รบกวนพี่ๆชาวPantip ให้คำปรึกษาหน่อยครับ ผมป็อปครับปัจจุบันอายุ 25 ปีครับ ผมโดนเพื่อนที่คบมา 8ปี หลอกเงินไป 2.8 ล้าน เขาชื่อ เอ (นามสมมุติ) นามสมมุติเพราะผมไม่รู้เขียนชื่อจริงได้ไหม ซึ่งเราเป็นเพื่อนกันมา 8 ปี ผมรู้ว่าที่บ้านเขาทำโรงกลึงเหล็ก อยู่มาวันหนึ่ง เอ ได้โทรมาหาผมชวนประมูล สินค้าจากท่าเรือซึ่งผมไม่ได้มีความรู้มาก่อนนะครับ เขาขอเงินเราไปลงทุน 150,000 บาท และบอกได้กำไรแน่นอน ภายใน 1 อาทิตย์ แต่1อาทิตย์ต่อมาเขาบอกไม่ได้ประมูล จึงคืนเงินก้อนนี้มาให้ผม ด้วยความที่ผมมองโลกสวยมากครับ ผมคิดในใจอย่างน้อยเขาก็คืนเงินเรามา เขาซื่อสัตว์ดีเนอะ โลกสวยไปอีก
ต่อมาเอได้โทรมาอีกครั้งครับหลังจากคืนเงิน คราวนี้ชวนเข้าร่วมการประมูลรื้อถอนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ และนำเศษทองแดงมาขาย โดยต้องใช้เงินมัดจำเป็นจำนวน 300,000 บาท ในการ ประมูล เป็นการวางเงินมัดจำ เขาบอกงานนี้ได้แน่นอนไม่ต้องห่วง ผู้ใหญ่ในนั้นจะให้งานเราแน่นอน เอได้นัดให้ผมและแม่ของเขามาคุยกัน ที่เมกะ บางนา ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แม่ของเออ้างว่ารู้เรื่องพวกนี้ดี ทำโรงกลึงเหล็กมา ไม่ต้องห่วง มีนายทุนมาจ้างเขาทำบ่อยแต่เขาไม่รวยซักทีเพราะสุดท้ายนายจ้างชอบแบ่งเงินไม่ให้ตามตกลง โกงเขาบ้าง สุดท้ายเราตกลงแบ่งกำไรกันคนละครึ่งครับ ซึ่งเขาของเงินมัดจำ 300,000 บาท ในการวางมัดจำครับ ผมจึงได้โอนเงินให้เขาสองรอบครับ รอบละ 150,000 บาท พอเขารับเงินผมไป ผมถามตลอดว่าเรื่องเป็นยังไงบ้าง เขาบอกแต่ว่าดำเนินการอยู่ มีการส่งรูปเขาอยู่ในโรงไฟฟ้าพระนครใต้มาให้ผมแค่นั้นครับ
ต่อมาไม่กี่อาทิตย์เอโทรมาหาผมครับ บอกผมว่ามีงานใหม่เข้ามา งานเก่าให้หยุดไว้ก่อน งานใหม่จะได้กำไรเป็น 1,000 ล้าน!! ยอมรับนะครับว่าตอนนั้นมีความโลภแล้ว ทำงานเดียวสบายทั้งชีวิต ก็ได้มีการนัดคุยรายละเอียดกันที่เซ็นทรัลบางนา แม่ของเอและเอมาคุยกับผม บอกจะมีการประมูลงาน ของบริษัท ไทยคอปเปอร์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับจำหน่ายแร่ทองแดง ในตอนนั้นตัวแม่ได้เล่ารายละเอียดต่างๆ บอกเขามีความรู้เรื่องนี้ ผมแค่ลงทุนเด๋วเขาดูแลให้ ใกล้เวลาประมูลกันแล้ว แม่ดูงานนี้มา 2-3ปี เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป งานนี้ยังไงก็ได้แน่นอน เพราะ ท่าน...ผู้นั้นซึ่งผมขอไม่พูดชื่อคนที่เขาแอบอ้างนะครับ
ตัวแม่ได้อ้างว่าท่านมาหุ้นด้วย ขอแบ่งเงิน 200 ล้านจากกำไรทั้งหมด แล้วจะ ให้เราได้ทั้งรื้อถอนทั้งโรงงานรวมทั้งแร่ทองแดงทั้งหมด เราแค่ประมูลบังหน้าไปก็พอ ซึ่งแม่เอบอก จบงานนี้ได้เงินอย่างต่ำ 500-600 ล้านบาท แบ่งกันกับแม่ ตอนนั้นผมคิดครับว่าคนที่ยังไม่รวย แต่เก่งๆมีศักยภาพในเมืองไทยเยอะแยะ ให้โอกาสเขาดู เห็นว่าเป็นแม่เพื่อนที่คบมานานและตัวเราเองก็อยากได้เงิน แม่เขาขอเงิน 200,000 บาท นำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค เพื่อเข้าประมูล งานที่บริษัทไทยคอปเปอร์ครั้งแรก โดยต้องนำเงินวางเพื่อเข้าประมูล 150,000 บาท อีก 50,000 แม่เขาขอนำไปใช้ในรายละเอียดส่วนย่อยซึ่งเขาจะทำบัญชีส่งมาให้ผมดูครับว่าใช้อะไรไปบ้าง เขาบอกทุกอย่างที่นำเงินไปใช้จะลงรายละเอียดและส่งให้ผมดู
ในวันที่4 กันยายน 2561 แม่ของเอเรียกผมไปประชุมเพื่อประมูลแร่ทองแดง จากกรมบังคับคดี ที่ บริษัท ไทยคอปเปอร์ฯ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบริษัทล้มละลาย ซึ่งจะประมูลในวันที่ 5 กันยายน 2561 แม่ของเอผมได้พาผมไปเจอทีมงาน แม่บอกต้องมีทีมงานด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย ลุงอภิ(นามสมมุติ) ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้มีอิทธิพลที่จังหวัดระยองมีลูกน้องเดินตาม 3-4คนครับ จะคอยดูเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม่เขาอ้างว่ามันเป็นงานของนักเลงต้องมีคนคอยดูแล ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อครับ ผมเป็นเด็กคนเดียวในกลุ่ม และ พ่อเลี้ยงของเอ พร้อมเพื่อนอีก1คน อ้างว่าเคยทำงานอยู่ที่โรงกษาปณ์ ตอนนี้ทำเตาหลอม และ เอ ครับที่เข้าประชุมวันนั้น
ในวันประมูล กรมบังคับคดีได้มีการพาผู้เข้าประมูลเดินดูทรัพย์สิน รอบๆที่จะประมูลในครั้งนั้นก่อน ครั้งนี้เป็นแค่บางส่วนที่ทางโรงงานนำมาปล่อยประมูลเท่านั้นครับ ผมเดินดูก็น่าจะจริงครับ มีรถยกเก่าๆที่น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว มีเศษแร่ทองแดง มี กอง สแตนเลส จำนวนหนึ่ง โต๊ะเก้าอี้ คร่าวๆประมาณนี้นะครับ ยังไงราคาก็ไม่มีทางเกิน 4ล้านครับ พอเริ่มการประมูล มีการยกราคากันไปเรื่อยๆซึ่งราคาสูงกว่าที่มีการประมูลจริงมาก ราคาแตะไปหลักสิบล้าน ผมไม่เข้าใจเลยทำไมราคาไปสูงขนาดนั้นทั้งที่ราคาเริ่มต้น ประมาณ 1ล้านบาทครับ ผมไม่แน่ใจราคาเริ่มต้นนะครับ ผมบอกเขาไปผมไม่มีเงินถึงขนาดนั้นนะ แม่เอบอกไม่เป็นไรลูกเราประมูลให้ชนะก่อน จ่ายแค่เงินมัดจำคือ 150,000 บาท หลังจากนั้น ท่านคนนั้นจะมาจัดการให้เอง ตอนแรกผมก็สงสัยนะครับ แบบท่านจะมาเกี่ยวกับงานประมูลทำไม แม่ของเอบอกตอนนี้เงินในคลังมีไม่มากต้องมาหาเงินเพิ่ม ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อนะครับได้แต่ฟัง แต่ในระหว่างการประมูล แม่ของเอและทีมของเขาที่พามาเจอผม บอกเป็นตำรวจบ้าง เป็นคนสนิทท่านบ้าง บอกผมว่าท่านได้ Facetime มาบอกให้เราสู้การประมูลให้เต็มที่ ไม่เชื่อ เด๋วFacetime ให้ดู ท่านดูอยู่ในห้องวงจรปิด เนี่ยที่รถติดเพราะปิดถนนมา ใจผมอยากขอดูนะครับ แต่ก็ไม่กล้า ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป สุดท้ายแม่ของเอ ชนะการประมูลที่ราคา 21 ล้านบาท!! โอ้โห ผมไม่มีให้แน่นอน แต่ตัวแม่เขาบอกไม่ต้องห่วง ท่านเตรียมไว้หมดแล้ว นี่เป็นแค่การประมูลบังหน้า เชื่อแม่นะ หลังจากนั้นทุกคนได้เดินทางไปกินข้าวกับที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้มีการคุยกัน และ บอกผมจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 200,0000 บาทในการทำงาน และพิมไลน์ให้ผมเป็นหลักฐาน บอกเงินก้อนนี้จะให้คนสนิทของท่านใช้วิ่งงาน ผมก็โอนไปตอนนั้นเลยครับ คิดแล้วสมเพชตัวเองจังครับ
หลังจากที่ จ่ายเงินไปให้ ไม่นานแม่เขาก็มาขอผมอีก 100,000 บาท ทางไลน์ บอกมีค่าเอกสาร ค่าใช้จ่ายทีมงาน หลังจากนี้ ขายแร่ทองแดงได้เท่าไหรจะ มีเครื่องชั่งวัดน้ำหนักทองแดงและ จะมีใบเสร็จให้จะได้รู้ว่าขายไปได้เท่าไหร ผมก็โอนให้อีก 100,000 ครับ ตอนนี้ 800,000 แล้วผมคิดว่าผมจะไม่ให้เพิ่มแล้วเพราะทุกครั้งที่ให้เงินไป แม่เขาจะเงียบหายทุกครั้ง วันไหนโทรไปก็บอกวิ่งเต้นอยู่ ยุ่งอยู่ คุยสองสามคำ ไม่บอกอะไรซักอย่าง เหมือนที่เคยพูดเลย ผมไม่เคยรู้เลยว่าเอาเงินไปใช้อะไรบ้าง ผมก็ได้แต่รอครับ พยายามคิดเขาไม่หลอกเราหรอก
หลังจากนั้นเขาโทรมาหาผมครับ เขาบอกเบื้องบนบอกเขามาว่าต้องหาเงินมาจ่ายการประมูลก้อนนี้ให้ได้ก่อน 21 ล้าน แล้วเขาจะออกคำสั่งมาให้เราได้ทั้งบริษัท ผมบอกไม่ครับ ผมไม่ลงเพิ่มแล้ว รู้ไหมครับหลังจากนั้นเขาพูดอะไร เขาอ้างทุกคนเลยครับ เนี้ยมีท่านเชิด(ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นลูกลับๆขององค์ก่อน) มาเจอพวกเขามีราศีมาก ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เชื่อ แต่เขาโชว์บัตรทองมาให้พวกเขาดู ผมไม่ได้เจอนะครับได้แต่ฟัง และอัดเสียงไว้ เขาบอกเนี้ย จะให้ผมออกเงินก้อนนี้ไปก่อนยังไงเราก็ได้จะงานนี้ และได้ทั้งโรงงาน ถ้าไม่ออกไปก่อน งานที่แม่วิ่งมา2-3ปีนี้จะไม่มีความหมาย ผมไม่ยอมลงเพิ่มครับ จนเขาบอกว่า แม่ของเอจะยอมเซ็นเช็คให้ผมหรือเซ็นสัญญาเงินกู้ไว้เป็นหลักฐานก็ได้ คุยเยอะมากครับเป็นชั่วโมง บอกมีตำรวจท่านนึ่ง คอยดูให้ จะส่งทหารมาคุมในวันงานด้วยนู้นนี้นั้น ในวันนั้น ครอบครัวเขาทั้งครอบครัวขับรถมาหาผมที่บ้านในวันนั้น แต่ปกติโทรไปยุ่งตลอด คุยด้วยยากมาก ไม่ว่างๆ แต่วันนั้นขับมาเจอผมครับ เวลา ตีสอง ตีสาม มาถึงขอเงินผมไปวางก่อน 21 ล้าน ผมบอกผมไม่มีเขาก็บอกเอาเท่าที่มีก็ได้ ผมบอกงั้นผมขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน แม่กับเอบอกอย่าเลยปรึกษาไปไม่มีใครเชื่อเราหรอก เราต้องทำให้เขาดูเชื่อแม่นะ แม่จะทำให้เรารวย ถ้าไม่ได้ยังไงแม่จะคืนเงินเต็มจำนวนทุกบาททุกสตางค์ แน่นอน ผมบอกผมมีให้อีกแค่ 2ล้าน ทั้งตัวผมแล้ว เขาบอกโอเคเด๋วเขาจะหาจากทางอื่นดู ไปมาเขาหาเงินมาจ่ายได้ 21 ล้านครับ ที่ กรมบังคับคดี ผมถามจะนำเงิน อีก 2 ล้านของผมไปจ่ายด้วยรึเปล่า เขาบอกเปล่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายรอบนอก ซึ่งผมโอนให้เขาไปอีก 1ล้าน และเงินสดอีก 1 ล้าน เพราะเขาของเป็นเงินสด และ ได้ไปเบิกด้วยกันกับเอที่ธนาคาร ในวันที่ต้องจ่ายเงินประมูล เขาบอกเงินที่เหลือ นำมาจากคนนึงชื่อลุงประ(นามสมมุติ) ลุงประลงเงินให้และจะขอหุ้นด้วย ซึ่งตอนนี้หุ้นถูกแบ่งไปเยอะมากจนผมไม่รู้ว่าได้เท่าไหร ถามไรไปก็ตอบไม่เข้าใจครับ บอกรองานเสร็จถึงจะรู้ว่าได้คนละเท่าไหร พอเสร็จจ่ายเงิน หายเงียบไปเลยครับ ผมบอกผมอยากไปดูงานด้วย ได้คำสั่งมารึยัง เขาก็บอกว่ายัง แต่เราจะขนของที่เราประมูลได้ออกไปก่อน ผมถามของที่ขนไปได้ขายไปบ้างรึยัง ได้เงินเท่าไหร เขาไม่บอกครับ เขาบอก รอเสร็จที่เดียวเด๋วส่งให้ดูนะลูกใจเย็นนะ ผมคิดนะครับทำไมผมไม่สามารถรู้รายละเอียดอะไรได้เลย บางครั้ง มีการเรียกผมไปที่ระยอง ผมนึกว่าจะให้ไปดูหน้างานแต่เขาเรียกผมไปถามผมอย่างเดียวนี้เป็นการลงทุนนะ ย้ำๆ ว่านี้เป็นการลงทุน ซึ่งผมก็งงเรียกผมมาถามทำไมแค่นี้ คุยกันทางโทรศักพท์ก็ได้ แล้วผมก็ขับรถกลับกรุงเทพแบบไม่เข้าใจครับ
หลังจากนั้นยุ่งตลอดครับครับ ถ้าผมไม่ถาม ก็จะไม่ทักผมมา ผมเริ่มรอไม่ไหวครับ ผมอยากรู้ว่าเงินผมไปไหน ผมพยายามถามว่าได้ขายไปบ้างรึยัง เขาบอกได้นำไปขายแล้วบางส่วน ผมบอกทำไมไม่แบ่งผม เขาบอก เงินที่ผมให้มา เอามาลงทุนเรื่องแร่นิ มันเป็นการประมูลครั้งที่สองของ บริษัท ไทย คอปเปอร์ อันนี้มันการประมูล เศษแร่ กับ สแตนเรน โต๊ะ เงินที่ผมให้มาจะนำไปใช้ในการประมูลครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการประมูลแร่อย่างเดียว ผมถามไหนเรื่องคำสั่งที่จะให้เราได้ทั้งโรงงาน เขาก็บอกไม่รู้ และหลังๆบอกไม่ได้แล้ว ผมอ้างว่าที่บ้านผมรู้เรื่อง แต่ผมยังไม่ได้บอกใครครับไม่อยากให้เขาเคลียดกัน พวกเขาเริ่มไม่พอใจว่าบอกผู้ใหญ่ทำไม งานกำลังทำอยู่ แม่วิ่งเต้นวิ่งเอกสารอยู่ทุกวันนะลูก ผมต้องจี้ถามทุกวันว่าพ่อแม่ผมอยากดูเอกสารใช้จ่าย เขาก็ค่ะๆ กำลังทำให้อยู่ และได้ส่งเป็น รายได้รายรับ ที่เขียนมือมาให้ผม หลังจากผมก็ไม่ได้เจอแม่เขาอีกเลยครับ เขาจะยุ่งอยู่กับการวิ่งเต้นงานตลอด บอกแม่จะทำงานให้ทุกคนได้กำไรไม่ต้องห่วง ยังไงเงินแม่จะหามาให้ และบอกจะมาเจอใน วันที่ประมูลครั้งที่สอง ของ กรมบังคับคดี ที่ บริษัท ไทยคอปเปอร์ ที่จังหวัดระยอง และแม่ของเอจะมาชี้แจงทุกอย่าง
พอถึงวันประมูลครั้งที่สอง ผมเดินทางไปที่ระยองตามนัด แม่เขาบอกเขาอยู่กรุงเทพ แต่เขาส่งเอมาหาผมแทน ผมถามอะไรเอเขาก็บอกไม่รู้เรื่องถามแม่เอา เอบอกอีกอย่าง แม่บอกอีกอย่าง ผมถามทำไมไม่มาแม่เขาบอก มันมีการล้มการประมูล แม่เขารู้เรื่องก่อนเลยมายื่นคำร้องที่กรมบังคับคดีที่กรุงเทพ ผมบอกผมอยากได้เงินคืน เขาบอกจะหามาคืนให้ในวันที่ เซ็นไปในสัญญาเงินกู้ ผมเสียใจมากครับทำไมทำกับผมแบบนี้ ซึ่งในสัญญาเซ็นไปแค่ 2ล้านครับ เขาบอกคืนครบแน่นอน 2ล้าน8 วันนั้นผมได้ไปลงหลักฐานว่าแม่เขาไม่มาที่ สน ที่จังหวัดระยองครับ
กลับมาผมได้แจ้งความที่ สน บางนา ในวันที่ 15 มกราคม 2562 เรื่องการประมูลแร่ที่บริษัท ไทย คอปเปอร์ ซึ่งตำรวจก็รับเรื่องไว้ครับ ผมพยายามติดต่อ พูดคุยกับตำรวจตลอดเวลาครับ แต่ก็รับบ้างไม่รับบ้าง บางวันหายไม่โทรกลับ เรียกผมไปให้ปากคำเพิ่มเติมแต่พอไปถึง บอกเด๋วรอดูอีกทีว่าจะถามอะไร ให้กลับไปก่อน ซึ่งบ้านผมอยู่แถวปิ่นเกล้าครับ เดินทางไป สน บางนา เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ตอนนี้ 5 เดือนได้แล้ว แต่ยังได้แค่หมายเรียกครับ ผมพร้อมที่จะให้หลักฐานทุกอย่าง ใครเคยมีประสบการณ์โดนอะไรแบบนี้ไหมครับต้องทำยังไงบ้าง เมื่อไหรถึงจะได้หมายจับและสามารถจับได้ครับ บอกให้ผมไปแจ้งความที่สน แถวบ้านผมเนื่องจาก มันแยกเป็นสองก้อน ก้อนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ 300,000 ผมมาแจ้งที่สน บางขุนนนท์ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 และได้หมายจับแล้วครับ แต่ก้อนใหญ่ 2,500,000 ที่สน บางนา ตอนนี้ยังได้แค่หมายเรียกครั้งที่ 1 ผมอยากจะแจ้งเรื่องลบหลู่เบื้องสูง แต่ตำรวจบอกมันยุ่งยาก ไม่กล้ารับเรื่องอย่าแจ้งเลย ล่าสุดที่ติดต่อเขาได้คือ แม่เขาบอกไม่คืนแจ้งความไปแล้วนิ ส่วนลูกติดต่อไม่ได้แล้วครับ
ผมไม่รู้เขามีเส้นสายอะไรไหม ทำไมตำรวจสนบางนาถึงไม่ติดต่ออะไรกลับผมเลย หรือ มันเป็นไปตามปกติครับเรื่องขอหมายจับต้องใช้เวลากี่เดือนหรอครับ
โดนเพื่อนโกงเงินล้าน อ้างเบื้องสูงร่วมหุ้น ตำรวจไม่ดำเนินการทำไงดีครับ
ต่อมาเอได้โทรมาอีกครั้งครับหลังจากคืนเงิน คราวนี้ชวนเข้าร่วมการประมูลรื้อถอนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ และนำเศษทองแดงมาขาย โดยต้องใช้เงินมัดจำเป็นจำนวน 300,000 บาท ในการ ประมูล เป็นการวางเงินมัดจำ เขาบอกงานนี้ได้แน่นอนไม่ต้องห่วง ผู้ใหญ่ในนั้นจะให้งานเราแน่นอน เอได้นัดให้ผมและแม่ของเขามาคุยกัน ที่เมกะ บางนา ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แม่ของเออ้างว่ารู้เรื่องพวกนี้ดี ทำโรงกลึงเหล็กมา ไม่ต้องห่วง มีนายทุนมาจ้างเขาทำบ่อยแต่เขาไม่รวยซักทีเพราะสุดท้ายนายจ้างชอบแบ่งเงินไม่ให้ตามตกลง โกงเขาบ้าง สุดท้ายเราตกลงแบ่งกำไรกันคนละครึ่งครับ ซึ่งเขาของเงินมัดจำ 300,000 บาท ในการวางมัดจำครับ ผมจึงได้โอนเงินให้เขาสองรอบครับ รอบละ 150,000 บาท พอเขารับเงินผมไป ผมถามตลอดว่าเรื่องเป็นยังไงบ้าง เขาบอกแต่ว่าดำเนินการอยู่ มีการส่งรูปเขาอยู่ในโรงไฟฟ้าพระนครใต้มาให้ผมแค่นั้นครับ
ต่อมาไม่กี่อาทิตย์เอโทรมาหาผมครับ บอกผมว่ามีงานใหม่เข้ามา งานเก่าให้หยุดไว้ก่อน งานใหม่จะได้กำไรเป็น 1,000 ล้าน!! ยอมรับนะครับว่าตอนนั้นมีความโลภแล้ว ทำงานเดียวสบายทั้งชีวิต ก็ได้มีการนัดคุยรายละเอียดกันที่เซ็นทรัลบางนา แม่ของเอและเอมาคุยกับผม บอกจะมีการประมูลงาน ของบริษัท ไทยคอปเปอร์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับจำหน่ายแร่ทองแดง ในตอนนั้นตัวแม่ได้เล่ารายละเอียดต่างๆ บอกเขามีความรู้เรื่องนี้ ผมแค่ลงทุนเด๋วเขาดูแลให้ ใกล้เวลาประมูลกันแล้ว แม่ดูงานนี้มา 2-3ปี เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป งานนี้ยังไงก็ได้แน่นอน เพราะ ท่าน...ผู้นั้นซึ่งผมขอไม่พูดชื่อคนที่เขาแอบอ้างนะครับ
ตัวแม่ได้อ้างว่าท่านมาหุ้นด้วย ขอแบ่งเงิน 200 ล้านจากกำไรทั้งหมด แล้วจะ ให้เราได้ทั้งรื้อถอนทั้งโรงงานรวมทั้งแร่ทองแดงทั้งหมด เราแค่ประมูลบังหน้าไปก็พอ ซึ่งแม่เอบอก จบงานนี้ได้เงินอย่างต่ำ 500-600 ล้านบาท แบ่งกันกับแม่ ตอนนั้นผมคิดครับว่าคนที่ยังไม่รวย แต่เก่งๆมีศักยภาพในเมืองไทยเยอะแยะ ให้โอกาสเขาดู เห็นว่าเป็นแม่เพื่อนที่คบมานานและตัวเราเองก็อยากได้เงิน แม่เขาขอเงิน 200,000 บาท นำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค เพื่อเข้าประมูล งานที่บริษัทไทยคอปเปอร์ครั้งแรก โดยต้องนำเงินวางเพื่อเข้าประมูล 150,000 บาท อีก 50,000 แม่เขาขอนำไปใช้ในรายละเอียดส่วนย่อยซึ่งเขาจะทำบัญชีส่งมาให้ผมดูครับว่าใช้อะไรไปบ้าง เขาบอกทุกอย่างที่นำเงินไปใช้จะลงรายละเอียดและส่งให้ผมดู
ในวันที่4 กันยายน 2561 แม่ของเอเรียกผมไปประชุมเพื่อประมูลแร่ทองแดง จากกรมบังคับคดี ที่ บริษัท ไทยคอปเปอร์ฯ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบริษัทล้มละลาย ซึ่งจะประมูลในวันที่ 5 กันยายน 2561 แม่ของเอผมได้พาผมไปเจอทีมงาน แม่บอกต้องมีทีมงานด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย ลุงอภิ(นามสมมุติ) ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้มีอิทธิพลที่จังหวัดระยองมีลูกน้องเดินตาม 3-4คนครับ จะคอยดูเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม่เขาอ้างว่ามันเป็นงานของนักเลงต้องมีคนคอยดูแล ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อครับ ผมเป็นเด็กคนเดียวในกลุ่ม และ พ่อเลี้ยงของเอ พร้อมเพื่อนอีก1คน อ้างว่าเคยทำงานอยู่ที่โรงกษาปณ์ ตอนนี้ทำเตาหลอม และ เอ ครับที่เข้าประชุมวันนั้น
ในวันประมูล กรมบังคับคดีได้มีการพาผู้เข้าประมูลเดินดูทรัพย์สิน รอบๆที่จะประมูลในครั้งนั้นก่อน ครั้งนี้เป็นแค่บางส่วนที่ทางโรงงานนำมาปล่อยประมูลเท่านั้นครับ ผมเดินดูก็น่าจะจริงครับ มีรถยกเก่าๆที่น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว มีเศษแร่ทองแดง มี กอง สแตนเลส จำนวนหนึ่ง โต๊ะเก้าอี้ คร่าวๆประมาณนี้นะครับ ยังไงราคาก็ไม่มีทางเกิน 4ล้านครับ พอเริ่มการประมูล มีการยกราคากันไปเรื่อยๆซึ่งราคาสูงกว่าที่มีการประมูลจริงมาก ราคาแตะไปหลักสิบล้าน ผมไม่เข้าใจเลยทำไมราคาไปสูงขนาดนั้นทั้งที่ราคาเริ่มต้น ประมาณ 1ล้านบาทครับ ผมไม่แน่ใจราคาเริ่มต้นนะครับ ผมบอกเขาไปผมไม่มีเงินถึงขนาดนั้นนะ แม่เอบอกไม่เป็นไรลูกเราประมูลให้ชนะก่อน จ่ายแค่เงินมัดจำคือ 150,000 บาท หลังจากนั้น ท่านคนนั้นจะมาจัดการให้เอง ตอนแรกผมก็สงสัยนะครับ แบบท่านจะมาเกี่ยวกับงานประมูลทำไม แม่ของเอบอกตอนนี้เงินในคลังมีไม่มากต้องมาหาเงินเพิ่ม ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อนะครับได้แต่ฟัง แต่ในระหว่างการประมูล แม่ของเอและทีมของเขาที่พามาเจอผม บอกเป็นตำรวจบ้าง เป็นคนสนิทท่านบ้าง บอกผมว่าท่านได้ Facetime มาบอกให้เราสู้การประมูลให้เต็มที่ ไม่เชื่อ เด๋วFacetime ให้ดู ท่านดูอยู่ในห้องวงจรปิด เนี่ยที่รถติดเพราะปิดถนนมา ใจผมอยากขอดูนะครับ แต่ก็ไม่กล้า ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป สุดท้ายแม่ของเอ ชนะการประมูลที่ราคา 21 ล้านบาท!! โอ้โห ผมไม่มีให้แน่นอน แต่ตัวแม่เขาบอกไม่ต้องห่วง ท่านเตรียมไว้หมดแล้ว นี่เป็นแค่การประมูลบังหน้า เชื่อแม่นะ หลังจากนั้นทุกคนได้เดินทางไปกินข้าวกับที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้มีการคุยกัน และ บอกผมจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 200,0000 บาทในการทำงาน และพิมไลน์ให้ผมเป็นหลักฐาน บอกเงินก้อนนี้จะให้คนสนิทของท่านใช้วิ่งงาน ผมก็โอนไปตอนนั้นเลยครับ คิดแล้วสมเพชตัวเองจังครับ
หลังจากที่ จ่ายเงินไปให้ ไม่นานแม่เขาก็มาขอผมอีก 100,000 บาท ทางไลน์ บอกมีค่าเอกสาร ค่าใช้จ่ายทีมงาน หลังจากนี้ ขายแร่ทองแดงได้เท่าไหรจะ มีเครื่องชั่งวัดน้ำหนักทองแดงและ จะมีใบเสร็จให้จะได้รู้ว่าขายไปได้เท่าไหร ผมก็โอนให้อีก 100,000 ครับ ตอนนี้ 800,000 แล้วผมคิดว่าผมจะไม่ให้เพิ่มแล้วเพราะทุกครั้งที่ให้เงินไป แม่เขาจะเงียบหายทุกครั้ง วันไหนโทรไปก็บอกวิ่งเต้นอยู่ ยุ่งอยู่ คุยสองสามคำ ไม่บอกอะไรซักอย่าง เหมือนที่เคยพูดเลย ผมไม่เคยรู้เลยว่าเอาเงินไปใช้อะไรบ้าง ผมก็ได้แต่รอครับ พยายามคิดเขาไม่หลอกเราหรอก
หลังจากนั้นเขาโทรมาหาผมครับ เขาบอกเบื้องบนบอกเขามาว่าต้องหาเงินมาจ่ายการประมูลก้อนนี้ให้ได้ก่อน 21 ล้าน แล้วเขาจะออกคำสั่งมาให้เราได้ทั้งบริษัท ผมบอกไม่ครับ ผมไม่ลงเพิ่มแล้ว รู้ไหมครับหลังจากนั้นเขาพูดอะไร เขาอ้างทุกคนเลยครับ เนี้ยมีท่านเชิด(ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นลูกลับๆขององค์ก่อน) มาเจอพวกเขามีราศีมาก ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เชื่อ แต่เขาโชว์บัตรทองมาให้พวกเขาดู ผมไม่ได้เจอนะครับได้แต่ฟัง และอัดเสียงไว้ เขาบอกเนี้ย จะให้ผมออกเงินก้อนนี้ไปก่อนยังไงเราก็ได้จะงานนี้ และได้ทั้งโรงงาน ถ้าไม่ออกไปก่อน งานที่แม่วิ่งมา2-3ปีนี้จะไม่มีความหมาย ผมไม่ยอมลงเพิ่มครับ จนเขาบอกว่า แม่ของเอจะยอมเซ็นเช็คให้ผมหรือเซ็นสัญญาเงินกู้ไว้เป็นหลักฐานก็ได้ คุยเยอะมากครับเป็นชั่วโมง บอกมีตำรวจท่านนึ่ง คอยดูให้ จะส่งทหารมาคุมในวันงานด้วยนู้นนี้นั้น ในวันนั้น ครอบครัวเขาทั้งครอบครัวขับรถมาหาผมที่บ้านในวันนั้น แต่ปกติโทรไปยุ่งตลอด คุยด้วยยากมาก ไม่ว่างๆ แต่วันนั้นขับมาเจอผมครับ เวลา ตีสอง ตีสาม มาถึงขอเงินผมไปวางก่อน 21 ล้าน ผมบอกผมไม่มีเขาก็บอกเอาเท่าที่มีก็ได้ ผมบอกงั้นผมขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน แม่กับเอบอกอย่าเลยปรึกษาไปไม่มีใครเชื่อเราหรอก เราต้องทำให้เขาดูเชื่อแม่นะ แม่จะทำให้เรารวย ถ้าไม่ได้ยังไงแม่จะคืนเงินเต็มจำนวนทุกบาททุกสตางค์ แน่นอน ผมบอกผมมีให้อีกแค่ 2ล้าน ทั้งตัวผมแล้ว เขาบอกโอเคเด๋วเขาจะหาจากทางอื่นดู ไปมาเขาหาเงินมาจ่ายได้ 21 ล้านครับ ที่ กรมบังคับคดี ผมถามจะนำเงิน อีก 2 ล้านของผมไปจ่ายด้วยรึเปล่า เขาบอกเปล่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายรอบนอก ซึ่งผมโอนให้เขาไปอีก 1ล้าน และเงินสดอีก 1 ล้าน เพราะเขาของเป็นเงินสด และ ได้ไปเบิกด้วยกันกับเอที่ธนาคาร ในวันที่ต้องจ่ายเงินประมูล เขาบอกเงินที่เหลือ นำมาจากคนนึงชื่อลุงประ(นามสมมุติ) ลุงประลงเงินให้และจะขอหุ้นด้วย ซึ่งตอนนี้หุ้นถูกแบ่งไปเยอะมากจนผมไม่รู้ว่าได้เท่าไหร ถามไรไปก็ตอบไม่เข้าใจครับ บอกรองานเสร็จถึงจะรู้ว่าได้คนละเท่าไหร พอเสร็จจ่ายเงิน หายเงียบไปเลยครับ ผมบอกผมอยากไปดูงานด้วย ได้คำสั่งมารึยัง เขาก็บอกว่ายัง แต่เราจะขนของที่เราประมูลได้ออกไปก่อน ผมถามของที่ขนไปได้ขายไปบ้างรึยัง ได้เงินเท่าไหร เขาไม่บอกครับ เขาบอก รอเสร็จที่เดียวเด๋วส่งให้ดูนะลูกใจเย็นนะ ผมคิดนะครับทำไมผมไม่สามารถรู้รายละเอียดอะไรได้เลย บางครั้ง มีการเรียกผมไปที่ระยอง ผมนึกว่าจะให้ไปดูหน้างานแต่เขาเรียกผมไปถามผมอย่างเดียวนี้เป็นการลงทุนนะ ย้ำๆ ว่านี้เป็นการลงทุน ซึ่งผมก็งงเรียกผมมาถามทำไมแค่นี้ คุยกันทางโทรศักพท์ก็ได้ แล้วผมก็ขับรถกลับกรุงเทพแบบไม่เข้าใจครับ
หลังจากนั้นยุ่งตลอดครับครับ ถ้าผมไม่ถาม ก็จะไม่ทักผมมา ผมเริ่มรอไม่ไหวครับ ผมอยากรู้ว่าเงินผมไปไหน ผมพยายามถามว่าได้ขายไปบ้างรึยัง เขาบอกได้นำไปขายแล้วบางส่วน ผมบอกทำไมไม่แบ่งผม เขาบอก เงินที่ผมให้มา เอามาลงทุนเรื่องแร่นิ มันเป็นการประมูลครั้งที่สองของ บริษัท ไทย คอปเปอร์ อันนี้มันการประมูล เศษแร่ กับ สแตนเรน โต๊ะ เงินที่ผมให้มาจะนำไปใช้ในการประมูลครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการประมูลแร่อย่างเดียว ผมถามไหนเรื่องคำสั่งที่จะให้เราได้ทั้งโรงงาน เขาก็บอกไม่รู้ และหลังๆบอกไม่ได้แล้ว ผมอ้างว่าที่บ้านผมรู้เรื่อง แต่ผมยังไม่ได้บอกใครครับไม่อยากให้เขาเคลียดกัน พวกเขาเริ่มไม่พอใจว่าบอกผู้ใหญ่ทำไม งานกำลังทำอยู่ แม่วิ่งเต้นวิ่งเอกสารอยู่ทุกวันนะลูก ผมต้องจี้ถามทุกวันว่าพ่อแม่ผมอยากดูเอกสารใช้จ่าย เขาก็ค่ะๆ กำลังทำให้อยู่ และได้ส่งเป็น รายได้รายรับ ที่เขียนมือมาให้ผม หลังจากผมก็ไม่ได้เจอแม่เขาอีกเลยครับ เขาจะยุ่งอยู่กับการวิ่งเต้นงานตลอด บอกแม่จะทำงานให้ทุกคนได้กำไรไม่ต้องห่วง ยังไงเงินแม่จะหามาให้ และบอกจะมาเจอใน วันที่ประมูลครั้งที่สอง ของ กรมบังคับคดี ที่ บริษัท ไทยคอปเปอร์ ที่จังหวัดระยอง และแม่ของเอจะมาชี้แจงทุกอย่าง
พอถึงวันประมูลครั้งที่สอง ผมเดินทางไปที่ระยองตามนัด แม่เขาบอกเขาอยู่กรุงเทพ แต่เขาส่งเอมาหาผมแทน ผมถามอะไรเอเขาก็บอกไม่รู้เรื่องถามแม่เอา เอบอกอีกอย่าง แม่บอกอีกอย่าง ผมถามทำไมไม่มาแม่เขาบอก มันมีการล้มการประมูล แม่เขารู้เรื่องก่อนเลยมายื่นคำร้องที่กรมบังคับคดีที่กรุงเทพ ผมบอกผมอยากได้เงินคืน เขาบอกจะหามาคืนให้ในวันที่ เซ็นไปในสัญญาเงินกู้ ผมเสียใจมากครับทำไมทำกับผมแบบนี้ ซึ่งในสัญญาเซ็นไปแค่ 2ล้านครับ เขาบอกคืนครบแน่นอน 2ล้าน8 วันนั้นผมได้ไปลงหลักฐานว่าแม่เขาไม่มาที่ สน ที่จังหวัดระยองครับ
กลับมาผมได้แจ้งความที่ สน บางนา ในวันที่ 15 มกราคม 2562 เรื่องการประมูลแร่ที่บริษัท ไทย คอปเปอร์ ซึ่งตำรวจก็รับเรื่องไว้ครับ ผมพยายามติดต่อ พูดคุยกับตำรวจตลอดเวลาครับ แต่ก็รับบ้างไม่รับบ้าง บางวันหายไม่โทรกลับ เรียกผมไปให้ปากคำเพิ่มเติมแต่พอไปถึง บอกเด๋วรอดูอีกทีว่าจะถามอะไร ให้กลับไปก่อน ซึ่งบ้านผมอยู่แถวปิ่นเกล้าครับ เดินทางไป สน บางนา เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ตอนนี้ 5 เดือนได้แล้ว แต่ยังได้แค่หมายเรียกครับ ผมพร้อมที่จะให้หลักฐานทุกอย่าง ใครเคยมีประสบการณ์โดนอะไรแบบนี้ไหมครับต้องทำยังไงบ้าง เมื่อไหรถึงจะได้หมายจับและสามารถจับได้ครับ บอกให้ผมไปแจ้งความที่สน แถวบ้านผมเนื่องจาก มันแยกเป็นสองก้อน ก้อนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ 300,000 ผมมาแจ้งที่สน บางขุนนนท์ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 และได้หมายจับแล้วครับ แต่ก้อนใหญ่ 2,500,000 ที่สน บางนา ตอนนี้ยังได้แค่หมายเรียกครั้งที่ 1 ผมอยากจะแจ้งเรื่องลบหลู่เบื้องสูง แต่ตำรวจบอกมันยุ่งยาก ไม่กล้ารับเรื่องอย่าแจ้งเลย ล่าสุดที่ติดต่อเขาได้คือ แม่เขาบอกไม่คืนแจ้งความไปแล้วนิ ส่วนลูกติดต่อไม่ได้แล้วครับ
ผมไม่รู้เขามีเส้นสายอะไรไหม ทำไมตำรวจสนบางนาถึงไม่ติดต่ออะไรกลับผมเลย หรือ มันเป็นไปตามปกติครับเรื่องขอหมายจับต้องใช้เวลากี่เดือนหรอครับ