ประสบการณ์กลืนแร่รักษาไทรอยด์ อัพเดทล่าสุดปี 62
สวัสดีค่าทุกๆคน ขอแทนตัวเองว่า"เรา"นะคะเพื่อความสะดวกในการเขียนกระทู้ เราอายุ17ปีนะคะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์รักษาไฮเปอร์ไทรอยด์ด้วยการกลืนแร้รังสีไอโอดีนที่โรงพยาบาลจุฬานะคะ เนื่องจากก่อนกลืนก็กังวลต่างๆนาๆ อ่านกระทู้แต่ละกระทู้ข้อมูลก็ไม่ค่อยเหมือนกันวันนี้เลยจะมาอัพเดตล่าสุดในปีนี้ให้ฟังกันค่ะ
กระทู้นี้เขียนยาวนิดนึงนะคะเราอยากเล่าแบบละเอียดๆให้ฟัง
ก่อนหน้านี้เรารักษาโรคด้วยการกินยาประมาณ 2 ปีครึ่ง โดยตอนแรกเรารักษาที่ รพ อื่นแต่ผลเลือดไม่ดีขึ้น เลยย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาค่ะ คุณหมอของเราน่ารักและใจดีมากๆและยังใส่ใจคนไข้แบบเรามากๆค่ะ ก็รักษาแบบกินยาที่จุฬามาเกือบ2ปีได้ ผลเลือดเราก็ปกติตลอด แต่ปัญหาของเราคือต่อมของเรานั้นใหญ่ไม่ยุบคุณหมอเลยแนะนำให้ไปกลืนแร่ ตอนแรกเราก็สงสัยว่าผลเลือดเราก็ดีแล้วทำไมเราไม่ลองหยุดยาอาจจะหายเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นรู้เลยค่ะ พอหมอสั่งให้หยุดยาก่อนกลืนแร่7วัน อาการเดิมๆนั้นกลับมาหมดเลย ใจสั่น เหนื่อยง่าย เลยรู้ว่าเรายังไม่หายขาด
โอเคมาถึงขั้นตอนการกลืนแร่ที่จุฬาค่ะ หลังจากคุณหมอสั่งให้กลืนแร่เราก็จะมีใบส่งตัวมาที่แผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตึกภูมิสิริ ชั้น3 เราก็นำใบนั้นมายื่นเขาก็จะให้เราเข้าไปคุยกับพี่พยาบาล ก็จะแนะนำการเตรียมตัวก็จะมีงดไอโอดีน 7 วัน รวมถึงพวก นม ขนม อาหารทะเล ซึ่งที่นี่จะมีใบแนะนำว่ากินอะไรไม่ได้บ้างและก็มีชื่อเมนูอาหารแนะนำให้เราไปทำกินเองค่ะ
ที่นี่มีเกลือแบบไม่มีไอโอดีนจัดจำหน่ายด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมากนะคะยังมีซอสเครื่องปรุงที่ไม่มีไอโอดีนซึ่งพี่พยาบาลจะแนะนำให้ค่ะ ยาแก้ใจสั่นสามารถทานได้ตลอดการรักษานะคะ หลังจากนั้นเราต้องไปตรวจครรภ์ค่ะ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ต้องตรวจนะคะ(ใครมีครรภ์อยู่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้เนื่องจากอันตรายกับเด็กในท้องค่ะ) แต่เราประจำเดือนมาพอดีเลยไม่ต้องตรวจ ต้องตรวจครรภ์ก่อน3วันที่กลืนแร่จริงนะคะ
มาที่วันแรกของการกลืนแร่ค่ะ นำใบนัดไปยื่นแล้วพี่พยาบาลก็เรียกไปเจาะเลือดและเข้าห้องไปกลืนแร่ในจำนวนที่น้อยมากๆ ตอนทานเข้าไปนี่ก็เอ้าเสร็จแล้วเหรอเห็นบางคนบอกมีรสชาติปะแล่มๆ ไหงเหมือนน้ำเปล่าเลย5555 แล้วเขาก็จะใส่น้ำเปล่าให้เราอีกทีค่ะเพื่อให้ไม่มีที่ตกค้างในขวด หลังจากนั้นก็เข้าห้องพบหมอซักประวัติ และรอ 3 ชม.เพื่อมาวัดรังสีที่คอ ตอนวัดรังสีก็นอนเฉยๆประมาณ3นาทีได้ค่ะเขาก็จะเอาเครื่องมาวัด เสร็จแล้วค่ะสำหรับวันแรก
วันที่สองมาถึงก็ไปเข้าห้องวัดรังสีที่คอ และก็เข้าพบหมอเพื่อคำนวนอัตราส่วนของแร่ที่ต้องกลืนค่ะ ของเราต้องกลืนเยอะพอสมควรเพราะต่อมของเราโต หลังพบหมอก็ต้องไปชำระเงินก่อนกลืนแร่นะคะโดยที่เขาจะมีใบประเมินค่าใช้จ่ายมาให้ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4,500บาท แต่ค่าใช้จ่ายจริงของเราอยู่ที่ 4,000 ค่ะ (ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับจำนวนแร่ที่เราต้องใช้กลืนนะคะ ถ้ากลืนน้อยกว่านี้ค่าใช้จ่ายจะถูกลงค่ะ) แต่เราใช้สิทธิครอบครัวข้าราชการทำให้ไม่เสียเงินซักบาทค่ะ เบิกจ่ายตรงได้เลย รู้สึกว่าประกันสังคมก็ใช้สิทธิได้นะคะโดยเขาจะมีให้ไปเอาใบคูปองถ้าใครใช้ลองสอบถามที่พี่พยาบาลได้เลยค่ะจ่ายเงินเสร็จเอาใบเสร็จไปยื่นนั่งรอซักพักเขาก็พาเข้าห้องไปกลืนจริงค่ะ ในห้องก็จะมีฉากเหล็กกั้นโดยที่เจ้าหน้าที่ก็ส่งแร่ให้เราผ่านฉากเหล็ก ขวดเล็กมากไม่ใหญ่เลยค่ะ ประมาณอึกนึงได้ โดยจะมีที่หุ้มเหล็กเคลือบมาอีกที หลังจากนั้นก็ใส่น้ำเปล่าให้เราดูดอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ กลับบ้านได้ เย่
อยากจะบอกว่ากลืนแร่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ วิธีการตรวจก็ไม่เจ็บตัว เจ็บสุดแค่ตอนเจาะเลือดค่ะซึ่งก็ไม่เจ็บอีกนั่นแหละ55555 หลัง7วันนี้ก็อยู่ห่างคนอื่น,แยกห้องนอน,งดไอโอดีน กลืนเสร็จมีเมื่อยๆตัวบ้างค่ะ กลับมาบ้านก็หลับยาวๆเลย สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำโรงพยาบาลจุฬาค่ะ เวลามาแต่ละทีก็มาง่ายค่ะ นั่งรถ bts,mrt มาได้หมด การกลืนแร่ก็ไม่ลำบากต้องเดินไปห้องนู้นนี้ ทุกอย่างทำเสร็จภายในแผนกเดียวเลย เนื่องจากเราเคยไปที่ รพ อีกที่กว่าจะได้กลืนต้องไปตึกนู่นนี่ เขาแยกกันไม่เป็นสัดส่วนเลยตัดสินใจไม่รักษาที่นั่นเลย คนก็เยอะมากๆแถมพยาบาลก็พูดไม่ค่อยโอเคเท่าไร แต่ที่จุฬาพี่ๆทุกคนน่ารักมากๆค่ะ คนไม่เยอะมาก ส่วนการหาหมอเราหาที่คลีนิคพิเศษนอกเวลานะคะ ค่าใช้จ่ายแพงกว่าในเวลาแต่คนไม่เยอะมากค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่สู้กับโรคนี้อยู่นะคะ ไม่ต้องเครียด โรคของเราไม่ได้ร้ายแรงมาก
เราจะมาคอยอัพเดตอาการหลังกลืนให้เรื่อยๆนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ ใครมีคำถามอะไรทักมาหลังไมค์ได้เลยนะคะ
ประสบการณ์กลืนแร่รักษาไทรอยด์ อัพเดทล่าสุดปี 62
กระทู้นี้เขียนยาวนิดนึงนะคะเราอยากเล่าแบบละเอียดๆให้ฟัง
ก่อนหน้านี้เรารักษาโรคด้วยการกินยาประมาณ 2 ปีครึ่ง โดยตอนแรกเรารักษาที่ รพ อื่นแต่ผลเลือดไม่ดีขึ้น เลยย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาค่ะ คุณหมอของเราน่ารักและใจดีมากๆและยังใส่ใจคนไข้แบบเรามากๆค่ะ ก็รักษาแบบกินยาที่จุฬามาเกือบ2ปีได้ ผลเลือดเราก็ปกติตลอด แต่ปัญหาของเราคือต่อมของเรานั้นใหญ่ไม่ยุบคุณหมอเลยแนะนำให้ไปกลืนแร่ ตอนแรกเราก็สงสัยว่าผลเลือดเราก็ดีแล้วทำไมเราไม่ลองหยุดยาอาจจะหายเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นรู้เลยค่ะ พอหมอสั่งให้หยุดยาก่อนกลืนแร่7วัน อาการเดิมๆนั้นกลับมาหมดเลย ใจสั่น เหนื่อยง่าย เลยรู้ว่าเรายังไม่หายขาด
โอเคมาถึงขั้นตอนการกลืนแร่ที่จุฬาค่ะ หลังจากคุณหมอสั่งให้กลืนแร่เราก็จะมีใบส่งตัวมาที่แผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตึกภูมิสิริ ชั้น3 เราก็นำใบนั้นมายื่นเขาก็จะให้เราเข้าไปคุยกับพี่พยาบาล ก็จะแนะนำการเตรียมตัวก็จะมีงดไอโอดีน 7 วัน รวมถึงพวก นม ขนม อาหารทะเล ซึ่งที่นี่จะมีใบแนะนำว่ากินอะไรไม่ได้บ้างและก็มีชื่อเมนูอาหารแนะนำให้เราไปทำกินเองค่ะ
ที่นี่มีเกลือแบบไม่มีไอโอดีนจัดจำหน่ายด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมากนะคะยังมีซอสเครื่องปรุงที่ไม่มีไอโอดีนซึ่งพี่พยาบาลจะแนะนำให้ค่ะ ยาแก้ใจสั่นสามารถทานได้ตลอดการรักษานะคะ หลังจากนั้นเราต้องไปตรวจครรภ์ค่ะ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ต้องตรวจนะคะ(ใครมีครรภ์อยู่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้เนื่องจากอันตรายกับเด็กในท้องค่ะ) แต่เราประจำเดือนมาพอดีเลยไม่ต้องตรวจ ต้องตรวจครรภ์ก่อน3วันที่กลืนแร่จริงนะคะ
มาที่วันแรกของการกลืนแร่ค่ะ นำใบนัดไปยื่นแล้วพี่พยาบาลก็เรียกไปเจาะเลือดและเข้าห้องไปกลืนแร่ในจำนวนที่น้อยมากๆ ตอนทานเข้าไปนี่ก็เอ้าเสร็จแล้วเหรอเห็นบางคนบอกมีรสชาติปะแล่มๆ ไหงเหมือนน้ำเปล่าเลย5555 แล้วเขาก็จะใส่น้ำเปล่าให้เราอีกทีค่ะเพื่อให้ไม่มีที่ตกค้างในขวด หลังจากนั้นก็เข้าห้องพบหมอซักประวัติ และรอ 3 ชม.เพื่อมาวัดรังสีที่คอ ตอนวัดรังสีก็นอนเฉยๆประมาณ3นาทีได้ค่ะเขาก็จะเอาเครื่องมาวัด เสร็จแล้วค่ะสำหรับวันแรก
วันที่สองมาถึงก็ไปเข้าห้องวัดรังสีที่คอ และก็เข้าพบหมอเพื่อคำนวนอัตราส่วนของแร่ที่ต้องกลืนค่ะ ของเราต้องกลืนเยอะพอสมควรเพราะต่อมของเราโต หลังพบหมอก็ต้องไปชำระเงินก่อนกลืนแร่นะคะโดยที่เขาจะมีใบประเมินค่าใช้จ่ายมาให้ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4,500บาท แต่ค่าใช้จ่ายจริงของเราอยู่ที่ 4,000 ค่ะ (ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับจำนวนแร่ที่เราต้องใช้กลืนนะคะ ถ้ากลืนน้อยกว่านี้ค่าใช้จ่ายจะถูกลงค่ะ) แต่เราใช้สิทธิครอบครัวข้าราชการทำให้ไม่เสียเงินซักบาทค่ะ เบิกจ่ายตรงได้เลย รู้สึกว่าประกันสังคมก็ใช้สิทธิได้นะคะโดยเขาจะมีให้ไปเอาใบคูปองถ้าใครใช้ลองสอบถามที่พี่พยาบาลได้เลยค่ะจ่ายเงินเสร็จเอาใบเสร็จไปยื่นนั่งรอซักพักเขาก็พาเข้าห้องไปกลืนจริงค่ะ ในห้องก็จะมีฉากเหล็กกั้นโดยที่เจ้าหน้าที่ก็ส่งแร่ให้เราผ่านฉากเหล็ก ขวดเล็กมากไม่ใหญ่เลยค่ะ ประมาณอึกนึงได้ โดยจะมีที่หุ้มเหล็กเคลือบมาอีกที หลังจากนั้นก็ใส่น้ำเปล่าให้เราดูดอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ กลับบ้านได้ เย่
อยากจะบอกว่ากลืนแร่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ วิธีการตรวจก็ไม่เจ็บตัว เจ็บสุดแค่ตอนเจาะเลือดค่ะซึ่งก็ไม่เจ็บอีกนั่นแหละ55555 หลัง7วันนี้ก็อยู่ห่างคนอื่น,แยกห้องนอน,งดไอโอดีน กลืนเสร็จมีเมื่อยๆตัวบ้างค่ะ กลับมาบ้านก็หลับยาวๆเลย สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำโรงพยาบาลจุฬาค่ะ เวลามาแต่ละทีก็มาง่ายค่ะ นั่งรถ bts,mrt มาได้หมด การกลืนแร่ก็ไม่ลำบากต้องเดินไปห้องนู้นนี้ ทุกอย่างทำเสร็จภายในแผนกเดียวเลย เนื่องจากเราเคยไปที่ รพ อีกที่กว่าจะได้กลืนต้องไปตึกนู่นนี่ เขาแยกกันไม่เป็นสัดส่วนเลยตัดสินใจไม่รักษาที่นั่นเลย คนก็เยอะมากๆแถมพยาบาลก็พูดไม่ค่อยโอเคเท่าไร แต่ที่จุฬาพี่ๆทุกคนน่ารักมากๆค่ะ คนไม่เยอะมาก ส่วนการหาหมอเราหาที่คลีนิคพิเศษนอกเวลานะคะ ค่าใช้จ่ายแพงกว่าในเวลาแต่คนไม่เยอะมากค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่สู้กับโรคนี้อยู่นะคะ ไม่ต้องเครียด โรคของเราไม่ได้ร้ายแรงมาก
เราจะมาคอยอัพเดตอาการหลังกลืนให้เรื่อยๆนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ ใครมีคำถามอะไรทักมาหลังไมค์ได้เลยนะคะ