แต่ก่อนเรากับพ่อสนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง
จนเราเรียนจบ เรากลับมาเพื่อจะมาช่วยกิจการที่บ้าน
แต่เค้ามีข้อติเราทุกอย่าง จนเราไม่เอาเลย ช่วยแค่เล็กๆน้อยๆ
พอมาวันนึงเราเห็นว่าบิลหนี้บัตรเครดิตเยอะมาก เราเลยสงสัยว่ามันคืออะไร
จนเราไปรื้อดูเห็นว่าเป็นบัตรเครดิตที่หนี้เน่า คือผูกกับพวกประกันเกินความจำเป็นไปเยอะมาก
เสียไปหลายล้าน แล้วก็จ่ายทั้งเงินก้อน ทั้งขั้นต่ำ ดอกเบี้ยทบต้นมหาศาล
จนทะเลาะกับพ่อหนักมาก เราต้องออกมาอยู่นอกบ้านถึง 2 ครั้ง
เพื่อมานั่งจัดการเคลียร์สิ่งที่เราไม่ได้ก่อ เสียเวลา และพลังงานชีวิตเราเยอะมาก
แต่สุดท้ายพอเราจัดการเสร็จ เราบอกให้เค้ายกเลิก
แต่เค้าไม่ยอม แล้วเราก็ปล่อยวางไม่ได้
เราเริ่มทำงานตั้งแต่ 15 คิดหาวิธีทำเงินมาตลอด
กินเที่ยวตามโอกาส แต่ปกติแล้วถือว่าจับจ่ายค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับรายรับ
เพราะเรายังไม่มีบ้าน รถเป็นของตัวเอง
แต่พ่อทำร้ายน้ำใจเราทุกทาง
ยังมีหนี่ที่ควรรีบไปจัดการ แต่เค้าไม่สนเลย
ปัญหาแบบนี้ควรทำยังไงคะ
พ่อไม่ฟังคนในบ้าน ทำงานมาอย่างหนัก 30 ปี แต่หนี้สินยังมีท่วมหัว เรามาช่วยแก้ไข แต่เค้าไม่เชื่อในสิ่งที่เราแนะนำ
จนเราเรียนจบ เรากลับมาเพื่อจะมาช่วยกิจการที่บ้าน
แต่เค้ามีข้อติเราทุกอย่าง จนเราไม่เอาเลย ช่วยแค่เล็กๆน้อยๆ
พอมาวันนึงเราเห็นว่าบิลหนี้บัตรเครดิตเยอะมาก เราเลยสงสัยว่ามันคืออะไร
จนเราไปรื้อดูเห็นว่าเป็นบัตรเครดิตที่หนี้เน่า คือผูกกับพวกประกันเกินความจำเป็นไปเยอะมาก
เสียไปหลายล้าน แล้วก็จ่ายทั้งเงินก้อน ทั้งขั้นต่ำ ดอกเบี้ยทบต้นมหาศาล
จนทะเลาะกับพ่อหนักมาก เราต้องออกมาอยู่นอกบ้านถึง 2 ครั้ง
เพื่อมานั่งจัดการเคลียร์สิ่งที่เราไม่ได้ก่อ เสียเวลา และพลังงานชีวิตเราเยอะมาก
แต่สุดท้ายพอเราจัดการเสร็จ เราบอกให้เค้ายกเลิก
แต่เค้าไม่ยอม แล้วเราก็ปล่อยวางไม่ได้
เราเริ่มทำงานตั้งแต่ 15 คิดหาวิธีทำเงินมาตลอด
กินเที่ยวตามโอกาส แต่ปกติแล้วถือว่าจับจ่ายค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับรายรับ
เพราะเรายังไม่มีบ้าน รถเป็นของตัวเอง
แต่พ่อทำร้ายน้ำใจเราทุกทาง
ยังมีหนี่ที่ควรรีบไปจัดการ แต่เค้าไม่สนเลย
ปัญหาแบบนี้ควรทำยังไงคะ