ตลาดหุ้นมันขึ้นแล้วมันก็ลง มันลงแล้วมันก็ขึ้น
ระหว่างขึ้นขา S เค้าก็จะนิ่งๆ ไม่ดิ้น กำเงินรอจังหวะลง
ระหว่างลง ขา L เค้าก็จะนิ่งๆ ไม่ดิ้น กำเงินรอจังหวะขึ้น
แต่ใครจะดูจังหวะเป็น มันก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และ ความชำนาญที่ฝึกฝนกันมา วันหนึ่งๆมันก็มีทั้ง
คนที่กำไร และ ขาดทุน ซึ่งโดยปกติ คนขาดทุนจะมากกว่าคนกำไร (เค้าว่ากันไว้ในตลาด)
ยิ่งในช่วงที่ขาลงยาวๆ ก็จะมีคนออกมาแช่ง ออกมาโชว์ว่าอ่านตลาดขาด (เหตุผล 108 ประการ) และ
ยิ่งในช่วงที่ขาขึ้นยาวๆ ก็จะมีคนออกมาเชียร์ ออกมาโชว์ว่าอ่านตลาดขาด (เหตุผล 180 ประการ) ด้วย
ดังนั้น "มือใหม่" อย่างผมและท่านมือใหม่ทั้งหลาย ควรต้องเตือนตัวเองไว้ตลอดว่า "อย่าโลภ" คือ ถ้า
ขึ้นรถไม่ทันให้หยุดรอ หาอะไรทำไปพลางๆ เช่น หาเหตุผลหรือแนวระดับราคาหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจ
อย่าซื้อไล่ราคา โดยไม่รู้ หรือ ไม่เข้าใจในหุ้นตัวนั้นๆ เกินกว่า 10% เพราะนั่นหมายถึงการติดดอยยาว
บางครั้งท่านอาจจะเป็นพอร์ทของบางคนที่โชว์กำไร เป็น 1000% แต่หากท่านไปซื้อตอนนั้น ท่านอาจ
จะขาดทุนเกือบ 100% นั่นเป็นเพราะราคามันขึ้นไปเกือบติดเพดาน และแม้มันจะขึ้นมันก็คงไม่ขึ้นเป็น
100% อย่างที่ท่านอยากให้เป็นหรอก เพราะราคาสูงมากๆ มันก็ขาดความคล่อง เจ้ามือเค้าไม่ชอบนะ
แต่หากท่านเข้าใจในกลไกของราคาของหุ้น แม้วันนี้ตัวหุ้นที่อยู่ในตลาดจะมีราคาต่ำกว่าราคาที่ผ่านมา
แล้วท่านซื้อมันเก็บไว้อย่างเข้าใจ วันข้างหน้าท่านอาจจะเป็นคนที่นั่งอยู่บนรถ คันใหม่ คันที่คนเคยอยู่
ในรถคันที่ท่านขึ้นไม่ทัน "ยืนมองท่านอย่างอิจฉา" ก็เป็นได้นะ
"อย่าตื่นเต้น กับหุ้นที่ขึ้นไปแรงๆแล้วท่านไม่ได้ซื้อไว้ อย่านั่งคิดไปเองว่า ถ้าซื้อวันนั้นท่านจะกำไร
เท่าไหร่" ซื้อไม่ทันก็นั่งทำความเข้าใจว่าทำไมหุ้นตัวนั้นถึงได้ขึ้นแรง
ตลาดปัจจุบันมันแฝงไว้ด้วย ราคาหุ้นที่ เก็งขึ้นเก็งลง ด้วยเป้าหมายในอัตราผลกำไร มากกว่า ทฤษฎี
ของ Demand และ Supply มากกว่า ข่าวดีและข่าวร้าย มากกว่า กราฟที่สู้อุตส่าห์ไปเสียเงินเข้าคอร์ส
เรียนมา "ตลาดหุ้น" มันมีกลไกของการ "กินกองใหญ่ จ่ายกองเล็ก"
มือใหม๋อย่างผมและท่านทั้งหลาย ต้องตั้งสติและพึงพิจารณาให้ดี "อย่าคิดไปเองว่าจะกำไร อย่ากลัวตก
รถ เพราะการกลัวตกรถนี่ล่ะ ที่ทำให้ใครหลายๆคน เสียโอกาสกับรถคันใหม่ คันงาม คันที่ปลอดภัยมา
นักต่อนักแล้ว" 555
เรียนรู้จากพี่ๆ ขา S และ ขา L ในห้องสินธรหลายๆท่านดูนะครับ
หุ้นขึ้นยาวๆ ขา S เค้าจะนิ่งๆมากๆ กำเงินสดรอ หรือ หันไปเป็น ขา L และ
หุ้นลงยาวๆ ขา L เค้าจะนิ่งๆมากๆ กำเงินสดรอ หรือ หันไปเป็น ขา S ไม่ดิ้นเลยครับ
เรียนรู้จากเซียน ไม่ใช่เรียนแบบเซียน เพราะ "ตลาดหุ้นต้องการรูปแบบการเล่นที่เป็นเฉพาะตนเองเท่านั้น"
ปล. กระทู้จาก มือใหม่ในตลาดที่เคยเจ็บมาในตลาด หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ
ช่วงไหน ขา S นิ่ง ช่วงไหน ขา L นิ่ง มือใหม่รู้ไว้ อย่ากลัวตกรถ
ระหว่างขึ้นขา S เค้าก็จะนิ่งๆ ไม่ดิ้น กำเงินรอจังหวะลง
ระหว่างลง ขา L เค้าก็จะนิ่งๆ ไม่ดิ้น กำเงินรอจังหวะขึ้น
แต่ใครจะดูจังหวะเป็น มันก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และ ความชำนาญที่ฝึกฝนกันมา วันหนึ่งๆมันก็มีทั้ง
คนที่กำไร และ ขาดทุน ซึ่งโดยปกติ คนขาดทุนจะมากกว่าคนกำไร (เค้าว่ากันไว้ในตลาด)
ยิ่งในช่วงที่ขาลงยาวๆ ก็จะมีคนออกมาแช่ง ออกมาโชว์ว่าอ่านตลาดขาด (เหตุผล 108 ประการ) และ
ยิ่งในช่วงที่ขาขึ้นยาวๆ ก็จะมีคนออกมาเชียร์ ออกมาโชว์ว่าอ่านตลาดขาด (เหตุผล 180 ประการ) ด้วย
ดังนั้น "มือใหม่" อย่างผมและท่านมือใหม่ทั้งหลาย ควรต้องเตือนตัวเองไว้ตลอดว่า "อย่าโลภ" คือ ถ้า
ขึ้นรถไม่ทันให้หยุดรอ หาอะไรทำไปพลางๆ เช่น หาเหตุผลหรือแนวระดับราคาหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจ
อย่าซื้อไล่ราคา โดยไม่รู้ หรือ ไม่เข้าใจในหุ้นตัวนั้นๆ เกินกว่า 10% เพราะนั่นหมายถึงการติดดอยยาว
บางครั้งท่านอาจจะเป็นพอร์ทของบางคนที่โชว์กำไร เป็น 1000% แต่หากท่านไปซื้อตอนนั้น ท่านอาจ
จะขาดทุนเกือบ 100% นั่นเป็นเพราะราคามันขึ้นไปเกือบติดเพดาน และแม้มันจะขึ้นมันก็คงไม่ขึ้นเป็น
100% อย่างที่ท่านอยากให้เป็นหรอก เพราะราคาสูงมากๆ มันก็ขาดความคล่อง เจ้ามือเค้าไม่ชอบนะ
แต่หากท่านเข้าใจในกลไกของราคาของหุ้น แม้วันนี้ตัวหุ้นที่อยู่ในตลาดจะมีราคาต่ำกว่าราคาที่ผ่านมา
แล้วท่านซื้อมันเก็บไว้อย่างเข้าใจ วันข้างหน้าท่านอาจจะเป็นคนที่นั่งอยู่บนรถ คันใหม่ คันที่คนเคยอยู่
ในรถคันที่ท่านขึ้นไม่ทัน "ยืนมองท่านอย่างอิจฉา" ก็เป็นได้นะ
"อย่าตื่นเต้น กับหุ้นที่ขึ้นไปแรงๆแล้วท่านไม่ได้ซื้อไว้ อย่านั่งคิดไปเองว่า ถ้าซื้อวันนั้นท่านจะกำไร
เท่าไหร่" ซื้อไม่ทันก็นั่งทำความเข้าใจว่าทำไมหุ้นตัวนั้นถึงได้ขึ้นแรง
ตลาดปัจจุบันมันแฝงไว้ด้วย ราคาหุ้นที่ เก็งขึ้นเก็งลง ด้วยเป้าหมายในอัตราผลกำไร มากกว่า ทฤษฎี
ของ Demand และ Supply มากกว่า ข่าวดีและข่าวร้าย มากกว่า กราฟที่สู้อุตส่าห์ไปเสียเงินเข้าคอร์ส
เรียนมา "ตลาดหุ้น" มันมีกลไกของการ "กินกองใหญ่ จ่ายกองเล็ก"
มือใหม๋อย่างผมและท่านทั้งหลาย ต้องตั้งสติและพึงพิจารณาให้ดี "อย่าคิดไปเองว่าจะกำไร อย่ากลัวตก
รถ เพราะการกลัวตกรถนี่ล่ะ ที่ทำให้ใครหลายๆคน เสียโอกาสกับรถคันใหม่ คันงาม คันที่ปลอดภัยมา
นักต่อนักแล้ว" 555
เรียนรู้จากพี่ๆ ขา S และ ขา L ในห้องสินธรหลายๆท่านดูนะครับ
หุ้นขึ้นยาวๆ ขา S เค้าจะนิ่งๆมากๆ กำเงินสดรอ หรือ หันไปเป็น ขา L และ
หุ้นลงยาวๆ ขา L เค้าจะนิ่งๆมากๆ กำเงินสดรอ หรือ หันไปเป็น ขา S ไม่ดิ้นเลยครับ
เรียนรู้จากเซียน ไม่ใช่เรียนแบบเซียน เพราะ "ตลาดหุ้นต้องการรูปแบบการเล่นที่เป็นเฉพาะตนเองเท่านั้น"
ปล. กระทู้จาก มือใหม่ในตลาดที่เคยเจ็บมาในตลาด หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ