เลือกสุขกาย และ เลือกสุขใจ ในชีวิตจริง ใครทำได้บ้าง ?

จะเขียนยาวหน่อยๆ พอดีมีเวลานั่งพิม 555+
มีสรุปสั่นๆทุกช่วงนะครับ จะได้ไม่ต้องอ่านหมด
โดยมีเป้าหมาย คือ มีเงิน มีเพื่อน มีสุขภาพดี
และ มีความสุขใจ (มีทุกอย่าง เอาหมด 555+)
และจะเล่าปัญหาแต่ละด้านให้ฟังกันก่อนวิจารณ์นะ

ผมคาดว่าทุกคนต้องทำงาน
ผมคาดว่าทุกคนมีปัญหาที่ทำงาน
และผมคาดว่าทุกคนอยากพักมากกว่าทำงาน
ชีวิตโดนขีดมาแบบนี้ ไม่ดีเอาเสียเลย

ถ้ามีเงินเก็บซัก 100 ล้านในวันนี้ ทุกคนคงอยากพัก
หรือทำงานน้อยๆ ทำแต่แบบที่ตนเองชอบ
และได้ทำตามใจในทุกๆวัน
ทุกคนอยากพักมากกว่าต้องทำอะไรที่ไม่ชอบ

เศรษฐกิจพอเพียงก็ดี แต่สมัยนี้มันมีสังคม มีหน้าตา
คุณอยู่ได้ แต่แฟนคุณอาจไม่อยู่ด้วย เพื่อนคงหายไป
เว้นแต่จะเศรษฐกิจไม่พอเพียง ลุยทำหนักเพื่อกำไร
เศรษฐกิจพอเพียงไม่ตอบโจทย์สังคมปัจจุบัน

ใช่ๆต่อให้คุณทำอาชีพทั่วไป พอเป็นหัวหน้าคน ก็ต้องว่า
ลูกน้องบ้างใจดีบ้าง ใจก็ไม่สงบ หรือ ไม่โม้ขายสินค้า
ขายยาก ใครจะไปพูดว่าสินค้าเราด้อยกว่าสินค้าอื่นบ้าง
วันนึงเป็นหัวหน้าก็ต้องทำสิ่งที่ใจขุ่นมัวอยู่ดี

ในสังคมของผม มีคนดีคนชั่ว คนเก่งคนโง่มากมาย
ผมสรุปสุดท้ายทุกคนก็ขยันเพื่อให้ได้หลุดออกจากวัฏจักร
คือ ออกจากวัฏจักรแห่งความทุกข์กายทุกข์ใจนั่นเอง
สรุปง่ายๆใครๆก็อยากสุขกายและสุขใจจนบั่นปลาย

พอย้อนกลับไปปฏิบัติธรรม จนจิตใจก้าวหน้าไปมากๆ
คุณรู้โทษของเงิน โทษของกามคุณ โทษของพูดคุยสนุก
คุณจะดูแปลกๆกับกลุ่มเพื่อนๆและสังคมเลยแหละ
จิตใจก้าวหน้าอยู่ในสังคมสมัยนี้ยาก

ชีวิตจริงมันโดนขีดเส้นมาแต่แรกแล้ว
ชีวิตจริงต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบมากมายทุกวันเพื่อให้คงอยู่
ชีวิตจริงทุกคนต้องทนอยู่แบบนี้หรอ
ชีวิตมันลำบากจะทนเป็นแบบนี้ตลอดไปหรอ

ทุกคนคงเห็นแล้วว่ามันตันทุกๆทาง
มันจะเลือกทุกๆอย่าง มีใครทำได้บ้าง
เพราะพอเลือกทางใด ก็ต้องเสียทางหนึ่ง
ดังที่เขาบอกว่า “ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง”
ส่วนตัว ผมไม่พอใจอย่างยิ่งกับโลกนี้
แต่ตอนนี้ยังคิดทางออกไม่ได้
เผื่อมีใครไปได้ดีแล้ว มาบอกกันหน่อยว่าทำยังไง ?
มาแลกเปลี่ยนก็ได้ว่าเจออะไรอยู่ ใกล้สำเร็จรึยัง