คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 41
อักษรจีนยากจริงครับ ผมเรียนจีนเป็นภาษาที่สาม ต้องทวนบ่อยๆฝึกคัดบ่อยๆถึงจะทำได้ ผมมีวิดีโออันนึงน่าสนใจมากของช่อง asian boss ที่ไปถามคนจีนตามท้องถนนให้พวกเขาลองเขียนอักษรจีนตามภาพที่เห็น ซึ่งผลออกมาน่าแปลกใจมากเพราะหลายคนไม่สามารถเขียนได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะห่างหายการเขียนมานานใช้แต่การพิมพ์ ซึ่งระบบการพิมพ์สามารถใช้พินอินหรือระบบอื่นแทนได้

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไม่จีนถึงต้องใช้ภาษาจีนเป็นอักษรภาพในการสื่อสาร
ถ้าเข้าใจประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ความจริงแล้วประเทศจีน มันกว้างใหญ่มาก เทียบเท่าทวีปๆหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยประเทศหลายประเทศ เหมือนยุโรป หรือเอเชีย แคว้นหรือมณฑลหนึ่งเท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศ
และแต่ประเทศ(แคว้นต่างๆ)ก็มีภูมิหลัง มีวัฒนธรรม มีภาษาเป็นของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้ เร่ิ่มผนวกประเทศ(แค้วน)ต่างๆเข้าด้วยกัน
การที่จะรวมประเทศต่างๆเข้าด้วยกันเป็นประเทศเดียวได้ มันก็ต้องคุยกันด้วยภาษาเดียวกัน แต่ทีแต่ละแคว้น ก็มีภาษาเป็นของตัวเอง การที่จะเปลี่ยนให้คนมาพูดภาษาเดียวกันมันยาก ก็เลยใช้วิธีกำหนดให้ภาษาเขียนขึ้นมาเป็นสื่อกลาง
อย่างเช่นตัวหนังสือ เลขหนึ่ง เขียนด้วยขีดๆเดียว ที่เมืองๆหนึ่งอาจจะอ่านออกเสียงว่า อี้ อีกเมืองอ่านว่า เจ๊ก อีกเมืองอาจจะเป็น ยัด เป็นต้น
คือพูดไม่เหมือนกัน แต่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษาเขียนแบบเดียวกันได้ และจนปัจจุบันในจีนเองก็ยังมีภาษาพูดมากกว่า 10ภาษา (แค่ภาษากวางตุ้งคนพูดก็มากกว่าภาษาไทยแล้วนะครับ ) แต่มีภาษาเขียนภาษาเดียว นี่คือความอัศจรรย์ของภาษาจีน
ซึ่งถ้าเป็นลักษณะที่ภาษาที่ใช้การสะกดแบบไทย หรืออังกฤษ ทำไม่ได้
นี่เป็นที่มาของการที่ จี๋นซี สั่งทำลายหนังสือต่างๆไปเป็นจำนวนมากเพื่อบังคับให้คนหันมาใช้ภาษาเดียวกัน
หมายเหตุ 1.อักษรภาษาจีน มีมาก่อนยุคจิ๋นซีนะครับ แต่รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่เหมือนปัจจุบันบ้าง และแต่ละเมืองก็มีอักษรที่แตกต่างกันไป
2. จริงๆเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะครับว่าถ้าประเทศจีนสามารถเปลี่ยนมาใช้ภาษาแบบสะกดแบบไทยหรือจีน น่าจะดีกว่านี้ช่วยลดเวลาในการศึกษาภาษาลงไปเพื่อเอาเวลาไปเรียนอย่างอื่น แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องเปลี่ยนให้คนจีนทุกคนพูดภาษาจีนกลางหมดก่อนรวมถึงการสร้างโครงสร้างภาษาใหม่ขึ้นมา
ถ้าเข้าใจประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ความจริงแล้วประเทศจีน มันกว้างใหญ่มาก เทียบเท่าทวีปๆหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยประเทศหลายประเทศ เหมือนยุโรป หรือเอเชีย แคว้นหรือมณฑลหนึ่งเท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศ
และแต่ประเทศ(แคว้นต่างๆ)ก็มีภูมิหลัง มีวัฒนธรรม มีภาษาเป็นของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้ เร่ิ่มผนวกประเทศ(แค้วน)ต่างๆเข้าด้วยกัน
การที่จะรวมประเทศต่างๆเข้าด้วยกันเป็นประเทศเดียวได้ มันก็ต้องคุยกันด้วยภาษาเดียวกัน แต่ทีแต่ละแคว้น ก็มีภาษาเป็นของตัวเอง การที่จะเปลี่ยนให้คนมาพูดภาษาเดียวกันมันยาก ก็เลยใช้วิธีกำหนดให้ภาษาเขียนขึ้นมาเป็นสื่อกลาง
อย่างเช่นตัวหนังสือ เลขหนึ่ง เขียนด้วยขีดๆเดียว ที่เมืองๆหนึ่งอาจจะอ่านออกเสียงว่า อี้ อีกเมืองอ่านว่า เจ๊ก อีกเมืองอาจจะเป็น ยัด เป็นต้น
คือพูดไม่เหมือนกัน แต่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษาเขียนแบบเดียวกันได้ และจนปัจจุบันในจีนเองก็ยังมีภาษาพูดมากกว่า 10ภาษา (แค่ภาษากวางตุ้งคนพูดก็มากกว่าภาษาไทยแล้วนะครับ ) แต่มีภาษาเขียนภาษาเดียว นี่คือความอัศจรรย์ของภาษาจีน
ซึ่งถ้าเป็นลักษณะที่ภาษาที่ใช้การสะกดแบบไทย หรืออังกฤษ ทำไม่ได้
นี่เป็นที่มาของการที่ จี๋นซี สั่งทำลายหนังสือต่างๆไปเป็นจำนวนมากเพื่อบังคับให้คนหันมาใช้ภาษาเดียวกัน
หมายเหตุ 1.อักษรภาษาจีน มีมาก่อนยุคจิ๋นซีนะครับ แต่รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่เหมือนปัจจุบันบ้าง และแต่ละเมืองก็มีอักษรที่แตกต่างกันไป
2. จริงๆเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะครับว่าถ้าประเทศจีนสามารถเปลี่ยนมาใช้ภาษาแบบสะกดแบบไทยหรือจีน น่าจะดีกว่านี้ช่วยลดเวลาในการศึกษาภาษาลงไปเพื่อเอาเวลาไปเรียนอย่างอื่น แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องเปลี่ยนให้คนจีนทุกคนพูดภาษาจีนกลางหมดก่อนรวมถึงการสร้างโครงสร้างภาษาใหม่ขึ้นมา
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนจีนยังเลือกใช้อักษรจีนอยู่ทั้งที่ยากต่อการเรียน ซับซ้อน ตัวอักษรเยอะ มันส่งผลต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีนไหม
ภาษาจีนยากจริงๆแม้แต่คนจีนเองยังบอก ทำหนังสือก็ยาก ทำแป้นพิมพ์ทั้งพิมพ์ดีดก็ยาก ทั้งคอมก็ยากต้องใช้ภาษาอังกฤษพินอินช่วย
มันส่งผลต่อการส่งต่อความรู้แน่นอน
ทำไมคนจีนยังเลือกใช้อักษรจีนอยู่ทั้งที่ยากต่อการเรียน ซับซ้อน ตัวอักษรเยอะ มันส่งผลต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีนไหม