เมื่อเดือนต.ค.61 ได้ไปเจอบ้าน นาย ก ขณะนั้นเราที่กำลังมองหาคือบ้านสวนมือสองที่ราคาไม่แพงมาก ก็เลยไปดู แต่เห็นว่ายังมีคนอาศัยอยู่ก็ได้ถามกับคนขายว่ามีปัญหาอะไรมั้ย เค้าบอกว่าเดี๋ยวเค้าก็ออก เพราะหมดสัญญาไปแล้ว บ้านหลังนี้เป็นของนาย ข.ที่มาทำสัญญาขายฝากแล้วสัญญาขาดตั้งแต่ ม.ค.61ตอนนี้คนขายได้ทำเรื่องฟ้องขับไล่นาย ค ที่เป็นลูกนาย ข ไปแล้ว เดี๋ยวเค้าก็ออกเค้าอยู่ไม่ได้หรอก อยู่ต่อก็จะโดนจับ อืมๆๆๆ เราคิดไปก็เห็นด้วยตามนั้น
เราเห็นว่าไม่น่าจะติดปัญหาอะไรอีกก็ตัดสินใจทำสัญญาจะซื้อจะขายเพื่อกู้ธนาคาร แต่เมื่อวางมัดจำไป 20,000 บาท เจ้าของบอกว่าตอนนี้มีคนมาดูเยอะมาก
แล้วเค้าไม่มั่นใจว่าเราจะเอาแน่รึเปล่ายังไงขอให้เราเพิ่มเงินมัดจำได้มั้ย เป็น 3 แสน เค้าจะได้กันไว้ให้เราแน่นอน เราบอกว่าเรามีไม่พอ จึงจ่ายไป2แสน ซึ่งรวมกับของเก่าก็ 220,000 บาท แล้ว
ในสัญญานั้นระบุว่าจะไม่คืนมัดจำในทุกกรณีซึ่งเรารู้สึกว่าเราเสียเปรียบมาก และเราก็ไม่รู้ว่าที่อื่นเค้าทำกันแบบไหน แต่เรามั่นใจว่ายังไงเรากู้ผ่านแน่นอน
ก็เลยตัดสินใจจ่ายเงินมัดจำเพิ่มไป เพราะเราไม่อยากให้คนขายกังวลหรือรู้สึกว่าเสียโอกาสที่มาขายกับเรา ในสัญญาระบุระยะเวลา 2 เดือนสิ้นสุด 28 มี.ค.62 ในการทำเรื่อง
แต่พอวันรุ่งขึ้น นาย ค ได้มาหาเราที่ทำงาน มาขอเจรจากับเราว่าอย่าทำเรื่องซื้อบ้านเค้าได้มั้ย เค้าขอเวลา 7 วันจะให้น้ามาทำสัญญากับธนาคารให้เรียบร้อย เราก็กังวลนะว่าถ้าเค้าไม่รักษาคำพูดเราก็จะเสียเวลาไปอีก 7 วัน แต่เราก็ให้โอกาสเค้า ผ่านไป 6 วัน เราได้โทรไปถามนาย ค ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เค้าบอกว่าน้าเค้ายังไม่ลงมาจากใต้เลย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะทำอะไรไม่ได้ และจะขอเลื่อนเวลาเราไปอีก เราถามเค้าว่า จะขอกี่วัน เค้าบอกไม่รู้เหมือนกัน ...โอ้ว คุณพระ !! แบบนี้ไม่ดีแน่!!!
เราจึงบอกเค้าว่าเอางี้แล้วกันถ้าเกิดต้องการจะซื้อคืนก็คืนเงินมัดจำพี่มานะ 220,000 บาท เพราะพี่ก็ไม่อยากมานั่งกังวลว่าเงินพี่จะสูญมั้ย พี่อยากทำเรื่องให้เรียบร้อย แล้วทำไมก่อนหน้านี้คุณถึงไม่มาคุยกับพี่ก่อนนะ พี่จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายอะไรแบบนี้ นาย ค บอกว่าไม่มีหรอกเงินอะ จะไปเอาจากไหน พี่ให้ผมไปปล้นเค้าเหรอ!!! เราก็บอกว่าถ้างั้นพี่ก็ต้องทำเรื่องต่อนะ เพราะถ้าปล่อยให้เวลายืดเยื้อ พี่มีแต่เสียหาย เงิน 2 แสนกว่านี่ไม่น้อยเลย ต้องทำงานเก็บเงินนานนะ จากนั้นนาย ค ก็เงียบหายไปหลายวัน เราก็ถามกับนาย ก ว่า ทางนั้นเค้าจะซื้อคืนมั้ย นาย ก บอกว่าน้านาย ค ไม่ซื้อคืนหรอก เค้ามีภาระเยอะแล้ว
จากนั้นเราก็ลุยเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อทำเรื่องซื้อบ้าน ต้องไปขอให้สามีให้มากู้ร่วม ในช่วงนี้เราก็ถามนาย ก ตลอดนะ ว่าเค้าจะออกรึยัง นาย ก ก็ยังยืนยันว่าเราไม่ต้องกังวล ยังไงเค้าต้องออกแน่นอน (เราให้ความไว้วางใจนาย ก เพราะเขาเป็นทนายเค้าต้องรู้ดีกว่าเราสิเนาะ) สัญญาผ่านเรียบร้อย เย้!!!
แต่....นาย ค ยังอยู่ โอ๊ยยยยยย!!!!! เริ่มเครียดหนักแล้วจ้า เพือนๆพี่ๆก็เป็นห่วง ว่าไม่ต้องซื้อหรอก เดี๋ยวเกิดปัญหายาว...เราบอกว่าไม่ทันแล้วล่ะ เพราะ
ทำสัญญาแบบไม่คืนมัดจำไป ยังไงต้องลุยต่อ แต่วันจ่ายเงินเราให้นาย ก เขียนสัญญาว่าเค้าจะเป็นคนผลักดันคนเก่าให้ออกไปและเค้าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทุกกรณี เราจึงได้วางใจ และจ่ายเงินไป วันที่ 15 มี.ค.62 ซึ่งเร็วกว่าที่ระบุในสัญญามาก และนาย ก บอกว่า นาย ค กำลังสร้างบ้านอยู่ในที่ของญาติและขนของไปหมดแล้ว เพียงแค่พักอาศัยในระหว่างที่กำลังก่อสร้างเท่านั้น ขอเวลา 10 วัน วันที่ 25 มี.ค.เข้าไปอยู่ได้เลย เวลาผ่านไปวันที่ 25 มี.ค. เราโทรไปถาม เค้าก็บอกว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อยเลย ขอเลื่อนไปหน่อย ให้เวลาเค้าหน่อยอย่าไปกดดันมากเดี๋ยวเค้าก็ออกแล้ว ให้เวลาเค้าอีก 10 วันนะ
ผ่านไปวันที่ 11 มี.ค. เราได้โทรไปถามนาย ก ก็ได้คำตอบแบบเดิม...(เฮ้ย!!!! นี่มันคืออะไรฟะ).....พีคะ งั้นขอคุยกับป้าที่อยู่ได้มั้ย ( นาย ค อยู่กับแม่)
เพราะที่ผ่านมาก็ได้แต่รอว่ามันคือยังไงกันแน่ ตอนนี้อยากรู้จากปากเค้าเองแล้วล่ะ นาย ก ให้เบอร์ ป้าแกมา เราก็คุยกันดีๆนะ
เรา: สวัสดีค่ะ ป้าคะ พอดีหนูซื้อบ้านหลังนี้แล้ว เห็นคนขายว่าป้ากำลังทำไฟอยู่ แล้วจะเรียบร้อยเมื่อไหร่คะ ?? ป้าตอบ :...ขอเวลาป้าอีกหน่อยนะ ช่างไม่ว่างเลย หยุดสงกรานต์ หลังสงกรายต์ถึงจะได้ทำ ...เราตอบ : ได้ค่ะป้า แต่เห็นคนขายบอกว่าทำแล้วยังไม่เสร็จนี่คะ...ป้าตอบ : ยังเลย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ขอเป็นวันที่ 20 นี้ละกัน !!!!! เราบอก : เอางี้นะคะป้า หนูให้เวลาป้าถึงวันที่ 20 ได้ค่ะ แต่ต้องเรียบร้อยนะคะป้า เพราะหนูจะต้องเข้าไปอยู่แล้ว ...ป้าตอบ : ได้ๆจ้ะ เดี๋ยววันที่ 19 ป้าโทรบอกนะ ....เรา : ค่ะป้า ขอบคุณค่ะ คือที่คุยกันมันเหมือนจบง่ายมากจริงๆค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลยตกลงกันง่ายมาก เราก็โล่งใจ
ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที มีสายป้าแกโทรมาเป็นเสียงลูกชาย คือนาย ค ถามเราว่านี่เบอร์ใคร เรา : คนที่ซื้อบ้านหลังนี้ค่ะ พอถามชื่อเรา เราก็บอกไป เท่านั้นแหละใส่เรามาชุดนึงใหญ่ๆ อยากได้บ้านกูมากนักเหรอ !!??? ถ้ามาเจอกูแน่ ...!!! เราอึ้งค่ะ ไม่คิดจะได้ยินแบบนี้เพราะเพิ่งคุยกับแม่เค้าไปอย่างดิบดี
แต่เราก็อัดเสียงไว้ทันนะ แล้วนาย ค ก็วางสายไป เราคิดว่างานงอกแน่ๆ ปรึกษาพี่ๆ ปรึกษาหลายทางมาก ศึกษาในกระทู้พันทิพที่เคยลงไว้ เห็นว่าสามารถดำเนินการต่อจากการฟ้องของคนเก่าได้เลย ซึ่งมีการออกหมายจับแล้ว เราได้ขอเอกสารจาก นาย ก ทั้งหมด นาย ก บอกว่าไม่สามารถใช้ได้นะเพราะหมดอายุความแล้ว เหอๆๆๆๆ เอาไงดีน้อ!!!??? แต่เราก็ไม่ละความพยายาม รอจนถึงวันที่ 19 เม.ย.ได้โทรไปหาป้าแกอีกที แกเรียกลูกแกมาจ้า นาย ค มาตัดสายทิ้ง ...สิ้นสุดการรอคอยของเราแล้ว เราคิดว่าหมดหนทางเจรจาแน่ๆถ้าให้ใครไปช่วยคุยให้ก็กลัวเค้าจะเดือดร้อน....เราจึงนำหมายจับไปให้ตำรวจ...ตำรวจให้ไปห้องสืบสวนห้องสืบรับเรื่องเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 62 เราก็ได้แต่รอว่าเรื่องจะจบลงยังไง ซื้อบ้านแล้ว เราก็อยากเข้าไปอยู่อะเนาะ แม่เราก็รอคอยจะไปดูบ้าน หวังจะได้อยู่บ้านใหม่ ตอนนี้หวังพึ่งตำรวจอย่างเดียวแล้วจริง ก็หวังว่ามันจะจบลงด้วยดีในเร็ววันนี้ค่ะ เพื่อนๆพี่ๆมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมจากนี้ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ คิดๆไว้ ว่าจะไปทำเรื่องตัดน้ำตัดไปด้วยเลยจะดีมั้ยนะ !!???
ซื้อบ้านมือสองที่หลุดสัญญาขายฝากแล้ว แต่คนเก่ายังไม่ย้ายออกผ่านมา 1ปีกว่าแล้วออกหมายจับแล้วก็ยังเพิกเฉย ควรทำไงดีคะ?
เราเห็นว่าไม่น่าจะติดปัญหาอะไรอีกก็ตัดสินใจทำสัญญาจะซื้อจะขายเพื่อกู้ธนาคาร แต่เมื่อวางมัดจำไป 20,000 บาท เจ้าของบอกว่าตอนนี้มีคนมาดูเยอะมาก
แล้วเค้าไม่มั่นใจว่าเราจะเอาแน่รึเปล่ายังไงขอให้เราเพิ่มเงินมัดจำได้มั้ย เป็น 3 แสน เค้าจะได้กันไว้ให้เราแน่นอน เราบอกว่าเรามีไม่พอ จึงจ่ายไป2แสน ซึ่งรวมกับของเก่าก็ 220,000 บาท แล้ว
ในสัญญานั้นระบุว่าจะไม่คืนมัดจำในทุกกรณีซึ่งเรารู้สึกว่าเราเสียเปรียบมาก และเราก็ไม่รู้ว่าที่อื่นเค้าทำกันแบบไหน แต่เรามั่นใจว่ายังไงเรากู้ผ่านแน่นอน
ก็เลยตัดสินใจจ่ายเงินมัดจำเพิ่มไป เพราะเราไม่อยากให้คนขายกังวลหรือรู้สึกว่าเสียโอกาสที่มาขายกับเรา ในสัญญาระบุระยะเวลา 2 เดือนสิ้นสุด 28 มี.ค.62 ในการทำเรื่อง
แต่พอวันรุ่งขึ้น นาย ค ได้มาหาเราที่ทำงาน มาขอเจรจากับเราว่าอย่าทำเรื่องซื้อบ้านเค้าได้มั้ย เค้าขอเวลา 7 วันจะให้น้ามาทำสัญญากับธนาคารให้เรียบร้อย เราก็กังวลนะว่าถ้าเค้าไม่รักษาคำพูดเราก็จะเสียเวลาไปอีก 7 วัน แต่เราก็ให้โอกาสเค้า ผ่านไป 6 วัน เราได้โทรไปถามนาย ค ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เค้าบอกว่าน้าเค้ายังไม่ลงมาจากใต้เลย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะทำอะไรไม่ได้ และจะขอเลื่อนเวลาเราไปอีก เราถามเค้าว่า จะขอกี่วัน เค้าบอกไม่รู้เหมือนกัน ...โอ้ว คุณพระ !! แบบนี้ไม่ดีแน่!!!
เราจึงบอกเค้าว่าเอางี้แล้วกันถ้าเกิดต้องการจะซื้อคืนก็คืนเงินมัดจำพี่มานะ 220,000 บาท เพราะพี่ก็ไม่อยากมานั่งกังวลว่าเงินพี่จะสูญมั้ย พี่อยากทำเรื่องให้เรียบร้อย แล้วทำไมก่อนหน้านี้คุณถึงไม่มาคุยกับพี่ก่อนนะ พี่จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายอะไรแบบนี้ นาย ค บอกว่าไม่มีหรอกเงินอะ จะไปเอาจากไหน พี่ให้ผมไปปล้นเค้าเหรอ!!! เราก็บอกว่าถ้างั้นพี่ก็ต้องทำเรื่องต่อนะ เพราะถ้าปล่อยให้เวลายืดเยื้อ พี่มีแต่เสียหาย เงิน 2 แสนกว่านี่ไม่น้อยเลย ต้องทำงานเก็บเงินนานนะ จากนั้นนาย ค ก็เงียบหายไปหลายวัน เราก็ถามกับนาย ก ว่า ทางนั้นเค้าจะซื้อคืนมั้ย นาย ก บอกว่าน้านาย ค ไม่ซื้อคืนหรอก เค้ามีภาระเยอะแล้ว
จากนั้นเราก็ลุยเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อทำเรื่องซื้อบ้าน ต้องไปขอให้สามีให้มากู้ร่วม ในช่วงนี้เราก็ถามนาย ก ตลอดนะ ว่าเค้าจะออกรึยัง นาย ก ก็ยังยืนยันว่าเราไม่ต้องกังวล ยังไงเค้าต้องออกแน่นอน (เราให้ความไว้วางใจนาย ก เพราะเขาเป็นทนายเค้าต้องรู้ดีกว่าเราสิเนาะ) สัญญาผ่านเรียบร้อย เย้!!!
แต่....นาย ค ยังอยู่ โอ๊ยยยยยย!!!!! เริ่มเครียดหนักแล้วจ้า เพือนๆพี่ๆก็เป็นห่วง ว่าไม่ต้องซื้อหรอก เดี๋ยวเกิดปัญหายาว...เราบอกว่าไม่ทันแล้วล่ะ เพราะ
ทำสัญญาแบบไม่คืนมัดจำไป ยังไงต้องลุยต่อ แต่วันจ่ายเงินเราให้นาย ก เขียนสัญญาว่าเค้าจะเป็นคนผลักดันคนเก่าให้ออกไปและเค้าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทุกกรณี เราจึงได้วางใจ และจ่ายเงินไป วันที่ 15 มี.ค.62 ซึ่งเร็วกว่าที่ระบุในสัญญามาก และนาย ก บอกว่า นาย ค กำลังสร้างบ้านอยู่ในที่ของญาติและขนของไปหมดแล้ว เพียงแค่พักอาศัยในระหว่างที่กำลังก่อสร้างเท่านั้น ขอเวลา 10 วัน วันที่ 25 มี.ค.เข้าไปอยู่ได้เลย เวลาผ่านไปวันที่ 25 มี.ค. เราโทรไปถาม เค้าก็บอกว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อยเลย ขอเลื่อนไปหน่อย ให้เวลาเค้าหน่อยอย่าไปกดดันมากเดี๋ยวเค้าก็ออกแล้ว ให้เวลาเค้าอีก 10 วันนะ
ผ่านไปวันที่ 11 มี.ค. เราได้โทรไปถามนาย ก ก็ได้คำตอบแบบเดิม...(เฮ้ย!!!! นี่มันคืออะไรฟะ).....พีคะ งั้นขอคุยกับป้าที่อยู่ได้มั้ย ( นาย ค อยู่กับแม่)
เพราะที่ผ่านมาก็ได้แต่รอว่ามันคือยังไงกันแน่ ตอนนี้อยากรู้จากปากเค้าเองแล้วล่ะ นาย ก ให้เบอร์ ป้าแกมา เราก็คุยกันดีๆนะ
เรา: สวัสดีค่ะ ป้าคะ พอดีหนูซื้อบ้านหลังนี้แล้ว เห็นคนขายว่าป้ากำลังทำไฟอยู่ แล้วจะเรียบร้อยเมื่อไหร่คะ ?? ป้าตอบ :...ขอเวลาป้าอีกหน่อยนะ ช่างไม่ว่างเลย หยุดสงกรานต์ หลังสงกรายต์ถึงจะได้ทำ ...เราตอบ : ได้ค่ะป้า แต่เห็นคนขายบอกว่าทำแล้วยังไม่เสร็จนี่คะ...ป้าตอบ : ยังเลย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ขอเป็นวันที่ 20 นี้ละกัน !!!!! เราบอก : เอางี้นะคะป้า หนูให้เวลาป้าถึงวันที่ 20 ได้ค่ะ แต่ต้องเรียบร้อยนะคะป้า เพราะหนูจะต้องเข้าไปอยู่แล้ว ...ป้าตอบ : ได้ๆจ้ะ เดี๋ยววันที่ 19 ป้าโทรบอกนะ ....เรา : ค่ะป้า ขอบคุณค่ะ คือที่คุยกันมันเหมือนจบง่ายมากจริงๆค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลยตกลงกันง่ายมาก เราก็โล่งใจ
ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที มีสายป้าแกโทรมาเป็นเสียงลูกชาย คือนาย ค ถามเราว่านี่เบอร์ใคร เรา : คนที่ซื้อบ้านหลังนี้ค่ะ พอถามชื่อเรา เราก็บอกไป เท่านั้นแหละใส่เรามาชุดนึงใหญ่ๆ อยากได้บ้านกูมากนักเหรอ !!??? ถ้ามาเจอกูแน่ ...!!! เราอึ้งค่ะ ไม่คิดจะได้ยินแบบนี้เพราะเพิ่งคุยกับแม่เค้าไปอย่างดิบดี
แต่เราก็อัดเสียงไว้ทันนะ แล้วนาย ค ก็วางสายไป เราคิดว่างานงอกแน่ๆ ปรึกษาพี่ๆ ปรึกษาหลายทางมาก ศึกษาในกระทู้พันทิพที่เคยลงไว้ เห็นว่าสามารถดำเนินการต่อจากการฟ้องของคนเก่าได้เลย ซึ่งมีการออกหมายจับแล้ว เราได้ขอเอกสารจาก นาย ก ทั้งหมด นาย ก บอกว่าไม่สามารถใช้ได้นะเพราะหมดอายุความแล้ว เหอๆๆๆๆ เอาไงดีน้อ!!!??? แต่เราก็ไม่ละความพยายาม รอจนถึงวันที่ 19 เม.ย.ได้โทรไปหาป้าแกอีกที แกเรียกลูกแกมาจ้า นาย ค มาตัดสายทิ้ง ...สิ้นสุดการรอคอยของเราแล้ว เราคิดว่าหมดหนทางเจรจาแน่ๆถ้าให้ใครไปช่วยคุยให้ก็กลัวเค้าจะเดือดร้อน....เราจึงนำหมายจับไปให้ตำรวจ...ตำรวจให้ไปห้องสืบสวนห้องสืบรับเรื่องเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 62 เราก็ได้แต่รอว่าเรื่องจะจบลงยังไง ซื้อบ้านแล้ว เราก็อยากเข้าไปอยู่อะเนาะ แม่เราก็รอคอยจะไปดูบ้าน หวังจะได้อยู่บ้านใหม่ ตอนนี้หวังพึ่งตำรวจอย่างเดียวแล้วจริง ก็หวังว่ามันจะจบลงด้วยดีในเร็ววันนี้ค่ะ เพื่อนๆพี่ๆมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมจากนี้ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ คิดๆไว้ ว่าจะไปทำเรื่องตัดน้ำตัดไปด้วยเลยจะดีมั้ยนะ !!???