สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่า ตัวเราเองมีประสปการณ์ในการเลี้ยงเม่นแคระมาหลายปีพอสมควร และจากประสปการณ์ของเรา ตัวเรานั้นได้ศูนย์เสียน้องเม่นแคระจากโรคนี้ไปตัวแรก ส่วนตัวก่อนหน้าที่ตัวเราเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องเม่นป่วยเพราะน้องจะไม่แสดงอาการให้เราเห็นเลยทานข้าวได้ปกติแต่เวลาผ่านไปมารู้ตัวอีกทีน้องเม่นก็ซึมไม่ยอมทานข้าวแล้วก็เสียชีวิตในที่สุด
แต่โรคนี้มัน สังเกตุได้ค่ะ เริ่มแรก น้องเม่นครอกนี้ได้เกิดความผิดพลาดคือ ตัวผู้(ตัวลูก) ได้หลุดไป ผสมพันธุ์ กับตัวเมีย (ตัวแม่) จึงทำให้ลักษณะของพันธุกรรมผิดพลาดหรืออย่างไรเราก็ไม่แน่ใจ คอกนี้มีพี่น้องมาสองตัวค่ะ ทั้งคู่แข็งแรงร่าเริ่ง ไม่ตื่นคนดีมากกก อ้วนตุ้บบบ 555 แต่พอเวลาผ่านไปเราก็อุ้มเข้ามาหอมตามปกติ เริ่มสังเกตุเห็น บริเวณท้องของน้องเม่นตัวหนึ่งในพี่น้อง ท้องนั้นเขียวช้ำ และกดดูมีก้อนแข็ง จึงรีบพาไปหาหมอ หมอ ซึ่งเป็นคลินิคเล็กๆ ได้ทำการตรวจและเนื่องจากมีเครื่องมือไม่เพียงพอ จึงทำได้แค่สันนิฐานในเบื้องต้นและให้ยากลับมาทาน เป็นยาที่ สกัดจากหญ้าหวาน หรืออะไรสักอย่างเราก็ไม่แน่ใจ แหะ เพราะหมอเคยให้เคสเม่นแคระที่มีลักษณะคล้ายๆกับอาการของเม่นเราแล้วก้อนมันยุบ แต่หลังจากทานผลปรากฏว่า ก้อนนั้นได้ขยายใหญ่ขึ้นและดูเป็นสีแดงสด เหมือนพร้อมจะแตกตลอดเวลา เราจึงพาน้องไปหาคุณหมอที่รพ.เกษตร คุณหมอได้ทำการผ่าชิ้นเนื้อจากก้อนนำไปพิสูจว่าน้องเป็นโรคอะไร รอผลตรวจประมาณ 1 อาทิตย์ สรุปคือ น้องเป็นมะเร็ง เราจำชื่อเรียกภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ คุณหมอบอกประมาณว่า มะเร็งชนิดนี้ จะเกิดบริเวณที่เลือดไปเลี้ยงเยอะๆ เช่นมดลูก ก็คือ สามารถเกิดได้ทุกที่นั่นเอง แต่ มะเร็งเจ้ากรรมนี้ ดันมาเกิดบริเวณท้อง ,บริเวณอวัยวะเพศ และบริเวณท่อปัสสาวะ
คุณหมอจึงทำการผ่าตัดเอาเจ้าก้อนนั้นออก ขนาดประมาณ 1 นิ้วได้ สำหรับการผ่าตัดครั้งแรก ซึ่งใหญ่มาก นั่นก็เพราะยาจากหญ้าหวานนั้นเป็นอาหารชั้นดีให้กับมะเร็งเจ้ากรรมนี้นั่นเอง หลังจากผ่าตัดบริเวณอวัยวะเพศได้รับความเสียหายเนื่องจากไม่สามารถเย็บกลับมาเหมือนเดิมได้ คุณหมอจึงทำการทำท่อปัสสาวะเทียมให้ คุณหมอได้บอกให้เราทำใจไว้เลยว่า น้องเม่นแคระ สามารถผ่าตัดได้สูงสุด 5 ครั้ง เพราะทุกครั้งที่ผ่านั้นจำเป็นต้องคว้านเนื้อทั้งดีและไม่ดีออกไปด้วย จึงทำให้เย็บกลับมาเหมือนเดิมยากนั่นเองค่ะ และโรคนี้เนี่ย สามารถเกิดขึ้นอีกได้ทุกเมื่อเพราะในแต่ละครั้งที่ผ่าตัด คุณหมอไม่สามารถจะคว้านเอาเจ้าเนื้อร้ายออกได้หมด เนื่องจากมันจะขึ้นอยู่กระจัดกระจายมากค่ะ เป็นได้ได้ยากมากหากจะเอาออกทั้งหมด และใช่ค่ะ สุดท้ายเจ้าเนื้อร้ายนั้นก็ได้ขึ้นมาทำร้ายน้องเม่นแคระเราอีกครั้ง และทำได้ทำการผ่าตัดไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนครั้งที่สามน้องเม่นแคระทานได้น้อยลง คุณหมอจึงจัดยาเพิ่มความอยากอาหารมาให้ แต่ก็ช่วยได้สักพัก จนสุดท้ายคุณหมอตัดสินใจให้น้องเอกซเรย์ และพบว่าตับของน้องเม่นได้ขยายใหญ่ผิดปกติ อาจจะเพราะได้รับยามากเกินไป แต่พอเวลาผ่านไป น้องก็กินได้ปกติ ร่าเริงจนลืมป่วยไปเลยค่ะ 55 น้องสู้มากๆเลย ระหว่างการรักษาคุณหมอก็จะวางแผนการทานยา ที่ช่วยลดขนาดเจ้าก้อนหรืแสเตรียรอยแล้วก็เสริมภูมิคุ้มกันให้กับเม่นแคระไปด้วย เพราะเจ้ายาสเตรียรอยเนี่ยมันจะไปกดภูมิคุ้มกันน้องให้ต่ำลง ก็เลยต้องทานควบคู่กันไป ตอนเราป้อนยาน้องเนี่ย ทรมาณใจเลยมากค่ะ น้องบ้วนออกตลอดเลย แล้วมันจะหายไหมเนี่ยยย 555 แต่สุดท้ายมะเร็งเจ้ากรรมก็ขึ้นมาอีกอยู่ดีค่ะ และ น้องได้ทำการผ่าตัดมาจนถึงครั้งที่ 5 จนคุณหมอไม่สามารถผ่าให้น้องอีกได้แล้ว จึงต้องวางแผนการทานยากันค่ะ หากผ่าไม่ได้ก็จะต้องอยู่กับไอ้ก้อนเนี้ยะ ให้ได้ โดยไม่ให้มันโตไปเบียดทางเดินปัสสาวะหรืออวัยวะอื่นๆมากกว่านี้ แต่ทานยาไปมา ได้โรคอื่นมาแทนซะงั้น 55 น้องเกิดอาการขาหลังซ้ายบวม และช้ำมาก ซึ่งเราให้น้องนอนในผ้านุ่มๆตลอดเลย คุณหมอเลยสันนิฐานว่าอาจเป็นเพราะยา จึงจัดยาชุดใหม่กันไป โดยเพิ่มยาลดอักเสบมาด้วย ผลปรากฏ ก้อนไม่โต รอยช้ำเริ่มจางลง แต่ ทางเดินปัสสาวะเทียมที่หมอทำไว้ นั้นเริ่มมีกลิ่นเหม็นออกมาค่ะ เราเลยจับน้องเม่นอาบน้ำแทบทุกวันเลย เพราะปัสสาวะเนี่ย มันไปกัดบริเวณรอบๆ รอยปัสสาวะเทียม แต่สุดท้าย น้องไม่ยอมทานข้าวค่ะ เราจึงไปซื้อ อาการน้องหมาป่วยคุณหมอแนะนำให้ทาน ชื่อว่า RECOVERY มาป้อนให้น้องแทนอาหารเม็ดเพื่อที่จะให้น้องพอมีแรงบ้าง แล้วในวันที่ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงค่ะ เรารับรู้ได้เลยว่าวันนี้น้องเหนื่อยมากๆ เราเลยอุ้มเค้ามานอนที่หน้าอก แล้วบอกกับเค้าว่า ถ้าเหนื่อยก็พักนะ แล้วก็บอกเค้าว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน ไม่นานเค้าก็ไปค่ะ โดยมีเลือดออกจากรูทวารของน้อง ซึ่งเม่นแคระตัวอื่นๆที่เสียชีวิต ที่เราเคยเลี้ยงมาก็มักจะเลือดออกลักษณะนี้กันหมดเลยค่ะ
เรื่องที่เราเอามาเล่าให้ฟัง อยากฝากไว้เป็นอุทาหรให้แก่คนรักเม่นแคระ ทุกท่านให้รักแล้วก็ใส่ใจเค้ามากๆนะคะ เพราะเวลาเค้าป่วยเนี่ยเค้าแทบจะไม่แสดงอาการให้เราเห็นเลย เราต้องเอาใจใส่เค้ามากๆจริงๆค่ะ
และหากน้องเม่นป่วยเป็นไปได้เราก็อยากให้ทุกคนดูแลเค้าจนถึงวาระสุดท้ายของเค้านะคะ โรคนี้คุณหมอบอกว่า เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับเจ้าก้อนนี้ได้ค่ะ ในบางเคสก็ให้ยากันไปจนถึงนาทีสุดท้ายของน้อง
ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเองนะคะ เลี้ยงและดูแลเค้าให้ดีที่สุด แล้วคุณจะไม่เสียใจที่เสียเค้าไปเพราะเราทำดีที่สุดแล้วค่ะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิกพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะค้า **
มะเร็งในเม่นแคระภัยเงียบที่ควรระวัง
แต่โรคนี้มัน สังเกตุได้ค่ะ เริ่มแรก น้องเม่นครอกนี้ได้เกิดความผิดพลาดคือ ตัวผู้(ตัวลูก) ได้หลุดไป ผสมพันธุ์ กับตัวเมีย (ตัวแม่) จึงทำให้ลักษณะของพันธุกรรมผิดพลาดหรืออย่างไรเราก็ไม่แน่ใจ คอกนี้มีพี่น้องมาสองตัวค่ะ ทั้งคู่แข็งแรงร่าเริ่ง ไม่ตื่นคนดีมากกก อ้วนตุ้บบบ 555 แต่พอเวลาผ่านไปเราก็อุ้มเข้ามาหอมตามปกติ เริ่มสังเกตุเห็น บริเวณท้องของน้องเม่นตัวหนึ่งในพี่น้อง ท้องนั้นเขียวช้ำ และกดดูมีก้อนแข็ง จึงรีบพาไปหาหมอ หมอ ซึ่งเป็นคลินิคเล็กๆ ได้ทำการตรวจและเนื่องจากมีเครื่องมือไม่เพียงพอ จึงทำได้แค่สันนิฐานในเบื้องต้นและให้ยากลับมาทาน เป็นยาที่ สกัดจากหญ้าหวาน หรืออะไรสักอย่างเราก็ไม่แน่ใจ แหะ เพราะหมอเคยให้เคสเม่นแคระที่มีลักษณะคล้ายๆกับอาการของเม่นเราแล้วก้อนมันยุบ แต่หลังจากทานผลปรากฏว่า ก้อนนั้นได้ขยายใหญ่ขึ้นและดูเป็นสีแดงสด เหมือนพร้อมจะแตกตลอดเวลา เราจึงพาน้องไปหาคุณหมอที่รพ.เกษตร คุณหมอได้ทำการผ่าชิ้นเนื้อจากก้อนนำไปพิสูจว่าน้องเป็นโรคอะไร รอผลตรวจประมาณ 1 อาทิตย์ สรุปคือ น้องเป็นมะเร็ง เราจำชื่อเรียกภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ คุณหมอบอกประมาณว่า มะเร็งชนิดนี้ จะเกิดบริเวณที่เลือดไปเลี้ยงเยอะๆ เช่นมดลูก ก็คือ สามารถเกิดได้ทุกที่นั่นเอง แต่ มะเร็งเจ้ากรรมนี้ ดันมาเกิดบริเวณท้อง ,บริเวณอวัยวะเพศ และบริเวณท่อปัสสาวะ
คุณหมอจึงทำการผ่าตัดเอาเจ้าก้อนนั้นออก ขนาดประมาณ 1 นิ้วได้ สำหรับการผ่าตัดครั้งแรก ซึ่งใหญ่มาก นั่นก็เพราะยาจากหญ้าหวานนั้นเป็นอาหารชั้นดีให้กับมะเร็งเจ้ากรรมนี้นั่นเอง หลังจากผ่าตัดบริเวณอวัยวะเพศได้รับความเสียหายเนื่องจากไม่สามารถเย็บกลับมาเหมือนเดิมได้ คุณหมอจึงทำการทำท่อปัสสาวะเทียมให้ คุณหมอได้บอกให้เราทำใจไว้เลยว่า น้องเม่นแคระ สามารถผ่าตัดได้สูงสุด 5 ครั้ง เพราะทุกครั้งที่ผ่านั้นจำเป็นต้องคว้านเนื้อทั้งดีและไม่ดีออกไปด้วย จึงทำให้เย็บกลับมาเหมือนเดิมยากนั่นเองค่ะ และโรคนี้เนี่ย สามารถเกิดขึ้นอีกได้ทุกเมื่อเพราะในแต่ละครั้งที่ผ่าตัด คุณหมอไม่สามารถจะคว้านเอาเจ้าเนื้อร้ายออกได้หมด เนื่องจากมันจะขึ้นอยู่กระจัดกระจายมากค่ะ เป็นได้ได้ยากมากหากจะเอาออกทั้งหมด และใช่ค่ะ สุดท้ายเจ้าเนื้อร้ายนั้นก็ได้ขึ้นมาทำร้ายน้องเม่นแคระเราอีกครั้ง และทำได้ทำการผ่าตัดไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนครั้งที่สามน้องเม่นแคระทานได้น้อยลง คุณหมอจึงจัดยาเพิ่มความอยากอาหารมาให้ แต่ก็ช่วยได้สักพัก จนสุดท้ายคุณหมอตัดสินใจให้น้องเอกซเรย์ และพบว่าตับของน้องเม่นได้ขยายใหญ่ผิดปกติ อาจจะเพราะได้รับยามากเกินไป แต่พอเวลาผ่านไป น้องก็กินได้ปกติ ร่าเริงจนลืมป่วยไปเลยค่ะ 55 น้องสู้มากๆเลย ระหว่างการรักษาคุณหมอก็จะวางแผนการทานยา ที่ช่วยลดขนาดเจ้าก้อนหรืแสเตรียรอยแล้วก็เสริมภูมิคุ้มกันให้กับเม่นแคระไปด้วย เพราะเจ้ายาสเตรียรอยเนี่ยมันจะไปกดภูมิคุ้มกันน้องให้ต่ำลง ก็เลยต้องทานควบคู่กันไป ตอนเราป้อนยาน้องเนี่ย ทรมาณใจเลยมากค่ะ น้องบ้วนออกตลอดเลย แล้วมันจะหายไหมเนี่ยยย 555 แต่สุดท้ายมะเร็งเจ้ากรรมก็ขึ้นมาอีกอยู่ดีค่ะ และ น้องได้ทำการผ่าตัดมาจนถึงครั้งที่ 5 จนคุณหมอไม่สามารถผ่าให้น้องอีกได้แล้ว จึงต้องวางแผนการทานยากันค่ะ หากผ่าไม่ได้ก็จะต้องอยู่กับไอ้ก้อนเนี้ยะ ให้ได้ โดยไม่ให้มันโตไปเบียดทางเดินปัสสาวะหรืออวัยวะอื่นๆมากกว่านี้ แต่ทานยาไปมา ได้โรคอื่นมาแทนซะงั้น 55 น้องเกิดอาการขาหลังซ้ายบวม และช้ำมาก ซึ่งเราให้น้องนอนในผ้านุ่มๆตลอดเลย คุณหมอเลยสันนิฐานว่าอาจเป็นเพราะยา จึงจัดยาชุดใหม่กันไป โดยเพิ่มยาลดอักเสบมาด้วย ผลปรากฏ ก้อนไม่โต รอยช้ำเริ่มจางลง แต่ ทางเดินปัสสาวะเทียมที่หมอทำไว้ นั้นเริ่มมีกลิ่นเหม็นออกมาค่ะ เราเลยจับน้องเม่นอาบน้ำแทบทุกวันเลย เพราะปัสสาวะเนี่ย มันไปกัดบริเวณรอบๆ รอยปัสสาวะเทียม แต่สุดท้าย น้องไม่ยอมทานข้าวค่ะ เราจึงไปซื้อ อาการน้องหมาป่วยคุณหมอแนะนำให้ทาน ชื่อว่า RECOVERY มาป้อนให้น้องแทนอาหารเม็ดเพื่อที่จะให้น้องพอมีแรงบ้าง แล้วในวันที่ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงค่ะ เรารับรู้ได้เลยว่าวันนี้น้องเหนื่อยมากๆ เราเลยอุ้มเค้ามานอนที่หน้าอก แล้วบอกกับเค้าว่า ถ้าเหนื่อยก็พักนะ แล้วก็บอกเค้าว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน ไม่นานเค้าก็ไปค่ะ โดยมีเลือดออกจากรูทวารของน้อง ซึ่งเม่นแคระตัวอื่นๆที่เสียชีวิต ที่เราเคยเลี้ยงมาก็มักจะเลือดออกลักษณะนี้กันหมดเลยค่ะ
เรื่องที่เราเอามาเล่าให้ฟัง อยากฝากไว้เป็นอุทาหรให้แก่คนรักเม่นแคระ ทุกท่านให้รักแล้วก็ใส่ใจเค้ามากๆนะคะ เพราะเวลาเค้าป่วยเนี่ยเค้าแทบจะไม่แสดงอาการให้เราเห็นเลย เราต้องเอาใจใส่เค้ามากๆจริงๆค่ะ
และหากน้องเม่นป่วยเป็นไปได้เราก็อยากให้ทุกคนดูแลเค้าจนถึงวาระสุดท้ายของเค้านะคะ โรคนี้คุณหมอบอกว่า เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับเจ้าก้อนนี้ได้ค่ะ ในบางเคสก็ให้ยากันไปจนถึงนาทีสุดท้ายของน้อง
ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเองนะคะ เลี้ยงและดูแลเค้าให้ดีที่สุด แล้วคุณจะไม่เสียใจที่เสียเค้าไปเพราะเราทำดีที่สุดแล้วค่ะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิกพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะค้า **