ความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นเพียงอดีตไปแล้วใช่มั้ย

ระบบทำงานแตกต่างกัน ผลสุดท้ายแสดงออกมาให้เห็น

ช่วงที่ตะวันตกรุ่งโรจน์ ญี่ปุ่นต้องทำงานหนักกว่าเป็นสองเท่า เพื่อแข่งกับตะวันตก ทำให้ญี่ปุ่นสามารถเจริญขึ้นมาได้อย่างรวดเร้วจนเทียบเท่า และแซงหน้าตะวันตกในหลายๆอุตสาหกรรม นี่นเป็นช่วงพีคของญี่ปุ่น จนตะวันตกถึงกับต้องหันมามองวิธีการทำงานแบบญี่ปุ่นและอยากทำตาม

ปัญหาคือญี่ปุ่นทำงานเป็นหุ่นยนต์ ใช้คนเป็นแรงงาน รวมไปถึงการวางรากฐานสังคมการทำงานแบบ hierachy ที่หัวหน้ามีสิทธิขาด รุ่นน้องต้องตามรุ่นพี่ ความยืดหยุ่นต่ำ มันเลยเหมาะที่จะเร่งการโตระยะสั้น แต่ไม่เหมาะที่จะใช้งานระยะยาว เพราะมันตึงเกินไป พอพ้นรุ่นสร้างประเทศ (ที่ตายก้ันไปมาก) รุ่นหลังถัดมาก็ทำได้ไม่เหมือนแล้ว เพราะมันติดกับระบบเก่าๆไปหมด คนรุ่นใหม่ ก็โดนคนรุ่นเก่าบังคับให้ใช้รากฐานเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ๆ ถ้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นตอนนี้จะรู้เลยว่าเป็นไง

ส่วนตะวันตก เค้าก็ยังเหมือนเดิม แนวคิดอิสระ เปิดฟรี ชิลๆ แต่ทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วงที่ญี่ปุ่นมาแรง ตะวันตกก็ยังเนิบๆของตัวเอง เพราะฐานแน่นมาแล้ว ดังนั้นพอโดนญี่ปุ่นแซง จึงเหมือนกับตะวันตกตามหลัง แต่พอญี่ปุ่นชะงัก ตะวันตกไม่ชะงัก ประจวบเหมาะกับรากฐานสังคม ที่เป็นประเทศ immigrant มาตั้งแต่อดีต (ทั้งการย้ายถิ่นฐานของชาวยุโรปเอง หรือ การนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ) ทำให้ประเทศตะวันตก มีแรงงานใหม่ๆ คนใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆเข้ามา ยิ่งพอมีประเทศอย่างอ้ังกฤษ และ อเมริกา ที่เป็นผู้นำมหาลัยสำคัญๆของโลก มันสมองเก่งๆเลยไหลเข้ามาในตะวันตก เยอะกว่าญี่ปุ่นมาก (ญี่ปุ่นเองก็ปิดตัวเอง คนเก่งๆจากต่างประเทศเลยย้ายไปน้อย) ถึงจุดนึง ตะวันตกเลยได้สปาร์ค industrializtion รอบสอง ในรูปแบบใหม่ ที่ใช้คนเก่งต่างชาติเป็นหลัก เลยกลายเป็นว่าตอนนี้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างในยุคสิบญี่ปุ่นปีนี้ ย้ายกลับมาจากอยู่ฝั่งตะวันตกเหมือนเดิม

จนล่าสุด อังกฤษ กับ เมกา เริ่มกลับไปใช้นโยบายควบคุมแรงงานอีกละ เริ่มแนวๆปิดประเทศ ลดการย้ายเข้า ในขณะที่จีนกำลังเร่งตัวเองให้โตเร็วแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนเป้ะๆ แล้วเชื่อเถอะ จะเข้าอีหรอบเดิม จีนจะเริ่มนำหน้าตะวันตก วิวัฒนการ และการพัฒนาเทคโนโลยีในจีนตอนนี้เร็วมาก แล้วจีนทำงานหนักเหมือนญี่ปุ่นเป้ะๆ การแข่งขันสูง ประเทศใหญ่ ต่อไปทั้ง รถยนต์ AI คอมพิวเตอร์ จะมาจากจีน แล้วเมื่อถึงจุดนึง ถ้าจีนไม่เปลี่ยนตัวเอง จีนก็จะเป็นแบบญี่ปุ่น (ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะเป็นนะ จีนต้องเรียนรู้สิ่งที่เกิดกับญี่ปุ่นด้วย) อันนี้รวมเกาหลีใต้ด้วยเอา

ติดตามประวัติศาสตร์มาดีๆ ทุกอย่างล้วนเป็นวัฏจักรจริงๆ

แต่จริงๆตอนที่ทุกคนบอกว่าญี่ปุ่นจะครองโลกอ่ะ ส่วนตัวไม่เคยมองเลยว่าเป็นไปได้ เพราะตอนนั้นมันมีมหาอำนาจใหม่อย่างเมกาค้ำอยู่แล้ว ญี่ปุ่นโตมากก็จริง ซื้อไปเกือบครึ่งโลก และไซส์ญี่ปุ่นเอง มันเล้กกว่าเมกาสามเท่า แล้ว economic of scale เนี่ย โคตรร มีผล ประเทศที่โตเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ โตมาจากตลาด consumer ภายในก่อนทั้งนั้น ถึงจุดนึงญี่ปุ่นก็ตัน (แล้วก็ตันจริงๆ) ประจวบเหมาะกับปัญหาภายในอื่นๆเลยทำให้ญี่ปุ่นหดลงเรื่อยๆ แต่พอมาจีน ฝรั่งบางคนพูดแบบเดียวกัน โอ้ยเดี๋ยวก็เป็นแบบญี่ปุ่น เหมือนจะครองโลก แต่ไม่ครอง พวกนี้น่ะไม่มองขนาดตลาดเลย จีนกับญี่ปุ่นไซส์ต่างกันสิบเท่า ดูไฮสปีดสิ ขาดทุนไง ตลาดพี่จีนทำโครมๆ เสร็จ ได้กำไรมากพอ ทำต่อขายได้เลย ตอนสมัยญี่ปุ่นอ่ะ เมกาไม่กลัวหรอก เพดานมันมี (บวกกับเมกากำไข่ญี่ปุ่นไว้ตั้งแต่แรก) แต่จีน นี่เมกาไม่มีอิทธิพลอะไรเลย แถมมีแนวโน้มที่จะใหญ่มากๆอีก เมกามันเลยกลัว เพราะรอบนี้น่ะของจริง อันนี้ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึงนะ อิอิ