[CR] หลวงพระบาง เพียงลำพัง ฉันก็ยัง สะบายดี…. (Part 1 DAY 1 -2)

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราที่เขียนไว้เมื่อ 2 ปีก่อน แต่เพิ่งมีโอกาสมาแชร์

หนึ่งใน Resolution ของเราในปีที่อายุ 35 ปี คือ การเดินทางไปท่องเที่ยวคนเดียวในต่างบ้านต่างเมือง
ก่อนที่เราจะอายุเลยเลข 35 นี้ไป หลังจากนั้น เราตั้งใจว่า เราจะเลิกนับอายุค่ะ!!
ประกอบกับตอนนั้นเป็นช่วงจังหวะที่ชีวิตกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องงาน
ก่อนหน้านั้นเราก็เหนื่อย และสาหัสมาพอสมควรกับหลาย ๆ เรื่องราวในชีวิต
เลยตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง กับเมืองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราเสมอ 
ไปค่ะ ไป “สะบายดี” ที่ "หลวงพระบาง" กัน

ทริปนี้แพลนขึ้นแบบง่าย ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง โชคดีที่ช่วงนั้น Air Asia มีตั๋วโปรลดราคา
 เราเลยจองผ่าน Air Asia Go ได้ทั้งตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก 3 คืน ในราคาประมาณ 6,800 บาท
ถือว่า ราคานางงามมิตรภาพ เลยทีเดียว ยิ้ม

DAY 1 DEPARTURE & ARRIVAL LPQ

ประมาณเที่ยง ๆ ของวันเดินทาง เราก็แบกเป้หนึ่งใบ Grab แท็กซี่ไปดอนเมือง
ไฟท์บินในตอนบ่าย 14.30 PM เช็คอินมาเรียบร้อย กระเป๋าไม่โหลด เดินเข้า gate ไปสวย ๆ
เวลาเหลือๆ ให้ไปแวะจิบกาแฟ และนั่งเล่นพักใหญ่
ก่อนเครื่องบินจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า สู่จุดหมายปลายทาง หลวงพระบาง....

ในเวลาชั่วโมงกว่า ๆ มองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบินมีความเขียวชะอุ่มด้วยสีเขียวของยอดต้นไม้ที่ปกคลุมบนภูเขา
และมีแม่น้ำสีชาเย็นเข้ม ๆ ที่ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ไหลผ่าน ใช่แล้วค่ะ เรามาถึงแล้ว หลวงพระบาง...

หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกนิด... เมื่อเดินเข้าสู่อาคารสนามบิน อากาศค่อนข้างอบอ้าว 
หลังจากผ่านตม. เดินออกมา ก็สามารถเลือกซื้อซิมการ์ด รวมถึงแลกเงินกีบ ได้ตามสะดวก
 แลกเงินไป 4000 บาทก็เป็นเศรษฐีเงินล้าน (กีบ) กันเลยทีเดียว!!

การเข้าเมืองนั้นก็แสนง่าย แค่แจ้งชื่อที่พักที่เราจองไว้ ตอนซื้อตั๋วรถตู้เข้าเมือง (ราคา 50000 กีบ)
รถตู้ก็จะไปส่งเราถึงที่พัก อากาศข้างในสนามบินว่าร้อนแล้ว อากาศข้างนอกร้อนอบอ้าวเข้าไปอีก ฝนตั้งเค้าอีกแล้ว…..

เย็นแล้วตอนที่ไปถึงที่พัก... Villa Champa
เป็นบ้านไม้สองชั้น แบ่งห้องเป็นสัดส่วน สะอาดสะอ้าน สวยงามดี
น้องพนักงาน ต้อนรับดีงาม มี welcome Drink 

 ห้องพักที่จองไว้ เป็นห้องมีระเบียง ราคาประมาณ 800 บาท ค่อนข้างเหมือนรูปในเว็บ สภาพดีเป็นที่น่าพอใจ

จากนั้นได้เวลาออกไปหาอะไรใส่ท้อง... ไปค่ะ พี่สุชาติ เอ๊ย ไม่ใช่!! เดินไปค่ะ
เดินเลี้ยว ๆ ไปไม่ใกล้ก็ไปถึงตลาดมืด ที่เริ่มมีการออกมาตั้งร้านกันแล้ว
พระอาทิตย์เริ่มดับแสง แต่ความร้อนยังคงอบอ้าวเหมือนเดิม
ด้วยความเป็นคนที่กินอะไรยากพอสมควร ถนัดขนมเป็นส่วนใหญ่
อาหารมื้อแรกในหลวงพระบางของเราก็คือ “ขนมครก” กับชาเขียวเย็น
พร้อมกับวิวชั้น 2 บนร้านกาแฟโจมา ในวันที่เมฆครึ้ม และฝนตั้งเค้า....

และแล้วมันก็ผ่านไป คืนแรกเพียงลำพัง ในหลวงพระบาง “สะบายดี”

DAY 2 SIGHSEEING IN TOWN

เช้าวันที่สองมาเยือนอย่างรวดเร็ว ตื่นสาย ๆ แต่งตัวลงมา have breakfast
อาหารเช้าจากที่พัก มีให้เลือกหลายเมนูมาก ดูผ่าน ๆ ก็จิ้ม ๆ มั่ว ๆ ไป มีทั้งแบบตะวันตก และแบบแถวบ้านเราก็มี
ส่วนเราเลือกจิ้ม Omelet ไปล่ะกัน สะดุดตามากสุด
และนี่คือ omelet เมืองลาวค่ะ!! ไข่เจียวเมืองไทยชัด ๆ เนอะ
 ได้เวลาไป sightseeing หลวงพระบางกันแล้วววว
เริ่มจากเดินไปตรงตลาดมืดค่ะ
ซึ่งตรงนั้นจะมีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือพระราชวังหลวง
เราเริ่มที่นี่กันค่ะ
ปล.พิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูปด้านในค่ะ

นั่งพักหลบร้อนอยู่ใต้ต้นไม้ด้านหน้า ก่อนจะไปต่อ
เดินวน ๆ แถวตลาดมืด (อีกล่ะ) จริง ๆ เดินไปส่องหนุ่ม ๆ ค่ะ 
มีทั้งโอปป้า และหนุ่มตาสีฟ้า มีมาฝากคนนึงค่ะ อุ๊บ!!
จากนั้นไปเช่าจักรยาน แล้วก็ ปั่นวนไปค่ะ!!
ข้อควรระวัง ขับรถชิดขวาไว้ค่ะ คุณผู้ชม!!!
ข้อควรระวัง 2 ทางวันเวย์เยอะมาก
ข้อควรระวัง 3 เนินก็เยอะมากเช่นกัน หอบสิคะ จะเหลือหรอ!!!

เราปั่นไปแถวเรื่อย ๆ ชมวัด ชมเมือง
ชมแม่น้ำโขง ชมสถาปัตย์ ร้านค้า ศิลปะ วิวทิวทัศน์
อากาศร้อน แต่เรา happy มากก!! 
    

เวลาที่ปั่นรถผ่านริมฝั่งแม่น้ำโขง จะมีเสียงพี่คนขับเรือชวนให้ล่องเรือ ไปตลอดทาง...
เนื่องจากเตรียมตัวมาน้อย ก็เที่ยวไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้กำหนดจุดมุ่งหมายอะไรมากนัก
โดยส่วนตัวแล้วที่เราอยากมาหลวงพระบาง มันเริ่มต้นมานานแล้ว ด้วยการดูหนังเรื่อง “สะบายดี หลวงพระบาง”
ที่อนันดาเล่น เราชอบอนันดามากตอนนั้น จนเริ่มเกิดความสนใจในเมืองที่ชื่อหลวงพระบางนี้
เลยตัดสินใจลองมาดู ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
และเราชอบสถาปัตยกรรมของเมือง ความเรียบง่าย และผู้คน
เราชอบแม่น้ำ และเราชอบกินกาแฟ ซึ่งที่นี่มีร้านกาแฟดี ๆ เยอะ
และกาแฟลาว รสชาติดีจริงนะ

ดังนั้น ร้านกาแฟที่แนะนำใน Trip Advisor อันดับ 1 จึงเป็นจุดหมายค่ะ
ไปค่ะ ไปลองกัน “Saffron coffee” อยู่บนถนนเส้นริมแม่น้ำโขง ตัวร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ มีถนนกั้น
แต่มีที่นั่งที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งมันดีต่อใจเรามาก!! เดินไปสั่งกาแฟ กับบราวนี่แบบไม่มีกลูเตน!! เอ้า ดีเข้าไปอีก!!
แล้วไปนั่งตรงฝั่งริมแม่น้ำ อากาศอบอ้าวนิด ๆ แต่ด้วยความที่อยู่ริมแม่น้ำ เลยไม่ร้อนมาก

เรานั่งจิบกาแฟ กินขนม มองแม่น้ำ มีภูเขา ท้องฟ้า และก้อนเมฆเป็นพื้นหลัง
เขียนไดอารี่ ฟังเพลง Ed Sheeran ณ จุดนั้น คือโคตรดีต่อใจ หัวใจเราเต้นแรง
ไม่รู้ว่าเพราะคาเฟอีนในอเมริกาโน่ ที่กินเข้าไป
หรือเพราะเราบ้า เอ๊ย ไม่ใช่!!
อาจจะเป็นเพราะความสุขที่เต้นพราวระยับอยู่รอบตัวเราล่ะมั๊ง....
ขากลับแวะวัดเชียงทอง Signature อีกจุดที่ควรต้องแวะ แวะเข้าไปกราบพระ ขอพร
ออกมาเมฆครึ้มมาก ตั้งใจจะรีบกลับ แต่ไม่ทัน ฝนเทกระหน่ำมาก เลยติดฝนอยู่ที่วัด นานมาก
ไม่กล้าฝ่าฝนกลับ เพราะกลัวกล้องเปียก รออยู่จนเริ่มน่ากลัว ฝนเบาแล้วเลย
เลยรีบปั่นจักรยานสุดชีวิต กลับที่พัก สภาพเยินมากเป็นลูกหมูตกน้ำ!

อาบน้ำแต่งตัวใหม่ ออกไปหาข้าวเย็น ฝนหยุดตกแล้ว
ความตั้งใจคือ อยากกินหมูกะทะ ริมน้ำโขงมาก
คราวที่แล้วที่มากับเพื่อนจำได้ว่า อร่อย
แต่ทั้งหมดต้องจบลง เมื่อฝนเทอีกรอบ ตอนนั้นเจอร้านไหนก็เข้าค่ะ

ร้านอาหารตามสั่งอยู่ริมฝั่งโขง วิวสวยดี ฟ้าก็สีสวย
คุณลุงเจ้าของร้านก็ friendly มาก ชวนคุยมากมาย มายังไง กับใคร ไปไหนมาบ้าง
เป็นคนไทย ทำงานอะไร ถามยันชื่อบริษัท เอ่อ คุณลุงคะ? ข้ามค่ะ!!
เพราะความที่กินยากเลยสั่งเมนูที่รู้จัก ผัดไท ค่ะ และนี่คือหน้าตาของผัดไท!
เราว่าอาหารทุกอย่างที่ลาวชอบใส่ถั่วฝักยาวนะ  รสชาติเค็มนำอย่างเดียว
แต่ให้เยอะมาก และเรากินไปน้อยมาก
น้อยจนเกรงใจคุณลุงเจ้าของร้านมาก

จากนั้นเราเดินกลับไปตลาดมืด ได้เวลาช้อปปิ้ง และกินของหวาน ก่อนกลับบ้านพักจัดพาราไป 2 เม็ด และหลับเป็นตาย...
ติดตามต่อ >> https://pantip.com/topic/39011870
ชื่อสินค้า:   หลวงพระบาง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่