ในฐานะเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่อยู่อาศัย ตอนนี้ตอนนี้ แบงค์ กสิกร ธอส ได้แจ้งกับโครงการต่างๆแล้วว่า จะอนุมัติวงเงินเพียง 90% สำหรับคอนโด บ้าน หรือทาวเฮ้าส์ให้ 95% ไม่สนใจว่า จะเป็นการกู้อสังหาฯ เป็นหลังแรกหรือไม่ ซึ่งปกติเกณฑ์ที่แบงค์ชาติกำหนดไว้ว่า
- สำหรับคนที่ไม่เคยกู้เลย แบงค์จะอนุมัติ 100% หรือ 90 % ก็ได้
- กรณีที่ยังมีผ่อนบ้านหรือคอนโด อยู่ แล้วจะมากู้อันใหม่ ถ้าระยะเวลาสัญญาหลังแรกกับสัญญาใหม่ มากกว่า 3 ปี จะปล่อย 90% แต่ถ้าหลังแรกที่ผ่อนอยู่ กับที่จะกู้ใหม่ ห่างกันไม่ถึง 3 ปี จะปล่อยเพียง 80%
- กรณีกู้ครั้งนี้เป็นหลังที่ 3 จะให้วงเงินเพียง 70%
- กรณีเป็นการกู้ร่วม ให้นับรวม ทุกคนว่าทั้งหมดมีผ่อนบ้านหรือคอนโดทั้งหมดกี่หลัง แล้วอนุมัติตามเกณฑ์นั้น(แบงค์จะคำนวณประมาณนี้)
ณ วันนี้เวลาจะจดจำนอง ณ สำนักงานที่ดิน ฝ่ายจำนองจะตรวจสอบกับทด.13 ถ้าไม่ตรงกับสัญญาจะซื้อจะขาย จะยกเลิกการจดจำนองทันที ปกติก่อนโครงการจะแบ่งแยกโฉนด ที่ดินจะมีการขอราคาประเมินซื้อขายของโครงการ และราคาขายแต่ละยูนิต เพื่อคำนวณ ภาษี ค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว บางครั้งจะเห็นว่า โฉนดออกแล้วแต่โครงการยังนัดโอนไม่ได้ เพราะที่ดินยังไม่กำหนดราคาประเมินออกมา
คนที่กู้บ้าน หรือคอนโด โปรไฟล์จะต้อง OK ไม่มีประวัติชำระสินเชื่อใดๆล่าช้ามาก่อน มีเงินออมในบัญชีมากกว่าอัตราการผ่อน
พนักงานบริษัท ถ้าบริษัทไม่มีการนำส่งประกันสังคม และภาษี หรือผุ้กู้ไม่ได้ยื่น ภาษีไม่ว่าจะ ภงด.90 91 ธนาคารจะไม่พิจารณารายได้ บางธนาคาร ถ้าผู้กู้ไม่มีสินเชื่อใดๆมาก่อนเลย ซึ่งมักจะเป็นคนที่เริ่มทำงานได้ 1-3 ปี ธนาคารจะไม่รับ หรือต้องหาคนกู้ร่วม กรณีทำงานมีประกันสังคม แต่บริษัทแจ้งรายได้ต่ำ ธนาคารจะยึดตามรายได้ที่แจ้งนำส่งประกันสังคม
ส่วนประกันอัคคีภัย กรณีกู้ ก็สามารถเลือกว่าจะทำประกันของธนาคารหรือบริษัทอื่น แต่เพื่อความสะดวกเวลาเกิดความเสียหาย บริษัทประกันของธนาคารจะซ่อมแซมให้อยู่สภาพเดิมง่ายกว่า การไล่เบี้ยให้ประกันบริษัทอื่นซ่อมแซมหรือชดใช้สินไหม
ส่วนประกันชีวิต ผู้กู้จะทำหรือไม่ทำก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ เดิมบางธนาคาร ประกันจะมีประกันอุบัติเหตุเข้าไปในค่าเบี้ย ตอนนี้ กรมการประกันภัย ไม่ให้จับรวมอยู่ในกรรมธรรม์เดียวกัน และถ้าจะทำประกันอุบัติเหตุตรงนี้จะไม่สามารถกู้รวมกับวงเงินสินเชื่อบ้านแบบเดิมได้แล้วต้องจ่ายเป็นเงินสด
เรื่องเกณฑ์ LTV ใหม่ของแบงค์ชาติ
- สำหรับคนที่ไม่เคยกู้เลย แบงค์จะอนุมัติ 100% หรือ 90 % ก็ได้
- กรณีที่ยังมีผ่อนบ้านหรือคอนโด อยู่ แล้วจะมากู้อันใหม่ ถ้าระยะเวลาสัญญาหลังแรกกับสัญญาใหม่ มากกว่า 3 ปี จะปล่อย 90% แต่ถ้าหลังแรกที่ผ่อนอยู่ กับที่จะกู้ใหม่ ห่างกันไม่ถึง 3 ปี จะปล่อยเพียง 80%
- กรณีกู้ครั้งนี้เป็นหลังที่ 3 จะให้วงเงินเพียง 70%
- กรณีเป็นการกู้ร่วม ให้นับรวม ทุกคนว่าทั้งหมดมีผ่อนบ้านหรือคอนโดทั้งหมดกี่หลัง แล้วอนุมัติตามเกณฑ์นั้น(แบงค์จะคำนวณประมาณนี้)
ณ วันนี้เวลาจะจดจำนอง ณ สำนักงานที่ดิน ฝ่ายจำนองจะตรวจสอบกับทด.13 ถ้าไม่ตรงกับสัญญาจะซื้อจะขาย จะยกเลิกการจดจำนองทันที ปกติก่อนโครงการจะแบ่งแยกโฉนด ที่ดินจะมีการขอราคาประเมินซื้อขายของโครงการ และราคาขายแต่ละยูนิต เพื่อคำนวณ ภาษี ค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว บางครั้งจะเห็นว่า โฉนดออกแล้วแต่โครงการยังนัดโอนไม่ได้ เพราะที่ดินยังไม่กำหนดราคาประเมินออกมา
คนที่กู้บ้าน หรือคอนโด โปรไฟล์จะต้อง OK ไม่มีประวัติชำระสินเชื่อใดๆล่าช้ามาก่อน มีเงินออมในบัญชีมากกว่าอัตราการผ่อน
พนักงานบริษัท ถ้าบริษัทไม่มีการนำส่งประกันสังคม และภาษี หรือผุ้กู้ไม่ได้ยื่น ภาษีไม่ว่าจะ ภงด.90 91 ธนาคารจะไม่พิจารณารายได้ บางธนาคาร ถ้าผู้กู้ไม่มีสินเชื่อใดๆมาก่อนเลย ซึ่งมักจะเป็นคนที่เริ่มทำงานได้ 1-3 ปี ธนาคารจะไม่รับ หรือต้องหาคนกู้ร่วม กรณีทำงานมีประกันสังคม แต่บริษัทแจ้งรายได้ต่ำ ธนาคารจะยึดตามรายได้ที่แจ้งนำส่งประกันสังคม
ส่วนประกันอัคคีภัย กรณีกู้ ก็สามารถเลือกว่าจะทำประกันของธนาคารหรือบริษัทอื่น แต่เพื่อความสะดวกเวลาเกิดความเสียหาย บริษัทประกันของธนาคารจะซ่อมแซมให้อยู่สภาพเดิมง่ายกว่า การไล่เบี้ยให้ประกันบริษัทอื่นซ่อมแซมหรือชดใช้สินไหม
ส่วนประกันชีวิต ผู้กู้จะทำหรือไม่ทำก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ เดิมบางธนาคาร ประกันจะมีประกันอุบัติเหตุเข้าไปในค่าเบี้ย ตอนนี้ กรมการประกันภัย ไม่ให้จับรวมอยู่ในกรรมธรรม์เดียวกัน และถ้าจะทำประกันอุบัติเหตุตรงนี้จะไม่สามารถกู้รวมกับวงเงินสินเชื่อบ้านแบบเดิมได้แล้วต้องจ่ายเป็นเงินสด