[CR] CBR250RR ขอเล่าสู่กันฟัง

สวัสดีครับ พอดีได้เจ้าคันนี้มา เลยอยากเล่าให้เพื่อนๆฟังนะครับ ว่าใช้งานในชีวิตประจำวันที่ผมใช้อยู่ เป็นประมาณไหน ขอเล่าในส่วนที่ถนัดเล่านะครับ ผมไม่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่มาก่อน มีแต่ลองของคนอื่นมาครับ


ท้าวความก่อนนะครับ เจ้าของกระทู้ได้ไปงานมอเตอร์โชว์เพื่อไปจอง CBR250RR แต่แล้วรถก็ส่งช้ากว่ากำหนด จากระบุไว้ไม่เกิน 31/05/62 กลายเป็นเดือนสิงหาคม จนถึงขนาดนั้น คงทรมานแย่ ผมยกเลิกใบจองพร้อมเอาเงินคืน และไปซื้อร้านที่มีรถดีกว่า!


ผมจะขอเล่าเป็นส่วนๆนะครับ ไม่ยาวมาก ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านรถด้วยครับ

รูปร่างหน้าตา
รถออกแนวทันสมัย โฉบเฉี่ยว แม่ผมบอกว่ายังกับหุ่นยนต์ รถสีดำด้าน ยิ่งโดนแดด จะดูสวยมากครับ บางมุมจะดูแปลกๆ ยางหน้าที่ให้มาดูเล็ก ดูไม่ค่อยสมประกอบยังไงไม่รู้ ท้ายสวยมาก เบาะสูง 790 มม. ผมสูง 177 ขาถึงพื้นแล้วเข่างอนิดหน่อย

น้ำหนัก
ค่อนข้างหนักเนื่องจากผมขยับมาจาก Wave 125 แต่ถ้าคนขี่รถคลาส 250-300 มาก่อนอาจจะบอกว่าเบาก็ได้ครับ เพราะตัวรถถูกออกแบบมาให้น้ำหนักเบาตามรูปแบบรถสนาม

ท่านั่ง
ท่านั่งจะเป็นท่าแบบรถซุปเปอร์สปอร์ต ผมรู้สึกว่าก้มพอๆกับ R15 ตัวล่าสุดนะครับ ก้มค่อนข้างเยอะ ผมขี่ทางไกลประมาณ 80 กิโลเมตรไม่เมื่อยหลังครับ แต่เมื่อยมือซ้ายที่กำคลัตช์ เพราะการเอนตัวจากท่านั่ง มันกระจายน้ำหนักมาลงที่มือผู้ขี่ และเป็นเพราะผมยังไม่ได้มีถุงมือด้วยล่ะครับ คงต้องรีบหามาใส่  หรือต้องไปหาลงเรียนเพิ่มเพื่อจัดท่านั่งได้ถูกและเหมาะสม ท่านใดพอจะแนะนำคอร์สเรียนได้ แนะนำมาได้ครับ ผมอยากลงเรียนอยู่ครับ

ช่วงล่าง
โช๊คหลังค่อนข้างแข็ง ข้างหน้าค่อนข้างนุ่มครับ เพราะเป็นอัพไซส์ดาวน์ รู้สึกเหมือนทำให้เบรคนี่หนึบขึ้น หรือมโนเองก็ไม่รู้นะครับ

เบรค
เบรหนึบดีครับ ไม่มีปัญหา มี ABS หน้าหลัง

อัตราเร่ง
แยกเป็นสามโหมดนะครับ
comfort มีความหน่วง อารมณ์คล้ายรถพิกัด 150cc เมื่อเปิดคันเร่งหนัก จะไม่กระชาก จะไหลไปเรื่อยๆ โหมดนี้คนทุกวัยขี่ได้หมดครับเป็นมิตรกับคนชอบความเร็วต่ำ ส่วนมากผมใช้โหมดนี้ครับ เพราะส่วนตัวขี่ไม่เร็ว 60-80 โดยเฉลี่ย โหมดนี้เหมาะกับขี่ในเมือง ชุมชนนะครับ

sport โหมดนี้เวลาเปลี่ยนจาก comfort ก็จะพุ่งขึ้นมาเป็นเหมือนรถคนละคัน เสียงก็เปลี่ยน เสียงแรมแอร์ดูดอากาศดังกว่าเดิมมาก เหมาะแก่การเอาไว้แซงรถ ถ้าขี่จากโหมด comfort
sport+ โหมดนี้มีดึง กระชากที่สุด นิ่มนวลอะไรไม่มีอีกแล้ว เสียงกรองนี่ดังยังกับกรองแต่ง  ไม่เหมาะกับใช้ในเมืองที่มีรถติดนะครับ รถมันพุ่งมาก แต่ก็พุ่งในระดับ 250cc ครับ (ผมเคยขี่นินจา 300 อารมณ์ของ sport+ ของ CBR250RR รู้สึกดึงกว่านินจาครับ มันสะใจกว่า)

เสียง
เสียงท่อเงียบมากครับ เวลาขี่จะมีแค่เสียงแรมแอร์ดูดอากาศเข้ากรอง ท่อไม่ได้ยินเลย แค่นี้ผมก็พอใจละครับ  ผมชอบอะไรเงียบๆ พอใส่ท่อเสียงก็ซ้ำกะคลาส 250-300  ตัวอื่นๆ รู้สึกโชคดีที่ชอบท่อเงียบ จะได้ไม่เสียเงินซื้อท่อ 55

อัตราสิ้นเปลือง
ทำได้ที่ 29-30 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนมากจะเป็นโหมด comfort ความเร็วที่ 60-90 km/h สามารถโชว์อัตราสิ้นเปลืองแบบ Real - time ได้ครับ

ไฟ
เห็นว่าเป็น led รอบคัน สว่างดีครับ ไม่มีปัญหา

หน้าปัด
ลูกเล่นเยอะครับ แต่ผมยังไม่ได้ลองหลายๆอย่าง เช่นพวกไฟชิฟท์ไลท์ แลพไทม์

สรุปนะครับ
ทำไมผมถึงเลือกคันนี้
- เพราะรูปร่างหน้าตา อันนี้คือปัจจัยหลัก จอดเฉยๆก็มีความสุขแล้วครับ
รถคันนี้ จะเหมาะกับใคร
- เหมาะกับคนที่ชอบ RR
- คนที่ชอบขี่สนาม circuit
- คนที่ไม่บ้า cc แต่มองเห็นถึงความพิเศษในออพชั่นที่ให้มา

ข้อดี
- ออพชั่นต่างๆที่ไม่มีในคลาส 300-650 เช่น โหมดขับขี่ แลพไทม์
- มีแรมแอร์ของจริง ไม่ใช่ตัวหลอก
- เวอร์ชั่นที่ขายในไทย มีแต่เวอร์ชั่นที่มี ABS หน้าหลัง
- รอบตัดที่ 14,000 รอบ
- มีชิฟไลท์
- รถลิมิเต็ด

ข้อเสีย
- เกียร์บางทีงัดขึ้นยากครับ
- ไม่มี sliper clutch สำหรับผมไม่ค่อยสนใจครับเรื่องนี้ เพราะไม่ค่อยได้เชนเกียร์หนักอะไรเท่าไร
- รถหายาก ตอนนี้หลายๆร้านดอกขึ้นเป็น 6-7% ต่อปี ผมโชคดีได้ 3.75%
- รถต้องเข้าศูนย์วิงเซ็นเตอร์ที่เคยจำหน่าย CBR250RR แล้วเท่านั้น เพราะว่าทางร้านที่จำหน่ายจะมีเครื่องมือเอาไว้สำหรับ CBR250RR
- รถนำเข้า อะไหล่แพงมาก

ขอเล่าประมาณนี้ครับ รายละเอียดลึกๆอื่น ผมไม่ถนัดเขียนเท่าไรครับ ลองดูใน YouTube เพิ่มเติมได้ครับ
ชื่อสินค้า:   CBR250RR
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่