ผมคิดว่า ในบ้านเรา คนชั้นกลาง ที่คิดจะใช้รถยุโรปอย่าง MB /BMW / AUDI...... ด้วยเหตุผลที่ชอบ สมรรถะ/ดีไซน์/ ความปลอดภัย แต่อยู่นอก กทม ซึ่งหาช่างเก่งๆและอู่นอกห้างดีๆไม่มี ก่อนซื้อรถเหล่านี้ ควรตระหนักและทำใจไว้ล่วงหน้าว่า
1 คชจ.อะไหล่และบริการ ถ้าเอาไว้ใจพอได้( แต่ไม่ใช่จะ 100% เต็ม )ก็เข้า 0 แต่รถเมื่อเลยประกันสามปีแล้ว ต้องทำใจที่จะมีโอกาสเจอ jackpot รายการอะไหล่ที่ เสมือนว่าเดือนนั้น เงินเดือนหรือรายได้ทั้งเดือนถูกทำหาย
เช่น แบตแห้ง ของ C class (W204 รุ่นปี 2014)ลูกละ หมื่นเจ็ดพันบาท ! เปลี่ยนสาย censor ABS เส้นเดียว 7,000 !
ส่วนว่าจะหนีห้าง ไปอู่นอก ถ้าต่าง จว.อู่นอกน้อย และอุปกรณ์ตรวจซ่อมเดี๋ยวนี้ ต้องลงทุนมาก หาอู่นอกที่ฝีมือดีและไม่แพงยากอยู่ ต้องเสี่ยงเอา
ซ่อมห้าง แพงโคตร แต่สบายใจนิดนึง
ซ่อมอู่นอก ถูกกว่า แต่ไม่สบายใจ ( กทม อาจจะมีอู่นอกดีๆ ให้หนีได้บ้าง)
2 ถ้าโสด แต่อยากใช้รถยุโรปแบบที่ว่ามา ควรมีรถสำรอง ถ้ามีคู่และต่างคนต่างมีรถใช้ ก็ควรมีรถสามคัน เผื่อยามรถเสีย ค่าซ่อมแพง ต้องรอถามหา second opinion หรือ ต้องรอสั่งอะไหล่ ( อะไหล่แพง 0 ตจว.ไม่ยอมสต๊อค) หรือกระทั่ง รอเรื่องแบบกรณีของผม ที่รอหายๆ ไม่มีรถใช้ ตายเลย
3 อย่าคาดหวังว่า คุณซื้อรถกลุ่มที่ราคาแพงกว่ารถตลาด แล้วมาตรฐานการผลิต การประกอบจะต้องดีเลิศตามราคารถไปด้วย ( จานเบรครถซ้ายขวา ตอนประกอบออกมายังใส่ผิดรุ่น สองข้างคนละรุ่นกันได้เลย ! )
4 อย่าคิดว่า อะไหล่รถยุโรปปัจจุบันที่ราคาแพงเว่อร์ คุณภาพจะดีเว่อร์ตามไปด้วย ผมคิดว่า สมมติว่า ราคาอะไหล่ของ รถยุโรป แพงกว่ารถญี่ปุ่น 300% แต่คุณภาพอาจจะดี/ ทนทาน กว่า รถญี่ปุ่นสัก150% แบบนี้ไหม
บ.รถทุกเจ้า ทำธุรกิจ ไม่ใช่ทำการกุศล
to make maximum profit เป็นนโยบายของเขาอยู่แล้ว
ส่วนการดูแลและบริการเป็นเลิศนั่น
มีอยู่แต่ใน คำโฆษณาหรือไว้ออกสื่อ
5 อย่าหลงใหลไปกับคำคุยของ บ.รถเจ้าที่ชอบคุยและสร้างภาพว่า เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีระบบโน่นนี่เพื่ออำนวยความสะดวก /ความปลอดภัย มากๆ
ยิ่งมีระบบซับซ้อน ยิ่งซ่อมยากและ คชจ.การบำรุงยิ่งมาก สังเกตดู ภายใต้ฝากระโปรงรถ เครื่องยนต์รถคุณถูกแผ่นพลาสติคปิดหมด ไม่ให้คุณเห็นอะไร
คุณมีหน้าที่อย่างเดียว เอาเข้า 0 และจ่ายบิลตามนั้น
เขาทำอะไรกับรถคุณบ้าง ดูได้แค่ในกระดาษบิล
หมายเหตุ
ข้อคิดข้างบน ไม่สามารถใช้กับ บรรดา เจ้าสัว นักการเมือง ผู้ทำธุรกิจสีดำที่เสกเงินมาได้ง่ายๆและผู้ที่ใช้รถยุโรปที่ราคาแพงกว่ารถตลาด ด้วยเหตุผลที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ หรือเพื่อความเท่ห์ กรณีกลุ่มผู้ใช้แบบที่ว่า ถึงรถที่ใช้อยู่มีปัญหา เขาสามารถหาทางออกได้ไม่ยุ่งยากอยู่แล้ว
บทเรียนและข้อคิดของ คนชั้นกลาง ที่ริใช้รถตราดาว
1 คชจ.อะไหล่และบริการ ถ้าเอาไว้ใจพอได้( แต่ไม่ใช่จะ 100% เต็ม )ก็เข้า 0 แต่รถเมื่อเลยประกันสามปีแล้ว ต้องทำใจที่จะมีโอกาสเจอ jackpot รายการอะไหล่ที่ เสมือนว่าเดือนนั้น เงินเดือนหรือรายได้ทั้งเดือนถูกทำหาย
เช่น แบตแห้ง ของ C class (W204 รุ่นปี 2014)ลูกละ หมื่นเจ็ดพันบาท ! เปลี่ยนสาย censor ABS เส้นเดียว 7,000 !
ส่วนว่าจะหนีห้าง ไปอู่นอก ถ้าต่าง จว.อู่นอกน้อย และอุปกรณ์ตรวจซ่อมเดี๋ยวนี้ ต้องลงทุนมาก หาอู่นอกที่ฝีมือดีและไม่แพงยากอยู่ ต้องเสี่ยงเอา
ซ่อมห้าง แพงโคตร แต่สบายใจนิดนึง
ซ่อมอู่นอก ถูกกว่า แต่ไม่สบายใจ ( กทม อาจจะมีอู่นอกดีๆ ให้หนีได้บ้าง)
2 ถ้าโสด แต่อยากใช้รถยุโรปแบบที่ว่ามา ควรมีรถสำรอง ถ้ามีคู่และต่างคนต่างมีรถใช้ ก็ควรมีรถสามคัน เผื่อยามรถเสีย ค่าซ่อมแพง ต้องรอถามหา second opinion หรือ ต้องรอสั่งอะไหล่ ( อะไหล่แพง 0 ตจว.ไม่ยอมสต๊อค) หรือกระทั่ง รอเรื่องแบบกรณีของผม ที่รอหายๆ ไม่มีรถใช้ ตายเลย
3 อย่าคาดหวังว่า คุณซื้อรถกลุ่มที่ราคาแพงกว่ารถตลาด แล้วมาตรฐานการผลิต การประกอบจะต้องดีเลิศตามราคารถไปด้วย ( จานเบรครถซ้ายขวา ตอนประกอบออกมายังใส่ผิดรุ่น สองข้างคนละรุ่นกันได้เลย ! )
4 อย่าคิดว่า อะไหล่รถยุโรปปัจจุบันที่ราคาแพงเว่อร์ คุณภาพจะดีเว่อร์ตามไปด้วย ผมคิดว่า สมมติว่า ราคาอะไหล่ของ รถยุโรป แพงกว่ารถญี่ปุ่น 300% แต่คุณภาพอาจจะดี/ ทนทาน กว่า รถญี่ปุ่นสัก150% แบบนี้ไหม
บ.รถทุกเจ้า ทำธุรกิจ ไม่ใช่ทำการกุศล
to make maximum profit เป็นนโยบายของเขาอยู่แล้ว
ส่วนการดูแลและบริการเป็นเลิศนั่น
มีอยู่แต่ใน คำโฆษณาหรือไว้ออกสื่อ
5 อย่าหลงใหลไปกับคำคุยของ บ.รถเจ้าที่ชอบคุยและสร้างภาพว่า เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีระบบโน่นนี่เพื่ออำนวยความสะดวก /ความปลอดภัย มากๆ
ยิ่งมีระบบซับซ้อน ยิ่งซ่อมยากและ คชจ.การบำรุงยิ่งมาก สังเกตดู ภายใต้ฝากระโปรงรถ เครื่องยนต์รถคุณถูกแผ่นพลาสติคปิดหมด ไม่ให้คุณเห็นอะไร
คุณมีหน้าที่อย่างเดียว เอาเข้า 0 และจ่ายบิลตามนั้น
เขาทำอะไรกับรถคุณบ้าง ดูได้แค่ในกระดาษบิล
หมายเหตุ
ข้อคิดข้างบน ไม่สามารถใช้กับ บรรดา เจ้าสัว นักการเมือง ผู้ทำธุรกิจสีดำที่เสกเงินมาได้ง่ายๆและผู้ที่ใช้รถยุโรปที่ราคาแพงกว่ารถตลาด ด้วยเหตุผลที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ หรือเพื่อความเท่ห์ กรณีกลุ่มผู้ใช้แบบที่ว่า ถึงรถที่ใช้อยู่มีปัญหา เขาสามารถหาทางออกได้ไม่ยุ่งยากอยู่แล้ว