ท้าวความก่อนนะครับ ปัจจุบันผมอายุ 36 ปี ตรวจเจอว่าเป็นโรคหัวใจประมาณ 14 ปีก่อนหลังจากเรียนจบ ป.ตรี ตอนจะไปเรียนภาษาต่อที่เมืองจีน จะต้องไปตรวจสุขภาพเพื่อไปขอ Visa แล้วก็ตรวจเจอในตอนนั้น หมอแจ้งว่ากล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ในตอนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอาการอะไร สุดท้ายก็ต้องเลื่อนการไปเรียนภาษาประมาณครึ่งปีเพื่อตรวจติดตามอาการ
ในช่วง 10 กว่าปีหลังจากนั้นอาการก็เริ่มแสดงออกมาเป็นพักๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะจนต้องไปจี้ไฟฟ้าหัวใจ น้ำท่วมปอด ไปจนถึงหัวใจทำงานผิดปกติอย่างรุนแรงจนต้องขอเครื่องบินฉุกเฉินเพื่อไปผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกหัวใจที่รพ.จุฬา ซึ่งครั้งนั้นเป็นประสบการณ์เฉียดตายจากโรคหัวใจครั้งแรก
หลังจากรักษาตัวจนดีขึ้นก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็ต้องไปตรวจติดตามอาการทุกๆ 2 เดือน ซึ่งค่า EF (ค่าการทำงานของหัวใจ) ในช่วงนั้นก็ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งคนปกติจะประมาณ 50% ขึ้นไป ของผมอยู่ที่ประมาณ 30 ปลายๆ และก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดหมอก็ได้คุยเกี่ยวกับการเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งดูแนวโน้มในตอนนั้นแล้วเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ ตอนที่ได้ฟังก็จิตตกไปพักใหญ่ๆเหมือนกัน ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างทำไมต้องเป็นเรา
หลังจากนั้นชื่อผมก็ถูกบรรจุเข้าไปใน List ของผู้รับบริจาค แต่ยังไม่ได้เป็นระดับ Priority เพราะอาการยังไม่ได้หนักมาก ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง คืนวันที่ 13 ธ.ค.2560 เวลาประมาณสองทุ่มกว่า ก็มีคนโทรเข้ามาที่มือถือ เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก แต่ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าอาจจะเป็นเรื่องเปลี่ยนหัวใจนี่แหละ ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริงๆ ปลายสายแจ้งมาว่าได้หัวใจที่ match กับผมแล้ว พร้อมจะเข้าไปที่ รพ.เพื่อผ่าตัดไหม ตอนนั้นเรียกว่าตั้งตัวไม่ทัน
ตอบอะไรไปบ้างก็จำไม่ได้ สุดท้ายก็โทรไปถามหมอประจำตัวว่าต้องเข้าไปภายในกี่ชั่วโมงถึงจะทันเวลา จะได้คำนวณถูกว่าจะต้องไปเลยหรือรอขึ้นเครื่องบินไปรอบเช้า หมอบอกว่าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เลยตัดสินใจขับรถจากต่างจังหวัดไปกทม.คืนนั้นเลย
ไปถึง รพ.จฬาประมาณตี 3 ก็เข้าไปติดต่อศูนย์ปลูกถ่ายหัวใจ ก็ไปเปลี่ยนชุดก่อนถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดพ่อแม่ก็อวยพรให้ ผมก็บอกกับแฟนที่ตอนนั้นท้อง 4 เดือนว่าเข้าไปแป๊บเดียว ออกมาก็เกิดเป็นคนใหม่ที่แข็งแรงแล้วนะ ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร คิดแค่ว่าเดี๋ยวนี้หมอเก่ง ใครๆเขาก็ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจกันแล้วก็หายดี
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด ทีมหมอ พยาบาลก็เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนหัวใจ เจาะเส้นเลือด ติดสายวัดต่างๆ จนสุดท้ายวิสัญญีแพทย์ก็ให้ดมยาสลบ หมอนับ 1 2 3 พอ 3 ปุ๊บก็หลับไปแบบไม่รู้ตัวเลย
ทีนี้ในช่วงที่สลบไปไม่รู้เป็นช่วงที่ผ่าตัดอยู่หรือหลังผ่าตัดเสร็จแล้ว ผมฝันว่านั่งอยู่ในห้องๆหนึ่งกับผุ้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในฝันนั้นรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของแฟน แต่หน้าตาไม่ใช่ แล้วเขาก็เปิดวีดีโอให้ดู ในวีดีโอเป็นภาพแฟนผม ระหว่างที่ดูไปผู้ชายคนนั้นก็ได้บอกว่าแฟนผมไม่อยู่แล้ว ผมต้องเลี้ยงลูกคนเดียว นั่งดูไปสักพักก็เหมือนผมตื่นมา ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นมาจริงๆหรือฝันว่าตื่นมา รู้แค่ว่าได้ยินเสียงคนคุยกันแล้วก็มาเปิดตาแล้วบอกว่าหยอดตาหน่อยนะคะ ไม่ให้ตาแห้ง ซักพักก็หลับไปอีกแล้วก็ฝันเหมือนเดิม นั่งในห้องกับพ่อแฟน ดูวีดีโอ แล้วก็ตื่นมามีคนมาหยอดตา วนอยุ่แบบนี้ประมาณ 3 รอบได้จนถึงรอบที่ 4 รู้ตัวแล้วว่าหลังจากหยอดตา ถ้าหลับตาลงไปอีกก็จะฝันวนไปเรื่อยๆ เลยฝืนลืมตาไว้สักพัก จนได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า คนไข้ลืมตาแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็เห็นหมอเข้ามาดูอาการแล้วก็บอกว่าผมหลับไป 1 อาทิตย์ พอเริ่มตั้งสติได้ก็เห็นสายระโยงรยางค์เต็มตัวไปหมด มีท่ออะไรอยู่ตรงท้องอีก แถมมือกับขาก็ถูกมัดไปกับเตียง ปากก็มีท่อออกซิเจนอยุ่ อยากจะถามหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดก็พูดไม่ได้ พยาบาลเลยเอากระดาษมาให้เขียน ซึ่งตอนนั้นแขนแทบไม่มีแรงเลย ได้แค่วาดรูปหัวใจแล้วชี้ไปที่หน้าอกตัวเองแล้วทำมือ OK ประมาณถามว่าผ่าตัดหัวใจ OK มั้ย นี่คือเปลี่ยนแล้วใช่มั้ย หมอก็บอกว่าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเสร็จแล้ว ให้พักผ่อนซะ
พูดกันตามตรงตอนที่ฟื้นขึ้นมานี่น่าจะยังมึนๆจากฤทธิ์ยาอยู่คือจำได้ว่ามาผ่าตัดแต่จำไม่ได้ว่าทำไมถึงได้มา นอนคิดๆก็สงสัยว่าเพราะเราอาการกำเริบจนต้องส่งมาผ่าตัดด่วนเหรอ กว่าจะนึกออกก็อีกหลายวันให้หลังเลย แถมในช่วงแรกที่ยังมึนๆเมาๆยาอยู่ เหมือนเกิดอาการหลอน นอนโดยมีสายอะไรไม่รู้เต็มตัวไปหมด ท่ออะไรไม่รู้แทงเข้ามาที่ท้อง พูดก็ไม่ได้เพราะมีท่อออกซิเจนในปาก ขยับตัวไม่ค่อยได้เลย รู้สึกทรมาณมาก หลายครั้งมองไปข้างเตียงเห็นเครื่องให้น้ำเกลือหรือให้ยาอะไรสักอย่าง พยายามยื่นมือไปกดปุ่มปิด เห็นอะไรแหลมๆแถวนั้นก็อยากหยิบเอามาแทงตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไมเหมือนกัน
ผ่านไปหลายวันก็มาได้รู้ความจริงว่าการผ่าตัดผ่านมาได้โอเคก็จริง แต่ผลลัพทธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หลังจากปลูกถ่ายหัวใจใหม่เข้าไป หัวใจดวงใหม่ดันไม่ยอมเต้น ทีมหมอก็พยายามกระตุ้น พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ ได้ยินมาว่ามีเวลาแค่ 24 ชม. เท่านั้นที่ต้องทำให้หัวใจกลับมาเต้นให้ได้ ถ้าเกินนั้นก็ไม่รอด ตอนที่ผ่านมาเกิน 20 ชม.แล้ว แฟนมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าหมอออกมาบอกให้ช่วยกันสวดมนต์ และอาจจะต้องทำใจเผื่อไว้ด้วย ตอนนั้นทั้งแฟนทั้งพ่อแม่พี่น้องนี่ทรุดกันเป็นแถว ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น สุดท้ายก็เหมือนปาฏิหาริย์ หัวใจกลับมาเต้นตอนชั่วโมงที่ 22
บอกเล่าประสบการณ์ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ : ความสุข ความทุกข์ โชคชะตาที่ผลิกพัน
ในช่วง 10 กว่าปีหลังจากนั้นอาการก็เริ่มแสดงออกมาเป็นพักๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะจนต้องไปจี้ไฟฟ้าหัวใจ น้ำท่วมปอด ไปจนถึงหัวใจทำงานผิดปกติอย่างรุนแรงจนต้องขอเครื่องบินฉุกเฉินเพื่อไปผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกหัวใจที่รพ.จุฬา ซึ่งครั้งนั้นเป็นประสบการณ์เฉียดตายจากโรคหัวใจครั้งแรก
หลังจากรักษาตัวจนดีขึ้นก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็ต้องไปตรวจติดตามอาการทุกๆ 2 เดือน ซึ่งค่า EF (ค่าการทำงานของหัวใจ) ในช่วงนั้นก็ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งคนปกติจะประมาณ 50% ขึ้นไป ของผมอยู่ที่ประมาณ 30 ปลายๆ และก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดหมอก็ได้คุยเกี่ยวกับการเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งดูแนวโน้มในตอนนั้นแล้วเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ ตอนที่ได้ฟังก็จิตตกไปพักใหญ่ๆเหมือนกัน ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างทำไมต้องเป็นเรา
หลังจากนั้นชื่อผมก็ถูกบรรจุเข้าไปใน List ของผู้รับบริจาค แต่ยังไม่ได้เป็นระดับ Priority เพราะอาการยังไม่ได้หนักมาก ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง คืนวันที่ 13 ธ.ค.2560 เวลาประมาณสองทุ่มกว่า ก็มีคนโทรเข้ามาที่มือถือ เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก แต่ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าอาจจะเป็นเรื่องเปลี่ยนหัวใจนี่แหละ ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริงๆ ปลายสายแจ้งมาว่าได้หัวใจที่ match กับผมแล้ว พร้อมจะเข้าไปที่ รพ.เพื่อผ่าตัดไหม ตอนนั้นเรียกว่าตั้งตัวไม่ทัน
ตอบอะไรไปบ้างก็จำไม่ได้ สุดท้ายก็โทรไปถามหมอประจำตัวว่าต้องเข้าไปภายในกี่ชั่วโมงถึงจะทันเวลา จะได้คำนวณถูกว่าจะต้องไปเลยหรือรอขึ้นเครื่องบินไปรอบเช้า หมอบอกว่าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เลยตัดสินใจขับรถจากต่างจังหวัดไปกทม.คืนนั้นเลย
ไปถึง รพ.จฬาประมาณตี 3 ก็เข้าไปติดต่อศูนย์ปลูกถ่ายหัวใจ ก็ไปเปลี่ยนชุดก่อนถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดพ่อแม่ก็อวยพรให้ ผมก็บอกกับแฟนที่ตอนนั้นท้อง 4 เดือนว่าเข้าไปแป๊บเดียว ออกมาก็เกิดเป็นคนใหม่ที่แข็งแรงแล้วนะ ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร คิดแค่ว่าเดี๋ยวนี้หมอเก่ง ใครๆเขาก็ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจกันแล้วก็หายดี
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด ทีมหมอ พยาบาลก็เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนหัวใจ เจาะเส้นเลือด ติดสายวัดต่างๆ จนสุดท้ายวิสัญญีแพทย์ก็ให้ดมยาสลบ หมอนับ 1 2 3 พอ 3 ปุ๊บก็หลับไปแบบไม่รู้ตัวเลย
ทีนี้ในช่วงที่สลบไปไม่รู้เป็นช่วงที่ผ่าตัดอยู่หรือหลังผ่าตัดเสร็จแล้ว ผมฝันว่านั่งอยู่ในห้องๆหนึ่งกับผุ้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในฝันนั้นรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของแฟน แต่หน้าตาไม่ใช่ แล้วเขาก็เปิดวีดีโอให้ดู ในวีดีโอเป็นภาพแฟนผม ระหว่างที่ดูไปผู้ชายคนนั้นก็ได้บอกว่าแฟนผมไม่อยู่แล้ว ผมต้องเลี้ยงลูกคนเดียว นั่งดูไปสักพักก็เหมือนผมตื่นมา ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นมาจริงๆหรือฝันว่าตื่นมา รู้แค่ว่าได้ยินเสียงคนคุยกันแล้วก็มาเปิดตาแล้วบอกว่าหยอดตาหน่อยนะคะ ไม่ให้ตาแห้ง ซักพักก็หลับไปอีกแล้วก็ฝันเหมือนเดิม นั่งในห้องกับพ่อแฟน ดูวีดีโอ แล้วก็ตื่นมามีคนมาหยอดตา วนอยุ่แบบนี้ประมาณ 3 รอบได้จนถึงรอบที่ 4 รู้ตัวแล้วว่าหลังจากหยอดตา ถ้าหลับตาลงไปอีกก็จะฝันวนไปเรื่อยๆ เลยฝืนลืมตาไว้สักพัก จนได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า คนไข้ลืมตาแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็เห็นหมอเข้ามาดูอาการแล้วก็บอกว่าผมหลับไป 1 อาทิตย์ พอเริ่มตั้งสติได้ก็เห็นสายระโยงรยางค์เต็มตัวไปหมด มีท่ออะไรอยู่ตรงท้องอีก แถมมือกับขาก็ถูกมัดไปกับเตียง ปากก็มีท่อออกซิเจนอยุ่ อยากจะถามหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดก็พูดไม่ได้ พยาบาลเลยเอากระดาษมาให้เขียน ซึ่งตอนนั้นแขนแทบไม่มีแรงเลย ได้แค่วาดรูปหัวใจแล้วชี้ไปที่หน้าอกตัวเองแล้วทำมือ OK ประมาณถามว่าผ่าตัดหัวใจ OK มั้ย นี่คือเปลี่ยนแล้วใช่มั้ย หมอก็บอกว่าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเสร็จแล้ว ให้พักผ่อนซะ
พูดกันตามตรงตอนที่ฟื้นขึ้นมานี่น่าจะยังมึนๆจากฤทธิ์ยาอยู่คือจำได้ว่ามาผ่าตัดแต่จำไม่ได้ว่าทำไมถึงได้มา นอนคิดๆก็สงสัยว่าเพราะเราอาการกำเริบจนต้องส่งมาผ่าตัดด่วนเหรอ กว่าจะนึกออกก็อีกหลายวันให้หลังเลย แถมในช่วงแรกที่ยังมึนๆเมาๆยาอยู่ เหมือนเกิดอาการหลอน นอนโดยมีสายอะไรไม่รู้เต็มตัวไปหมด ท่ออะไรไม่รู้แทงเข้ามาที่ท้อง พูดก็ไม่ได้เพราะมีท่อออกซิเจนในปาก ขยับตัวไม่ค่อยได้เลย รู้สึกทรมาณมาก หลายครั้งมองไปข้างเตียงเห็นเครื่องให้น้ำเกลือหรือให้ยาอะไรสักอย่าง พยายามยื่นมือไปกดปุ่มปิด เห็นอะไรแหลมๆแถวนั้นก็อยากหยิบเอามาแทงตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไมเหมือนกัน
ผ่านไปหลายวันก็มาได้รู้ความจริงว่าการผ่าตัดผ่านมาได้โอเคก็จริง แต่ผลลัพทธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หลังจากปลูกถ่ายหัวใจใหม่เข้าไป หัวใจดวงใหม่ดันไม่ยอมเต้น ทีมหมอก็พยายามกระตุ้น พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ ได้ยินมาว่ามีเวลาแค่ 24 ชม. เท่านั้นที่ต้องทำให้หัวใจกลับมาเต้นให้ได้ ถ้าเกินนั้นก็ไม่รอด ตอนที่ผ่านมาเกิน 20 ชม.แล้ว แฟนมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าหมอออกมาบอกให้ช่วยกันสวดมนต์ และอาจจะต้องทำใจเผื่อไว้ด้วย ตอนนั้นทั้งแฟนทั้งพ่อแม่พี่น้องนี่ทรุดกันเป็นแถว ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น สุดท้ายก็เหมือนปาฏิหาริย์ หัวใจกลับมาเต้นตอนชั่วโมงที่ 22