ไม่มีใครอยากเป็นอะไรทั้งนั้นว่ามั้ยคะ? แต่หากเป็นไปแล้วเราต้องหาหนทางควบคุมสติและอารมณ์ว่าเราจะอยู่กับมันไปได้อย่างไรให้ไม่มีปัญหากับคนรอบข้าง เราเดินผ่านจุดพี้คของเรื่องโรคนี้มานับครั้งไม่ถ้วนในระหว่างที่เข้ารับการรักษาที่ รพ. เอกชนแห่งหนึ่ง นานมาก 12 ปีแล้ว ที่เข้าออก รพ. เหมือนบ้านหลังที่สอง แรกๆเราไม่คุ้นกับการโดนคนไทยด้วยกันมองหน้าเราแล้วซุบซิบกัน เมื่อเห็นเราเดินออกมาจากห้อง จิตแพทย์ หรือห้องนักจิตวิทยา เราไม่เข้าใจว่า ทำไมเราดูแปลกแตกต่างอะไรจากคนป่วยอื่นๆหรือไง? แต่เมื่อย้อนกลับไปในทางกลับกัน เราเองก็ไม่เคยยอมรับกับตัวเองไม่ใช่หรือว่าเราเป็นโรคนี้...นั่นสิแล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น หลังจากหลายปีผ่านไป เราคิดว่าความรู้สึกแบบระแวงคนมองจะหายไป แต่เปล่าเลย มันกลับมากขึ้นๆ เราไม่อายแล้ว แต่เรากลับระแวงแทน และเสียเซลฟ์เสมอ แพนิกด้วย เวลาเดินขึ้นไปนั่งรอหมอที่หน้าห้องโซน จิตเวช มีคนมาหาจิตแพทย์มากมาย แต่ส่วนใหญ่คนต่างชาติ จะมีบ้างก็เมียฝรั่งพาฝรั่งมาหาจิตแพทย์เพราะโรคเดียวกับเรา และโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง โรคซึมเศร้าแบบเบื่อหน่ายสังคม อยากตาย จะว่าไป Part หนึ่งของโรคซึมเศร้าก็มีในโรคไบโพล่านะ แต่จะหนักกว่า ที่เป็นโรคซึมเศร้าเฉยๆ เรามีหมดทุกอย่างที่มันพึงจะมีจะเป็นในโรคนี้ ทั้งเบื่อโลก เบื่อสังคม เก็บตัว หูแว่ว แพนิก ไม่ชอบคุยโทรศัพย์ ไม่อยากเจอใคร สารพัด แต่ทำไงได้ เราจะจมจ่อมอยู่แบบนั้นหรือ เวลาในชีวิตคนมันจะเหลือคนละเท่าไหร่? เราบอกตัวเองเมื่อเข้าสู่ปีที่สี่ของการรักษา แล้วเราก็ปรึกษาหมอว่า เราควรทำกิจกรรมอะไรดี หมอบอกว่าเราชอบหรือถนัดอะไรให้ทำสิ่งนั้น เมื่อกลับมาทบทวนดูก็รู้ว่าเราชอบ การขายอสังหาเพราะเคยทำมาก่อน ก่อนที่จะเข้ารับการรักษา และชอบการแปลการเขียนบทความบทกวีเปล่า เราถนัดการใช้ภาษา หมอก็สนับสนุนให้ลงมือทำเลย เราก็ลงมือเขียนกวีเล่นๆ และเล่าเรื่องสั้น เล่าบรรยาย เหตุการณ์เรื่องหมาแมวป่วยไข้ เรื่องอะไรแปลกๆจากต่างประเทศ ก็เริ่มๆๆทำควบคู่ไปกับการขาย อสังหาออนไลน์ โดยต้องมีการเข้าสัมนาและประชุมการขาย เราเกือบไปไม่รอดเพราะกลัวจนเหงื่อใหลพลั่กๆ อาการ Panic กำเริบ แต่เราก็ผ่านมาจนได้ เราบอกตัวเองว่า เราจะสู้ เราจะเอาตัวตนของเรากลับมา จะไม่ยอมแพ้ ตลอดเวลาเหล่านั้นเรามีผู้ช่วยที่คอยให้การสนับสนุนเราเสมอคือ จิตแพทย์ของเราเอง ท่านน่ารักมาก เราเรียกท่านว่า อาจารย์ มีอะไรเราจะบอกจะถามท่านตลอด เราก้าวเร็วไปบางทีก็ซวนเซ ท่านก็จะเตือน พอก้าวไม่ออกเพราะอาการมันดิ่ง ท่านก็จะบอกให้พักก่อน แล้วค่อยเอาใหม่ รอดูอาการ แล้วปรับโหมด รีสตาร์ทตัวเอง ผลักสิ่งเร้าต่างๆออกไป บางทีเราหูแว่วทั้งวัน มีเสียงคุยด้วยทั้งวันตอบโต้กันไปมาข้างในหัว บางทีก็เผลอคุยออกเสียงมาเหมือนกัน พอบอกหมอ หมอก็บอกว่าคุยกับตัวเองได้ไม่ผิดหรอก แค่อยู่ที่ลับตาคน อย่าไปคุยคนเดียวในที่สาธรณะ และยาห้ามขาดแม่แต่วันเดียวคืนเดียว ไม่งั้น จะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ เราเองเคยลองหยุดยาเอง เพราะอยากรู้ว่าเราหลับเองได้หรือยัง ปรากฏว่า วันที่สามเราคลั่งเลยค่ะ เหวี่ยง วีนสารพัด ใครเข้ามาโดนวีนหมด หมาแมวที่เคยรักปานดวงใจก็โดน เฮ้อ..เอาไว้มาต่อนะคะ
เป็น Bipolar Disorder มันแปลกใช่มั้ยสำหรับคนไทยที่ไม่เข้าใจ และคิดว่า..เป็นบ้า !!!!