เธอทำตนเองแลให้เป็นใหญ่

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อัตตาธิปไตยเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
อยู่ในป่าก็ดี อยู่โคนไม้ก็ดี อยู่ในเรือนว่างก็ดี
ย่อมสำเหนียกดังนี้ว่า
ก็เราออกบวชเป็นบรรพชิต
ไม่ใช่เพราะเหตุแห่งจีวร
ไม่ใช่เพราะเหตุแห่งบิณฑบาต
ไม่ใช่เพราะเหตุแห่งเสนาสนะ
เราออกบวชเป็นบรรพชิต
ไม่ใช่เพราะเหตุแห่งความมีและความไม่มี
เช่นนั้น ก็แต่ว่า เราเป็นผู้อัน
ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ครอบงำแล้ว
ชื่อว่าเป็นผู้มีทุกข์ครอบงำแล้ว
มีทุกข์ท่วมทับแล้ว
ไฉนความทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้จะพึงปรากฏ
ก็การที่เราจะพึงแสวงหากามที่ละได้แล้ว
ออกบวชเป็นบรรพชิตนั้น
เป็นความเลวทรามอย่างยิ่ง
ข้อนั้นไม่เป็นการสมควรแก่เราเลย
เธอย่อมสำเหนียกว่า
ก็ความเพียรที่ปรารภแล้ว
จักไม่ย่อหย่อนสติที่เข้าไปตั้งมั่นแล้วจะไม่หลงลืม
กายที่สงบระงับแล้วจักไม่ระส่ำระสาย
จิตที่เป็นสมาธิแล้วจักมีอารมณ์แน่วแน่
ดังนี้ เธอทำตนเองแลให้เป็นใหญ่
แล้วละอกุศล เจริญกุศล
ละกรรมที่มีโทษ เจริญกรรมที่ไม่มีโทษ
บริหารตนให้บริสุทธิ์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอัตตาธิปไตย ฯ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่