[CR] Back Pack หนีงาน ลุยเดี่ยว เที่ยวอินเดีย I must survive

ขอเล่าสาเหตุของการอยากมาเที่ยวอินเดียก่อนนะคะ เป็นคนชอบดู Series India โดยเฉพาะเกี่ยวกับศาสนา เรื่องหนุมาน และพระพุทธเจ้า ซึ่งในเรื่องจะมีสถานที่งดงาม ทำให้อยากมา เลยคิดว่าสักวันต้องไปให้ได้ ก็มานั่งอ่านรีวิวอยู่ประมาณ 2 เดือน ก็มาเจอสถานที่อีกแห่งที่อยากมา คือ Kashmir ซึ่งใครๆก็ว่าสวยเป็นสวิตเซอร์แลนด์เอเชีย ทำให้เป็นดินแดนในฝันเลย Taj Mahal และ Kashmir ตัดสินใจชวนเพื่อนๆ แต่เพื่อนไม่มา hahaha ก็คิดหนักทำงัยดีวะ เป็นผู้หญิงจะไปคนเดียว ข่าวข่มขืนช่วงนั้นของอินเดียก็เยอะ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง และช่วงที่อยากจะไปก็เป็นช่วงสอบ ECL พอดี เลยทดลองไปสอบ ได้ 33 คะแนนจาก 100 hihihi ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่า เออ อย่างน้อยก็น่าจะรอดตาย hahaha เลยจองตั๋วจาก BKK สุวรรณภูมิ – Delhi เที่ยวไป 0805-1250 เที่ยวกลับ 2300-0400 ขากลับจองไฟล์ดึก เพราะกลัวตัวเองหลงทาง ได้ตั๋วมาในราคา 8,961 บาท จองช่วงเดือน ธ.ค.61 และตั๋ว Delhi-Srinagar ไปกลับ ราคา 3,362 บาท รวมค่าเครื่องบินไปกลับ 12,323 บาท ค่ะ ใช้บริการ Air India ตลอดทริปค่ะ บริการดี อาหารก็อร่อย ครั้งแรกที่ทานอาหารอินเดียค่ะ หลังจากหาข้อมูลเสร็จเรียบร้อยก็มานั่ง Plan ว่าจะไปไหนบ้าง การเดินทางจะเดินทางแบบไหนระหว่างเมือง ที่จะปลอดภัยสำหรับตัวเอง hahaha ก็ตัดสินใจเดินทางโดยรถไฟ ต้องขอบคุณ คุณ Narutlek ที่ให้ยืม User ในการจองตั๋วรถไฟอินเดีย เพราะตัวเองสมัครแล้วไม่มีการยืนยันจากการรถไฟอินเดีย เพราะไม่มีหมายเลข OTP เข้าโทรศัพท์ ถ้าใครจะสมัครก็สมัครได้นะคะอ่านจาก Pantip ได้เลยค่ะ หลังจากนั้นก็จองตั๋วจาก delhi –agra ค่าตั๋วรถไฟ 241.52 บาท (ปริ้นตั๋วรถไฟไปด้วยนะคะ) เที่ยว 06.00 เช้า รถไฟอินเดียตรงเวลามากนะคะ ห้ามสายค่ะ ก็เดินทางถึง agra 08.00 ก็เดินหาที่ฝากกระเป๋า clook room or luggage office ค่ะ ใบละไม่เกิน 40 Rs หรือ 20 บาทค่ะ ถ้าคนพื้นที่ก็ 20 Rs หรือ 10 บาท แต่กระเป๋าต้องล็อกกุญแจด้วยนะคะ ถึงจะรับฝาก รถไฟจาก Agra-jaipur จองเที่ยว เย็นค่ะ 1700 ราคา 246 บาท ถึง ชัยปุระ 4 ทุ่ม และจองจาก Jaipur – Dehli รอบ 1645 ถึง เดลี 4 ทุ่ม ราคา 290 บาท สำหรับโรงแรมก็จองจาก booking.com ค่ะ ปลอดภัย จองแบบไม่ใช้บัตรเครดิต ราคาต่อคืนนอนแบบประหยัดเพราะไปคนเดียวก็จองราคา 350 บาท ค่ะ ไม่มีอาหารเช้า นะคะ หลังจากจองตั๋ว โรงแรม และมี Plan เรียบร้อยแล้วก็ขอ visa India ค่ะ ค่า visa 62US หรือ 2,647.51 บาท ใช้ได้ 120 วัน เข้าอินเดียได้ 2 ครั้งภายใน 120วันนะคะ ถ้าเราให้บริษัททัวร์ทำให้ก็ประมาณ 3500-4000 บาท สำหรับจองตั๋วรถไฟบริษัททัวร์คิด 150 บาทต่อตั๋วนะคะ visa ขอ2วันก็ผ่านค่ะ ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนที่อยู่อินเดียที่ให้ ชื่อ , เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ มาใช้ในการขอวีซ่า เพื่อนใจดีมากค่ะ รู้จักกันประมาณ 3 เดือน ถ้าเราไม่รู้จักใคร ก็ใส่ชื่อคนขับรถที่เราจองหรือ ชื่อของโรงแรม และหมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรมก็ได้เลยนะคะ

ก็เริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ

Day 1 22 March 2019 Bkk-Dehli

0600 Check in ที่เค้าเตอร์W ประตู 9 ค่ะ ก็คิดว่าตัวเองเป็นคนไทยคนเดียวแน่นอน ที่ไปไฟล์นี้ ที่ไหนได้ มีคุณลุงคุณป้า คุณน้า และเด็กไปเที่ยวบินนี้อีกประมาณ 15 คน เราก็ชื่นใจอย่างน้อยก็รอดแล้วละวะคิดในใจ คุณน้าเห็นเราหน้าแปลกไม่ได้อยู่ในกลุ่มก็ถามว่าจะไปอินเดียเหรอ ไปกับใคร เราก็บอกว่าไปคนเดียวค่ะ แกตกใจ ทำไมกล้าไป พูดภาษาเขาได้เหรอหรือพูดอังกฤษได้ เราก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะ อังกฤษได้นิดหน่อยค่ะ แกหัวเราะและว่าเราบ้า hahaha พอถึงคิวเราเชคอิน เราก็ยื่น passport และตัวvisa ที่เราคิดว่าเราปริ้นมาถูกต้องให้พนักงาน น้องบอกว่าปริ้นมาผิดนะคะ เราก็เหวอละทีนี้จะทำอย่างไรดี น้องบอกเดี่ยวเชคอินให้ก่อน พี่ไปปริ้นที่ตำรวจท่องเที่ยวชั้น 2 นะคะ เราก็ใจสบายใจขึ้น รอดแล้วว่ะยังงัยก็ได้ไปชัวร์ แต่ไม่มีเราคนเดียวที่ปริ้นผิด มีน้องอีกคนผู้หญิง กรณีเดียวกัน 555 ถ้าใครไม่ได้ปริ้นหรือปริ้นผิดก็ไปปริ้นที่ตำรวจท่องเที่ยวชั้น 2 ประตู 3 นะคะ ค่าปริ้นใบละ 20 บาทค่ะ พอเราได้ใบvisa มาก็มาให้พนักงานที่เค้าเตอร์ดูอีกรอบ และเราก็ไปป่านด่านตรวจก่อนออกนอกประเทศ ถ้าใครไม่อยากถอดรองเท้าก็สวมรองเท้าแบบโปร่งไปนะคะ ถ้าผ้าใบต้องถอดสแกนค่ะที่บ้านเรา หลังจากนั้นก็ไปรอขึ้นเครื่อง พอได้เวลาเครื่องออก ก็หลับยาวไปเลยค่ะ 4 ชั่วโมง ที่นั่งก็สบายนะคะ แอร์อินเดีย อ้อลืมไปค่ะ เนตใช้ซิม 2 fly ของ ais ค่ะ 8 วัน ก็โอเคนะคะไม่มีปัญหาแต่ใช้ที่ Khasmir ไม่ได้นะคะ เมื่อถึงสนามบินก็ไปเขียนใบ ตม. เข้าอินเดีย ใบเล็กนิดเดียวค่ะ ไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อนที่มีตั้ง 20 ข้อ นะคะ เมื่อเขียนเสร็จเราก็ไปที่ช่องนักท่องเที่ยวค่ะ ตม.ไม่ถามเลยค่ะ แต่ก็เตรียมเอกสารที่เราจองไว้ด้วยนะคะ เผื่อ ตม.เรียกดู การแต่งกายก็แต่งกายให้สุภาพ ก็โอเคแล้วค่ะ

อ้อลืมค่ะ สำหรับตังค์ ถ้าจะให้ดีแลกแบบ ดอลลาร์ แล้วมาแลกรูปีที่สนามบินอินเดียนะคะจะได้เยอะกว่าที่บ้านเราค่ะ หรือถ้าใครจะแลกมาจากเมืองไทยก็ได้ค่ะแต่ต้องโทรไปจองก่อนที่ซุปเปอร์ริช ก่อน 1 วัน
เมื่อออกจากสนามบินก็มารอเพื่อนที่ประตู 5 เพื่อนใจดีมากค่ะ รู้จักกันทาง FB ประมาณปีกว่าๆ พอเราบอกว่าเราอยากมาเที่ยวอินเดีย เขาก็มารอรับและพาทัวร์ดูเมืองเดลี hahaha เพื่อนไม่ได้อยู่ในเดลีนะคะ อยู่ Haryana ไกลจากเดลี ขับรถมาประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เพื่อนก็มารับ ระหว่างรอเพื่อนก็มีพี่น้อง 2 คนเดินเล่น เด็กผู้หญิงเห็นกระเป๋าผ้า MK สุกี้ มีต็กตา ก็เดินมาถ่ายรูปตุ๊กตา Mk เราก็เลยหยิบสมุด ดินสอที่เตรียมไปด้วย 2 โหล แจกเด็กคนละเล่ม เขาก็รับและขอบคุณแล้วก็นั่งเขียน ทันทีเลย พ่อแม่เขาก็ไม่ว่า นะคะ ยินดีด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นขนมเด็กไม่ค่อยรับนะคะถ้าพ่อแม่ไม่อนุญาต ไม่นานเพื่อนก็มารับ และพาไปทานข้าวที่สวนสธารณะ ซึงก็เหมือนบ้านเราค่ะ แต่ดอกไม้สวย ต้นไม้ใหญ่เยอะมาก อากาศเย็นสบาย และเราก็ทานข้าวเที่ยงที่นั่น ซึ่งเป็นอาหารอินเดียเมื้อแรก haha จากนั้นก็พาไปส่งที่พัก ระหว่างทาง รถติด ก็มีผู้หญิงเคาะกระจกขอตังค์ เพื่อนเราให้ตังไป เราก็มองหน้า เพื่องบอกว่า No comment เราก็เลยบอกว่า ok no comment ซึ่งจากที่อ่านรีวิวมา บอก่ว่ามีเยอะ อันนี้ขอบอกว่าน้อยมากค่ะ ไม่ค่อยเจอ เจอคนเดียว สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ว่าเจอเดินตามถนน ก็ยังไม่เจอในวันแรก แต่เรื่องแตรรถที่เรื่องจริง555 ดูห้องพักเราว่าปลอดภัย โอเคไหม แล้วเพื่อนก็กลับ คืนแรกก็พักที่เดลี โรงแรม white house tourist lodge ก็สะอาดดีเหมาะสำหรับการนอน และใกล้สถานีรถไฟนิวเดลี เพราะจะนั่งรถไฟไปอัครา ค่ะ555
Day 2 23 March 2019
0500 ก็เช็คเอาท์ จากโรงแรมค่ะ นั่งตุ๊กๆ มาสถานีรถไฟ 70 รูปี จะเดินก็ได้นะคะ ประมาณ800 ม. แต่มันมืดค่ะ นั่งตุ๊กๆดีกว่า เพราะไม่มีเพื่อนเดิน 555 เมื่อถึงสถานีรถไฟ เราต้องสแกนกระเป๋าทุกอย่างนะคะ วางที่เครื่องสแกนเราก็เดินไปรอรับกระเป๋า รถไฟที่จองไว้เป็นรอบ 0600 ค่ะ และไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นไม่ถูกชานชลา และตู้ที่เราจองนะคะ สถานีรถไฟนิวเดลี อัครา และชัยปุระ มีจอแสดงค่ะ สำหรับตั๋วรถไฟก็ปริ้นออกมาเลยจะดีกว่านะคะ และที่ว่าจะมีคนมาหลอกเราที่สถานีรถไฟว่าตั๋วเราไม่ใช่ แบบนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ ที่ไปไม่เจอค่ะ และก่อนมาก็ถามผู้จัดการโรงแรมว่าจะไปอัคราขึ้นรถไฟรอบ 6 โมงเช้า จะไปแบบไหน เขาก็จะถามเราว่ามีตั๋วหรือยังถ้ายังจะจองให้ หรือมีแล้วแต่ยังไม่ปริ้นจะดำเนินการให้ก็จ่ายทริปนิดหน่อย แต่เราบอกว่าเรามีแล้ว เขาก็ขอดูและบอกว่าตั๋วใช้ได้ถูกต้อง และให้นั่งตุ๊กๆไป ออกตรงเวลา นั่งสบาย มีอาหารเช้าให้บริการ นั่งประมาณ 2 ชม.ก็ถึงสถานีรถไฟอัครา เมื่อถึงสถานีอัคราก็หาที่ฝากกระเป๋าค่ะ clook room กระเป๋าเราต้องมีกุญแจล็อกนะคะ ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ไม่รับฝากค่ะ เรื่องห้องน้ำบนรถไฟไม้ได้เข้าค่ะ แต่ที่สถานีรถไฟสะอาดค่ะ เพราะแยกห้องน้ำห้องชายหญิง ที่สถานีจะมีห้องพักสำหรับหญิงและชายมีห้องน้ำในตัวค่ะ เราสามารถเขาได้เลย ถึงที่นี่เราก็เจอกลุ่มเด็กก็แจกสมุด ดินสอ และขนมเช่นเคย
หลังจากฝากกระเป๋าแล้วก็เดินไปหลังสถานีเลยนะคะ ถ้าใครคิดจะไปเที่ยวแค่ Taj Mahal กับ Agra fort ไม่ต้องใช้ Taxi prepaid ค่ะ เพราะจากสถานีรถไฟไป Taj Mahal จ่าย 25 บาท ค่ะ หรือ 50 Rs เมื่อถึงแล้วก็ไปซื้อตั๋วเข้า โชว์ Passport จะได้ราคา 750 Rs ค่ะ เข้าดูข้างในได้เลยนะคะ ถ้าดูแต่ด้านนอกก็จ่ายไม่แพงค่ะ เราก็นำตั๋วไปยื่นกับเจ้าหน้าที่จะได้น้ำ 1 ขวด และถุงสำหรับสวมเท้าเข้าชมด้านใน 1 คู่ โดยเราไม่ต้องถอดรองเท้าค่ะ และถ้าอยากรู้ประวัติ เกาะติดกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งไว้ค่ะ เพราะจะได้รู้ประวัติและเห็นบางสิ่งที่สวยงามจากหีบศพ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ระวังไม่ให้เราเข้าไปใกล้และไม่สามารถถ่ายรูปได้ วันนั้นโชคดีค่ะ ไกด์นำนักท่องเที่ยวฝรั่งขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ไฟส่อง ก็จะเห็นลายที่แกะสลักที่หีบศพเป็นสีสันสวยงาม และก็มีทริปเล็กน้อยจากไกด์555 เราสามารถถ่ายรูปจากด้านนอกได้นะคะ สวยงามมาก ใช้เวลาที่นี่นานมากค่ะ เกือบ 3 ชม.
หลังจากนั้นก็ไป Agra Fort ด้วยตุ๊กๆเช่นเคย ราคา 50 รูปี ค่ะ ระยะทางเกือบ 2 กม. ก่อนไปต่อราคาอยู่นานมากคันแรกขอ 150 รูปี ลดลง 100 รูปี เราบอกไม่ไป จะไป 50 รูปี พอตกลงได้ เขาเรียกผู้โดยสารเพิ่ม เราเลยว่าถ้าจะมีผู้โดยสารเพิ่มต้องลดราคาเราลง ไม่งั้นเราไม่ไปและไม่จ่าย 50รูปี เพราะเขาจะเก็บกับคนพื้นที่คนละ 10 รูปี เราก็ต้องจ่าย 10รูปี ตุ๊กๆเลยต้องพาเราไปคนเดียว hahaha เมื่อถึง Agra fort ก็ใช้พาสปอต เช่นเคย จ่าย 90 รูปี ค่ะ ทั้งสองที่เจอนักท่องเที่ยวฝรั่งถามว่าทำไม U ใช้ พาสปอต เลยบอกว่า ไทยและอินเดียมีข้อตกลงกันเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ฝรั่งก็เข้าใจที่เราตอบ hahaha ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2 ชม. ก็นั่งตุ๊กๆไป สถานีรถไฟอัครา ราคา 100 รูปี ครั้งนี้ต่อราคาไม่ลดค่ะ ระยะทางก็น่าจะประมาณ 3 กม.
เมื่อถึงสถานีก็หาอะไรทานที่นี่มีทั้งอาหารอินเดีย และKFC ค่ะ เราเลือก KFC ราคา 279 รูปี พร้อมเป๊ปซี่กระป๋องเล็ก1 กระป๋อง ขอบอกว่าเผ็ดมากค่ะ มากกว่าบ้านเราอีก พออิ่มก็ไปรับกระเป๋ามานั่งรอรถไฟไปชัยปุระ รอบ 1800-2200 จอง UPPER ค่ะ บนสุดเลย นั่งต้องก้มค่ะแต่นอนสบาย ที่จองแบบนี้คิดว่าปลอดภัยสำหรับตัวเอง hahaha ที่ไหนได้ ปลอดภัยทุกชั้นค่ะ จองด้านล่างดีสุดไม่ต้องปีน เรื่องเสียงดัง เป็นธรรมชาติของการนั่งรถไฟค่ะ เพราะที่นี่ไปแบบครอบครัว เพื่อน ญาติ รอบนี้รถไฟมาช้าค่ะ เราก็ฟังสำเนียงไม่ทัน แต่โชคดีที่นั่งรอกับคนในพื้นที่ไปเที่ยวเดียวกับเรา เขาบอกว่าเปลี่ยนชานชลา และรถไฟมาช้า ระหว่างรอเราก็เอาสมุดดินสอมาให้น้องและกินขนมด้วยกัน แม่น้องก็มีน้ำใจนำองุ่นมาให้เรากินด้วย และเส้นเล็กที่เหมือนยำยำช้างน้อยบ้านเรามาให้กิน เมื่อถึงเวลารถไฟมาเรากต้องแยกกัน อยากบอกว่าน้องและแม่เขาน่ารักมากคุยสนุกยิ้มร่าเริงแจ่มใส น้องถามว่าเราทำงานอะไร เราให้ดูรูปและบอกว่าเราเป็น NAVY น้องยิ้มตกใจ จริงเหรอ เขาก้อยากเป็นทหารแต่เขาตัวเล็ก เราเลยบอกว่าเขาสามารถฝึกได้ พี่ยังเป็นได้เลย เราก็ให้ดูรูปใน FB น้องเห็นเราวิ่งมาราธอน น้องก็ถามเหนื่อยไหม เราบอกเหนื่อยแต่อยากทดสอบร่างกายตัวเองว่าไหวไหม เราบอกน้องว่าความพยามทำให้เราสำเร็จ น้องบอกเราว่าน้องจะทำตามฝันเป็นทหารให้ได้ น้องพูดอังกฤษเก่งมากเราสู้น้องไม่ได้เลยน้องแค่ 9 ขวบ
เมื่อรถไฟมาและเราได้ที่นั่งแล้วก็ปืนขึ้นไปบนที่นั่งตัวเอง ที่เบาะก็จะมีซองผ้าห่มแพ็คในถุงให้เรียบร้อย ถ้าเปลี่ยนคน เจ้าหน้าที่ก็จะนำมาเปลี่ยนให้ตลอด เราก็ต้องเช็คเวลาว่าเราจะไปถ
ชื่อสินค้า:   Delhi - Agra - Jaipur - Kashmir
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่