
วาลาโมกุริส
การเดินทางเพื่อรับใช้ เทพแห่งไฟ ผ่านคืนวันที่ยาวนาน
เส้นทางที่เคยผ่าน มีทั้งความลังเลและคลางแคลงใจ
มีทั้งความศรัทธาที่แรงกล้า
และอุทิศตนทุกวิถี แผดเผาทั้งคนเป็นและคนตาย นั่นรวมไปถึงจิตวิญญาณของเธอด้วยหรือไม่?
คำตอบอันใกล้รออยู่เบื้องหน้า
เธอขี่ม้ามาเพียงคนเดียวในคืนอันมืดมิด สวมใส่ชุดแดงที่คุ้นเคย
แสดงความเป็นมิตรและปลุกพลังใจด้วยบทสวดอันขรึมขลัง ดาบของทัพโดธรากีลุกเป็นไฟ เสียงโห่ร้องคำรามก้องที่ทัพม้า สงครามกำลังจะเริ่ม ในขณะที่ราตรีนั้นมืดมิด และเต็มไปด้วยอันตราย
เกรย์วอร์มขานรับคำทักทายของแม่มดแดงเมื่อเธอเอ่ยประโยค
‘วาลาโมกุริส’
‘วาลาโดไฮริส’ เขาตอบ
.
.
พบหน้า
คำสั่งเปิดประตูมาจาก ดาวอส
สายตาที่เขามองมายังเธอ บ่งบอกถึงความแค้นที่ฝังลึก
แต่สำหรับเธอมันเป็นแค่เส้นทางหนึ่งที่ต้องเผชิญ
เพลิงที่แผดเผาหญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจจอง ดาวอส เป็นแค่ภารกิจจากเทพแห่งไฟ
เธอไม่ได้ทำไปด้วยอารมณ์โกรธโมโห อิจฉา แย่งชิง หรือสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น มันแค่เป็นไปตามประสงค์ของสิ่งที่เธอบูชา
นิมิตรที่ดูจะพร่าเลือนในครั้งก่อนไม่ได้ทำให้เธอลังเลที่จะมาพิสูจน์ศรัธธาที่นี่อีกครั้ง
แม้ไฟจะร้อนแต่ความเย็นชาที่เธอปฏิบัติต่อหน้าที่ และไร้ความรู้สึกเช่นนี้ อาจจะเหมาะสมกันดีแล้วที่ต้องมาเจอกับสิ่งที่เป็นประเภทเดียวกัน ‘night king’
ขณะที่ดาวอส กำลังจะเอ่ยว่าจา เธอรีบบอกเขาว่า ไม่ต้องรีบฆ่าเธอ เพราะเมื่อรุ่งสาง ก็ถึงคราวของเธอที่จะตาย
เมื่อพูดจบก็พลันหันไปสบตากับคนบนกำแพง
หญิงสาวที่เธอเคยทำนายไว้ว่า
จะฆ่าทั้งพวกตาสีน้ำตาล ตาสีเขียว และตาสีฟ้า หลับไหลไปชั่วนิรันด์
.
.
จุดไฟในคืนหนาว
สถานการณ์หน้าวินเทอเฟล กำลังคับขัน
ความมืดและความตายเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้
ดาวอสส่งสัญญาณจุดไฟในสนามเพลาะ เพื่อล้อมทัพผีดิบ
แต่วิสัยทัศน์บดบัง จนราชินีไม่สามารถเห็นสัญญาณได้
เกรย์วอร์มเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุด หันรีหันขวาง ในห้วงเวลาแห่งความเป็นความตาย
ความหวังก็โผล่ขึ้นมา เพื่อจุดไฟในคืนหนาว
เธอท่องมนต์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนจุดไฟติดดาบ เพราะหิมะปกคลุมไม้ไปหมด
และชั่วพริบตาที่ความตายกำลังมาเยือน ใบหน้าของเธอก็แสดงความรู้สึกที่เคยห่างหายไปแสนนาน จนเกือบจะลืมว่าก็คือมนุษย์คนนึง
ไฟพวยพุ่งรอบสนามเพลาะ ความหวังกลับมาเรืองรองอีกครั้ง
บางครั้งเธอก็จุดไฟด้วยคำพูด
ในห้องใดห้องนึงของวินเทอร์เฟล
เธอบอกกับคลีแกน และอาร์ย่าว่า เบริคนั้นได้บรรลุวัตถุประสงค์และปฏิบัติภารกิจของเทพแห่งแสง ได้ลุล่วงแล้ว
เบริค จากไปอย่างสงบ เธอเองคาดหวังที่จะจากไปแบบเขาหรือไม่
อาร์ย่าพูดถึงอดีตที่แม่มดแดงเคยทักไว้ เกี่ยวกับดวงตาสีน้ำตาล สีเขียว และแน่นอน สีฟ้า
เมื่อจบประโยคก็ราวกับเตือนสติให้อาร์ย่าว่ายังมีภารกิจสำคัญที่ยังต้องไปทำ
เมื่อความตายมาเยือน เจ้าจะตอบกลับไปว่า
‘ไม่ใช่วันนี้’
ไฟถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
.
.
รุ่งสาง
พันธะกิจที่ยาวนานถูกปลดเปลื้องไปแล้ว
สิ่งที่เคยทำ สิ่งที่ต้องทำ และสิ่งที่ทำสำเร็จ
โซ่ตรวนที่เคยพันธนาการได้หมดไปโดยสิ้นเชิง
ความหนักอึ้งเหล่านั้น หนักหนากว่าสร้อยคอที่เธอกำลังจะถอดมันออกเสียอีก
สายตาดาวอส จับจ้องทุกอิริยาบทของเธอ
สิ่งมีชีวิตบางอย่างเกิดมาเพื่อรอคอยที่จะทำภารกิจอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย โดยไม่รู้ว่าการเดินทางจะไปสิ้นสุดตรงไหน
จวบจนความยาวนานนั้นผ่านมาเกือบ 400 ปี
สาวชุดแดงเดินฝ่าหิมะ
ถอดสร้อยประจำตัวออก
และล้มลง
ในตอนรุ่งสาง
.
- - -
ไม่ได้เขียนครบในทุกประเด็นนะครับ เอาเฉพาะที่จำได้และสนใจ
ขออภัยล่วงหน้าถ้าข้อมูลผิดๆไปบ้าง
กระทู้ s8 ep 1 ครับ
https://pantip.com/topic/38767237
กระทู้ s8 ep 2 ครับ
https://pantip.com/topic/38790201
:Game of throne S8 ep3 : เจตจำนงแห่งไฟ
วาลาโมกุริส
การเดินทางเพื่อรับใช้ เทพแห่งไฟ ผ่านคืนวันที่ยาวนาน
เส้นทางที่เคยผ่าน มีทั้งความลังเลและคลางแคลงใจ
มีทั้งความศรัทธาที่แรงกล้า
และอุทิศตนทุกวิถี แผดเผาทั้งคนเป็นและคนตาย นั่นรวมไปถึงจิตวิญญาณของเธอด้วยหรือไม่?
คำตอบอันใกล้รออยู่เบื้องหน้า
เธอขี่ม้ามาเพียงคนเดียวในคืนอันมืดมิด สวมใส่ชุดแดงที่คุ้นเคย
แสดงความเป็นมิตรและปลุกพลังใจด้วยบทสวดอันขรึมขลัง ดาบของทัพโดธรากีลุกเป็นไฟ เสียงโห่ร้องคำรามก้องที่ทัพม้า สงครามกำลังจะเริ่ม ในขณะที่ราตรีนั้นมืดมิด และเต็มไปด้วยอันตราย
เกรย์วอร์มขานรับคำทักทายของแม่มดแดงเมื่อเธอเอ่ยประโยค
‘วาลาโมกุริส’
‘วาลาโดไฮริส’ เขาตอบ
.
.
พบหน้า
คำสั่งเปิดประตูมาจาก ดาวอส
สายตาที่เขามองมายังเธอ บ่งบอกถึงความแค้นที่ฝังลึก
แต่สำหรับเธอมันเป็นแค่เส้นทางหนึ่งที่ต้องเผชิญ
เพลิงที่แผดเผาหญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจจอง ดาวอส เป็นแค่ภารกิจจากเทพแห่งไฟ
เธอไม่ได้ทำไปด้วยอารมณ์โกรธโมโห อิจฉา แย่งชิง หรือสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น มันแค่เป็นไปตามประสงค์ของสิ่งที่เธอบูชา
นิมิตรที่ดูจะพร่าเลือนในครั้งก่อนไม่ได้ทำให้เธอลังเลที่จะมาพิสูจน์ศรัธธาที่นี่อีกครั้ง
แม้ไฟจะร้อนแต่ความเย็นชาที่เธอปฏิบัติต่อหน้าที่ และไร้ความรู้สึกเช่นนี้ อาจจะเหมาะสมกันดีแล้วที่ต้องมาเจอกับสิ่งที่เป็นประเภทเดียวกัน ‘night king’
ขณะที่ดาวอส กำลังจะเอ่ยว่าจา เธอรีบบอกเขาว่า ไม่ต้องรีบฆ่าเธอ เพราะเมื่อรุ่งสาง ก็ถึงคราวของเธอที่จะตาย
เมื่อพูดจบก็พลันหันไปสบตากับคนบนกำแพง
หญิงสาวที่เธอเคยทำนายไว้ว่า
จะฆ่าทั้งพวกตาสีน้ำตาล ตาสีเขียว และตาสีฟ้า หลับไหลไปชั่วนิรันด์
.
.
จุดไฟในคืนหนาว
สถานการณ์หน้าวินเทอเฟล กำลังคับขัน
ความมืดและความตายเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้
ดาวอสส่งสัญญาณจุดไฟในสนามเพลาะ เพื่อล้อมทัพผีดิบ
แต่วิสัยทัศน์บดบัง จนราชินีไม่สามารถเห็นสัญญาณได้
เกรย์วอร์มเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุด หันรีหันขวาง ในห้วงเวลาแห่งความเป็นความตาย
ความหวังก็โผล่ขึ้นมา เพื่อจุดไฟในคืนหนาว
เธอท่องมนต์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนจุดไฟติดดาบ เพราะหิมะปกคลุมไม้ไปหมด
และชั่วพริบตาที่ความตายกำลังมาเยือน ใบหน้าของเธอก็แสดงความรู้สึกที่เคยห่างหายไปแสนนาน จนเกือบจะลืมว่าก็คือมนุษย์คนนึง
ไฟพวยพุ่งรอบสนามเพลาะ ความหวังกลับมาเรืองรองอีกครั้ง
บางครั้งเธอก็จุดไฟด้วยคำพูด
ในห้องใดห้องนึงของวินเทอร์เฟล
เธอบอกกับคลีแกน และอาร์ย่าว่า เบริคนั้นได้บรรลุวัตถุประสงค์และปฏิบัติภารกิจของเทพแห่งแสง ได้ลุล่วงแล้ว
เบริค จากไปอย่างสงบ เธอเองคาดหวังที่จะจากไปแบบเขาหรือไม่
อาร์ย่าพูดถึงอดีตที่แม่มดแดงเคยทักไว้ เกี่ยวกับดวงตาสีน้ำตาล สีเขียว และแน่นอน สีฟ้า
เมื่อจบประโยคก็ราวกับเตือนสติให้อาร์ย่าว่ายังมีภารกิจสำคัญที่ยังต้องไปทำ
เมื่อความตายมาเยือน เจ้าจะตอบกลับไปว่า
‘ไม่ใช่วันนี้’
ไฟถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
.
.
รุ่งสาง
พันธะกิจที่ยาวนานถูกปลดเปลื้องไปแล้ว
สิ่งที่เคยทำ สิ่งที่ต้องทำ และสิ่งที่ทำสำเร็จ
โซ่ตรวนที่เคยพันธนาการได้หมดไปโดยสิ้นเชิง
ความหนักอึ้งเหล่านั้น หนักหนากว่าสร้อยคอที่เธอกำลังจะถอดมันออกเสียอีก
สายตาดาวอส จับจ้องทุกอิริยาบทของเธอ
สิ่งมีชีวิตบางอย่างเกิดมาเพื่อรอคอยที่จะทำภารกิจอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย โดยไม่รู้ว่าการเดินทางจะไปสิ้นสุดตรงไหน
จวบจนความยาวนานนั้นผ่านมาเกือบ 400 ปี
สาวชุดแดงเดินฝ่าหิมะ
ถอดสร้อยประจำตัวออก
และล้มลง
ในตอนรุ่งสาง
.
- - -
ไม่ได้เขียนครบในทุกประเด็นนะครับ เอาเฉพาะที่จำได้และสนใจ
ขออภัยล่วงหน้าถ้าข้อมูลผิดๆไปบ้าง
กระทู้ s8 ep 1 ครับ
https://pantip.com/topic/38767237
กระทู้ s8 ep 2 ครับ
https://pantip.com/topic/38790201