เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งเป้าหลอกผู้ประกอบการรายย่อย


ขออนุญาต share ต่อครับ

https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/pfbid02tFnVwiW5QCjgnzPVfxjwrqggL6BAaAMyZTsfEXQDsDywUfVThEhvAnPp2jDNPfJMl

ตำรวจบอกโอกาสได้เงินคืนยาก แต่คุณต้องได้รับความยุติธรรม
ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เพิ่งโดนมาสดๆ ร้อนๆ เลยครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนๆ เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ปกติผมมั่นใจว่ารู้ทันมิจฉาชีพมาตลอด แต่ครั้งนี้พลาดเพราะความโลภจริงๆ
จุดเริ่มต้นและการสร้างความน่าเชื่อถือ (13 กันยายน)
เรื่องเริ่มจากมีสายโทรเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อของโรงเรียนชื่อดังย่านพุทธมณฑล ติดต่อว่าต้องการติดตั้งผ้าม่าน 4 ชุด และอยากให้ที่ร้านช่วยแนะนำแบบให้หน่อย ผมก็สร้างกลุ่มไลน์เพื่อให้ทีมงานเข้ามาช่วยดูแลตามปกติ แต่มิจฉาชีพคนนี้ไม่ยอมเข้ากลุ่ม ยืนยันจะคุยกับผมส่วนตัวเท่านั้น
เขาทำทีเป็นลูกค้าจริงๆ มีการส่งขนาดผ้าม่านมาให้เพื่อขอใบเสนอราคา ผมก็ทำและส่งไปให้ตามขั้นตอน จากนั้นเขาแจ้งว่าเดี๋ยวฝ่ายการเงินจะโอนเงินให้แล้วจะส่งสลิปมา
ข้อสังเกต: ตลอดการติดต่อ เขาจะไม่ยอมคุยโทรศัพท์ปกติเลย (ยกเว้นสายแรกที่โทรเข้ามา) แต่จะคุยผ่าน Line Call เท่านั้น
เหยื่อล่อก้อนโต (14 กันยายน)
วันต่อมา เขาก็ยังติดต่อมา สร้างความน่าเชื่อถือต่อ มีการขอเฉดสีผ้าม่านเพื่อให้ ผอ. โรงเรียนเลือก ผมก็ส่งรูปตัวอย่างไปให้ เขาก็คอนเฟิร์มสีกลับมา และนัดวันติดตั้งเรียบร้อย โดยนัดให้เราเข้าไปวัดหน้างานจริงในวันพุธนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี
จากนั้น มิจฉาชีพเริ่มเข้าเรื่อง สอบถามว่าทางโรงเรียนกำลังหาซื้อโต๊ะเก้าอี้จำนวน 120 ชุด ไม่ทราบว่าผมพอมีเจ้าแนะนำไหม ผมเลยส่งคอนแทคของพี่ที่รู้จักที่เป็นเจ้าของโรงงานไปให้
สักพักเขาโทรกลับมา บอกว่าสั่งผลิตไม่ทัน ต้องใช้ด่วนภายในวันอังคาร แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องดราม่าว่า จริงๆ มีโรงงานที่สั่งประจำ แต่เกิดปัญหาชู้สาวระหว่างเจ้าของโรงงานกับพัสดุคนเก่า ทำให้ภรรยาเจ้าของโรงงานแบน ไม่ยอมขายให้โรงเรียนนี้เด็ดขาด เลยอยากให้ผมช่วยเป็น "ตัวกลาง" ในการสั่งซื้อให้หน่อย พร้อมส่งคอนแทคโรงงานนั้น (ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน) มาให้ผมติดต่อไป
ยอมรับว่าตอนนั้นผมก็เอะใจว่ามันแปลกๆ แต่ก็ลองประสานงานดู มิจฉาชีพบอกว่าปกติซื้อในราคาชุดละ 2,990 บาท + ค่าขนส่ง 200 บาท = 3,100 บาท (ตามที่เขาแจ้ง) แต่ให้ผมเสนอราคาไปที่ 3,300 บาทได้เลย ถือเป็นค่าดำเนินการ
พอผมติดต่อโรงงานที่เขาให้มา ทางนั้นแจ้งว่ามีของพร้อมส่ง และให้ราคาส่งผมที่ชุดละ 2,490 บาท... ตอนนั้นผมเริ่มคำนวณในใจทันที ส่วนต่างตัวละ 810 บาท คูณ 120 ตัว เท่ากับ 97,200 บาท! กำไรเห็นๆ โดยที่เราแค่ประสานงาน คิดในใจว่าสบายเลยทีนี้ ความโลภเริ่มเข้าครอบงำครับ
กับดัก สลิปปลอม และการโอนเงิน
ผมเลยทำใบเสนอราคาชุดโต๊ะให้กับโรงเรียนไป (มูลค่า 396,000 บาท) พร้อมแจ้งไปว่าถ้าต้องการให้ส่งภายในวันนี้ก่อน 16:00 น. ต้องชำระค่าสินค้า 100% ก่อน
ทางนั้นบอกไม่มีปัญหา เดี๋ยวให้การเงินโอนให้เลยพร้อมค่าผ้าม่าน สักพักก็ส่งสลิปยอด 442,652 บาทมา เป็นสลิป SCB ที่บอกเลยว่าเหมือนของจริงเป๊ะมาก ทั้งแบบฟอร์มและตัวเลข (เพราะบริษัทผมก็ใช้ SCB)
ความผิดปกติแรกคือ พอเช็คยอดในแอปฯ SCB Anywhere กลับพบว่าเงินไม่เข้า ผมเริ่มหาข้อมูลและคิดไปเองว่าอาจเป็นความล่าช้าของระบบ พอถามกลับไป มิจฉาชีพก็อ้างว่าวันนี้วันอาทิตย์ ต้องรอเงินเคลียร์ริ่งประมาณ 4 ชั่วโมง
ผมเลยโทรไปบอกทางโรงเรียนว่าเงินยังไม่เข้า ทำให้ผมไม่มีเงินไปมัดจำค่าเฟอร์นิเจอร์ 60% ให้โรงงาน (ซึ่งโรงงานอ้างว่าต้องจ่ายก่อนรถถึงจะออกได้) เขาเลยแนะนำให้ผมลองไปต่อรองขอลดค่ามัดจำกับโรงงานดู
ผมติดต่อไปที่โรงงาน ขอลดมัดจำเหลือ 20% (ประมาณ 59,760 บาท) ตอนนั้นเงินในบัญชีไม่พอ ผมเลยโอนไปก่อนเท่าที่มีคือ 30,029 บาท
แต่สักพักโรงงานโทรกลับมา กดดันว่าเป็นการซื้อขายครั้งแรก บัญชีไม่ยอม ต้องมัดจำ 30% (ยอดรวม 89,640 บาท) ถึงจะส่งของให้ได้ ผมบอกว่างั้นค่อยส่งพรุ่งนี้ได้ไหม ไม่มีเงินแล้ว โรงงานก็อ้างว่าขนของขึ้นรถแล้ว ถ้าเอาลงจะเสียเวลาลูกค้าคนอื่นที่พ่วงมาด้วย และพวกเขาจะโดนเจ้านายด่า ด้วยความเกรงใจและยังหวังว่าจะได้งาน ผมเลยตัดสินใจยืมเงินแฟนมาอีก 31,000 บาท โอนส่วนที่เหลือไปจนครบ 30%
ถลำลึกและจุดที่รู้ตัว
เรื่องยังไม่จบครับ สักพักโรงเรียนโทรมาอีก บอกว่า ผอ. อยากสั่งเพิ่มอีก 186 ตัว ไหนๆ จะเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนให้หมดเลย ผมเช็คโรงงานก็บอกมีของพร้อมส่ง โรงเรียนก็คอนเฟิร์มและส่งสลิปปลอมยอดใหม่มาอีก 613,800 บาท
ประเด็นคือผมไม่เหลือเงินไปมัดจำล็อตใหม่แล้ว และเริ่มเอะใจหนักขึ้นเรื่อยๆ เลยลองไปค้นข้อมูลใน Pantip เกี่ยวกับการหลอกซื้อของเข้าโรงเรียน เพราะเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง... เท่านั้นแหละครับ เป๊ะเลย! เรื่องราวเหมือนกันทุกอย่าง
ผมตัดสินใจโทรหาลูกค้า บอกว่าขอเข้าไปเจอที่โรงเรียนหน่อยได้ไหม เขาก็ยินดี บอกให้แอดไลน์หัวหน้า หัวหน้าก็บอกให้มาเจอที่ตึกนานาชาติได้เลย ผมขับรถไปที่โรงเรียนตอน 6 โมงเย็นทันที
พอไปถึง โรงเรียนเงียบมาก สอบถามเจ้าหน้าที่ดูก็ได้ความว่า "อ๋อ ครูคนนี้กลับไปตั้งแต่เที่ยงแล้วครับ รถไม่อยู่" ตอนนั้นรู้เลยว่าโดนเข้าเต็มๆ แล้วครับ
หลังจากนั้น ผมลองโทรไปหาโรงงานโดยใช้เบอร์กลางของบริษัท (ไม่ใช่เบอร์ที่มิจฉาชีพให้มา) เฮียเจ้าของตัวจริงรับสายและบอกว่าวันนี้โรงงานปิด เฮียยังเตือนด้วยว่าช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดหนักมาก วันนี้มีคนโทรหาเฮียเกือบ 10 สาย โดนแบบเดียวกันหมด ผมเลยบอกเฮียไปว่าผมก็เพิ่งโดนไปเรียบร้อย เฮียเลยให้รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความ เพราะทำให้บริษัทเฮียเสื่อมเสียชื่อเสียง
บทเรียนจากความโลภ
อุทาหรณ์ครั้งนี้คือ "ความโลภ" ครับ มิจฉาชีพจ้องเล่นงาน SME ขนาดเล็ก เพราะรู้ว่าเงินหลักหมื่นหลักแสนเราพอหามาหมุนได้ และเป็นกำไรที่มากพอจะล่อใจ โดยเฉพาะในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ที่เงินหายากมากสำหรับเจ้าของบริษัท
ปกติผมเป็นคนรู้ทันมิจฉาชีพมาตลอด พวกสลิปปลอม บัญชีปลอม ไม่เคยหลอกผมได้เลย แต่พอความโลภเข้าตา มันทำให้เรามองข้ามจุดผิดสังเกตหลายๆ อย่างไป และพร้อมที่จะพลาดได้ทันที
เลยอยากมาเตือนภัยว่า หากมีโปรเจกต์ลักษณะนี้เข้ามา ให้เช็คโดยตรงกับทางโรงเรียน และเช็คกับทางโรงงานต้นทางก่อนทุกครั้งว่ามีอยู่จริงหรือไม่ และที่สำคัญ เช็คชื่อบัญชีก่อนทำธุรกรรมทุกครั้งนะครับ
ฝากช่วยกันแชร์เพื่อเตือนภัยเจ้าของธุรกิจด้วยกันหน่อยนะครับ ผมเดือดร้อนมาก และไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่อแบบที่ผมโดนครับ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่