ดับขันธปรินิพพาน ไม่ใช่เป็นการดับจิต

#สุภัททะปัจฉิมสาวก สาวกองค์สุดท้าย ที่พุทธองค์บวชให้ก่อนปรินิพพาน เรื่องราวมีอยู่ว่า สุภัททะ เดิมเป็นพราหมณ์อยู่ในตระกูลใหญ่ ต่อมาได้ออกบวชเป็นปริพาชก อยู่ในเมืองกุสินารา กระทั่งวันหนึ่งเมื่อสุภัททะ

จิตจะรวมศูนย์ เมื่อจิตเป็นอัปปนาสมาธิ จิตเป็นอัปปนาสมาธิหมายถึงภวังคจิต ที่พระพุทธเจ้า  เข้าอนุปุพพวิหารสมาบัติ แล้วจิตสู่ภวังค์ ดับขันธปรินิพพาน ถวังคจิตของพระพุทธเจ้า ไม่มีอวิชชา ไม่ใช่ถวังคจ

พระพุทธเจ้าไม่ได้ดับจิตแล้วนิพพาน มีแต่บอกว่าดับขันธปรินิพพาน ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าดับจิตแล้วปรนิพพาน จิตไม่มีกิเลส อวิชชาดับ วิชชาเกิดที่จิต จิตยังมีอยู่ วิชชาเกิดคือนิพพาน จิตก็ยังมีวิชชาอยู

เห็นว่าการบูชาพระพุทธเจ้า 2 ประเภท คือ อามิสบูชา และ ปฏิบัติบูชา คือรู้ว่าการปฏิบัติบูชาต่อพระพุทธเจ้า นั้นได้บุญมากที่สุด แล้วแบบนี้ก็ไม่ต้องจำเป็นไหมที่ต้องทำอามิสบูชา เเล้วบุคคลที่ควรบูชาอย่างคนอื่

https://youtu.be/67qF1kOan38 พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วไม่ได้หายไปไหน พระพุทธบารมียังปก ปักรักษาโลกอยู่ คนในโลกยังรับพระพุทธบารมีได้ มิได้แตกต่างไปจากเมื่อยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ เพียงแต่ว่

เวลากำหนดรู้ไปเรื่ิอยๆ ใจมันยิ่งเห็นแต่ทุกข์แต่โทษเห็นแต่ผลของวิบาก จิตนี้หาความสุขอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง มองอะไรก็เบื่อไปหมด มีแต่ทุกข์ มีแต่ความไม่เที่ยง พอถึงตรงนี้ใจมันก็ว่างๆเวิ้งๆ เลยต้องอาศัยคุณ

หรอครับ

ได้อ่านมานานแล้วแต่จำแหล่งที่ชัดเจนในอรรถกถาไม่ได้ เรื่องประมาณว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จออกจากบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐีไปที่อื่น ใครทูลนิมนต์ให้เสด็จกลับก็ไม่ทรงกลับ แล้วมีนางทาสคนนึงบอกกับเศรษฐีว่าตัวเองจะขอไ