#โปรตีนจิ้งหรีดไทยไปไกลในต่างแดน
แมลง นับเป็นแหล่งอาหารโปรตีนชนิดใหม่ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ (FAO) โดยในการประชุมความมั่นคงอาหารและป่าไม้ ในปี 2556 ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้ให้การยอมรับในการใช้แมลงกินได้เป็นเสบียงอาหารโปรตีนสำรองสำหรับประชากรของโลกที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากคาดการณ์ว่าประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน ภายในปี 2593 ซึ่งอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนทั้งอาหารมนุษย์และอาหารสัตว์
แมลงจึงเป็นอาหารโปรตีนทางเลือกใหม่ที่มีราคาถูกและสามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น จิ้งหรีด เป็นหนึ่งในแมลงที่มีการเพาะเลี้ยงกันในประเทศไทย จนกลายเป็นที่สนใจ
แม้โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 โดยแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย หรือมีอาชีพเสริม เช่น เลี้ยงจิ้งหรีด
จิ้งหรีด เดิมนั้นเป็นแมลงที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ แต่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนถึง 12.9% ไขมัน 5.54% และคาร์โบไฮเดรต 5.1% จิ้งหรีดเป็นแมลงที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์เร็ว ให้ผลผลิตสูง แม่พันธุ์ 1 ตัว ให้ลูกถึง 1,000 ตัว รวมถึงใช้พื้นที่และปริมาณน้ำในการเลี้ยงน้อย ทั้งยังไม่ต้องใช้เทคโนโลยีและต้นทุนในการเลี้ยงที่สูง
จิ้งหรีดจึงเหมาะสมกับพื้นที่แห้งแล้งหรือเขตชนบท เกษตรกรจะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมไว้บริโภคและจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ เพราะใช้เวลาไม่มาก อีกทั้งสามารถใช้เวลาว่างจากการเพาะปลูกมาดูแลจิ้งหรีดได้ โดยภายในเวลา 1 ปี จะเลี้ยงจิ้งหรีดได้ 7-8 รุ่น ต่อปี
สำหรับพันธุ์จิ้งหรีดที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงมี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์สะดิ้ง ทองดำ และจิ้งหรีดขาว สำหรับจิ้งหรีดบ้าน หรือแมงสะดิ้ง ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 40-50 วัน ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 80-100 บาท ส่วนจิ้งหรีดทองดำ ใช้ระยะเวลาเลี้ยง ประมาณ 30-45 วัน ราคาขายส่งอยู่ที่ 120-150 บาท ต่อกิโลกรัม
นอกจากจะมีการซื้อขายภายในชุมชนแล้ว สำหรับตลาดขายส่งจิ้งหรีดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ตลาดเกษตรกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว และตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพฯ
จิ้งหรีดสามารถนำมาบริโภคได้หลายรูปแบบ เช่น ทอด คั่ว บรรจุกระป๋อง รวมถึงบดผงเพื่อแปรรูปเป็นคุกกี้ ขณะเดียวกัน ยังมีการส่งออกจิ้งหรีดไปยังญี่ปุ่น EU และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีความชำนาญในการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดในเชิงพาณิชย์ โดยมีฟาร์มจิ้งหรีด ประมาณ 20,000 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม
โดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มจิ้งหรีด เพื่อให้เกษตรกรมีแนวทางในการปฏิบัติและสามารถขอการรับรองต่อไป
มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ กำหนดเกณฑ์การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มจิ้งหรีด ตั้งแต่องค์ประกอบฟาร์ม อาหารสำหรับแมลง น้ำ การจัดการฟาร์ม สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการบันทึกข้อมูล เพื่อผลิตจิ้งหรีดที่มีคุณภาพดี และได้จิ้งหรีดและผลิตผลอื่นๆ ที่มีคุณภาพเหมาะสมในการนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริโภค
คุณลัลน์ลลิต สุคนธรัตน์สุข เจ้าของผลิตภัณฑ์ โปรตีนจิ้งหรีด Prote Go ได้รับการสนับสนุนจาก มหาวิทยลัยขอนแก่น และ กระทรวงวิทยาศาตร์เทคโนโลยี ได้ตัดสินใจลงทุน และทำตลาดต่างประเทศ จับตลาดญี่ปุ่น แคนนาดา และสหรัฐอเมริกา และพบว่าตลาดให้การต้อนรับอย่างดี
ได้นำผลิตภัณฑ์ โปรตีนจิ้งหรีด มาออกร้านในงาน งาน THAIFEX -World of Food 2019 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 28 พค. – 1 มิย. ๖๒ เพื่อหาตลาดใหม่ และสร้างการเรียนรู้กับกลุ่มคนไทย ให้เห็นคุณค่าของโปรตีนจากจิ้งหรีด สนใจติดต่อสอบถามที่ 098 1946547
จิ้งหรีดไทยไปไกลในต่างแดน
#โปรตีนจิ้งหรีดไทยไปไกลในต่างแดน
แมลง นับเป็นแหล่งอาหารโปรตีนชนิดใหม่ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ (FAO) โดยในการประชุมความมั่นคงอาหารและป่าไม้ ในปี 2556 ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้ให้การยอมรับในการใช้แมลงกินได้เป็นเสบียงอาหารโปรตีนสำรองสำหรับประชากรของโลกที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากคาดการณ์ว่าประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน ภายในปี 2593 ซึ่งอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนทั้งอาหารมนุษย์และอาหารสัตว์
แมลงจึงเป็นอาหารโปรตีนทางเลือกใหม่ที่มีราคาถูกและสามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น จิ้งหรีด เป็นหนึ่งในแมลงที่มีการเพาะเลี้ยงกันในประเทศไทย จนกลายเป็นที่สนใจ
แม้โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 โดยแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย หรือมีอาชีพเสริม เช่น เลี้ยงจิ้งหรีด
จิ้งหรีด เดิมนั้นเป็นแมลงที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ แต่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนถึง 12.9% ไขมัน 5.54% และคาร์โบไฮเดรต 5.1% จิ้งหรีดเป็นแมลงที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์เร็ว ให้ผลผลิตสูง แม่พันธุ์ 1 ตัว ให้ลูกถึง 1,000 ตัว รวมถึงใช้พื้นที่และปริมาณน้ำในการเลี้ยงน้อย ทั้งยังไม่ต้องใช้เทคโนโลยีและต้นทุนในการเลี้ยงที่สูง
จิ้งหรีดจึงเหมาะสมกับพื้นที่แห้งแล้งหรือเขตชนบท เกษตรกรจะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมไว้บริโภคและจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ เพราะใช้เวลาไม่มาก อีกทั้งสามารถใช้เวลาว่างจากการเพาะปลูกมาดูแลจิ้งหรีดได้ โดยภายในเวลา 1 ปี จะเลี้ยงจิ้งหรีดได้ 7-8 รุ่น ต่อปี
สำหรับพันธุ์จิ้งหรีดที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงมี 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์สะดิ้ง ทองดำ และจิ้งหรีดขาว สำหรับจิ้งหรีดบ้าน หรือแมงสะดิ้ง ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 40-50 วัน ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 80-100 บาท ส่วนจิ้งหรีดทองดำ ใช้ระยะเวลาเลี้ยง ประมาณ 30-45 วัน ราคาขายส่งอยู่ที่ 120-150 บาท ต่อกิโลกรัม
นอกจากจะมีการซื้อขายภายในชุมชนแล้ว สำหรับตลาดขายส่งจิ้งหรีดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ตลาดเกษตรกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว และตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพฯ
จิ้งหรีดสามารถนำมาบริโภคได้หลายรูปแบบ เช่น ทอด คั่ว บรรจุกระป๋อง รวมถึงบดผงเพื่อแปรรูปเป็นคุกกี้ ขณะเดียวกัน ยังมีการส่งออกจิ้งหรีดไปยังญี่ปุ่น EU และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีความชำนาญในการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดในเชิงพาณิชย์ โดยมีฟาร์มจิ้งหรีด ประมาณ 20,000 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม
โดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มจิ้งหรีด เพื่อให้เกษตรกรมีแนวทางในการปฏิบัติและสามารถขอการรับรองต่อไป
มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ กำหนดเกณฑ์การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มจิ้งหรีด ตั้งแต่องค์ประกอบฟาร์ม อาหารสำหรับแมลง น้ำ การจัดการฟาร์ม สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการบันทึกข้อมูล เพื่อผลิตจิ้งหรีดที่มีคุณภาพดี และได้จิ้งหรีดและผลิตผลอื่นๆ ที่มีคุณภาพเหมาะสมในการนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริโภค
คุณลัลน์ลลิต สุคนธรัตน์สุข เจ้าของผลิตภัณฑ์ โปรตีนจิ้งหรีด Prote Go ได้รับการสนับสนุนจาก มหาวิทยลัยขอนแก่น และ กระทรวงวิทยาศาตร์เทคโนโลยี ได้ตัดสินใจลงทุน และทำตลาดต่างประเทศ จับตลาดญี่ปุ่น แคนนาดา และสหรัฐอเมริกา และพบว่าตลาดให้การต้อนรับอย่างดี
ได้นำผลิตภัณฑ์ โปรตีนจิ้งหรีด มาออกร้านในงาน งาน THAIFEX -World of Food 2019 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 28 พค. – 1 มิย. ๖๒ เพื่อหาตลาดใหม่ และสร้างการเรียนรู้กับกลุ่มคนไทย ให้เห็นคุณค่าของโปรตีนจากจิ้งหรีด สนใจติดต่อสอบถามที่ 098 1946547