัวจึงน้อยกว่าเราครับ