เลิกทักทายแบบบุลลี่ แล้ว คนรอบข้างจะรู้สึกดีขึ้นกับคุณ

เมื่อก่อนเราก็เป็นค่ะ ตอนวัยรุ่นเลย แบบเจอเพื่อน แล้วทัก อ้วนบ้าง ดำบ้าง เตี้ยบ้าง
หรือ พูดล้อแบบบุลลี่แบบไม่ได้คิดอะไร

แล้วมันมีช่วงนึงที่เราทำงานดึก เลยกินๆๆ ช่วงนั้น น้ำหนักขึ้น 10+
แล้วมีเพื่อนสนิทมันมาแซวเราว่า ยังไม่มีแฟน ทำไมแกท้องวะ กี่เดือนแล้ว
มันแซวแบบไม่คิดอะไร แบบขำๆ แต่เราเฟลมากกกก

จนเรามาคิดถึงตัวเอง เออ เราเวลาพูดทักทายคนอื่นเนี่ย
เราก็พูดถึงสรีระเขา พูดถึงปมด้อยเขา
แม้เราเพิ่งมาคิดได้ตอนอายุ22 (เวลานั้น)ว่าไม่สมควร  ตอนนี้เรา30กว่าแล้วค่ะ
เลิกพฤติกรรมนี้มาหลายปี คนรอบข้างมีปฏิกริยาที่ดีกับเราขึ้นเยอะ

แต่เชื่อมั้ยเรื่องนี้ คนแก่อายุมากเยอะเลย หลายคนเลย
ยังคิดไม่ได้ ชอบทักทายเรื่องร่างกายคนอื่น บุลลี่ สรีระคนอื่นเป็นเรื่องปกติ

เฮ้ย มันไม่ดีเลยนะ การทักทายแบบบูลลี่พวกนี้
หลายคนพูดแบบไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ เราเชื่อแบบนั้น
แบบเราเหมือนกันพูดแบบไม่คิด แต่คนฟังแบบ มันเป็นปมด้อยเขาอะ

ลองคิดดูนะคะ
อะไรที่อยู่บนตัวเขา หน้าเขา เช่น สิวเงี้ย แผลเป็นเงี้ย ไขมันที่พุงเขาเงี้ย
เขารู้ค่ะ ทุกคนรู้หมดว่าอะไรอยู่ที่ตัวเขา ตัวเขาเป็นยังไง

ดังนั้นไม่ต้องไปย้ำเขาหรอก เช่น เจอคนอ้วนแล้วไปทักว่าอ้วน
ไม่ต้องไป ห่วงเขาคิดแทนเขา ห่วงสุขภาพ ห่วงเบาหวานเขา
คิดว่าเขาไม่รู้หรือคะ เขาอาจชอบกิน และไม่อยากลดก็ได้ เพราะเขามีความสุข

หรือสิวบนหน้า โดยเฉพาะผู้หญิงอะ มันเป็นออร์โมน
คิดว่าสิวมันขึ้นเนี่ย เขาจะมองไม่เห็นเหรอคะว่าเขามีสิว
เขาอาจกังวลและหาวิธีเอาสิวเม็ดนั้นออกอยู่

หรือ สิ่งที่แก้ไม่ได้ เจอเพื่อนตัวเตี้ย หรือเพื่อตัวดำ ใช่ใครก็เรียกเตี้ย เรียกดำ เขาหันมา
เขาโดนมาเรียกมาตลอดชีวิตก็จริงแต่ใช่ว่าเขาจะชอบ เขาหันมาเขาแค่รู้ว่าเรียกเขา
ใช่ว่าเขาจะยินดีที่โดนเรียกปมด้อยเขานะคะ

บางทีเราพูดไปก็หาว่าโลกสวยอีก ไม่นะคะ
เช่นเรามีน้อง น้องเราอ้วนมาก
ไม่ใช่เพิ่งอ้วน อ้วนมาแต่เด็กแล้ว
เดินไปเจอป้าอายุมากคนนึง คำแรกทัก ทำไมไม่ลดความอ้วนล่ะ
เนี่ย(เรา)พาน้องไปวิ่งที่สวนสิ อย่ากินกลางคืนรู้มั้ย
น้องเราก็ยิ้มแหยๆ เจอใครก็ทักแบบนี้ทุกวัน
คุณคิดว่ามันน่าเบื่อป่ะ
คนอ้วน100โลเขาจะไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าเขาอ้วน
จริงมะ
และ ถ้าโดนทักบ่อยๆ สมมุติสักวันอารมณ์เสียมา
แล้วโดนทักแบบนี้ แล้วเกิดน้องเราด่าสวนไป
ก็หาว่า ทักแค่นี้ทำอารมณ์เสีย (คุณว่าจริงมะคะ)

อย่างสมัยก่อน
บางทีแบบเฮ้ย เพื่อนมันเป็นไรวะ
อารมณ์บูด ไม่พูดกับเรา อยู่ๆก็งอน
สมัยก่อนเราก็คนปากไม่ดีคนนึง ชอบทักทายแบบบุลลี่
ที่เขาไม่คุย เขาเหม็นหน้าเรา จิงๆแล้ว
มันไม่มีใครไม่คุยกับเราโดยไม่มีสาเหตุหรอกค่ะ

ลองคิดดูว่าคำทักทายของคุณ มันไเป็นยังไง
นั่นแหละ สาเหตุทำให้เขาไม่อยากคุยกับคุณ
ลองใจเขาใจเราดูค่ะ 

ลองเปลี่ยนใหม่
เจอใคร ไม่ว่าเขาจะเตี้ยล่ำดำสูงอ้วน ยังไง
ไม่ต้องพูดถึงร่างกายเขา หน้าเขา สีผิวเขา
คำทักทายในโลกนี้มีเยอะแยะค่ะ

อากาศดีร้อนมั้ย ฝนตกเป็นไงบ้าง
หรือ คำทักง่ายๆ สวัสดี สบายดีมั้ย
คำทักทายที่ปราศจากบุลลี่

เปลี่ยนได้แค่นี้ มันจะดีต่อ คุณ และ คนรอบตัวคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
นั่นคือสิ่งที่พ่อแม่ควรอบรมสั่งสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่
มันไม่ใช่บุลลี่บุลล่าอะไร แต่มันคือมารยาทสากล โลกเราแคบลงทุกวัน
ฝรั่งเค้าถึงมีแพทเทิร์นทักทาย "How are you?" ไว้กันในชั้นนึงก่อนที่จะไปคิดทักทายอย่างอื่น
เป็นยังไงบ้าง? สบายดีมั้ย? พอแล้ว ไม่ต้องอ้างเป็นห่วง
มันเป็นสิทธิและเรื่องส่วนบุคคลที่คนจะอ้วนจะผอมจะโทรมจะไม่สวยจะหล่อ ไม่จำเป็นต้องพูดหรือทัก
สำหรับฝรั่งทักไม่ได้ หยาบคาย ไม่มีมารยาท
ความคิดเห็นที่ 12
จริงๆโดยส่วนตัวผมว่า หลายๆคำทักทายมันเป็นเรื่องความห่วงใยด้วยครับ

บางทีก็โดนทักว่าอ้วนขึ้นหรือเปล่า บางทีก็โดนทักผอมลงเยอะนี่ ส่วนใหญ่จะมาจากคนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
ก็คุยทักทายสารทุกข์สุกดิบ ถามเรื่องสุขภาพกัน ก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งนะครับ

แต่ถ้าคำที่ว่าเป็นการกลั่นแกล้งล้อเลียน คือ เรียก ไอ้อ้วน ไอ้ผอม ไอ้สิว etc แบบนี้ไม่ควรเอามาเรียกกัน

ถ้าคนไม่รู้จักเลยแล้วมาทักแบบอ้วนเกินไป ผอมเกินไป อันนี้ก็มองว่าละลาบละล้วงเกินไปหน่อย แต่ถ้าสนิทรู้จักกันดี
อยู่แล้ว ไม่คิดอะไรมากครับเพราะส่วนใหญ่ก็ถามไถ่กันด้วยความเป็นห่วงด้วย

ผมว่าอยู่ที่มุมมองของคนที่ฟัง และเจตนาของคนที่พูดด้วย ว่าจะมองว่ามันเป็นความห่วงใยหรือเป็นการกลั่นแกล้ง

ถ้าใครมีผู้สูงอายุที่ห่วงใยคนในครอบครัวมากๆ จะเข้าใจดีครับว่าเขาเป็นห่วง และพยายามเตือนพยายามบอกเราตลอด
จึงได้พูดได้บอกทุกครั้งที่เจอหน้า ส่วนตัวไม่เคยคิดรำคาญครับ
ความคิดเห็นที่ 8
ดีใจด้วยนะคะที่คิดได้

หลายคนชอบบอกว่าไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครรัก เอ็นดู
หรือเวลามีอะไรลำบากแล้วไม่มีใครช่วย
แต่ลืมไปว่าตัวเองปฏิบัติกับคนอื่นยังไง ทำให้คนอื่นเขาเกลียดหรือชอบ
ไปทำให้คนอื่นเกลียดแล้ว จะหวังให้เขารัก เอ็นดู หรือช่วยเหลือได้ยังไง

การทักทายด้วยปมด้อย หรือการล้อเลียน ตั้งฉายาให้คนอื่น มันไม่มีใครชอบหรอกค่ะ
คนที่โดนเขารู้สึกไม่ดี และเริ่มมีอคติต่อผู้พูดในใจอยู่แล้ว
สะสมมากๆเข้าอาจจะกลายเป็นคนเกลียดคนพูดไปเลย
มีอะไรก็ไม่อยากช่วย ไม่อยากแสดงความเอื้อเฟื้ออะไรทั้งนั้น
ที่หลายๆคนรู้สึกว่าไม่มีใครเหลียวแล ไม่มีใครช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งก็เพราะทำตัวเอง

ตอนเด็กเราบ้านจนนะ ตอนเรียนแม่ก็เสียอีก
แต่คนรอบข้างคอยช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกับเราตลอด โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากด้วยซ้ำ
เพราะเราไม่เคยทักใครด้วยปมด้อยของเขา ไม่พูดให้ใครเสียหน้า ไม่พูดหยาบคาย
เราไม่เรียกใครด้วยฉายาที่ทำให้เขาอับอาย เราเรียกชื่อของเขา แม้คนอื่นๆทั้งหมดจะเรียกเขาด้วยฉายาก็ตาม
เราดีกับเขา ให้เกียรติเขา เราก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืน
(อาจจะไม่ได้กลับคืนจากทุกคน แต่ส่วนมากได้แน่นอน ลองคิดถึงความรู้สึกคนอื่นมากขึ้น คุณจะพบความแตกต่าง)
ความคิดเห็นที่ 10
สมัยรุ่นๆ เราก็เป็นค่ะ แต่ไม่เชิงว่าทักทายอะไรที่เป็นปมด้อยคนอื่นนะ แต่จะเป็นการแซวความผิดพลาดของคนอื่นแบบขาดมารยาท โดยนึกว่ามันตลก  เราค่อยมาเรียนรู้ว่ามันไม่น่ารักเอาตอนที่ปล่อยมุกแซวเดิมๆ ไปสองสามหนแล้วไม่มีคนขำ คนถูกแซวเขาก็หน้าเจื่อนๆ ถึงได้มาพิจารณาว่าเออ มันคงไม่ควรจริงๆ  บวกกับช่วงนั้นเราได้เข้ามาอยู่ในสังคมฝรั่ง ที่เขาจะมีมารยาทเรื่องพวกนี้มาก ต่อให้เราไม่มีอะไรให้ชื่นชม เขาก็จะไม่ทักในสิ่งเหล่านั้น แต่จะหาสิ่งดีๆ มาพูดถึง เช่น ที่ติดผมสวยจัง  ฉันชอบชุดเธออะ ลิปสติกที่เธอทาสีเข้ากับเธอมากเลย ผมทรงนี้สวย ฯลฯ มันไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งชม แถมยังเป็นพลังบวกที่จะส่งต่อๆ กันไปด้วยอะค่ะ  

มีพนักงานห้างในอเมริกาคนนึงที่เราเคยเจอบอกเราประมาณว่า รอยยิ้มและคำพูดดีๆ เป็นสิ่งที่ทำง่ายๆ ไม่ต้องลงทุน แต่มันอาจจะทำให้วันของคนคนนึงกลายเป็นวันดีๆ ได้เลย  ซึ่งมันก็จริงของเขานะคะ

เข้ามาเพิ่มอีกหน่อย การที่เราทำสิ่งพวกนี้ เราไม่ได้ต้องการให้ใครรู้สึกดีกับเรามากขึ้นหรอกค่ะ แต่เรารู้สึกดีกับตัวเองมากกว่าที่ได้สร้างความสุข หรืออย่างน้อยก็สร้างรอยยิ้มให้คนอื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่