นิพพานแปลง่ายๆว่าความตายถาวรรึเปล่าคะ?

ไม่เข้าใจค่ะ ว่าทำไมพระพุทธเจ้าต้องปรินิพพาน เกิดแก่เจ็บตายและกิเลสมันทำให้เป็นทุกข์ก็จริง แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนๆไม่เคยมีความทุกข์ไม่ใช่หรอคะ? เพราะคนเราก็ต้องกินและต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาจจะมีบางคนที่สามารถจำกัดความต้องการให้น้อยที่สุดได้อย่างพระพุทธเจ้า แต่ก็ต้องกินต้องเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่นพืชอยู่ดี เพราะงั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขจัดความต้องการออกไปทั้งหมด แม้จะไม่มีความต้องการเพิ่มอย่างความโลภ แต่ก็ยังต้องการ และเบียดเบียนต่อไป สรุปแล้วนิพพานที่ทำให้หลุดพ้นจากกิเลสและภาวะทุกข์ทุกอย่างนี่ก็คือ ความตายรึเปล่าคะ?

เราไปลองศึกษาเรื่องนิพพานมา ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี มันเป็นสภาวะที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งใดๆอีกเลย ไม่ว่าจะความดีความชั่วเพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏจักรหรอ? แต่มันจะเป็นไปได้จริงๆหรอคะ? ต่อให้เราไม่รัก ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง ยังไงก็ยังหนีผลของการกระทำไม่ได้อยู่ดี เช่น เราทำความดี คนอื่นก็ทำดีตอบ แต่หากเราไม่ทำความดี แต่ก็ไม่ทำความชั่ว เช่น มีผู้หญิงถูกทำร้าย แต่เราไม่เข้าไปช่วย ผลที่ตามมาก็คือ คนจะมองว่าเราเป็นคนไม่ดีอยู่ดี รึแม้แต่การอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ยุ่ง ไม่พูดคุยไม่ทำอะไรร่วมกับใคร คนที่พบเจอก็จะด่าว่าเป็นพวกขี้เกียจ เป็นคนที่ไม่ดีอยู่ดี สรุปในข้อนี้ การมีตัวตนอยู่ก็ไม่มีทางหลุดจากวัฏจักรได้อยู่ดี

งั้นอะไรล่ะ ที่จะทำให้เราหลุดพ้นจริงๆ? มันไม่ใช่ความตายหรอคะ? เช่น ถ้าเราฆ่าตัวตาย แม้จะมีผลของการกระทำคือ คนรอบข้างอาจจะด่าว่าโง่รึสมเพช สงสาร แต่เราอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถรับรู้ได้อีก ซึ่งต่างจากการเพิกเฉยแบบตอนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งก็แปลว่าเราได้หลุดพ้นจากวัฏจักรแล้วนี่คะ เราไม่ทุกข์ เพราะไม่สามารถรับรู้ถึงความทุกข์ได้อีก เพราะงั้นความตาย=นิพพานใช่รึไม่คะ?

โอเค อาจจะมีความเชื่อเรื่องชาติภพ ตายไปแล้วก็เกิดใหม่วนเวียนอยู่อีก แต่เราไม่เห็นมีความทรงจำ ของความทุกข์ชาติก่อนๆเลยนี่คะ ซึ่งก็แปลว่า ความตายทำให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ชั่วคราว เพราะพอเกิดใหม่ก็ต้องทุกข์ต่ออยู่ดี แต่นิพพานคือการตัดกิเลส ไม่เสียดาย ไม่ผูกพันต่อครอบครัว รึอะไรก็ตาม จิตใจอยู่ในสถานะว่างเปล่า เหมือนกับหนังสือที่ไม่มีตัวอักษรใดๆ เมื่อตายไปก็จะหายไปเลย อย่างนั้นแล้ว มันก็คือความตายที่ถาวรใช่มั้ยคะ? เพราะไม่เกิด ไม่มีและไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว

ถ้าเราเข้าใจผิดไปผู้รู้ช่วยชี้แนะให้ด้วยนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
จขกท มีหลายประเด็น จะตอบรวมๆ แล้วกัน

ความคิดของ จขกท เหมือนว่า ตายแล้วสูญ จบสิ้น ไม่ต้องทุกข์อะไรแล้ว เป็นความเห็นผิด  แต่ที่จริง ตายแล้วถ้ายังมีกิเลสก็ยังเกิด ก็ทุกข์อีก ไม่จบสิ้น เวียนว่ายอยู่  พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เพื่อดับกิเลส ดับทุกข์ ก็มิต้องเกิดอีกต่อไป คือ นิพพาน  นิพพานนี้มี 2 อย่าง คือ สอุปาทิเสสนิพพาน - นิพพานที่ยังมีเชื้อเหลือ คือ ขันธ์ 5 อยู่ พูดง่ายๆคือพระอรหันต์อันปราศจากกิเลสที่ยังมีชีวิตอยู่  พระอรหันต์นั้นละ ไม่ยึดถือจากขันธ์ 5 แล้ว เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่ และมิได้ทำบาปทั้งปวงเพราะไม่มีกิเลส แต่ท่านก็ยังทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น เผยแผ่พระศาสนา มิได้อยู่เฉยๆ อย่าง จขกท เข้าใจ แต่ท่านก็มิได้ยึดมั่นถือมั่นในการทำดี เรียกว่า อยู่เหนือดี เหนือชั่ว  การกระทำของท่านไม่ถือเป็นกรรมแล้ว  การกินของท่านก็กินเพื่ออยู่เท่านั้น ไม่ละเมิดศีล อยู่อย่างเรียบง่าย   อีกประเภท คือ อนุปาทิเสสนิพพาน คือ พระอรหันต์สิ้นชีวิต ไม่มีเชื้อเหลือ  ภาวะนี้ลึกซึ้งมาก ขอเปรียบส่วนตัวเหมือนไฟที่ดับไปเพราะสิ้นเชื้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่