สวัสดีค่ะ เราชื่อ ปลายค่ะ
เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเราอยากให้ทุกคนอ่านมากจริงๆค่ะเสียเวลาไม่มากแต่อยากให้เข้าใจชีวิตของคนมีปมด้อยค่ะ ไม่จำเป็นต้องคนที่เป็นสิวเยอะ หน้าพัง ไม่สวย อ้วน เตี้ย หรือ อะไรต่างๆที่เป็นปมด้อยในตัวเขา เวลาเรามีปมด้อย คนที่ดีว่าก็จะยกเอาปมด้อยคนอื่นขึ้นมาพูดเป็นเรื่องสนุกโดยไม่นึกถึงใจคนที่โดนล้อปมด้อยของตัวเอง
และก็จะบอกครีมที่ใช้ต่างๆ ที่ทำให้สิวหาย ไม่หาย คลีนิกที่ไม่ควรไป
...เริ่มเลยนะค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างที่จะชอบล้อปมด้อยคนอื่นเสมอ ชอบเอาเรื่องปมด้อยคนอื่นมาพูดสนุกโดยไม่คิดอะไร เราไม่ได้ตั้งใจนะค่ะแค่ขำๆกับเพื่อนเฉยๆ
เริ่มต้นการเป็นสิวปีที่ 1
และแล้วความผิดพลาดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นค่ะ เราไปตัดผมหน้าม้าค่ะ หลังจากนั้นประมาน 1 เดือน สิวที่หน้าผากก็ขึ้นค่ะ ขึ้นเยอะมากถึงมากที่สุด พอขึ้นมาเยอะเราก็ยิ่งไม่กล้าเอาผมหน้าม้าขึ้นเลยค่ะ ก็ปิดไว้อย่างงั้น มันเป็นวิธีที่ผิดค่ะ แต่จะทำไงได้ล่ะค่ะ ก็เราอายก็ต้องปิดไว้อย่างงั้นแหละค่ะ เราต้องซ้อนมันไว้ แต่เพื่อนๆในห้องรู้ค่ะ เพื่อนผู้ชายก็พากันแกล้งเปิดผมหน้าม้าเราสนุกเลยค่ะ ล้อไอ่หน้าสิวบ้างอะไรบ้างเยอะมากค่ะ
สิ่งแย่ๆในปีที่ 1
ช่วงที่เราเอาผมหน้าม้าปิดสิวก็จะชอบมีเพื่อนผู้ชายมาแกล้งเปิดผมหน้าม้าเราน่ะค่ะ ช่วงที่เราโดนแกล้งแรกๆเป็นอะไรที่แย่สุดๆเลยค่ะ คือในห้องเรียนก็จะมีอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ พวกผู้ชายอัธพาลน่ะค่ะ เรานั่งทำการบ้านเงียบๆมันวิ่งเล่นกันในห้อง เพื่อนผู้ชายมันก็วิ่งมาเปิดหน้าม้าเราแล้วก็ล้อ "
ยี้ๆ สิวเต็มเลยอ่ะ น่ากลัวว่ะ " ตอนนั้นคือแบบมันทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ แบบเรานั่งนิ่งเลยค่ะ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาค่ะ มันห้ามไม่อยู่เลยค่ะ มันรู้สึกแย่มากๆ เพื่อนเราเห็นก็เลยพาเราไปห้องน้ำเลยค่ะ เราเข้าห้องน้ำแล้วล้างหน้าเวลาที่มองกระจกน้ำตามันก็ไหลมาอีกค่ะ เป็นอะไรที่แย่มาก หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมค่ะ เราโดนแกล้งเหมือนเดิม โดนล้อ โดนจนชิน ร้องไห้มาหลายครั้งจนน้ำตามันไม่ไหลแล้วล่ะค่ะ
แล้วก็อีกอย่างที่ทำให้เราแย่อีก เวลาที่เพื่อนชอบขอให้เราเปิดหน้าผมม้าหน่อย อยากเห็นสิวเรา ทำไงได้ล่ะค่ะ ก็เปิดให้ดูค่ะ เวลาที่เราจะเปิดมือมันสั่นมากเลยค่ะ แล้วพอเราเปิดเพื่อนก็จะถามคำถามที่เจอบ่อยมาก"
เฮ้ย ไปทำไรมาว่ะ สิวเยอะมากอ่ะ" "
เฮ้ย แพ้อะไรรึป่าว" เป็นคำที่เจอบ่อยมาก เวลาที่ได้ยินเราก็ได้แต่ตอบเสียงสั่นว่า "
ไม่รู้ว่ะ" เรารู้ว่าเพื่อนคงเป็นห่วงเรา แต่มันเป็นคำที่เจ็บปวดมากค่ะ เวลาที่เราโดนขอให้เปิดผมหน้าม้าเราก็ต้องกลั้นน้ำตาทุกครั้งค่ะ
ในปีแรกๆ ที่เป็นก็ประมาณนี้ค่ะ โดนแบบนี้ประจำ ร้องไห้กี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง
ช่วงปีที่ 2
เป็นสิวมาก็จะสองปีแล้วค่ะ แต่แทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น คราวนี้เต็มหน้าเลยค่ะ ไม่ใช่แค่หน้าผาก แต่ย้ำค่ะว่าทั้งหน้า เรียกได้ว่าหาที่ว่างไม่เจอ แย่กว่าเดิมค่ะ ความรู้สึกแย่ๆแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น แค่หน้าผากเราว่าหนักแล้ว นี่ทั้งหน้าคิดเอาเองค่ะว่าแย่ขนาดไหน แล้วเพื่อนๆก็พากันตกใจค่ะ ไปทำไรมา ทำไมหน้าเป็นแบบนี้ คำแบบนี้วนเวียนในหัว
สิ่งแย่ๆในปีที่ 2
มีวันหนึ่งค่ะ เรานั่งกินข้าวในโรงอาหารกับเพื่อน 2 คน ก็มีเพื่อนผู้ชายในห้องสองคนมานั่งที่โต๊ะค่ะ ชื่ออ้นกับริว แล้วเพื่อนคนที่ชื่อริวก็พูดว่า "
ปลาย ไปทำไรมาว่ะ หน้าเละมากอ่ะ " '
หน้าเละ' คำนี้วนเวียนในหัวตลอด 4 ปี เราก็นั่งก้มหน้ากินข้าวต่อค่ะ พยายามกลั้นน้ำตามากถึงมากที่สุด เพื่อนเราที่ชื่อ ฟ้า ก็บอกริวค่ะว่า "
อย่าพูดแบบนี้ดี๊ จะไปไหนก็ไป " ริวก็ไม่ลุกค่ะ แต่หันไปคุยกับอ้นค่ะ "
เฮ้ย ว่าปลายกับฟ้าใครสวยกว่ากันว่ะ" คนที่ชื่ออ้นก็ตอบว่า "้
ฟ้ามั้ง" ริวก็ตอบว่า "
เออว่ะ ถ้าปลายมันไม่มีสิว มันก็สวยกว่านี้แหละ
หน้าเละ ไม่สวยเลย" น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไม่อยู่ค่ะ ไหลเลยค่ะ เราก็ทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ตัวเองออกมา "
จะยุ่งไรกับกูนักหนาว่ะ" เราตะโกนทั้งน้ำตาเลยค่ะ ริวไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้เลยรีบขอโทษเรา เราโกรธมากค่ะ ทั้งโกรธทั้งเสียใจ เเจ็บมาก รู้สึกหายใจไม่ออกค่ะ แบบมันแย่มากอ่ะ คิดว่าคนอย่างริวจะสำนึกไม่เลยค่ะก็เหมือนเดิมค่ะ
แล้วมีอีกค่ะ เรายืนรอรถกับบ้านกับเพื่อนอีกคน ชื่อ เอมค่ะ แล้วก็เจอริวยืนอยู่ด้วยค่ะ เราก็พยายามยืนหลบค่ะ แต่ริวก็เห็นจนได้ ริวก็เดินเข้ามาคุยกับเอมค่ะ คุยกับเอมแต่พูดเรื่องเราค่ะ "
เออนี่เอม อย่าไปตัดผมหน้าม้านะ เดี๋ยวสิวขึ้นหน้าเละขึ้นมาจะหมดสวยเอานะ" แบบเราก็เงียบค่ะ เอมก็หันมามองหน้าเราเหมือนจะรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่เราคิดว่าเอมคงเข้าใจความรู้สึกเราแต่เอมก็พูดเรื่องสิวบนหน้าเรากับริวด้วย เราฟังมาก็ถึงกลับทนไม่ไหว "ถ้ากูสิวหายเมื่อไรอย่ามาทักกูนะ" เราแบบพูดไปแบบนี้เลยค่ะ แต่แทนที่จะสำนึกแต่กับหัวเราะกับคำพูดของเรา เหมือนกับว่าคำพูดเราเป็นเรื่องตลก เราก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไหวคนเดียว
แล้วก็อีกอย่างเวลาเจอญาติพี่น้องต่างๆ ก็จะพากันถามว่าหน้าไปทำอะไรมา แพ้อะไรหรือป่าว โดนประจำ จนเวลาที่เรากลับต่างจังหวัดแล้วต้องเจอญาติ เราจะรู้สึกไม่อยากไปเลยค่ะ
เรื่องที่เราเจอเยอะมากๆเลยค่ะ ช่วงที่เป็นทั้งหน้านี่แบบแค่พ่อ แม่ เราก็ไม่อยากจะคุยด้วยเลยค่ะ แบบไม่อยากไปเรียนเลยค่ะ อยากอยู่แต่บ้าน ไปโรงเรียนก็มีแต่เรื่องแย่ๆ เราก็ได้แต่รอค่ะ รอวันที่เราจะเป็นปกติแบบคนอื่นๆ เวลาที่เราต้องคุยกับใครเราก็ชอบก้มหน้าคุย หลบตาคุย เราร็สึกถึงสายตาเขามองมาที่หน้าเราแล้วเหมือนมีคำมากมายออกมาจากสายตาทำให้เราต้องหลบสายตาทันที เรากลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจ กลัวคนรอบข้าง กลัวคำถาม เวลาที่เขาพูดกับเรื่องสิวก็จะเริ่มร็สึกอึดอัดขึ้นมาซะอย่างงั้น แล้วเพื่อนที่ชื่อริวปัจจุบันนี้เหมือนเป็นคนที่เรากลัวมากเลยค่ะ เหมือนเขาทำให้เราต้องเจ็บปวดมากๆ เรากลัวมากกับการที่จะเจอคนๆนี้มาก เวลาเจอกันเราก็ชอบเดินหนี้ ไม่ก็หลบหน้า เรารู้สึกกลัวมากเวลาเขาทักทายหรือพูดกับเรา กลัวว่าเขาจะพูดเรื่งสิวรึป่าว มันเป็นบาดแผลที่ฝั่งลึกเลยค่ะ
เหลืออีก 2 ปี แล้วเราจะมาต่อนะค่ะ เราอยากให้ทุกคนอ่านจริงๆนะค่ะ เราจะบอกจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในชีวิตค่ะ ในปีที่ 3 เราคิดจะฆ่าตัวตายด้วยค่ะ เราจะมาต่อให้นะค่ะ
เล่าประสบการณ์การชีวิตหน้าเละ 4 ปี และจุดเปลี่ยนต่างๆของชีวิต
เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเราอยากให้ทุกคนอ่านมากจริงๆค่ะเสียเวลาไม่มากแต่อยากให้เข้าใจชีวิตของคนมีปมด้อยค่ะ ไม่จำเป็นต้องคนที่เป็นสิวเยอะ หน้าพัง ไม่สวย อ้วน เตี้ย หรือ อะไรต่างๆที่เป็นปมด้อยในตัวเขา เวลาเรามีปมด้อย คนที่ดีว่าก็จะยกเอาปมด้อยคนอื่นขึ้นมาพูดเป็นเรื่องสนุกโดยไม่นึกถึงใจคนที่โดนล้อปมด้อยของตัวเอง
และก็จะบอกครีมที่ใช้ต่างๆ ที่ทำให้สิวหาย ไม่หาย คลีนิกที่ไม่ควรไป
...เริ่มเลยนะค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างที่จะชอบล้อปมด้อยคนอื่นเสมอ ชอบเอาเรื่องปมด้อยคนอื่นมาพูดสนุกโดยไม่คิดอะไร เราไม่ได้ตั้งใจนะค่ะแค่ขำๆกับเพื่อนเฉยๆ
เริ่มต้นการเป็นสิวปีที่ 1
และแล้วความผิดพลาดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นค่ะ เราไปตัดผมหน้าม้าค่ะ หลังจากนั้นประมาน 1 เดือน สิวที่หน้าผากก็ขึ้นค่ะ ขึ้นเยอะมากถึงมากที่สุด พอขึ้นมาเยอะเราก็ยิ่งไม่กล้าเอาผมหน้าม้าขึ้นเลยค่ะ ก็ปิดไว้อย่างงั้น มันเป็นวิธีที่ผิดค่ะ แต่จะทำไงได้ล่ะค่ะ ก็เราอายก็ต้องปิดไว้อย่างงั้นแหละค่ะ เราต้องซ้อนมันไว้ แต่เพื่อนๆในห้องรู้ค่ะ เพื่อนผู้ชายก็พากันแกล้งเปิดผมหน้าม้าเราสนุกเลยค่ะ ล้อไอ่หน้าสิวบ้างอะไรบ้างเยอะมากค่ะ
สิ่งแย่ๆในปีที่ 1
ช่วงที่เราเอาผมหน้าม้าปิดสิวก็จะชอบมีเพื่อนผู้ชายมาแกล้งเปิดผมหน้าม้าเราน่ะค่ะ ช่วงที่เราโดนแกล้งแรกๆเป็นอะไรที่แย่สุดๆเลยค่ะ คือในห้องเรียนก็จะมีอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ พวกผู้ชายอัธพาลน่ะค่ะ เรานั่งทำการบ้านเงียบๆมันวิ่งเล่นกันในห้อง เพื่อนผู้ชายมันก็วิ่งมาเปิดหน้าม้าเราแล้วก็ล้อ "ยี้ๆ สิวเต็มเลยอ่ะ น่ากลัวว่ะ " ตอนนั้นคือแบบมันทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ แบบเรานั่งนิ่งเลยค่ะ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาค่ะ มันห้ามไม่อยู่เลยค่ะ มันรู้สึกแย่มากๆ เพื่อนเราเห็นก็เลยพาเราไปห้องน้ำเลยค่ะ เราเข้าห้องน้ำแล้วล้างหน้าเวลาที่มองกระจกน้ำตามันก็ไหลมาอีกค่ะ เป็นอะไรที่แย่มาก หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมค่ะ เราโดนแกล้งเหมือนเดิม โดนล้อ โดนจนชิน ร้องไห้มาหลายครั้งจนน้ำตามันไม่ไหลแล้วล่ะค่ะ
แล้วก็อีกอย่างที่ทำให้เราแย่อีก เวลาที่เพื่อนชอบขอให้เราเปิดหน้าผมม้าหน่อย อยากเห็นสิวเรา ทำไงได้ล่ะค่ะ ก็เปิดให้ดูค่ะ เวลาที่เราจะเปิดมือมันสั่นมากเลยค่ะ แล้วพอเราเปิดเพื่อนก็จะถามคำถามที่เจอบ่อยมาก"เฮ้ย ไปทำไรมาว่ะ สิวเยอะมากอ่ะ" "เฮ้ย แพ้อะไรรึป่าว" เป็นคำที่เจอบ่อยมาก เวลาที่ได้ยินเราก็ได้แต่ตอบเสียงสั่นว่า "ไม่รู้ว่ะ" เรารู้ว่าเพื่อนคงเป็นห่วงเรา แต่มันเป็นคำที่เจ็บปวดมากค่ะ เวลาที่เราโดนขอให้เปิดผมหน้าม้าเราก็ต้องกลั้นน้ำตาทุกครั้งค่ะ
ในปีแรกๆ ที่เป็นก็ประมาณนี้ค่ะ โดนแบบนี้ประจำ ร้องไห้กี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง
ช่วงปีที่ 2
เป็นสิวมาก็จะสองปีแล้วค่ะ แต่แทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น คราวนี้เต็มหน้าเลยค่ะ ไม่ใช่แค่หน้าผาก แต่ย้ำค่ะว่าทั้งหน้า เรียกได้ว่าหาที่ว่างไม่เจอ แย่กว่าเดิมค่ะ ความรู้สึกแย่ๆแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น แค่หน้าผากเราว่าหนักแล้ว นี่ทั้งหน้าคิดเอาเองค่ะว่าแย่ขนาดไหน แล้วเพื่อนๆก็พากันตกใจค่ะ ไปทำไรมา ทำไมหน้าเป็นแบบนี้ คำแบบนี้วนเวียนในหัว
สิ่งแย่ๆในปีที่ 2
มีวันหนึ่งค่ะ เรานั่งกินข้าวในโรงอาหารกับเพื่อน 2 คน ก็มีเพื่อนผู้ชายในห้องสองคนมานั่งที่โต๊ะค่ะ ชื่ออ้นกับริว แล้วเพื่อนคนที่ชื่อริวก็พูดว่า "ปลาย ไปทำไรมาว่ะ หน้าเละมากอ่ะ " 'หน้าเละ' คำนี้วนเวียนในหัวตลอด 4 ปี เราก็นั่งก้มหน้ากินข้าวต่อค่ะ พยายามกลั้นน้ำตามากถึงมากที่สุด เพื่อนเราที่ชื่อ ฟ้า ก็บอกริวค่ะว่า "อย่าพูดแบบนี้ดี๊ จะไปไหนก็ไป " ริวก็ไม่ลุกค่ะ แต่หันไปคุยกับอ้นค่ะ "เฮ้ย ว่าปลายกับฟ้าใครสวยกว่ากันว่ะ" คนที่ชื่ออ้นก็ตอบว่า "้ฟ้ามั้ง" ริวก็ตอบว่า "เออว่ะ ถ้าปลายมันไม่มีสิว มันก็สวยกว่านี้แหละ
แล้วมีอีกค่ะ เรายืนรอรถกับบ้านกับเพื่อนอีกคน ชื่อ เอมค่ะ แล้วก็เจอริวยืนอยู่ด้วยค่ะ เราก็พยายามยืนหลบค่ะ แต่ริวก็เห็นจนได้ ริวก็เดินเข้ามาคุยกับเอมค่ะ คุยกับเอมแต่พูดเรื่องเราค่ะ "เออนี่เอม อย่าไปตัดผมหน้าม้านะ เดี๋ยวสิวขึ้นหน้าเละขึ้นมาจะหมดสวยเอานะ" แบบเราก็เงียบค่ะ เอมก็หันมามองหน้าเราเหมือนจะรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่เราคิดว่าเอมคงเข้าใจความรู้สึกเราแต่เอมก็พูดเรื่องสิวบนหน้าเรากับริวด้วย เราฟังมาก็ถึงกลับทนไม่ไหว "ถ้ากูสิวหายเมื่อไรอย่ามาทักกูนะ" เราแบบพูดไปแบบนี้เลยค่ะ แต่แทนที่จะสำนึกแต่กับหัวเราะกับคำพูดของเรา เหมือนกับว่าคำพูดเราเป็นเรื่องตลก เราก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไหวคนเดียว
แล้วก็อีกอย่างเวลาเจอญาติพี่น้องต่างๆ ก็จะพากันถามว่าหน้าไปทำอะไรมา แพ้อะไรหรือป่าว โดนประจำ จนเวลาที่เรากลับต่างจังหวัดแล้วต้องเจอญาติ เราจะรู้สึกไม่อยากไปเลยค่ะ
เรื่องที่เราเจอเยอะมากๆเลยค่ะ ช่วงที่เป็นทั้งหน้านี่แบบแค่พ่อ แม่ เราก็ไม่อยากจะคุยด้วยเลยค่ะ แบบไม่อยากไปเรียนเลยค่ะ อยากอยู่แต่บ้าน ไปโรงเรียนก็มีแต่เรื่องแย่ๆ เราก็ได้แต่รอค่ะ รอวันที่เราจะเป็นปกติแบบคนอื่นๆ เวลาที่เราต้องคุยกับใครเราก็ชอบก้มหน้าคุย หลบตาคุย เราร็สึกถึงสายตาเขามองมาที่หน้าเราแล้วเหมือนมีคำมากมายออกมาจากสายตาทำให้เราต้องหลบสายตาทันที เรากลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจ กลัวคนรอบข้าง กลัวคำถาม เวลาที่เขาพูดกับเรื่องสิวก็จะเริ่มร็สึกอึดอัดขึ้นมาซะอย่างงั้น แล้วเพื่อนที่ชื่อริวปัจจุบันนี้เหมือนเป็นคนที่เรากลัวมากเลยค่ะ เหมือนเขาทำให้เราต้องเจ็บปวดมากๆ เรากลัวมากกับการที่จะเจอคนๆนี้มาก เวลาเจอกันเราก็ชอบเดินหนี้ ไม่ก็หลบหน้า เรารู้สึกกลัวมากเวลาเขาทักทายหรือพูดกับเรา กลัวว่าเขาจะพูดเรื่งสิวรึป่าว มันเป็นบาดแผลที่ฝั่งลึกเลยค่ะ
เหลืออีก 2 ปี แล้วเราจะมาต่อนะค่ะ เราอยากให้ทุกคนอ่านจริงๆนะค่ะ เราจะบอกจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในชีวิตค่ะ ในปีที่ 3 เราคิดจะฆ่าตัวตายด้วยค่ะ เราจะมาต่อให้นะค่ะ