[บทที2]....วิวาห์ลวง (เรดโรส)

กระทู้สนทนา
สัมผัสบรรยากาศขุนเขา ในสายหมอกยามเช้ากันนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.............อากาศขมุกขมัวยามเช้า ผืนหมอกหนาปกคลุมทั่วหุบเขา เดอ เมาเท้นรีสอร์ต  เห็นเพียงหลังคาแพลมขึ้นมา ด้านหลังสิ่งปลูกสร้างจะเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ ที่อุดมไปด้วยป่าเขียวทะมึนเป็นเทือกเขาใหญ่

ป้าวิไลลุกขึ้นมาจุดฟืนไฟตั้งกระทะลงน้ำมัน เสียงดังฉ่ากับตะหลิวขอดเคาะดังก๊องแก๊ง  กลิ่นของควันไฟและน้ำมันเจียวร้อนๆ ลอยมาเตะจมูกของผู้หมวดเจนรบให้สะดุ้งตื่นโงหัวขึ้นมา เมื่อคืนเผลองีบไปเมื่อตีสีกว่า ถึงผูกเปลนอนอยู่ใต้ถุนเรือน
เมือคืนเสียงปืนดังมาอีกคำรบ คราวนี้มันมาจากชายแดนไทยพม่า ซึ่งแค่พ้นไร่ของเสี่ยอิทธิก็เข้าสู่หลักเขตแดนแล้ว  มองดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกห้านาทีเข็มจะชี้ที่เลขหก ฟ้ายังมืดอยู่เลย อาจจะด้วยหมอกลงจัด มองไปทางไหนล้วนขาวโพลน จะมีที่สุกสว่างคือห้องครัวที่ทำจากเพิงไม้ง่ายๆ ข้างบ้านพักของลุงจ่าสิงห์กับป้าวิไล   เสียงไก่ป่าขันดังเจื้อยเเจ้วเร่งเร้าให้เขาลงจากเปล วันนี้มีคดีต้องรีบไปสืบ

“ทำอะไรแต่เช้าครับป้า” 

เขาให้เสียงมาก่อนจะเดินลัดแปลงผักที่ลุงกับป้าปลุกไว้  น้ำค้างลงแรงเกาะพืชผักจนชุ่มฉ่ำแค่เดิน ผ่านกางเกงก็เปียกแฉะราวกับราดน้ำใส่  เข้ามาเกาะลูกกรงไม้ห้องครัวรู้สึกถึงความอุ่นของเตาไฟ ชะโงกหน้าสูดกลิ่น ไม่รู้ป้าทำอะไรกินแต่คงเป็นอาหารป่าแน่ แล้วร่างกระโจนข้ามลูกกรงเท้าเหยียบพื้นเบาหวิว  เห็นลุงจ่าสิงห์กำลังโขลกน้ำพริกเสียงตำถี่รัว  หยุดมือมาดึงผ้าขาวม้าเคียนเอวมาเช็ดเปลือกตา  แสบจนน้ำตาไหลเพราะถูกเม็ดพริกกระเด็นใส่  ป้าวิไลหันมายิ้มตาหยีตีนกาขึ้น เหงื่อมันเต็มหน้า ปากจิ้มลิ้ม สมัยสาวๆ แกเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งในหมู่บ้าน อายุเท่ากับแม่โสภาของผู้หมวดเจนรบ

“ป้าทอดอึ่งอ่างจ้า เมื่อคืนตาสิงห์ไม่นอนทั้งคืน ไปหาส่องเอาจากไร่มันข้างรีสอร์ตนี่เอง เห็นบ่นมันร้องเสียงดังดีนักเลยเอามาทำกินซะเลย ได้มาเยอะป้าเอาทำอึ่งปลาร้าใส่ไหดองไว้ด้วยนะ” คนแก่พูดไปปากเม้มยิ้มน้อยๆ ตาแลมองคุณเจนหน้าสวยเหมือนคุณโสภาผู้เป็นแม่ หากอกผายไหล่ผึ่งโครงร่างใหญ่เหมือนเสือ หากหันไปเป็นพระเอกลิเกคงได้แม่ยกติดตรึม

ป้ายกกระทะร้อนควันฉุยมา ใช้ตะหลิวกวาดอึ่งอ่างที่ตัวกำลังเหลืองกรอบสุกได้ที่ ให้ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนจาน  ส่วนลุงจ่าทำน้ำพริกปลาป่น มีผักลวกจิ้ม เช่น ชะอม ผักกาด ถั่วฝักยาว ได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่หาได้นำมาวางเคียง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

“ดีเลยครับ อึ่งปลาร้าเอามาทอดอร่อยดี” น้ำย่อยในกระเพาะมันเรียกร้องเสียแล้ว ผู้หมวดเจนเอามือลูบท้อง ทำหน้าโหยเหมือนเด็กมาอ้อนขอข้าว

“คุณเจนกินเป็นหรือคะ ไว้รอป้าทำไข่ดาว หมูแฮมขนมปังปิ้งเสร็จก่อนจะเสิร์ฟเอาไปให้”

“ให้พี่จอห์นกินไปแหม่มโรสเถอะ เมื่อคืนเอาแต่สเต๊กกับไวน์อะไรไม่รู้ของเขา มาบ้านป่าทั้งที   มันต้องได้กินของอร่อยๆ ผมนึกถึงเนื้ออ้นแกงกับหน่อไม้ป่า
ยำงูสิง ลาบนกคุ่ม” พูดไปเขาจับขาอึ่งตัวแรกใส่ปากเคี้ยวดังกร้วมๆ จนปากมัน ลุงจ่ายิ้มแฮะๆ เลื่อนถ้วยน้ำพริกปลาป่นมาให้ลอง ใช้ช้อนตักมาคลุกเคล้ากับข้าวพอได้คำแรกมันเผ็ดร้อนแผ่ฉานไปทั้งปาก ถึงกับครางซี้ดแลบลิ้นออกมา มันช่างเข้ากันดีแท้กับอากาศเย็นและชื้นในช่วงนี้

“ฝีมือตำน้ำพริกไม่ตกเลยนะลุง”

“เอาเลยครับคุณเจน กินแบบบ้านป่า”

รสชาติอาหารยังไม่เท่ากับบรรยากาศ  ผู้หมวดเจนมีน้ำตาซึม ไม่ใช่เพราะความเผ็ดหากเพราะนึกถึงสมัยเด็กที่ได้กินข้าวพร้อมหน้ากันเช่นนี้ ลุงสิงห์กับป้าวิไลเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับแม่โสภาสาวชาวป่า

ป้ายังคงง่วนอยู่หน้าเตาไฟ หยิบฟืนใส่เข้าไปสำหรับทอดไข่ดาวกับหมูแฮม พอถ่านแดงได้ที่จะขึ้น ตะแกรงสำหรับปิ้งขนมปังต่อ

“เข้าท่าดีนะครับ ใช้เตาฟืนทำกับข้าว ทำให้ผมนึกถึงสมัยแม่โสภาทำอาหารให้กินเลย” รสชาติอาหารของป้า ช่างเหมือนที่แม่ทำเสียจริง เขาหลับตาพริ้มในใจรู้สึกสุขสงบยิ่งนัก 

“โสภามีเสน่ห์ที่ทำอาหารอร่อย ที่เสี่ยวิชัยมารักมาหลง จนต่อมาได้ตกแต่งกันเพราะรสมือนี่แหละ มีครั้งหนึ่ง ตอนโสภากำลังท้องคุณเจน เช้าวันหนึ่งพระธุดงค์แบกกลศเดินออกมาจากชายป่า โสภาเลยได้ทำบุญถวายอาหารแบบบ้านป่า” 

เขาถือช้อนค้าง หันมามองป้า “แม่โสภาเคยเล่าให้ฟังเหมือนกันครับเรื่องนี้”

“พระธุดงค์วัยหลวงพ่อพอใจรสอาหาร แล้วทำนายว่าต่อไปอุบาสิกาคนนี้ต่อไปจะได้แก้ววิเศษ แม้ก่อนวันคลอด โสภายังฝันอีกว่าได้มีพญานาคที่มีเกล็ดกายสีเขียว เลื้อยมาคายลูกแก้วสีเขียวสว่างลอยมาสู่อุ้งมือ จนวันคลอดเด็กออกมา ถึงได้รู้แก้ววิเศษที่ว่าคือเด็กผู้ชายตาเพชรสีเขียวสวยมาก เสี่ยยังงงเลย ทำไมเด็กมีสีตาเหมือนฝรั่ง ยังหาเรื่องโทษเมียมีชู้ แต่พอเด็กโตมารูปร่างกับใบหน้าไม่ต่างจากพี่ชาย ผิดกันแต่สีของลูกตา”

เขามือคลำเบ้าตา ตนเองไม่เห็นคุณวิเศษอะไรกับดวงตาที่มีสีต่างจากคนทั่วไป “ต่อมาพระธุดงค์รูปนั้นก็คือหลวงตาพรหม ที่ผมไปบวชเณรด้วยใช่ไหมครับ หลวงตาสอนกรรมฐานให้ผมจนก้าวหน้ามาก แต่หลวงตาบอกผมมีกรรมติดตัว ให้ไปสู้กับมันก่อน แล้ววันหน้าค่อยมาบวช ไม่เช่นนั้นกรรมมันจะมาราวีตอนบวช ผมก็เลยหันเหชีวิตไปสอบเข้าโรงเรียนตำรวจ”

สองคนกินกันไปพูดคุยปรึกษากันเรื่องออกสืบคดีวันนี้  ป้าเริ่มบ่นเหนื่อยแล้วชี้ไปที่ถังแก๊สที่หมดหลายวันแล้ว  ลุงแกกินข้าวฝืดคอคราวนี้ “จะเข้าเมืองช่วงนี้ได้ไง ฝนตกหนักทางมันเละ ไอ้รถปาเจโรเครื่องมันไม่ไหวแล้ว เกิดมาเสียกลางทางจะยุ่งเอานะ”

“ปาเจโรรุ่นนั้น ปี25 ใช่ไหมครับ เก่ามาก ไว้ผมจะหารคันใหม่ให้ใช้นะครับ” เขาพูดไป ตามองโทรศัพท์หาสัญญาณโชคดีแถวนี้ยังมีคลื่นอยู่บ้าง เปิดเข้าไปที่วิดีโอมีภาพของจอห์นที่กำลังดินเนอร์กับสาวสวยอย่างโรส แม้แต่ฉากที่จูบมือยังถ่ายไว้ได้ เขานึกกระหยิ่มภาพนี้จะเป็นหลักฐานอย่างดี พอกดส่งภาพเคลื่อนไหวออกไปทางไลน์ ไปที่ไลน์ของทับทิมพี่สะใภ้ของตน

“ถ้าคุณจอห์นฟื้นฟูรีสอร์ตที่นี่ก็ดี ทำถนนหนทางให้เรียบร้อย แถวนี้จะได้เจริญเสียที วัลลภจะได้ไม่ต้องเข้าไปทำงานในเมือง ถ้าตอนนี้อยู่คงช่วยคุณเจนสืบคดีได้แน่”

ฝ่ายลุงหน้าง้ำเมื่อเมียแก่พูดถึงลูกชาย “เลิกพูดถึงมันเถอะ แค่ขับวินไปวันๆ ไม่มีอนาคต บอกไปสมัครทหารมันก็ไม่เอา เอาแต่คบเพื่อนนักเลง วันๆหาเงินมาได้ก็-เหล้าหมด  การงานไม่เป็นโล้เป็นพาย เดือนก่อนก็พึ่งยกพวกไปมีเรื่องตีกันแย่งที่หากิน จนพ่อมันต้องไปประกันตัวเสียเงินเสียทองอีก”

“ไว้รีสอร์ตเป็นรูปเป็นร่าง ค่อยเรียกมาก็ได้ครับ”

เมื่อเขานึกถึงวัลลภ เพื่อนคนนี้นิสัยเกเรแต่รักเพื่อนพ้องมาก  ถ้าได้ตัวมาช่วยงานสืบคดีนี้คงดีไม่น้อย “เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เราออกไปเลยนะครับ ซ้อนเอ็นดูโร้ของผมไป ผมต้องการสืบหาในรัศมีห้ากิโลเมตร ถ้ามีต่างด้าวถูกนำมากักตัวไว้ จะต้องหาเจอแน่”

ลุงเบิกตากว้าง ดึงผ้าขาวม้าเคียนเอวมาเช็ดปาก หยิบแก้วน้ำมาดื่ม รู้สึกตื่นเต้นจะได้ออกสนามทำงานช่วยราชการ สมัยรับราชการทหาร ทำหน้าที่พลซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ “แน่นอนครับแถวนี้ผมรู้จักหมด จะพาคุณเจน เอ๊ยผู้หมวดเจนไปสำรวจให้ทั่ว แถวไหนที่ต้องสงสัยเอาพวกต่างด้าวไปซ่อนไว้ ถ้ามีรับรองต้องได้เจอตัว ว่าแต่...ผมสงสัย ทำไมไม่เริ่มสืบจากในเขตเมืองก่อน ผมเข้าเมืองทีไรเห็นพวกร้านรวงต่างๆ มันจ้างพวกพม่าทำงานให้  มันต้องมีแน่พวกที่เข้ามาแบบผิดกฎหมาย ที่ถูกหลอกมา ถ้าตามสืบดีๆ น่าจะเจอเอเย่น งานสืบจะไม่ง่ายกว่าหรือครับ”

ผู้หมวดหนุ่มยกแก้วน้ำมาดื่มทำท่าอิ่มเช่นกัน แล้วยกมือใช้นิ้วจิ้มๆ ที่ขมับของตนเอง  พูดด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ  “ทีมผู้กองมินตราไปสืบในเขตเมืองครับ ส่วนผมแยกตัวมาสืบตามหมู่บ้านชนบทรอบนอก เหตุที่ผมแยกมาทางนี้ ถ้าผมจะบอกทุกครั้งที่ออกสืบคดี ผมเชื่อซิกเซ้นส์ของตัวเอง มากกว่าหลักสูตรที่โรงเรียนตำรวจสอนมา ลุงจะเชื่อผมไหม” 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่