🖤เรื่องราวของคนแปลกหน้ากับพม่าที่รัก 3 วัน 2 คืน

งุ้ย !! จะไปรู้ได้ไงละว่า “คนแปลกหน้า” จะเที่ยวพม่าด้วยกันได้ 🇲🇲



                       🇲🇲 MYANMAR 🇲🇲

สวัสดีทริปคนแปลกหน้า ฉันตัดสินใจพาตัวเองท่องเที่ยวไปในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ โดยมีคนแปลกหน้าร่วมเดินทางในครั้งนี้
“ประเทศพม่า” เมืองย่างกุ้ง มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่เด่นๆเลยก็คือความ “ความศรัทธา”ค่ะ ชาวพม่าให้ความสำคัญมากๆในวันพระ หรือ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ด้วยวัฒนธรรมที่ชวนหลงใหล พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อ เขาว่ากันว่า..ถ้าตั้งใจอธิฐาน พรที่เราขอจะเป็นจริง เลยทำให้ฉันและคนแปลกหน้า เลือกที่จะเก็บประสบการณ์และสีสันของชีวิตที่ประเทศนี้แหละค่ะ

ก่อนอื่นขอขยายความ “คนแปลกหน้าของเราก่อนนะ”
เขาคือผู้ชายหน้าตาดี พร้อมความสามารถ ถือว่าหล่อเลยละค่ะ เขาเป็นนักออกแบบและเป็นช่างทำเวสป้า (บ้าเอ้ย ช่างจำเป็นต้องหล่อขนาดนี้ไหม) เรารู้จักกันผ่าน facebook แต่เราเริ่มบทสนทนาที่ Instagram ด้วยความที่ อือหือ ! ผู้ชายคนนี้เรารู้สึกถูกชะตามาก รู้สึกผูกพันทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันเลย
ก็เลยพาตัวเองเข้าไปในชีวิตของเขา ไปรู้จักการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเขา จนรู้สึกว่า เฮ้ยย! ความรู้สึกเราไม่ธรรมดาแล้วว่ะ มันรู้สึกว่ะเฮ้ย  เหมือนจะเป็นไปสวยงามนะค่ะ แต่ไม่เลยค่ะ ... เขาปฏิเสธที่เรียนรู้กันและกันแบบคู่รัก โดยให้สถานะแค่พี่น้อง(หึๆ เรามีพี่น้องเยอะแล้ว ได้แต่คิดในใจ) แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราเปลี่ยนความชอบของเราไม่ได้ และบังคับใจใครไม่ได้ แต่เราก็จะยังคงซื่อสัตย์กับความรู้สึกของเรานะ “ชอบไปแล้วจะให้เลือกชอบง่ายๆได้ไงล่ะ”

เอาละค่ะ !! มาลุยกันเลยดีกว่า ....
ต้องบอกก่อนเลยนะค่ะว่า “นี่เป็นครั้งแรกในต่างประเทศของเราทั้งคู่” เป็นครั้งแรกในการนั่งเครื่องบินของเขา และครั้งแรกที่ได้เจอกันด้วยค่ะ....
เวลาประมาน ตี5นิดๆ เราเจอกันร้านสตาบัค พูดคุยกันสักพัก เราก็ไปเช็คอินโหลดกระเป๋า พอเสร็จปุ๊ป ก็ไปแลกเงินส่วนที่เหลือ เราใช้เงินกองกลางกันค่ะ คนละ3000 ก็จะได้เงินพม่ามาราวๆ 300,000 จ๊าค เป็นคนรวยกันเลยทีเดียว หลักจากนั่นก็ไปซื้อซิมเน็ต โดนไป คนละ400บาท ร้านซิมบอกว่ายังไม่มีลูกค้ากลับมารีวิวให้เลย เราเลยพูดเล่นๆว่า เดี๋ยวเราลองก็ได้ แล้วจะกลับมารีวิวให้ฟัง สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปรีวิวให้ร้านซิมฟังเลย
ภารกิจเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว
Go Go Go... มุ่งน่าสู่ท่าอากาศยานย่างกุ้งงงกัน แง๊นๆๆ

พอถึงปุ๊ป เราต้องผ่าน ตม.พม่าก่อนค่ะ โอ้วโห่ว โคตรโหด ทำหน้าเข้มเชียว สงสัยกินกาแฟเอสเปรสโซ่มาแน่ๆ ตรง ตม.ห้ามถ่ายรูปนะค่ะ แต่เราหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเฉ๊ยย โดน ตม.ดุเลย 555+
หลังจากนั้นเรียกแก๊บสิจ๊ะ อย่างถูก!!
ระยะทางหนามบินไป โรงแรม 8700 จ๊าค
ประมาน 163 บาท ระหว่างทางเรากับเขาก็ต่างมองตามทาง มองทัศนียภาพของประเทศ การขับรถ การเดิน การใช้ชีวิต เออแมร่งแปลก.. ขับรถพวกมาลัยขวา ยังจะขับเลนขวาอี๊ก ขณะในรถนั้น เราก็อดใจที่จะแอบมองเขาไม่ได้ พอมองเขาทีไร ใจเต้นแรงทุกทีเลย อดเผลอยิ้มไม่ได้จริงๆ
พอถึงโรงแรม พนักงานต้อนรับดีมากๆ อันนี้เราชอบมากค่ะ มีน้ำองุ่นให้กิน ก็เลยโซยกันคนละขวด ^__^
หลังจากเก็บสำภาระเสร็จ ไม่ชักช้าลีลาท่ามาก ใส่เกียหมาเดินเที่ยวกันเลยจ้า เฮ้ยยย นี่เราเหมือนแฟนกันมากเลยนะเว้ยยยย แต่ไม่ใช่จ้า เขาบอกคิดกับเราแค่พี่น้อง คำๆนี้ มันจะอยู่ในความคิดของเราตลอดทริปเลย กว่าว่าเราจะทำอะไรเกินเลยคำๆนี้ไป ก็จะมาถึงเรื่องน่านอย คือเขาตอบไดเรกผู้หญิงคนหนึ่งตลอดเวลา คอยรายงานว่าถึงไหนทำอะไร เราก็ต่อมเผือกทำงาน ไม่ได้แอบดูนะ แต่ตาดันมองเห็นเอง ผู้หญิงคนนี้สวยมากค่ะ ระดับสาวเพย์บอย หุ่นดี เอ็กซ์ เซกซี่ โอ้ยย ....ต่างจากสเมิฟอย่างเราเลยละค่ะ ก็นั่นแหละเขาน่าจะคุยๆกันอยู่ โหยเป็นใครใครก็นอยว่ะ ชิมิๆ

แต่ก็ช่างมัน เดี๋ยวจะทำให้ทริปไม่สนุกป่าวๆ เราเลยทำตัวให้ปกติที่สุด ยิ้มหัวเราะ ฮาเฮ บ้าบอ สไตส์ของเราเอง ....
ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปจ้าาา ด้วยรอยยิ้มนอยๆ 555+
อ๊าา ยังอีกนะ เรายังแอบมองเขาไม่หยุด เวลาเขาคุยด้วย เราก็จะพยายามสบตาเขา เผื่อเขาจะหลงเราบ้าง ฮรี่ๆ แต่ไม่เลย ไม่มีมองเราสักนิด เสี้ยวสายตาก็ไม่มี เศร้าแม๊ะๆ เอาเด้ ...ได้เที่ยวกับคนที่ชอบ แต่ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาอ่ะ เจ็บแป๊บบบบบบบบบ !!🖤
หลังจากกินๆ เดินๆ เที่ยวๆ ไปโน้นนี่นั่น ไม่เล่าจ๊ะ จะเล่าตอนไปชาเวดากอง คือ ที่นี่สวยมากๆจริงๆ ความฟินเกิดขึ้นอีกละจ้า โอ้ยยย ผู้ชายใส่สโหร่งหล่อมากกก คนบ้าไรว่ะ ทำไรก็ดีไปหมด อดใจที่จะแชะภาพให้ไม่ได้ (ความจริงไม่ได้อยากถ่ายให้เขาหรอก แค่อยากมีรูปเขาเก็บไว้เยอะๆ555+) อยากเห็นความหล่อของเขาละเส้ ฉันรู้นะ!!
เอาจริงๆ เขาอยากมาที่นี่คะ ทำไมต้องพม่า เพราะเขาอยากมา ส่วนเราอยากมากับเขา ^___^
เหลาต่อนะ เราก็ไม่รู้เขาขอพรอะไร แต่เราขอให้เรากับเขาได้มีโอกาสรักกัน ดูแลกัน

!!  เฮ้ยยย เล่าข้ามอ่ะ 555+ ฟังตอนนิโก้ก่อนๆๆ นิโก้ คือ สหายในคาบโจรค่ะ ไอ่อะโก่วนี้ เข้ามาชวนคุยจิปาถะ แล้วบอกว่าให้พาเที่ยวไหม เผื่อมันมาไทย จะได้ให้เราพาเที่ยว เราก็เข้าใจว่า อ่อๆๆ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ก็ตกลงปรงใจไปกะมัน มันพาไปโน้นนี่นั้น พาไปทาสะนาคา พาไปวัด พาไปตลาดสด(แหมะ ไม่ดูรองเท้าตูเลย ผ้าใบขาวทั้งคู่) ฝนตกอีกกกกกก พอมันพาเที่ยวเสร็จ เราก็บอกเราจะกลับละ แล้วมันก็ขอตังค่ะ ประมานให้สินน้ำใจ อ่าวไอ้นี่ หลอกกูๆๆๆ 555+ นิโก้ นิโก้ ยิ้มยยย !!! โดนไปเกือบ 2 หมื่นจ๊าค เดือดจัดเล๊ย นิโก้ไง จะใครล่ะ..เพื่อนชาวพม่าของเราเอง 555+

วาปมาชเวดากองต่อจ๊ะ.... เหลืองอร่ามมมมม สวยงามสมคำล่ำลือ พอแระ วาปมาเหลาตอนนอนเลยดีกว่า...
เชื่อว่าทุกคนอยากรู้ !!! ...
หลักงานอาบน้ำกันเสร็จ ต่างคนก็เตียงใครเตียงมัน ไม่มีเสียงการพูดคุยใดๆ มีเพียงเสียงตึกข้างๆ เจี๊ยวจ้าวๆ ไอ้เราก็มโนเหมือนในหนังไรงี้ เขาต้องมีแอบมองเราบ้างสิว่ะ ปรากฎว่า WTF!!
เสี้ยวหางตาก็ไม่มี๊ เฮ้อ เราแอบมองเขาภายใต้ผ้าห่มสีขาวผืนใหญ่ เขาได้แต่กดพิมๆๆ แล้วยิ้มเบาๆให้โทรศัพท์ หึ่ย ควรมายิ้มให้คนข้างๆเตียงม๊ะ พูดละหมั่นไส้ แต่ละมุนมากค่ะ ผมสีน้ำตาลของเขากระทบกับแสงไฟจากโครมไฟหัวเตียงที่มีแสงวอมๆ จมูกโด่ง ปากเล็กๆ ถ้าเป็นในหนังคงอาจจะเรียบร้อยไปละ 555+ ภารกิจมิสชั่นไรงี้ ฮ่าๆ แต่ไม่ใช่อย่างนั่นค่ะ สักพักเขาหลับค่ะ อห.หลับ !! สนใจกันหน่อยก็ไม่ได้ และแล้วคืนนี้ก็ได้ผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องชายที่แสนดีของเรา(ไม่ต้องมาอยากเป็นน้อง น้องมีเยอะแล้ว)


เช้าวันต่อมา เขาตื่นก่อนเราค่ะ อาบน้ำแต่งตัว เตรียมจะใส่เกียหมาเที่ยวต่อ ทุกๆครั้ง ที่เดินเล่นในย่างกุ้งกัน เราจะแอบมองเขาอยู่ตลอดนะค่ะ มองกันให้ตาพังไปเลย ขี้เกียจเล่าแล้วอ่ะ อยากฟังต่อไหมง่า..... ไร้สาระดีนะ

เล่ากะได้ ... 555+

วันที่สองของทริป เรากะว่าจะชิลกันวันนี้ แบบนั่งแช่ได้ไม่เดินมาก แล้วจังหวะที่พอดีเพื่อนที่ทำงานของเขามาจัดงานแต่งที่ย่างกุ้ง เราสองคนเลยไปหาเพื่อน ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง พอตกลงกันได้ ก็ไปร้านกาแฟกันค่ะ ร้านน่ารักดี มีมุมถ่ายรูป อาหารอร่อย แต่เราไม่ชอบอาหารพม่า เราเลยกินนิดเดียว ชาอร่อยมาก กินเสร็จเราก็สนทนากันพักหนึ่ง ถ่ายรูปเล่น ถ่ายสตอรี่ ความจริงแล้วเราเป็นคนชอบถ่ายสตอรี่มากเลยนะ
แต่ทริปนี้เราถ่ายสตอรี่น้อยมาก เพราะเรากลัวว่าเขาจะไม่โอเค หากถ่ายแล้วติดเขาด้วย แต่ก็มีบางคลิปที่ติดเขา แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากจะถ่ายเขาเยอะๆเลย อยากให้สตอรี่ทั้งวันเป็นเขาทั้งหมด แต่ทำไม่ได้ เข้าใจเราม๊ะๆๆ อะๆงดดราม่า
หลังจากนั้นเราไปทำบุญ ปล่อยเตา ปล่อยปลากันค่ะ ดีใจที่ได้ทำบุญด้วยกัน ความจริงแล้ว ไม่รู้ว่า พรหมลิขิต หรือ ความบังเอิญ หรือ เวรกรรม ก็ไม่รู้นะคะ ว่าทำไมเราสองคนถึงมาอยู่ที่พม่าด้วยกันได้ มันคือสิ่งมหัศจรรย์เลยละ อาจจะเป็นเวรกรรม ที่มีบุญต่อกัน ให้เจอกัน พอหมดบุญ ก็ให้จากกันไรงี้ พอกิจกรรมกับเพื่อนๆเสร็จ เราสองคนก็เดินหน้าเที่ยวต่อแบบไม่หยุด วันนี้เราบอกเราจะชิลๆ ที่ไหนได้ อห.เดินหนักกว่าวันแรกอีก คือเวลาเราเดินเที่ยวกัน เราไม่มีจุดหมายนะ เดินไปซอยโน้น โผล่ซอยนี้ ถนนโน้น ถนนนี้ เดินแบบเปื่อยๆ บ้าๆ กันสองคน สุดกันทั้งคู่ มีบ่นเหนื่อยนะ แต่เดินไม่หยุด
....นี่แหละๆเกิดความประทับใจอีกแล้ววว โอ้ยยดี เป็นคนไม่เรื่องมาก ยังไงก็ได้ ไปหมด ทำหมด กินทุกอย่าง ใช่เลยยยย คือคนนี้เลย ที่รอตั้งนาน ประมานนี้เลย... ใช่เล๊ยยย !!!

วาปมากลางคืนเลยละกัน รอกันอีกแล้วละสิ !! ขอบอกว่าสุดๆๆคืนนี้คืนสุดท้ายที่จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน     “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้วจ้า”
เหมือนเดิมเลย ได้แต่กดโทรศัพท์แล้วก็ยิ้ม น้ำตาจิไหลเลยค่ะ เราเลยมองเขาด้วยความละมุนอีกครั้ง ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าใจเขาตรงกับเราก็คงจะดีไม่ใช่น้อย นี่แหละน่า ความสัมพันธ์ มักจะมีคนหนึ่งคิดมากกว่าเสมอ พอใกล้สว่าง... เสียงที่เราไม่เคยได้ยิน กลับดังขึ้น พี่ติ๊ก พี่ติ๊ก ตื่นเร็ว ... โอ้ยนี่นาฬิกาปลุกชั้นดีเลยนะเนี่ย อยากได้ยินแบบนี้ทุกวันจัง พอตื่นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ อยู่ดีๆ อาการนอยๆ ก็เข้ามาให้ดราม่าอีก เฮ้ยเราเหลือเวลาอีกแค่นิดเดียว ที่จะได้อยู่ใกล้เขาแบบนี้ เอาละเว้ย ความเศร้ามาเยือนละ แวะมาสวัสดีสหายละ เฮ้อ.. นี่อยากคุยแบบต่อหน้ามากเลยนะ แบบเปิดใจให้เราหน่อย ขอโอกาสได้รัก ได้ดูแลเขา แต่ไม่กล้าเลย ก็เลยปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เดินทางกลับไทยแบบปกติ

พอถึงสนามบินไทย ยิ่งเศร้าไปใหญ่เลย อีกไม่กี่นาที เราก็จะหลุดจากวงโคจรของกันและกันแล้ว พอถึงเวลาที่จะต้องแยกย้าย เราก็บอกลากันปกติ อยู่ดีๆเขาก็โพล่เข้ามากอดเรา เราสตั้นมากค่ะ โคตรดีใจ ระยะเวลา3วันที่ผ่านมา สู้กอดไม่ได้เลย พอเขาจากไป เราได้แต่เดินยิ้มค้างเหมือนคนบ้า ยิ้มไม่หุบ ยิ้มแล้วยิ้มอีก คือดีใจสุดๆ โอ้ยยย คือยังไงอ่ะ พี่น้องเขากอดลากันปกติหรอ เอ๊ะ! หรือว่า เขาเริ่มมีใจให้เราค่ะ ไม่ๆ เราจะไม่เพ้อฝันค่ะ แต่ก็ยังยิ้มไม่หุบนะ แม้กระทั่งตอนพิมเล่าเนี่ย


นี่แหละค่ะ 3 วัน 2 คืน ของคนแปลกหน้าสองคนในต่างแดน สิ่งน่ากลัวที่สุดคือความผูกพัน พอจากกันแล้วรู้สึกโหว่งๆ แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่า “ความสุขครั้งนี้จะจำไม่ลืมเลย” ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าเราสองคนจะลงเอยยังไง แต่ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้น มันคือเรื่องจริง
ขอบคุณทุกๆสิ่งที่นำพาเรามาเจอกัน แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น แต่ดีมากๆ
ขอทุกคนอวยพรให้เราสมหวังด้วยนะ คนนี้เรารักจริง
หากเรามีโอกาสเจอกันอีกครั้ง ขอให้เราใจตรงกัน
บะบายย 🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲🇲
🖤














ไว้เราไปเที่ยวด้วยกันอีกน๊า 🖤
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่