[รีวิว NETFLIX] Better Call Saul: เล่าฉลาด+ตลกร้าย+โคตรน่าติดตาม
คะแนน: 9/10
(NETFLIX / Vince Gilligan, Peter Gould, 2015-ปัจจุบัน)
by ตั๋วหนังมันแพง
“ฉันเพิ่งลดโทษให้นายจากประหารให้เหลือภาคทันฑ์แค่หกเดือน ฉันเป็นทนายชั้นหนึ่งชัดๆ”
เรื่องย่อ: Better Call Saul เป็นซีรีส์ที่เกิดก่อน (prequel) เหตุการณ์ใน Breaking Bad โดยโฟกัสไปที่ตัวละคร “เจมส์ ‘จิมมี่’ แม็คกิลล์” หรือที่เราจะรู้จักกันในฐานะทนายอาชญากรอันดับหนึ่งที่ใช้ชื่อ “ซอล กู้ดแมน” (Bob Odenkirk)
-- ซึ่งเราจะได้ไปสัมผัสและเรียนรู้ที่มาที่ไปของตัวละครนี้ ที่เริ่มต้นจากการเป็นทนายตงฉินและมีความมุ่งมั่น พร้อมกับปมเรื่องครอบครัวที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน รวมไปถึงความสัมพันธ์กับยอดฝีมือรับจ้างอย่าง “ไมค์” ด้วย
1.เนื้อเรื่อง ⭐⭐⭐⭐⭐
ถึงแม้มันจะเป็นหนังที่โยงกับซีรีส์เรื่องอื่น แต่ผมคิดว่าแม้คุณจะไม่เคยดู BB มาก่อนคุณก็จะสนุกกับเส้นเรื่องขั้นเทพแบบนี้ได้อยู่ดี
เพราะหนังมันปูพื้นฐานตัวละครและจักรวาลของตัวเองได้ดีและรวบรัดมาก แค่ 1-2 ตอนคุณก็จะเก็ตภาพรวมทั้งหมดแล้ว
.
ความนุ่มลึกของ Better Call Saul อยู่ที่การสร้างตัวละครที่จับต้องได้ และหนังจะค่อยๆ พาคุณไปสัมผัสกับ “การผจญภัย” ใหม่ๆ ที่จิมมี่จะต้องเผชิญ และต้องชมเลยว่าหนังมันเร่งเร้าจังหวะของตัวเองแบบไม่พักเลย ไม่มีตอนไหนที่รู้สึกอืดอาดหรือกลวง ทุกตอนล้วนมี progression ของมันที่น่าติดตาม
.
ชีวิตของทนายกระจอกอย่างจิมมี่ แม็กกิลล์ช่างยากลำบาก ยากจนถึงขนาดต้องไปเช่าห้องเก็บของของร้านทำเล็บสัญชาติเวียดนามเป็นออฟฟิศของตัวเอง, ต้องขับรถบุโรทั่ง และต้องถนอมสูทตัวเก่งของตัวเองเท่าชีวิตในฐานะเครื่องมือหากิน -- แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ยังดิ้นรนทำงานสุจริตและว่าความช่วยเหลือคนยากจน แต่ยังไง๊ยังไง ชีวิตก็ไม่ให้โอกาสเขาประสบความสำเร็จสักที
.
จนกระทั่งจิมมี่ได้ไปสัมผัสกับ “โลกของอาชญากรรม” การใช้ปัญญาที่หลักแหลมของเขาในทางที่ผิดกลับทำเงินได้มากเหลือเชื่อ จิมมี่ได้สัมผัสกับ “ความสำเร็จ” เป็นครั้งแรก และนี่ส่วนที่ความสนุกแบบวายป่วงเริ่มขึ้น เป็นกำไรอนันต์สำหรับคนดูอย่างเรา … ในเมื่อทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วเพื่อตัวเองก็ได้วะ!
2.ตัวละคร/นักแสดง ⭐⭐⭐⭐⭐
ขอกราบเบญจางฯ ให้กับ “บ็อบ โอเดนเคิร์ก” งามๆ ให้กับการแสดงอันไร้ที่ติในฐานะตัวเอก “จิมมี่/ซอล” คือพูดได้เต็มปากเลยว่าเฮียแบกหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่าอย่างแท้จริง
เราลุ้นหรือเอาใจช่วยพระเอกได้ขนาดนี้ ก็เพราะมาดติดดินที่เขาตั้งใจวางไว้อย่างหมดจด เราจะได้ดูซีรีส์ที่พระเอกหัวล้านนิดๆ ลงพุงหน่อยๆ แต่กลับมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ
.
แน่นอนว่าตัวละครเสริมอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ทุกคนดูมีเนื้อหนังเป็นคนจริงๆ อยู่ในจักรวาลเรียลๆ ของ Better Call Saul นี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มี “ความเป็นการ์ตูน” นิดๆ ที่คอยมาทำให้เราอ้าปากค้างตลอด เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ
3.ความบันเทิง ⭐⭐⭐⭐
นอกจากเนื้อเรื่องที่ไร้ที่ติแล้ว จุดขายสำคัญอีกอย่างก็คือ “ตลกร้าย” ที่การันตีว่าฮาจริงๆ มันเป็นความฮากับเรื่องที่ไม่ควรฮา คือรู้ว่าจริงๆ แล้วสถานการณ์มันน่ากลัวนะ แต่พอถ่ายทอดออกมาแบบนี้มันจะอดขำได้ยังไงกันวะ (บ้าจริง!)
.
คือถ้าใครที่ชอบมุกตลกแบบผู้ใหญ่ ตลกประชดประชัน หรือตลกแบบไร้สติ ซีรีส์เรื่องนี้รวมทั้งหมดไว้ในที่เดียวพร้อมให้คุณเสพ ทีเด็ดคือในขณะที่มันพยายามเล่าประเด็นต่างๆ ให้ออกมาฮา แต่ลึกๆ มันก็มีความเครียดของชีวิตคนธรรมดาๆ คนหนึ่งอยู่ด้วย ก็อย่างที่ผมบอก ว่ามันเป็นจักรวาลที่เรียลโคตรๆ
.
ส่วนสุดท้ายที่อยากชมก็คือ “งานภาพ” ที่ทีมผู้สร้างไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ คือนอกจากการจัดวางภาพจะสวยงามน่าจดจำแล้ว ยังมีสอดแทรกกิมมิกต่างๆ ไว้ตลอด พูดได้เลยว่าถ้าใครตาไวก็จะได้สนุกกับเนื้อหามากขึ้นแน่นอน
.
.
อย่าลืมไปลองดูกันทาง Netlifx ปัจจุบันมี 4 ซีซั่น (ยังไม่จบ) แล้วคุณจะมาขอบใจผมทีหลังครับ
ป.ล.อันที่จริงผมเคยดูมาแล้วรอบหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็คิดถึงเลยย้อนกลับมาดูอีกรอบ ปรากฏว่าสนุกกว่าเดิม ยิ่งเราโตขึ้นยิ่งสนุก เป็นขุมทรัพย์อย่างแท้จริง
#ตั๋วหนังมันแพง #Netflix #BetterCallSaul
[รีวิว NETFLIX] Better Call Saul: เล่าฉลาด+ตลกร้าย+โคตรน่าติดตาม by ตั๋วหนังมันแพง