ตั้งแต่เช้าเลยที่ติดตามเรื่องของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้เดินทางไปให้การกับตำรวจตามหมายเรียกที่ตำรวจส่งมาด้วยข้อหาหลายข้อหา
ซึ่งผมจะไม่ลงลึกในเรื่องนั้น
แต่มันมีเรื่องที่ผมสนใจอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ
มีแขกต่างประเทศโดยเฉพาะตัวแทนของประเทศต่างๆถึง ๑๑
ประเทศพร้อมด้วยตัวแทนจาก สหประชาชาติ หรือ UN
ได้เข้ามาสังเกตการณ์และเข้าร่วมฟังการสอบสวนของตำรวจกรณีการแจ้งข้อหากับคุณธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจในวันนี้
@
ที่ผมว่ามันแปลกๆก็เพราะจริงๆแล้วถ้าเรื่องมันไม่เลวร้ายหรือน่าเป็นห่วงจริงๆนักการทูตกลุ่มนี้ไม่ออกมา
เพื่อสังเกตการณ์อะไรง่ายๆเพราะเขามีมารยาททางการมทูตและทางการเมืองที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องภายในของประเทศนั้นๆ
แต่สำหรับวันนี้ผมกลับเห้นภาพของนักการทูตหรือตัวแทนของนักการทูตจาประเทศต่างๆถึง
๑๑ ประเทศรวมทั้ง UN ด้วยมาสังเกตการณ์และมาร่วมฟังการสอบสวน
@
คำถามคือ ประเทศเหล่านี้มองเห็นอะไร
หรือเป็นกังวลเรื่องอะไรถึงส่งตัวแทนออกมาสังเกตการณ์เช่นนี้
ผมจึงคิดว่านี่คงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่จึงทำให้ประเทศเหล่านี้
"เป็นกังวล"ต่อสถานการณ์ของบ้านเราเมืองเราในวันนี้ หรือว่า
พวกเขาชาวต่างประเทศรู้อะไรที่เราคนไทยไม่รู้กันใช่หรือไม่
อันที่จริงผมก็แปลกๆมาตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งมาแล้วที่คราวนี้ตัวแทนจากต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์มากเป็นพิเศษพร้อมรายงานสถานการณ์เข้าสู่ประเทศตนเองโดยตลอด
ผมจึงตั้งเป็นข้อสังเกตเล่นๆว่าการที่คนต่างประเทศสนใจในเรื่องการเลือกตั้งของเราก็เพราะเขามองภาพเราในมุมมองที่ไม่ปกติหรือเปล่า
ว่าสถานการณ์การเลือกตั้งของเรานั้นไม่ปกติเป็นแน่
เพราะกติกาที่ออกมาเพื่อการเลือกตั้งในครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นกติการที่เอื้อกับเจ้าภาพมากที่สุด
เพราะเหตุนี้หรือเปล่าพวกเขาจึงสนใจและเข้าสังเกตการณ์อย่างเคร่งเครียด
@
สิ่งที่เรียกว่าเป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่ผมเห็นมาในคราวการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็คือ
ปรากฏการณ์อนาคตใหม่ ปรากฏการณ์ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้จำนวน
ส.ส.มากวกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทั้งๆที่พึ่งเปิดตัวเปิดพรรคมาเป็นครั้งแรกก็ทำให้สีสันการเมืองไทยสั่นคลอนได้ทันที
หลายจังหวัดอนาคตใหม่ไปล้มแชมป์เก่าแบบสบายๆ
ทำเอานักเลือกตั้งเจ้าถิ่นที่เคยชนะมาตลอดถึงกับอึ้ง และบ่นว่า
ทำไมถึงงทำกับฉันได้
@
สิ่งที่เป็นเรื่องแปลกใหม่อีกครั้งที่ผมเห็นคือ
กระแสความนิยมของอนาคตใหม่มาแรงในกลุ่มของ "วัยรุ่น
และคนรุ่นใหม่"ที่ต้องการเปลี่ยนประเทศ (๑) ไม่เอาทหาร (๒)
ไม่เอานักการเมืองหน้าเดิมที่ไม่ค่อยมีอะไรมากไปกว่าความต้องการเกินประมาณจนลืมหัวประชาชน
อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่จริงๆและเป็นเรื่องแปลกที่ผมเองไม่ค่อยได้เห็นมาก่อนเลย
@ สิ่งที่เป็นความแปลกที่ผมเห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ "ความกลัวคนรุ่นใหม่"
ของพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว
หรือพวกที่หวงอำนาจและสายชาตินิยมหลงยุคทั้งหลายที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เกิดอาการผีเข้าเจ้าสิง กลัวเสียงของคนรุ่นใหม่
ถึงกับมีการฝากบอกคนรุ่นเก่าที่เลือกหรือเคยเลือกตนให้ไปบอกคนรุ่นใหม่ว่า
เห็นแก่พ่อแก่แม่เถอะอย่าเลือกพรรคอนาคตใหม่เลย จะให้กราบก็ยอม
อันนี้เป็นเรืองแปลกอีกเรื่องที่ผมไม่เคยเห็น
@
เรื่องสุดท้านที่ผมพึ่งได้เห็นและเป็นเรื่องแปลกสุดๆก็คือการที่สายอนุรักษ์พยายามที่จะหาเรื่องคนรุ่นใหม่ในทุกวิถีทางโดยไม่สนวิธีการเพื่อดับฝันหรือข่มขู่คนรุ่นไหม่ไม่ให้มีที่ยืนในสังคม
และมองว่าคนรุ่นใหม่เป็นอันตรายกับสังคมในฐานะเป็นผู้ที่ยุยงปลุกปั่นให้มีการกระด้างกระเดื่องต่อบ้านเมือง
เออ อันนี้ก็เป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่ผมก็พึงจะเคยเห็น
@ เอาล่ะใหม่หลายเรื่องแล้ว นอนดีกว่า
ฝันดีครับ
ยุคนี้..ทำไมผมจึงได้เห็นอะไรแปลกๆ ?
ซึ่งผมจะไม่ลงลึกในเรื่องนั้น
แต่มันมีเรื่องที่ผมสนใจอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ
มีแขกต่างประเทศโดยเฉพาะตัวแทนของประเทศต่างๆถึง ๑๑
ประเทศพร้อมด้วยตัวแทนจาก สหประชาชาติ หรือ UN
ได้เข้ามาสังเกตการณ์และเข้าร่วมฟังการสอบสวนของตำรวจกรณีการแจ้งข้อหากับคุณธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจในวันนี้
@
ที่ผมว่ามันแปลกๆก็เพราะจริงๆแล้วถ้าเรื่องมันไม่เลวร้ายหรือน่าเป็นห่วงจริงๆนักการทูตกลุ่มนี้ไม่ออกมา
เพื่อสังเกตการณ์อะไรง่ายๆเพราะเขามีมารยาททางการมทูตและทางการเมืองที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องภายในของประเทศนั้นๆ
แต่สำหรับวันนี้ผมกลับเห้นภาพของนักการทูตหรือตัวแทนของนักการทูตจาประเทศต่างๆถึง
๑๑ ประเทศรวมทั้ง UN ด้วยมาสังเกตการณ์และมาร่วมฟังการสอบสวน
@
คำถามคือ ประเทศเหล่านี้มองเห็นอะไร
หรือเป็นกังวลเรื่องอะไรถึงส่งตัวแทนออกมาสังเกตการณ์เช่นนี้
ผมจึงคิดว่านี่คงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่จึงทำให้ประเทศเหล่านี้
"เป็นกังวล"ต่อสถานการณ์ของบ้านเราเมืองเราในวันนี้ หรือว่า
พวกเขาชาวต่างประเทศรู้อะไรที่เราคนไทยไม่รู้กันใช่หรือไม่
อันที่จริงผมก็แปลกๆมาตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งมาแล้วที่คราวนี้ตัวแทนจากต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์มากเป็นพิเศษพร้อมรายงานสถานการณ์เข้าสู่ประเทศตนเองโดยตลอด
ผมจึงตั้งเป็นข้อสังเกตเล่นๆว่าการที่คนต่างประเทศสนใจในเรื่องการเลือกตั้งของเราก็เพราะเขามองภาพเราในมุมมองที่ไม่ปกติหรือเปล่า
ว่าสถานการณ์การเลือกตั้งของเรานั้นไม่ปกติเป็นแน่
เพราะกติกาที่ออกมาเพื่อการเลือกตั้งในครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นกติการที่เอื้อกับเจ้าภาพมากที่สุด
เพราะเหตุนี้หรือเปล่าพวกเขาจึงสนใจและเข้าสังเกตการณ์อย่างเคร่งเครียด
@
สิ่งที่เรียกว่าเป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่ผมเห็นมาในคราวการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็คือ
ปรากฏการณ์อนาคตใหม่ ปรากฏการณ์ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้จำนวน
ส.ส.มากวกว่าพรรคประชาธิปัตย์ทั้งๆที่พึ่งเปิดตัวเปิดพรรคมาเป็นครั้งแรกก็ทำให้สีสันการเมืองไทยสั่นคลอนได้ทันที
หลายจังหวัดอนาคตใหม่ไปล้มแชมป์เก่าแบบสบายๆ
ทำเอานักเลือกตั้งเจ้าถิ่นที่เคยชนะมาตลอดถึงกับอึ้ง และบ่นว่า
ทำไมถึงงทำกับฉันได้
@
สิ่งที่เป็นเรื่องแปลกใหม่อีกครั้งที่ผมเห็นคือ
กระแสความนิยมของอนาคตใหม่มาแรงในกลุ่มของ "วัยรุ่น
และคนรุ่นใหม่"ที่ต้องการเปลี่ยนประเทศ (๑) ไม่เอาทหาร (๒)
ไม่เอานักการเมืองหน้าเดิมที่ไม่ค่อยมีอะไรมากไปกว่าความต้องการเกินประมาณจนลืมหัวประชาชน
อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่จริงๆและเป็นเรื่องแปลกที่ผมเองไม่ค่อยได้เห็นมาก่อนเลย
@ สิ่งที่เป็นความแปลกที่ผมเห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ "ความกลัวคนรุ่นใหม่"
ของพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว
หรือพวกที่หวงอำนาจและสายชาตินิยมหลงยุคทั้งหลายที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เกิดอาการผีเข้าเจ้าสิง กลัวเสียงของคนรุ่นใหม่
ถึงกับมีการฝากบอกคนรุ่นเก่าที่เลือกหรือเคยเลือกตนให้ไปบอกคนรุ่นใหม่ว่า
เห็นแก่พ่อแก่แม่เถอะอย่าเลือกพรรคอนาคตใหม่เลย จะให้กราบก็ยอม
อันนี้เป็นเรืองแปลกอีกเรื่องที่ผมไม่เคยเห็น
@
เรื่องสุดท้านที่ผมพึ่งได้เห็นและเป็นเรื่องแปลกสุดๆก็คือการที่สายอนุรักษ์พยายามที่จะหาเรื่องคนรุ่นใหม่ในทุกวิถีทางโดยไม่สนวิธีการเพื่อดับฝันหรือข่มขู่คนรุ่นไหม่ไม่ให้มีที่ยืนในสังคม
และมองว่าคนรุ่นใหม่เป็นอันตรายกับสังคมในฐานะเป็นผู้ที่ยุยงปลุกปั่นให้มีการกระด้างกระเดื่องต่อบ้านเมือง
เออ อันนี้ก็เป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่ผมก็พึงจะเคยเห็น
@ เอาล่ะใหม่หลายเรื่องแล้ว นอนดีกว่า
ฝันดีครับ