เกริ่นนำ
ในสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก คุณครูวิชาภาษาไทยท่านหนึ่งได้สอนความหมายของคำว่า ‘เกือบ’ และได้อธิบายขยายความต่อไปว่า ‘คำว่าเกือบนี่เป็นคำประหลาด หากเอาไปจับคู่กับคำที่มีความหมายดี ก็จะได้ความหมายเป็นลบ แต่ถ้าหากเอาไปจับคู่กับคำที่ความหมายเป็นลบ กลับได้ความหมายที่ดีมาแทน’ คุณครูท่านนี้ยังได้กล่าวติดตลกทิ้งท้ายไว้ว่า ‘เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากมีคนมาหลอกถามพวกเธอด้วยว่า ระหว่างสอบตกกับสอบได้ อยากเป็นแบบไหน ก็อย่าเผลอเซ่อซ่าไปอยากสอบเกือบได้ก็แล้วกัน’
หากมองในเชิงผลลัพธ์อย่างเดียว คำพูดดังกล่าวถือว่าถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หลังจากได้โตขึ้นและผ่านอะไรมาพอสมควร ผมก็อยากเสริมเข้าไปสักเล็กน้อยว่า คำว่า’เกือบ’ นี้ยังมากับความรู้สึกบางอย่างอีกด้วย คนที่’เกือบ’เจอสิ่งไม่ดี เช่น เกือบสอบตก เกือบอด มักจะมีความรู้สึกโล่งใจ หรือไม่ก็ขอบคุณในกรรมดีแต่ปางก่อนของตน ในทางกลับกัน ผู้ที่’เกือบ’เจอสิ่งที่ดี อย่างเช่น เกือบสอบผ่าน เกือบถูกหวย ก็จะมากับความรู้สึกเจ็บใจจนอยากบอกกับฟ้าเบื้องบนว่า หากจะต้องอดทั้งทีแล้ว อย่าใส่คำว่า ‘เกือบ’ มาให้กับข้าพเจ้าเลยจะดีกว่า
เมื่อพูดถึงความรักนั้น เรื่องราวที่เราๆท่านๆมักได้ฟังมาจ มักจะมีธีมเรื่องที่แยกขั้วออกเป็นเรื่องราวของ ‘ผู้สอบได้’ ที่สมหวังในความรัก และ เรื่องราวอกหักของ ‘ผู้ที่สอบตก’ เสียมากกว่า มีบ้างบางที ก็อาจจะมีเรื่องราวของผู้ ‘สอบเกือบตก’มาให้ผู้ฟังได้ลุ้นเอาใจช่วยและยิ้มออกในตอนจบกันบ้าง แต่เรื่องราวของ‘คนสอบเกือบผ่าน’ นั้นต้องบอกเลยว่ามีไม่มากนัก
เรื่องราวใจสลายของ‘คนสอบเกือบผ่าน’ที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก จึงเป็นจุดขายที่ละครเรื่อง The Could’ve Gone-All-the-Way Committee (ชื่อภาษาไทยใน Netflix คือ คณะกรรมการฟันธงรัก) หยิบยกมานำเสนอให้ผู้สนใจได้รู้กัน
เกี่ยวกับละคร The Could’ve Gone-All-the-Way Committee (ต่อจากนี้จะเรียกย่อๆว่า CGAW committee ครับ)
แรกเริ่มเดิมที CGAW committee จะเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่เขียนบนเน็ตครับ
หลังจากที่การ์ตูนได้รับความนิยมจากผู้อ่านในระดับหนึ่ง ก็ได้มีการนำ CGAW committee มาทำเป็นละครคนแสดงถึง 2 version ด้วยกันในปี 2018
ver. แรกจะเป็นฉบับที่ฉายช่อง Abema TV บนอินเตอร์เน็ต
ส่วน ver. ที่สองจะทำออกมาฉายตามทีวีปกติในญี่ปุ่น (และได้ฉายลง Netflix ในเวลาต่อมา) ดาราที่แสดงจะเป็นดาราดังกว่า ละคร CGAW committee ที่ผมเขียนถึง จะหมายถึง ver. นี้ครับ
ละครเรื่องนี้ จะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบ ‘รวมเรื่องสั้น’ เนื้อเรื่องจะบอกเล่าถึงคณะกรรมการกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า The Could’ve Gone-All-the-Way Committee (แปลว่า คณะกรรมการ ‘อาจได้ตกร่องปล่องชิ้น) และมีสมาชิกอยู่ 3 คน ได้แก่
1. โนจิม่า ยูซึรุ ครูใหญ่โรงเรียนกวดวิชา ที่ดูใจดี แต่ก็จริงจัง
2. ทสึกิ อายาโกะ ผู้อำนวยการแห่ง World Holiday Association ที่สวยแฝงความเย็นชา
(นำแสดงโดยชิราอิชิ ไม หรือไมยัง เอซคนสวยแห่ง Nogizaka 46)
3. Oasis นักดนตรีผู้ลึกลับ (แสดงโดย Takayuki Yamada จากเรื่อง ผู้กล้าโยชิฮิโกะ และ Crows )
CGAW committee จะรับฟังเรื่องราวประสบการณ์ ‘เกือบสอบผ่าน’ ด้านความรัก จากผู้สนใจในรูปแบบข้อเขียน คนที่ส่งเรื่องราวมาให้ทางคณะกรรมการนั้นจะมีที่มาหลากหลาย ตั้งแต่คนที่ทำงานพาร์ทไทม์ล่องลอยไปวันๆ ไปจนถึงระดับประธานบริษัท อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้จะมีจุดที่เหมือนๆกันคือ ประสบการณ์ที่ตัวเอง ‘พลาด’โอกาสที่จะสมหวังกับคนที่ตัวเองชอบไปอย่างน่าเสียดาย และ ความคับข้องสงสัยที่ว่า ‘ในตอนนั้น เรามีโอกาสจริงๆ หรือเพ้อไปเองนะ’
หากคณะกรรมการเห็นว่า เรื่องราวไหนมีความน่าสนใจ เจ้าของเรื่องก็จะได้รับการติดต่อให้มาให้ปากคำต่อหน้าคณะกรรมการทั้งสามคนโดยตรง หลังจากนั้น เมื่อเจ้าของเรื่องเล่าเหตุการณ์ของตนเองจนจบเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการก็จะโหวตออกเสียงว่า เจ้าของเรื่องนั้น ‘มีโอกาส’ อยู่จริงหรือเปล่า แล้วอธิบายเหตุผลและวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆให้เจ้าของเรื่องได้ฟังกัน กระบวนการทั้งหมดนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูละคร
ข้อดี (โดยรวม)
- เนื้อเรื่องย่อยง่าย ความยาวไม่มาก (ตอนหนึ่งยาวแค่ยี่สิบกว่านาที) ดูได้แบบสบายๆ
- ตัวละครสาวที่เป็นแขกรับเชิญในหลายตอน จะได้อารมณ์สวยแบบคนทั่วไปมากกว่าดารา ทำให้สามารถอินได้ง่ายกว่าปกติ
- ละครมีความเซ็กซี่แบบเบาๆ แม้แต่ตัวละครที่เคร่งขรึมอย่าง ทสึกิ อายาโกะ เองก็มีฉากเซอร์วิสเล็กๆ ที่ชวนให้ใจเต้นได้แม้ใส่สูทอยู่ครบ
- ความจริงจังสไตล์ญี่ปุ่น ที่เอาเรื่องทั่วไปมาวิเคราะห์เป็นเรื่องเป็นราวได้
- ไมยัง คาวาอี้ !!
ข้อเสีย (โดยรวม)
- ความรักที่นำเสนอในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรักที่ค่อนข้างไปทางเซ็กส์ ถ้ามีการนำเสนอเรื่องที่เป็น Romantic love บ้างก็จะดีกว่านี้ แต่ผมก็เข้าใจนะว่า วัฒนธรรมญี่ปุ่นเองก็เปิดเผยเรื่องเซ็กส์พอสมควร เมื่อเทียบกับวัฒนธรรมไทยที่มีทั้งแบบอนุรักษ์นิยมผสมกับปล่อยอิสระ
- คนที่ชอบวัฒนธรรมความรักแบบฝรั่งที่ตรงๆกว่าคนเอเชีย อาจจะไม่อินเท่าไรนัก
- ละครสั้นไปหน่อย อยากให้มีจำนวนตอนเยอะมากกว่านี้
- บางคนอาจจะมองว่าเนื้อเรื่องเบาๆไปหน่อย ไม่หวือหวานัก ควรจะเน้นองค์ประกอบต่างๆ ทั้งในด้านมุขตลก ฉากวิเคราะห์ หรือฉากเซ็กซี่ ให้ลงรายละเอียดและจัดจ้านมากขึ้น
- ผู้ชมที่เป็นผู้หญิง อาจจะมองว่าตัวละครชายไม่หล่อ (ความจริง คนที่เล่นเป็น Oasis ตัวจริงก็หล่อนะครับ)
- pattern การโหวตคะแนนของคณะกรรมการที่คาดเดาได้ว่า คนไหนจะโหวตออกมาอย่างไร
ข้อดีระดับอาวุธพิฆาต
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะมีปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้สร้าง Damage ให้กับผู้ชมเป็นพิเศษครับ หากคุณเคยเป็นผู้ที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายคนในเรื่อง เมื่อดูเรื่องนี้ก็จะรู้สึกอิน เจ็บจี๊ดในใจ ว่าอยากไปเล่าเรื่องของตัวเองให้คณะกรรมการฟังและให้ความเห็นขึ้นมาทันที
จะว่าไปแล้ว ผมตีความว่า ในความเป็นจริง กรรมการทั้งสามคนนั้น ก็เป็นเหมือนความคิดที่ต่อสู้นในใจเรา ในขณะที่เรากำลังมีความรักกับใครสักคนนั่นเอง ด้านหนึ่งของเรา จะตีความเข้าข้างตัวเอง มองทุกอย่างสวยงาม เป็นโอกาส เป็นข้อความรักที่แฝงมา ไปหมด ส่วนอีกด้านหนึ่งของเรา ก็จะระแวง และปฏิเสธสิ่งที่เป็นนัยยะทุกอย่างเพื่อให้เราไม่เจ็บภายหลัง ส่วนด้านที่สามของเรา ก็คือความพยายามที่จะคิดวิเคราะห์ ส่งผลให้ลังเลไปมาระหว่างความคิดสองด้านแรก ตราบใดก็ตาม ที่กรรมการทั้งสามคนในใจเรานั้น ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เราก็จะพลาดโอกาสความรักของเราไปอย่างน่าเสียดาย
ตัวผมเองนั้นก็มีประสบการณ์ ‘สอบเกือบผ่าน’ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน (แต่จะเป็นไปในแนวแบบเรียบๆร้อยๆมากกว่าในละคร ได้อารมณ์เด็กๆมากกว่า) ในตอนนั้น นับได้ว่าผมเข้าไปใกล้กับคำว่า ‘ได้คบเป็นแฟนกับใครสักคน’ มากที่สุด แต่ด้วยความที่ไม่กล้า และมีปัจจัยจำกัดหลายๆอย่าง เลยทำให้ต้องปล่อยโอกาสนั้นหลุดออกไป พอเวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน แม้จะยังพอมีโอกาสได้เจออีกฝ่ายอยู่ แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกว่า ต่อให้สารภาพความรู้สึกออกไป กาลเวลานั้นก็ได้ผ่านไปจนยากที่เราจะกลับไปรู้สึกสนิทกันเหมือนในช่วงเวลานั้นได้
เวลาที่ดูละครเรื่องนี้ในแต่ละตอน ผมยอมรับว่าตัวเองรู้สึกเหมือนถูกต่อยเข้าที่หัวใจเลยทีเดียว ความจริงผมเองดูละครเรื่องนี้จบตั้งแต่ปีที่แล้วนะ แต่พอผมลองเปิดละครเรื่องนี้ดูอีกครั้งแบบคร่าวๆ ประกอบการเขียนกระทู้นี้ ความเจ็บจี๊ดๆก็ยังกลับมาเหมือนเดิม พร้อมกับความรู้สึกในใจว่า เราไม่น่าปล่อยโอกาสครั้งนั้นไปเลย
ใครก็ตาม ที่เคยเจ็บ หรือยังเจ็บกับการ ‘สอบเกือบผ่าน’ ด้านความรัก
ใครก็ตาม ที่กำลังลังเลกับคนที่ตัวเองแอบชอบอยู่ ว่าจะรุกต่อ หรืออยู่กับความเป็นเพื่อนต่อไป
ผมเชื่อว่าละครเรื่องนี้ คงสร้างความประทับใจ สอนใจ และให้ความกล้าแก่คุณอย่างไม่มากก็น้อยครับ
[มีบนNetflix] The Could’ve Gone-All-the-Way Committee : ละครเบาๆ แต่กระแทกใจผู้ ‘เกือบสอบผ่าน’ด้านความรัก