ประโยคที่ว่า " แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มีสส. เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ตาม (2) " คือกุญแจสำคัญของการคลี่คลาย

อ้างอิงจาก ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต และอดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ที่ได้เขียนบทความโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว เรื่อง “อภินิหารของการสำเนากติกาเลือกตั้งมาไม่ครบถ้วน” ในข้อที่ 6 
(6) ประเทศอื่นๆที่ใช้ระบบ MMA ทุกประเทศ ได้ออกแบบให้มี “จุดตัดทิ้ง (Threshold)” เพื่อป้องกันพรรคเล็กพรรคน้อยจำนวนมากมาย เช่น นิวซีแลนด์ กำหนดให้พรรคไม่ได้ สส เขตเลย ถ้าจะมาแบ่งสส บัญชีรายชื่อ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 5% ที่เยอรมันนี ก็ใช้ 5% โบลิเวียร์ ใช้ 3 % (ไม่พบประเทศใดที่ไม่มีการกำหนด Treshold เหมือนกติกาเรา ซึ่งทำให้พรรคที่ตกน้ำฟื้นขึ้นมาใหม่ถึง 13 พรรค)

ดังนั้น ประโยคคำว่า  " แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มีสส. เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ตาม (2) "  นั่นหมายถึงว่า เบื้องต้น พรรคการเมืองที่จำนวน สส.ที่จะพึงมีได้ มีค่าจำนวนต่ำกว่า 1 จะไม่สามารถนำมาคำนวณต่อไปได้ในข้ออื่นๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อคำนวณในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ได้จำนวนคน หรือ สส. เป็น 1 หรือ 2 หรือ .... ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้ในทางคณิตศาสตร์ จะเป็นจำนวนที่มีค่ามากกว่าเสมอ 
   นั่นหมายถึงว่า พรรคเล็กๆ ที่คำนวณตาม (2) จำนวน สส. พึงมีได้ มีค่า 0.9999 ลงมา จะถูก ตัดสิทธิ์ ในการจะไปคำนวณขั้นตอนต่อไป  ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับการเป็น  จุดตัดทิ้ง ที่รัฐธรรมนูญไทย ที่ไม่ได้เขียนไว้โดยตรง แต่แฝงอยู่ในข้อความแทน ... เพราะ ตัวเลขมันบ่งบอกได้ชัดเจนว่า เมือจำนวนเต็มเป็น 0 หลังจุดทศนิยมไม่ว่าจะเป็นเลขอะไร ตั้งแต่ 0.0001 - 0.9999 คือ จำนวนที่มีค่าน้อยกว่า 1 เสมอ ดังนั้น เราจะไม่สามารถไปอ้างได้ว่า 0.9999 เท่ากับ 1 เสียง เพราะ 0.9999 น้อยกว่า 1 อยู่ดี  
ผมมั่นใจว่า ประโยคดังกล่าวนี้ จะเป็นจุดคลี่คลายปมทั้งหมด ของ กกต. 

* กระทู้นี้ ไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งใดๆ สำหรับ ณ เวลานี้ ใครก้ได้ ในอดีตศรัทธาเพื่อไทย ปัจจุบันก็ยังเพื่อไทย อนาคตก็เพื่อไทย แต่...ไม่ได้รังเกียจใดๆ หรือโกรธแค้นใดๆ ที่พรรคอื่นๆ จะทำหน้าที่รัฐบาล แต่เพื่อ สร้างความคิด สร้าง เหตุผล เราก็มาแลกเปลี่ยน โต้แย้งกัน ครับ " 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่