Neon Genesis Evangelion : ท่ามกลางทะเลสาปแห่งความโดดเดี่ยว เราเป็นใคร ? เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ?

.
1. ถ้าเอาแบบไม่สปอยล์เนื้อหาใดๆ ใน Series เลย เพื่อคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะดูดีมั้ยใน Netflix ก็ขอเล่าว่า เอวา เป็น Series เชิงจิตวิทยา ที่มีความลึกให้เราตั้งคำถามกับตัวเราเอง ว่าเราเป็นใคร เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ผ่านการนำเสนอด้วยฉากหน้าของความเป็น ไซไฟ หุ่นยนต์ยักษ์ ถ้าใครชอบ ไซไฟที่ต้องการใช้สมองขบคิด ตีความ แนวๆ Space Odyssey, Blade Runner, The Matrix หรือแม้แต่การ์ตูนเวอร์ชั่นใหม่ Devilman Crybabyน่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
.
Series มาพร้อมฉากจบที่น่าประทับใจมาก ทำให้เราไปนั่งขบคิด ถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเราต่ออย่างมากมาย แม้จะออกมากว่า 24 ปีแล้ว แต่ประเด็นในหนังไม่ได้ ตกยุคไปเลย เพราะมนุษย์มันช่างเปราะบาง ฮ่า
.
แต่ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้ดู อารมณ์แบบ Pacific Rim ที่เป็นหุ่นยนต์สู้กัน อาจจะผิดหวังอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าหนังจะมีบางส่วนที่เป็นเมนสตรีม ดูแล้วบันเทิงแบบสบายๆ แต่ก็มีส่วนใหญ่ที่ถ้าไม่ชอบแนวตีความ อาจจะต้องดูแล้วพูดว่า อีหยังวะ !
.
(แต่ผมเชียร์นะครับ ผมดูอย่างต่อเนื่องยี่สิบตอนแบบไม่หยุดเลย แล้วหลับไป ไปทำงานแล้วกลับมาดูต่อทันที จนพึ่งดูจบเมื่อกี้ ชอบตอนจบมากมาย)
.
2. หลังจากนี้จะเป็นบันทึกหลังได้ดูจบนะครับ แน่นอนว่ามี สปอยล์ ใครยังไม่ได้ดูข้ามไปก่อนเน้อ
.
ไม่รู้ว่าใครรู้สึกเชื่อมโยงกับพระเอกได้บ้างรึเปล่า ผมคิดว่าคนไม่น้อยน่าจะรู้สึกเชื่อมโยงกับพระเอกได้อย่างไม่ยาก และมีคำถามเดียวกับพระเอก แต่เราอาจไม่เคยถามลงไปถึงถึงขนาดตัวพระเอก (เพราะว่า เราส่วนใหญ๋อาจไม่ได้มีชีวิตที่มีความลำเข็ญขนาดนั้น คำถามมันเลยไม่ปะทะมามากๆ)
.
คำถามที่ว่าก็คือ เราคือใคร ? อะไรที่ทำให้ตัวเราเป็นตัวเรา ? เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ?
.
เราต่างขว้าจับสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันเมคเซนส์ ในการที่ทำให้เรารู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นยังไงกันแน่
.
ใน Series 26 ตอนเหมือนการค่อยๆ พาเราดำดิ่ง จากตอนแรกที่เราจะเห็นสิ่งต่างๆ ในระดับผิว พร้อมความเข้าใจอย่างผิวเผินในทุกตัวละคร ว่าตัวละครต่างๆ "เป็น" คนอย่างไร
.
ซึ่งก็มีทั้งคนที่ดูปกติ เป็นคนมั่นอกมั่นใจ ดูเข้าใจ หรือรู้สึกปลอดภัย ว่าโลกที่ตัวเองอยู่เป็นยังไง ในขณะที่บางตัวละคร ก็ดูจะบกพร่อง มีปัญหาในการสื่อสาร กับคนอื่น มีปัญหาในชีวิต คิดว่าพ่อทิ้งไป รู้สึกว่าโดดเดี่ยวแม่ไม่รัก ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่สามารถรู้สึกเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ ได้
.
เมื่อเราดูไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าตัวละครค่อยๆ ตอบคำถามว่า พวกเขาทำสิ่งต่างๆ ไปเพื่อเชื่อมโยงกับความต้องการที่อยู่ในระดับลึกในจิตใจ ตัวละคร ทำสิ่งต่างๆ ไปเพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง พวกเขาทำสิ่งต่างๆ เพราะพวกเขาคิดว่ามันเมคเซนส์ พวกเขาคิดว่ามันทำให้พวกเขารู้สึก ปลอดภัย มั่นคง รู้สึกว่า ไม่โดดเดี่ยวในโลกเวิ้งว้าง
.
"ฉันมาขับเอวาเพราะทำให้ฉันเป็นฉัน"
.
"ฉันมาขับเอวาเพื่อให้พ่อชมชั้น"
.
"ฉันมาขับเอวาเพื่อให้ทุกคนทำดีต่อฉัน"
.
และระหว่างดู Series ก็ทำให้เราคิดเรื่องต่างๆ ที่ตัวละครถาม กับตัวเราเองด้วย เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไป ทำไม ? สิ่งต่างๆ ที่เราคิดว่ามันมีคุณค่า ประกอบขึ้นมาเป็นตัวเรา มันมีคุณค่าจริงมั้ย ? หรือจริงๆ แล้ว ชีวิตเรามันว่างเปล่า ไม่มีความหมายและคุณค่าอะไรเลย ให้มีอยู่ ?
.
ผมชอบตอนจบของซีรี่ส์นี่มากๆ มันพาเราไปสำรวจความเป็นไปได้อื่นๆ ในชีวิตของเรา มันแสดงให้เราเห็นว่า ในอีกจักรวาลความเป็นไปได้หนึ่ง โลกในเอวา เป็นโลกแห่งความสุข พระเอก มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม มีพ่อแม่ที่อบอุ่น มีเพื่อนที่น่ารัก มีชีวิตที่สงบสุข เมคเซนส์ มีความสุข ตอนผมดูผมอยากจะให้ซีรี่ส์จบลงตรงนี้มากๆ อยากให้ตัวละครทุกตัวอยู่ในโลกที่พวกเขามีความสุข ไม่ต้องเผชิญ ความทุกข์ยากลำเข็ญเหมือนที่เรา ได้ดูมาตลอด ยี่สิบหกตอน
.
แต่ชีวิตหาเป็นเช่นนั้นไม่ ซีรีส์กระชากคนดูกลับมา และก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกเศร้าใจหรือดีใจดี เมื่อเราได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วเราเป็นเพียงหนึ่งในความเป็นไปได้หลายแบบของชีวิตของเราเอง
.
ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่า ชีวิตของเราช่างทุกข์เข็ญ ลำเค็ญ ทำไมมันแย่อย่างนี้ ทำไมมันลำบากอย่างนี้ ในอีกจักรวาลความเป็นไปได้หนึ่ง จะมีเราอีกคนหนึ่ง ที่กำลังมีความสุข กำลังมีชีวิตที่รู้สึกว่า เข้าใจได้ ชีวิตที่มันเมคเซนส์ มีชีวิตที่ปลอดภัย และ มีชีวิตที่เข้าใจได้ว่าตัวเองมีคุณค่า และการได้รู้แบบนั้นมันอาจทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากเกินไปนัก
.
10/10
.
เดี๋ยวไปดูตอนอื่นๆ ต่อก่อนครับ
.
** จริงๆ ผมเขียนไว้ยาวและดราม่ากว่านี้มาก แต่มัน Error เลยเก็บกู้มาได้เท่านี้ เสียจุย **
.
** ในอีกจักรวาลหนึ่ง ผมคงได้กด Post บทความที่ดราม่ากว่านี้ [img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t99/1.5/16/1f62d.png[/img]T-T **
Page :
https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
Neon Genesis Evangelion : ท่ามกลางทะเลสาปแห่งความโดดเดี่ยว เราเป็นใคร ? เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ?
1. ถ้าเอาแบบไม่สปอยล์เนื้อหาใดๆ ใน Series เลย เพื่อคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะดูดีมั้ยใน Netflix ก็ขอเล่าว่า เอวา เป็น Series เชิงจิตวิทยา ที่มีความลึกให้เราตั้งคำถามกับตัวเราเอง ว่าเราเป็นใคร เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ผ่านการนำเสนอด้วยฉากหน้าของความเป็น ไซไฟ หุ่นยนต์ยักษ์ ถ้าใครชอบ ไซไฟที่ต้องการใช้สมองขบคิด ตีความ แนวๆ Space Odyssey, Blade Runner, The Matrix หรือแม้แต่การ์ตูนเวอร์ชั่นใหม่ Devilman Crybabyน่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
.
Series มาพร้อมฉากจบที่น่าประทับใจมาก ทำให้เราไปนั่งขบคิด ถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเราต่ออย่างมากมาย แม้จะออกมากว่า 24 ปีแล้ว แต่ประเด็นในหนังไม่ได้ ตกยุคไปเลย เพราะมนุษย์มันช่างเปราะบาง ฮ่า
.
แต่ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้ดู อารมณ์แบบ Pacific Rim ที่เป็นหุ่นยนต์สู้กัน อาจจะผิดหวังอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าหนังจะมีบางส่วนที่เป็นเมนสตรีม ดูแล้วบันเทิงแบบสบายๆ แต่ก็มีส่วนใหญ่ที่ถ้าไม่ชอบแนวตีความ อาจจะต้องดูแล้วพูดว่า อีหยังวะ !
.
(แต่ผมเชียร์นะครับ ผมดูอย่างต่อเนื่องยี่สิบตอนแบบไม่หยุดเลย แล้วหลับไป ไปทำงานแล้วกลับมาดูต่อทันที จนพึ่งดูจบเมื่อกี้ ชอบตอนจบมากมาย)
.
2. หลังจากนี้จะเป็นบันทึกหลังได้ดูจบนะครับ แน่นอนว่ามี สปอยล์ ใครยังไม่ได้ดูข้ามไปก่อนเน้อ
.
ไม่รู้ว่าใครรู้สึกเชื่อมโยงกับพระเอกได้บ้างรึเปล่า ผมคิดว่าคนไม่น้อยน่าจะรู้สึกเชื่อมโยงกับพระเอกได้อย่างไม่ยาก และมีคำถามเดียวกับพระเอก แต่เราอาจไม่เคยถามลงไปถึงถึงขนาดตัวพระเอก (เพราะว่า เราส่วนใหญ๋อาจไม่ได้มีชีวิตที่มีความลำเข็ญขนาดนั้น คำถามมันเลยไม่ปะทะมามากๆ)
.
คำถามที่ว่าก็คือ เราคือใคร ? อะไรที่ทำให้ตัวเราเป็นตัวเรา ? เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไปทำไม ?
.
เราต่างขว้าจับสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันเมคเซนส์ ในการที่ทำให้เรารู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นยังไงกันแน่
.
ใน Series 26 ตอนเหมือนการค่อยๆ พาเราดำดิ่ง จากตอนแรกที่เราจะเห็นสิ่งต่างๆ ในระดับผิว พร้อมความเข้าใจอย่างผิวเผินในทุกตัวละคร ว่าตัวละครต่างๆ "เป็น" คนอย่างไร
.
ซึ่งก็มีทั้งคนที่ดูปกติ เป็นคนมั่นอกมั่นใจ ดูเข้าใจ หรือรู้สึกปลอดภัย ว่าโลกที่ตัวเองอยู่เป็นยังไง ในขณะที่บางตัวละคร ก็ดูจะบกพร่อง มีปัญหาในการสื่อสาร กับคนอื่น มีปัญหาในชีวิต คิดว่าพ่อทิ้งไป รู้สึกว่าโดดเดี่ยวแม่ไม่รัก ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่สามารถรู้สึกเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ ได้
.
เมื่อเราดูไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าตัวละครค่อยๆ ตอบคำถามว่า พวกเขาทำสิ่งต่างๆ ไปเพื่อเชื่อมโยงกับความต้องการที่อยู่ในระดับลึกในจิตใจ ตัวละคร ทำสิ่งต่างๆ ไปเพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง พวกเขาทำสิ่งต่างๆ เพราะพวกเขาคิดว่ามันเมคเซนส์ พวกเขาคิดว่ามันทำให้พวกเขารู้สึก ปลอดภัย มั่นคง รู้สึกว่า ไม่โดดเดี่ยวในโลกเวิ้งว้าง
.
"ฉันมาขับเอวาเพราะทำให้ฉันเป็นฉัน"
.
"ฉันมาขับเอวาเพื่อให้พ่อชมชั้น"
.
"ฉันมาขับเอวาเพื่อให้ทุกคนทำดีต่อฉัน"
.
และระหว่างดู Series ก็ทำให้เราคิดเรื่องต่างๆ ที่ตัวละครถาม กับตัวเราเองด้วย เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตไป ทำไม ? สิ่งต่างๆ ที่เราคิดว่ามันมีคุณค่า ประกอบขึ้นมาเป็นตัวเรา มันมีคุณค่าจริงมั้ย ? หรือจริงๆ แล้ว ชีวิตเรามันว่างเปล่า ไม่มีความหมายและคุณค่าอะไรเลย ให้มีอยู่ ?
.
ผมชอบตอนจบของซีรี่ส์นี่มากๆ มันพาเราไปสำรวจความเป็นไปได้อื่นๆ ในชีวิตของเรา มันแสดงให้เราเห็นว่า ในอีกจักรวาลความเป็นไปได้หนึ่ง โลกในเอวา เป็นโลกแห่งความสุข พระเอก มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม มีพ่อแม่ที่อบอุ่น มีเพื่อนที่น่ารัก มีชีวิตที่สงบสุข เมคเซนส์ มีความสุข ตอนผมดูผมอยากจะให้ซีรี่ส์จบลงตรงนี้มากๆ อยากให้ตัวละครทุกตัวอยู่ในโลกที่พวกเขามีความสุข ไม่ต้องเผชิญ ความทุกข์ยากลำเข็ญเหมือนที่เรา ได้ดูมาตลอด ยี่สิบหกตอน
.
แต่ชีวิตหาเป็นเช่นนั้นไม่ ซีรีส์กระชากคนดูกลับมา และก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกเศร้าใจหรือดีใจดี เมื่อเราได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วเราเป็นเพียงหนึ่งในความเป็นไปได้หลายแบบของชีวิตของเราเอง
.
ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่า ชีวิตของเราช่างทุกข์เข็ญ ลำเค็ญ ทำไมมันแย่อย่างนี้ ทำไมมันลำบากอย่างนี้ ในอีกจักรวาลความเป็นไปได้หนึ่ง จะมีเราอีกคนหนึ่ง ที่กำลังมีความสุข กำลังมีชีวิตที่รู้สึกว่า เข้าใจได้ ชีวิตที่มันเมคเซนส์ มีชีวิตที่ปลอดภัย และ มีชีวิตที่เข้าใจได้ว่าตัวเองมีคุณค่า และการได้รู้แบบนั้นมันอาจทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากเกินไปนัก
.
10/10
.
เดี๋ยวไปดูตอนอื่นๆ ต่อก่อนครับ
.
** จริงๆ ผมเขียนไว้ยาวและดราม่ากว่านี้มาก แต่มัน Error เลยเก็บกู้มาได้เท่านี้ เสียจุย **
.
** ในอีกจักรวาลหนึ่ง ผมคงได้กด Post บทความที่ดราม่ากว่านี้ [img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t99/1.5/16/1f62d.png[/img]T-T **
Page : https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/