วันนี้ขอเป็นมือใหม่หัดรีวิวค่ะ
เริ่มจากเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ต และพอดิบพอดีที่งานเสร็จเร็วกว่ากำหนด มีเวลาเที่ยวลั้นลาอยู่ 1 วันเต็ม
ส่วนอีกวันช่วงเย็นๆ ก็ต้องกลับ กทม น่าจะไม่สะดวกไปไหน
เลยหาข้อมูลกันคืนนั้นเลยว่าจะไปเที่ยวไหนดี จะไปทะเล ก็ไปมาหลายรอบแล้ว บวกกับอากาศหน้าร้อนบ้านเรานั้น
เหมือนอยู่ในเตาอบ ย่อมๆ เลย เพราะฉะนั้นสาวอย่างเจ้าของกระทู้เลยตั้งเป้ากหาที่เที่ยวที่ไม่ร้อนมาก
หาไปหามาก็สะดุดตากับสวนสนุกในภูเก็ต อ่านๆ เรื่อยๆ ก็น่าสนใจดีแหะ แต่รีวิวโดย User ค่อนข้างน้อยมาก ก็นั่งคิด นอนคิด จะไปดีไหมน้า
สุดท้ายลุยค่ะ เสี่ยงดวงเอา จะดีไม่ดี เดี๋ยวรู้กันค่ะ
มาถึงแล้วววว สวนสนุกธีมปาร์ค
ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก The Mystical Three Worlds เค้าเตอร์ขายตั๋วก็หาไม่ยากค่ะ
อยู่ที่ชั้น G ของเซนทรัลภูเก็ตเฟสติวัล หรือที่คนแถวนั้นเค้าจะเรียกกันว่า เซนทรัลใหม่ ซึ่งจริงๆ จะเก่าจะใหม่ ก็อยู่ตรงข้ามกันเองล่ะ
ถ้าไปผิดฝั่งก็แค่เดินทางเชื่อมข้ามกลับมาได้ สะดวกไปอี๊ก
ไปยืนจดๆจ้องๆ ที่หน้าทางเข้าว่าจะเอาไงดี นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ มองไปด้านในเป็น Outdoor อากาศร้อนเลยทีเดียวเชียว
นี่แอบคิดหนักมาก แอบส่องๆไปสักพักใหญ่ ก็มีน้องพนักงานเดินเข้ามาคุยด้วย น้องบอกว่าไตรภูมิเป็นสวนสนุกแบบธีมปาร์ค เราก็งงๆ
ว่ามันต่างกับสวนสนุกทั่วไปตรงไหน น้องเค้าเลยอธิบายว่า สวนสนุกแบบธีมปาร์คคือทุกอย่างในสวนสนุกจะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด
อย่างที่ไตรภูมิจุดสำคัญของเรื่องคือการตามล่าหาน้ำอมฤต เราจะต้องเข้าไปผจญภัยในนั้นเพื่อตามล่าหาน้ำอมฤตเหมือนกับตัวละครที่อยู่ในสวนสนุก
ด้านในมีทั้งหมด 3 โซน ตามชื่อสวนเลยจ้า ก็เค้าบอกว่า 3 โลก มันก็ต้องมี 3 อย่างสิ
คือป่าเวทมนตร์ นครบาดาล ภูเขาสีเงิน (จริงๆ ตอนนั้นจำไม่ได้หรอก มาหาชื่อเอาทีหลัง 555)
เอาแล้วสิ....... น่าหนุกอยู่เหมือนกัน คุยกันอยู่นานพอควร หลวมตัวควักกระเป๋าจ่ายตังค์ค่าเข้าชมไปเรียบร้อยแล้ว (พนักงานป้ายยาแน่ๆ)
จ่ายเงินเรียบร้อยเราจะได้ริชแบนมา 1 เส้น ไว้สำหรับแสกนบาร์โค้ด เพื่อเข้าสวน พร้อมกับข้อมูลแผนพับ ซึ่งเราก็ไม่ได้อ่าน และตอนนี้ก็หายไปแล้ว 555
ไม่มีรูปมาฝากกันเลย

เราขออธิบายเป็นจุดๆ ไปนะคะ จริงๆ ข้างในจะเดินโซนไหนก่อนก็ได้ แต่เราจะอธิบายทุกโซน ส่วนด้านล่างเราจะอธิบายเส้นทางการเดินให้นะคะ
เริ่มกันที่โซนแรก
โซนป่าเวทมนตร์ (Magic Forest)
เข้ามาก็จะป่าเลยละ บรรยากาศที่ผ่านประตูเข้าไป ก็มีลมร้อนๆ ปะทะหน้าเข้ามา คิดในใจ อุ๊ยยยย ร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่ก็เข้ามาแล้ว เสียเงินไปแล้ว จะหันหลังกลับได้อย่างไร เดินต่อสิจ๊ะ เดินต่อไปจ๊ะพี่จ๋า
โซนป่า จุดที่ 1 เข้ามาเจอน้ำตกใหญ่ๆเลย เสียงเพลง เสียงช้าง เสียงนกร้อง เข้ากับบรรยากาศมากๆ รู้สึกอินขึ้นมาเลย
น้องที่เป็นเจ้าหน้าจะอธิบายความเป็นมานิดหน่อย พอให้เราเข้าใจเรื่องราว นิดหน่อย
พอเราเดินไปตามทางเดิน ก็จะมีรูปปั้นคชสีห์ วเนกำพู ยักษ์ งานปั้นโดยรวมค่อนข้างละเอียดเลย สวยดีค่ะ
โซนป่า จุดที่ 2 เจอกับต้นไม้พูดได้ เราสามารถพูดอะไรไปก็ได้ แล้วต้นไม้จะพูดคำนั้นกลับมา แต่เป็นภาษาของเผ่าไตรภูมิ มีหลายเสียงเลย เสียงเล็ก เสียงใหญ่ ได้หมดเลย แต่ความที่ไปคนเดียว มันเลยไม่สนุก ไม่มีคนหัวเราะกับเราด้วย ถ้ามากันเยอะๆ ก็น่าจะขำดีเหมือนกัน
--โซนนี้หารูปไม่เจอน่าจะไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ—
โซนป่า จุดที่ 3 ต้นไม่แห่งความจริง + บ่อกินนรี
ต้นไม้แห่งความจริง คือเราต้องเอาบาร์โค้ดที่ริชแบนด์ไปสแกน แล้วจะมีจอใต้ต้นไม้ขึ้นว่าในอดีตเราเป็นตัวอะไรในไตรภูมิ
และรูปตัวเราที่แปลงร่างเรียบร้อยก็จะขึ้นไปอยู่บนดวงตาที่ด้านบน เราได้เป็นช้าง (คชสีห์) 555 ก็ตัวขนาดนี้อ่ะเนอะ ก็ควรเป็นช้างแหละ 555

ส่วนบ่อกินนรี จะมีการแสดงเป็นรอบๆ ตอนนั้นโชคดีมาก มาเจอรอบพอดี ตอนถ่ายรูปที่ต้นไม้แห่งความจริง น้องบอกว่าอีก 5 นาทีการแสดงจะเริ่ม
นี่ก็ชิวค่ะ อีกตั้ง 5 นาที พอหันไปอีกที นักท่องเที่ยวเริ่มทะยอยมาเยอะเลย แอบสงสัยว่าคนมาจากไหน เพราะเดินเข้ามาก็เห็นคนเข้าไม่เท่าไหร่ ทำไมตอนดูโชว์คนดูเยอะจัง (หรือจะมีช่องทางลับที่เราไม่รู้ 555)

สำหรับเรารู้สึกว่ามันเฉยๆนะ แต่เราว่าโชว์มันสั้นไปนิดนึง ความรู้สึกคือยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ ถ้าโชว์ยาวกว่านี้อีกหน่อยจะดีมากๆ เลย
แต่น้องๆนักแสดงที่มาโชว์สวยนะ แต่งตัวสวยใช้ได้เลยพอจะให้อภัยได้นิดหน่อย
โซนป่าจุดที่ 4 คือป่าหนาว
มันก็หนาวสมชื่อเค้าละ เปิดแล้วไปคือเย็นจริงอะไรจริง จากแดดด้านนอนก็สดชื่นเลยค่ะ
ป่าหนาวเป็นอารมณ์บ้านบอล แต่คือใหญ่ และเยอะมากกกก ความสูงของบอลก็ประมาณเกือบๆ เข่าของเรา โดดได้ กลิ้งได้ นอนเล่นได้เลย
คิดไว้เลยว่าคือต้องพาหลานที่บ้านกลับมาเล่นแล้วละ เราเป็นผู้ใหญ่ยัง เข้าไปเล่นนานพอควร เล่นไปแอบอายเด็กข้างๆ ไป
แต่น้องก็มีโยนบอลมาให้เราบ้างอะไรบ้าง ก็สนุกไปอีกแบบ บอลที่เค้าใช้จะเป็นสีขาว สลับฟ้านิดหน่อย
หน้าห้องจะมีป้ายเขียนประมาณว่าปลอดเชื้อแบคทรีเรียอะไรประมาณนี้ละ เราก็มั่นใจในระดับนึงว่าสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรค
โซนป่า จุดที่ 5 ห้องมยุรเวนไตย เราเรียกห้องกระจกแล้วกัน
เข้าไปคือสวยยยย สวยมาก เราเคยไปเห็นห้องคล้ายๆ แบบนี้ที่เมืองนอกมาแล้ว แต่ ที่ไตรภูมิเค้าออกแบบลายได้ดีเลยทีเดียว
แนะนำจะไปก็ใส่เสื้อขาวพื้นๆ ไปได้ ถ่ายออกมาสวยแต่นอน แต่จัถ่ายยากสักหน่อย เพราะมีแต่กระจกรอบตัว ถหามุมหลบยากมากจิงๆ
และซึ่งเราไปคนเดียวก็ไม่มีถ่ายให้ ได้แต่ถ่ายห้องมา อันนี้เราว่าเห็นด้วยตาสวยกว่ารูปอีกค่ะ
โซนป่า จุดที่ 6 ห้องที่เป็นเชือกๆ
มันเหมือนเราเดินอยู่บนพื้นเชือกอ่ะ นุ่มๆนิ่มๆ ทรงตัวอยากนิด ปีนขึ้นไปนั่งด้านบนยิ่งสนุกดึงดั๋งไปอี๊ก เวลามีคนมาโดดใกล้ๆ
ตัวเราก็จะเด้งๆตาจังหวะเค้าโดดไปด้วย

มาต่อกันที่โซน
นครบาดาล The Under Water World
โซนบาดาล จุดที่ 1 ล่องเรือชมนครบาดาล
ถ้าจะล่องเรือต้องจ่ายเพิ่มนะคะ เราไม่ได้ซื้อตั๋วที่รวมเครื่องเล่นทุกอย่าง (ล่องเรือนครบาดาลกับ Silver Glider ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม)
ที่ขายตั๋วล่องเรือ อยู่ด้านหน้าเลยค่ะ เราสามารถเดินเข้าไปดูก่อนได้ เราเดินเข้าไปดูก่อน ก็น่าสนใจดี เลยเดินย้อนออกมาซื้อตั๋วเพื่อล่องเรือ
ระยะเวลาล่องน่าจะประมาณ 10 นาทีได้นะ เข้าไปนานพอสมควรเลยแหละ
เรือจะแล่นเข้าไปเรื่อยๆ เข้าไปในท้องปลาอานนท์ มั้งนะ จำไม่ค่อยได้ แหะๆ คุ้นๆ ว่าน้องบอกตอนซื้อตั๋ว
ล่องผ่านจุดแรกไป ก็จะมีควัน มีไอน้ำเรื่อยๆ เราว่าข้างในสวยนะ จุดแสดงต่างๆ เค้าใช้แสง Blacklight มาช่วย มีการแสดงผ่านม่านน้ำ
ตรงท้ายๆ ก็มีจุดพีคอยู่น้ำสาดกระจายยยย เราเปียกประมาณนึง แต่ฝรั่ง 2 คนที่เข้าไปด้วยกัน เปียกหัวลีบเลย 555 น่าจะโดนเต็มๆ
ขึ้นจากเรือขำกันอยู่ 3 คน (คงขำที่เราก็เปียกไม่แพ้เค้าเหมือนกัน) โดยรวมแต่สนุกมากกก
ไม่ได้แบบล่องเรือเข้าไปแล้วผ่านออกมา มันมีจุดพีค ซึ่งพีคมากไม่ได้เตรียมตัวเหมือนกัน จริงๆใครมีของสำคัญกระเป๋าที่โดนน้ำไม่ได้
แนะนำให้ฝากน้องพนักงานก่อนได้นะ เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน ส่วนของเรา ไม่เป็นอะไรค่ะ เป้โดนน้ำได้ มือถือกันน้ำพอตัว
พอขึ้นจากเรือ มาเดินต่อก็มีหนาวสั่นเหมือนกันนะ นี่ขนาดไม่ได้เปียกจนชุ่มฉ่ำนะเนี่ย

รูปถ่ายออกมาไม่ค่อยสวยเลย เพราะเรือแล่นตลอดเวลา และมันก็มืดมากๆ
โซนนครบาดาล จุดที่ 2 ห้อง 4D Flying Theater
อันนี้ก็สนุกแต่ว่ามันถ่ายรูปไม่ได้มาอ่ะ ต้องใส่แว่น 3มิติ เพื่อดู ส่วนมิติที่ 4 ก็ต้องไปสัมผัสเองว่าเป็นยังไง เรานั่งที่นั่งสูงสุด สูงมากๆ
ตอนนั่งไม่รู้สึกนะ พอมองมาข้างๆ ด้านล่าง ที่เป็นสัญญาณไฟฉุกเฉินถึงรู้ว่ามันสูงมาก ลงมาถามน้อง น้องว่าประมาณ 7 เมตร เราไม่น่ากลัวนะ มีเซฟตี้ดีเลยละ ที่นั่งเข็มขัด ก็ดูรัดกุมดี หนังที่ฉายก็โอเคดี เพลินๆดี ใครที่กลัวความสูง ก็นั่งแถวแรกแถวที่ 2 ได้ ไม่สูงเท่าแถวสุดท้าย

ได้มาแค่ที่นั่งค่ะ เห็นไฟฉุกเฉิมมั๊ยคะ นั่นละคะ ที่เรามองลงมาแล้วถึงรู้ว่ามันสูงมากกก
โซนที่ 3 ภูเขาสีเงิน ขอต่อที่คอมเม้นท์นะคะ
Edit - แก้ไข ขนาดรูปภาพค่ะ
[CR] รีวิว ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก อยากรู้ข้างในเป็นยังไงไปดูกันเลย
เริ่มจากเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ต และพอดิบพอดีที่งานเสร็จเร็วกว่ากำหนด มีเวลาเที่ยวลั้นลาอยู่ 1 วันเต็ม
ส่วนอีกวันช่วงเย็นๆ ก็ต้องกลับ กทม น่าจะไม่สะดวกไปไหน
เลยหาข้อมูลกันคืนนั้นเลยว่าจะไปเที่ยวไหนดี จะไปทะเล ก็ไปมาหลายรอบแล้ว บวกกับอากาศหน้าร้อนบ้านเรานั้น
เหมือนอยู่ในเตาอบ ย่อมๆ เลย เพราะฉะนั้นสาวอย่างเจ้าของกระทู้เลยตั้งเป้ากหาที่เที่ยวที่ไม่ร้อนมาก
หาไปหามาก็สะดุดตากับสวนสนุกในภูเก็ต อ่านๆ เรื่อยๆ ก็น่าสนใจดีแหะ แต่รีวิวโดย User ค่อนข้างน้อยมาก ก็นั่งคิด นอนคิด จะไปดีไหมน้า
สุดท้ายลุยค่ะ เสี่ยงดวงเอา จะดีไม่ดี เดี๋ยวรู้กันค่ะ
มาถึงแล้วววว สวนสนุกธีมปาร์ค ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก The Mystical Three Worlds เค้าเตอร์ขายตั๋วก็หาไม่ยากค่ะ
อยู่ที่ชั้น G ของเซนทรัลภูเก็ตเฟสติวัล หรือที่คนแถวนั้นเค้าจะเรียกกันว่า เซนทรัลใหม่ ซึ่งจริงๆ จะเก่าจะใหม่ ก็อยู่ตรงข้ามกันเองล่ะ
ถ้าไปผิดฝั่งก็แค่เดินทางเชื่อมข้ามกลับมาได้ สะดวกไปอี๊ก
ไปยืนจดๆจ้องๆ ที่หน้าทางเข้าว่าจะเอาไงดี นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ มองไปด้านในเป็น Outdoor อากาศร้อนเลยทีเดียวเชียว
นี่แอบคิดหนักมาก แอบส่องๆไปสักพักใหญ่ ก็มีน้องพนักงานเดินเข้ามาคุยด้วย น้องบอกว่าไตรภูมิเป็นสวนสนุกแบบธีมปาร์ค เราก็งงๆ
ว่ามันต่างกับสวนสนุกทั่วไปตรงไหน น้องเค้าเลยอธิบายว่า สวนสนุกแบบธีมปาร์คคือทุกอย่างในสวนสนุกจะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด
อย่างที่ไตรภูมิจุดสำคัญของเรื่องคือการตามล่าหาน้ำอมฤต เราจะต้องเข้าไปผจญภัยในนั้นเพื่อตามล่าหาน้ำอมฤตเหมือนกับตัวละครที่อยู่ในสวนสนุก
ด้านในมีทั้งหมด 3 โซน ตามชื่อสวนเลยจ้า ก็เค้าบอกว่า 3 โลก มันก็ต้องมี 3 อย่างสิ
คือป่าเวทมนตร์ นครบาดาล ภูเขาสีเงิน (จริงๆ ตอนนั้นจำไม่ได้หรอก มาหาชื่อเอาทีหลัง 555)
เอาแล้วสิ....... น่าหนุกอยู่เหมือนกัน คุยกันอยู่นานพอควร หลวมตัวควักกระเป๋าจ่ายตังค์ค่าเข้าชมไปเรียบร้อยแล้ว (พนักงานป้ายยาแน่ๆ)
จ่ายเงินเรียบร้อยเราจะได้ริชแบนมา 1 เส้น ไว้สำหรับแสกนบาร์โค้ด เพื่อเข้าสวน พร้อมกับข้อมูลแผนพับ ซึ่งเราก็ไม่ได้อ่าน และตอนนี้ก็หายไปแล้ว 555
ไม่มีรูปมาฝากกันเลย
เราขออธิบายเป็นจุดๆ ไปนะคะ จริงๆ ข้างในจะเดินโซนไหนก่อนก็ได้ แต่เราจะอธิบายทุกโซน ส่วนด้านล่างเราจะอธิบายเส้นทางการเดินให้นะคะ
เริ่มกันที่โซนแรก
โซนป่าเวทมนตร์ (Magic Forest)
เข้ามาก็จะป่าเลยละ บรรยากาศที่ผ่านประตูเข้าไป ก็มีลมร้อนๆ ปะทะหน้าเข้ามา คิดในใจ อุ๊ยยยย ร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่ก็เข้ามาแล้ว เสียเงินไปแล้ว จะหันหลังกลับได้อย่างไร เดินต่อสิจ๊ะ เดินต่อไปจ๊ะพี่จ๋า
โซนป่า จุดที่ 1 เข้ามาเจอน้ำตกใหญ่ๆเลย เสียงเพลง เสียงช้าง เสียงนกร้อง เข้ากับบรรยากาศมากๆ รู้สึกอินขึ้นมาเลย
น้องที่เป็นเจ้าหน้าจะอธิบายความเป็นมานิดหน่อย พอให้เราเข้าใจเรื่องราว นิดหน่อย
พอเราเดินไปตามทางเดิน ก็จะมีรูปปั้นคชสีห์ วเนกำพู ยักษ์ งานปั้นโดยรวมค่อนข้างละเอียดเลย สวยดีค่ะ
โซนป่า จุดที่ 2 เจอกับต้นไม้พูดได้ เราสามารถพูดอะไรไปก็ได้ แล้วต้นไม้จะพูดคำนั้นกลับมา แต่เป็นภาษาของเผ่าไตรภูมิ มีหลายเสียงเลย เสียงเล็ก เสียงใหญ่ ได้หมดเลย แต่ความที่ไปคนเดียว มันเลยไม่สนุก ไม่มีคนหัวเราะกับเราด้วย ถ้ามากันเยอะๆ ก็น่าจะขำดีเหมือนกัน
--โซนนี้หารูปไม่เจอน่าจะไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ—
โซนป่า จุดที่ 3 ต้นไม่แห่งความจริง + บ่อกินนรี
ต้นไม้แห่งความจริง คือเราต้องเอาบาร์โค้ดที่ริชแบนด์ไปสแกน แล้วจะมีจอใต้ต้นไม้ขึ้นว่าในอดีตเราเป็นตัวอะไรในไตรภูมิ
และรูปตัวเราที่แปลงร่างเรียบร้อยก็จะขึ้นไปอยู่บนดวงตาที่ด้านบน เราได้เป็นช้าง (คชสีห์) 555 ก็ตัวขนาดนี้อ่ะเนอะ ก็ควรเป็นช้างแหละ 555
นี่ก็ชิวค่ะ อีกตั้ง 5 นาที พอหันไปอีกที นักท่องเที่ยวเริ่มทะยอยมาเยอะเลย แอบสงสัยว่าคนมาจากไหน เพราะเดินเข้ามาก็เห็นคนเข้าไม่เท่าไหร่ ทำไมตอนดูโชว์คนดูเยอะจัง (หรือจะมีช่องทางลับที่เราไม่รู้ 555)
สำหรับเรารู้สึกว่ามันเฉยๆนะ แต่เราว่าโชว์มันสั้นไปนิดนึง ความรู้สึกคือยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ ถ้าโชว์ยาวกว่านี้อีกหน่อยจะดีมากๆ เลย
แต่น้องๆนักแสดงที่มาโชว์สวยนะ แต่งตัวสวยใช้ได้เลยพอจะให้อภัยได้นิดหน่อย
โซนป่าจุดที่ 4 คือป่าหนาว
มันก็หนาวสมชื่อเค้าละ เปิดแล้วไปคือเย็นจริงอะไรจริง จากแดดด้านนอนก็สดชื่นเลยค่ะ
ป่าหนาวเป็นอารมณ์บ้านบอล แต่คือใหญ่ และเยอะมากกกก ความสูงของบอลก็ประมาณเกือบๆ เข่าของเรา โดดได้ กลิ้งได้ นอนเล่นได้เลย
คิดไว้เลยว่าคือต้องพาหลานที่บ้านกลับมาเล่นแล้วละ เราเป็นผู้ใหญ่ยัง เข้าไปเล่นนานพอควร เล่นไปแอบอายเด็กข้างๆ ไป
แต่น้องก็มีโยนบอลมาให้เราบ้างอะไรบ้าง ก็สนุกไปอีกแบบ บอลที่เค้าใช้จะเป็นสีขาว สลับฟ้านิดหน่อย
หน้าห้องจะมีป้ายเขียนประมาณว่าปลอดเชื้อแบคทรีเรียอะไรประมาณนี้ละ เราก็มั่นใจในระดับนึงว่าสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรค
โซนป่า จุดที่ 5 ห้องมยุรเวนไตย เราเรียกห้องกระจกแล้วกัน
เข้าไปคือสวยยยย สวยมาก เราเคยไปเห็นห้องคล้ายๆ แบบนี้ที่เมืองนอกมาแล้ว แต่ ที่ไตรภูมิเค้าออกแบบลายได้ดีเลยทีเดียว
แนะนำจะไปก็ใส่เสื้อขาวพื้นๆ ไปได้ ถ่ายออกมาสวยแต่นอน แต่จัถ่ายยากสักหน่อย เพราะมีแต่กระจกรอบตัว ถหามุมหลบยากมากจิงๆ
และซึ่งเราไปคนเดียวก็ไม่มีถ่ายให้ ได้แต่ถ่ายห้องมา อันนี้เราว่าเห็นด้วยตาสวยกว่ารูปอีกค่ะ
โซนป่า จุดที่ 6 ห้องที่เป็นเชือกๆ
มันเหมือนเราเดินอยู่บนพื้นเชือกอ่ะ นุ่มๆนิ่มๆ ทรงตัวอยากนิด ปีนขึ้นไปนั่งด้านบนยิ่งสนุกดึงดั๋งไปอี๊ก เวลามีคนมาโดดใกล้ๆ
ตัวเราก็จะเด้งๆตาจังหวะเค้าโดดไปด้วย
มาต่อกันที่โซนนครบาดาล The Under Water World
โซนบาดาล จุดที่ 1 ล่องเรือชมนครบาดาล
ถ้าจะล่องเรือต้องจ่ายเพิ่มนะคะ เราไม่ได้ซื้อตั๋วที่รวมเครื่องเล่นทุกอย่าง (ล่องเรือนครบาดาลกับ Silver Glider ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม)
ที่ขายตั๋วล่องเรือ อยู่ด้านหน้าเลยค่ะ เราสามารถเดินเข้าไปดูก่อนได้ เราเดินเข้าไปดูก่อน ก็น่าสนใจดี เลยเดินย้อนออกมาซื้อตั๋วเพื่อล่องเรือ
ระยะเวลาล่องน่าจะประมาณ 10 นาทีได้นะ เข้าไปนานพอสมควรเลยแหละ
เรือจะแล่นเข้าไปเรื่อยๆ เข้าไปในท้องปลาอานนท์ มั้งนะ จำไม่ค่อยได้ แหะๆ คุ้นๆ ว่าน้องบอกตอนซื้อตั๋ว
ล่องผ่านจุดแรกไป ก็จะมีควัน มีไอน้ำเรื่อยๆ เราว่าข้างในสวยนะ จุดแสดงต่างๆ เค้าใช้แสง Blacklight มาช่วย มีการแสดงผ่านม่านน้ำ
ตรงท้ายๆ ก็มีจุดพีคอยู่น้ำสาดกระจายยยย เราเปียกประมาณนึง แต่ฝรั่ง 2 คนที่เข้าไปด้วยกัน เปียกหัวลีบเลย 555 น่าจะโดนเต็มๆ
ขึ้นจากเรือขำกันอยู่ 3 คน (คงขำที่เราก็เปียกไม่แพ้เค้าเหมือนกัน) โดยรวมแต่สนุกมากกก
ไม่ได้แบบล่องเรือเข้าไปแล้วผ่านออกมา มันมีจุดพีค ซึ่งพีคมากไม่ได้เตรียมตัวเหมือนกัน จริงๆใครมีของสำคัญกระเป๋าที่โดนน้ำไม่ได้
แนะนำให้ฝากน้องพนักงานก่อนได้นะ เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน ส่วนของเรา ไม่เป็นอะไรค่ะ เป้โดนน้ำได้ มือถือกันน้ำพอตัว
พอขึ้นจากเรือ มาเดินต่อก็มีหนาวสั่นเหมือนกันนะ นี่ขนาดไม่ได้เปียกจนชุ่มฉ่ำนะเนี่ย
โซนนครบาดาล จุดที่ 2 ห้อง 4D Flying Theater
อันนี้ก็สนุกแต่ว่ามันถ่ายรูปไม่ได้มาอ่ะ ต้องใส่แว่น 3มิติ เพื่อดู ส่วนมิติที่ 4 ก็ต้องไปสัมผัสเองว่าเป็นยังไง เรานั่งที่นั่งสูงสุด สูงมากๆ
ตอนนั่งไม่รู้สึกนะ พอมองมาข้างๆ ด้านล่าง ที่เป็นสัญญาณไฟฉุกเฉินถึงรู้ว่ามันสูงมาก ลงมาถามน้อง น้องว่าประมาณ 7 เมตร เราไม่น่ากลัวนะ มีเซฟตี้ดีเลยละ ที่นั่งเข็มขัด ก็ดูรัดกุมดี หนังที่ฉายก็โอเคดี เพลินๆดี ใครที่กลัวความสูง ก็นั่งแถวแรกแถวที่ 2 ได้ ไม่สูงเท่าแถวสุดท้าย
โซนที่ 3 ภูเขาสีเงิน ขอต่อที่คอมเม้นท์นะคะ
Edit - แก้ไข ขนาดรูปภาพค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น