สวัสดีค่ะ
เรามีเรื่องมาเล่าค่ะ พออ่านจบแล้วช่วยตอบเราหน่อยนะค่ะว่าใครผิดใครถูก
เริ่มแรกเราเรียนจบใหม่ๆ
ทำงานในห้างเป็นการทำแทนช่วงเทศกาลนะค่ะไม่ใช่ประจำหรือพาร์ททาม ระหว่างที่ทำงานเราอาศัยอยู่บ้านป้า
เราไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านแต่ช่วยงานบ้านแทน พอเราไม่มีงานทำป้าก็ให้เราออกไปหางานทำจนเราได้งานที่หนึ่งเงินเดือนน้อยมากแต่ก็ต้องทำเพราะเรานอนอยู่บ้านป้ามาเป็นเดือนเราไม่มีงานทำต้องบอกก่อนว่าเงินน้อยมากค่ะที่เราทำนี้คือทำรอเวลาได้งานใหม่ค่ะ
เงินเดือนที่ได้คือ 7,500 บาทค่ะ(หัก อีก 375 บาท เหลือ7,125 บาท/เดือน)เราจบปวส.นะค่ะ งานที่ทำเป็นเอกสารทั่วไปในบริษัทขายสินค้าแห่งหนึ่ง
พอเราทำได้สักพักมีเงินเก็บเกือบหมื่นเราก็ออกมาอยู่ข้างนอกเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายมีค่าบ้าน+ค่าน้ำ+ค่าไฟ ประมาณ 2,300 บาท
ค่ารถจักรยานยนต์ที่เราผ่อนแม่ตั้งแต่เรียน ปวส. เดือนละ 1,000 บาทค่าเน็ตโทรศัพท์ เดือนละ 500 บาท นี้เป็นค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเราค่ะ
3,800บาท/เดือน ส่วนเงินที่เหลือเราใช้กินอยู่ในแต่ละเดือนค่ะ (อันนี้ต้องบอกเลยว่าเราไม่ได้ของเงินแม่หรือที่บ้านเลยค่ะ)
พอเรามาอยู่ได้ประมาณ 3เดือน พี่สาวเราก็มาขออยู่ด้วย
(เนื่องจากพี่เราท้องแล้วพ่อเด็กไม่สนใจที่บ้านเรารู้เรื่องพอไปคุยก็ไม่รับผิดชอบพี่เราตอนแรกก็อยู่กับป้าพออยู่ได้ไม่นานก็มาอยู่กับเรา)
เราก็ไม่ได้ว่าอะไรให้อยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านเราจากที่ใช้จ่ายคนเดียวเราต้องหารสองซึ่งต้องบอกก่อนว่าเงินเราพอใช้บ้างไม่พอบ้าง
แม่เราก็ช่วยพี่เราให้งานพี่เราทำ(แม่เราขายของต่างจังหวัดพวกเครื่องประดับ)ซึ่งที่แม่ให้มาพี่เรานำมาช่วยจ่ายค่าน้ำบ้างค่าไฟบ้างต่างคนละครึ่งกับเรา(เพื่อนเราไม่ต้องจ่าย)ส่วนเรื่องงานบ้านพี่เราทำกับข้าว , ล้างจาน ซึ่งทำตอนช่วงที่เงินเราเหลือน้อย
ถึงทำเก็บข้างกินเอง(ตอนนั้นเราไม่มีตู้เย็นใส่น้ำแข็งแช่ในกระติ๊กเอา)
ส่วนเราก็กวาดขยะบ้างสลับกับพี่ส่วนมากจะเป็นพี่เราเพราะเราทำงาน
เราจำกวาดถูบ้านทุกอาทิตย์ สลับกับเพื่อนรวมขัดห้องน้ำด้วย และก็ผ้าเราก็เป็นคนไปซักและตาก ทุกครั้ง พอพี่เราใกล้คลอดลูกเพื่อนก็ออกจากบ้านเราเช่าอยู่คนเดียวเราเป็นคนจ่ายคนเดียวแม่เราเคยบอกจะให้ครึ่งแต่ก็ให้แค่ครั้งเดียวเราก็เข้าใจเลยไม่ว่าอะไรแต่แม่ให้พี่เราใช้เหมือนเดิม 500-1000/อาทิตย์ ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น พอพี่เราคลอดค่าใช้จ่ายก็ไม่พอขึ้นไปอีกเพราะของหลานเงินที่แม่ให้ไม่เคยพอเอาเงินเราออกทุกครั้งเราก็ไม่ว่าไม่อะไรเพราะเห็นว่าเป็นครอบครัวมีครั้งหนึ่งเราแบบไม่มีใช้จริงๆ นำทองไปขายเพื่อมาเลี้ยง พี่ หลาน แล้วก็เรา
(เงินเราได้เพิ่มเป็นเดือนละ 8,000 บาทหักเหลือเดือนละ 7,600 บาท)เราต้องพาผ้าหลานไปซักบ้านอาเราไม่ได้ซักเครื่องหยอดเหรียญแบบผ้าเรา อาทิตย์ละ 3-4ครั้ง แรกๆ เราเป็นคนตาก เพราะแม่ไม่ให้พี่ทำบอกพี่ผ่าคลอดมาผ่านไป3เดือนได้เราเลยย้ายบ้านเป็นบ้าน2ชั้นแต่ราคาเท่าเดิมอยู่แถวบ้านอาเรา
ซึ่งค่าบ้านเราจ่ายเองหมด (ตอนนั้นเราย้ายแผนกทำงานเงินเดือน8300 หักประกันสังคมหักประกันงานเนื่องจากเราไม่เอาที่ไปค้ำ เหลือเงิน7,385 บาท
ทำให้เงินไม่พอจ่ายอีกเราเลยต้องขอแม่แต่ไม่ได้ขอมาใช้เองขอมาซื้อของให้หลาน พี่เราก็ทำงานหนักกว่าเดิมเลี้ยงลูก กวาดบ้านคือทำเหมือนเดิมทุกอย่าง เราก็ ซักผ้าเป็นหลักอาทิตย์ละ 3-4ครั้งกวาดบ้านนานๆ ครั้ง สักพักพี่เราได้งานทำที่บ้านฝากให้ เราก็ได้ทำที่เดียวกัน ลูกพี่สาวเรา เราก็ช่วยเลี้ยง
ตอนพี่เราไปทำงานเสริมขายของวันเสาร์อาทิตย์ เราเลี้ยงหลาน 17.00-23.00 ตอนขายของเราก็เป็นคนจัดการเรื่องขายให้
(ขายในตลาดเป็นแผงเป็นของป้าเรา) เงินก็เงินเราออกหมด ตอนนี้ยังไม่คืนแต่กำไรไม่ได้เรานะได้พี่เรา
ตอนขนของเราก็ช่วยขน ตอนนั้นน้องชายยังไม่ปิดเทอมไม่ได้มาช่วย เรื่องค่าใช้จ่ายตอนย้ายบ้าน
เราจ่ายค่าบ้าน+น้ำ+ไฟ พี่เราจ่ายแต่ค่าเลี้ยงลูก 4,500 บาท ข้างบนที่พิมพ์ไปเป็นเรื่องเพื่อนำมาถามจุดนี้ค่ะพี่เรากับเราทะเลาะกันพี่ว่าเราไม่ช่วยทำอะไร(เราก็บอกว่าถึงเราไม่ช่วยเราซักผ้า กวาดบ้านบ้างถึงไม่เยอะ ลูกพี่เราตอนที่พี่เราทำอย่างอื่นเช่น กวาดบ้าน ล้างขวดน้ำลูก ตากผ้าลูก ล้างจาน เราก็ดูให้ )พี่เราก็ว่าเราแค่นี้นะ ซักผ้า แค่นี้ ทะเลาะกันครั้งแรก ไม่พูดกันเป็นอาทิตย์
พอมาครั้งที่สอง พี่เราปาของใส่เราแล้วว่าเราเรื่องเดิมซึ่งตอนนั้นเราพึ่งกวาดบ้านเสร็จ ก็ว่าเราเรื่องไม่ทำงานบ้านเหมือนเดิมเราก็ว่าพี่ไปว่าถ้าไม่มีพี่เราก็ดีกว่านี้ไม่ต้องยืมเงินป้ากับอามาใช้เพราะตอนนี้เงินเราไม่มีเหลือเลยติดลบต้องยืมคนอื่นซึ่งเราเป็นคนยืมส่วนมาก(เงินที่ยืมเราหารจ่ายกับพี่เราซึ่งเราก็จ่ายเยอะกว่าเพราะยืมค่าบ้านด้วย)ตอนแรกเราก็ว่าเราพูดแรงไปที่ว่าไม่มีพี่เราชีวิตเราดีกว่านี้แต่เราบังเอิญไปอ่านไลท์พี่ที่คุยกับแม่ บอกว่าทนไม่ไหวกับเรา
แม่เราก็ว่าต้องให้เราอยู่คนเดียวบ้างพอพี่เราตั้งตัวได้ก็ค่อยออกมาอยู่คนเดียว เราผิดหรอเราเหมือนอยากจะบอกแม่ว่าตอนเราเช่าบ้านกับเพื่อนเราก็เหมือนอยู่คนเดียวเพราเพื่อนเรากับบ้านเที่ยงคืนบ้างนอนบ้านแฟนบ้าง ?????
อันนี้เราอยากระบายเพราะไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังดี
เราเคยน้อยใจแม่ได้ก็แค่น้อยใจไม่เคยโกรธเพราะแม่เรามีลูก สามคน แต่แม่รักไม่เท่ากันนะสำหรับเรา (เราเป็นไม่เคยโกหกที่บ้านเเละแม่ ไม่หนี้เที่ยว ไปไหนเราบอก เราตั้งใจเรียน ไม่เคยทำที่บ้านผิดหวัง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเรา)กับพี่เราแม่เราซื้อของให้ไม่ว่าอะไรทำกล้องถ่ายรูปแม่หายไม่เคยว่าโกหกแม่ โกหกที่บ้านไปอยู่กับผู้ชายก็ไม่ว่า(ยังให้เราไปดูอีกว่าพี่เราเป็นไรป่าวติดต่อไม่ได้) กับน้องเราน้องเราอยากได้อะไรซื้อให้น้องเราเป็นพวกหัวสูงชอบใช้แบรนด์แม่เราไม่เคยว่า ซื้อมือถือให้พี่เราใช่ให้น้องเราใช่แต่ยังดีที่ซื้อให้เราด้วยแต่ตอนนั้นเรา 18 ถึงได้ พี่เราแม่ซื้อให้ตั้งแต่ 14-15
น้องเราเหมือนกัน เราก็ไม่เคยว่าน้องเราเรียนท่องเที่ยวใช่เงินเยอะอยากไปนู้นไปนี้ไปเรียนต่อจีนแม่ก็ให้ เรานะซื้อมือถือเองถึง 2เครื่อง เราจำได้เลย
เราโครตน้อยใจที่บ้านเลยแต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะย่าเราก็ตามใจน้องสาวเรา จ่ายค่ามือถือตอนที่น้องเราซื้อใหม่(ไม่ใช่เครื่องที่แม่ซื้อให้)
แต่เราไม่เคยได้จากย่าเลย พี่เราก็ย่าเคยซื้อออกค่ามือถือให้แถมค่าโน๊ตบุ๊คด้วย พอเรามือถือพังอยากได้อีกเครื่องตอนปวส. เราก็ซื้อเอง
เราจำเป็นต้องใช้โน๊ตบุ๊ค เราขอแม่นานๆๆๆมากตั้งแต่ปวช.3 เราเก็บเงินได้ 5000 บาท ปวสแม่เราซื้อให้บอกถ้าเราได้เกรด 3.2
ขึ้นจะคืน 5000บาทให้ เราก็ทำได้ เราจักรยานยนต์เราก็ซื้อเองตอนนี้เหลือ17000ค้างแม่แม่ซื้อเงินสดให้ พอเราทำงานมือถือเราก็พังอีก ใช้มา 3 ปีได้ เราใช้จนกดอะไรได้แล้วเราเลยขอแม่ซื้อแต่ไม่ได้ให้แม่ซื้อให้นะแค่ใช้บัตรแม่ แม่เราก็โอเครแต่พอน้องเรากลับจากจีนบอกอยากได้กล้องถ่ายรูป แม่เราก็ซื้อให้น้องแทนเราโครตน้อยใจเลยเพราะเราขอก่อนแต่ไม่ได้ ผ่านไป4-5 เดือนเราเลยใช้บัตรป้าเราแทน ซื้อเครื่องถูกๆใช้
เสียวหมี่มีโปรจัดกับเอไอเอส ราคา สามพันกว่าแบบรายเดือน เราก็ใช้
ขอบคุณ ทุกคนที่ เข้ามาอ่านและคอมเมนต์

เราอยากรู้ว่าเราผิดเรื่องพี่เราหรอ
เราอาจจะพิมผิดบ้างมั่วบ้างต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
ใครผิดระหว่างเรากับพี่สาว
เรามีเรื่องมาเล่าค่ะ พออ่านจบแล้วช่วยตอบเราหน่อยนะค่ะว่าใครผิดใครถูก
เริ่มแรกเราเรียนจบใหม่ๆ
ทำงานในห้างเป็นการทำแทนช่วงเทศกาลนะค่ะไม่ใช่ประจำหรือพาร์ททาม ระหว่างที่ทำงานเราอาศัยอยู่บ้านป้า
เราไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านแต่ช่วยงานบ้านแทน พอเราไม่มีงานทำป้าก็ให้เราออกไปหางานทำจนเราได้งานที่หนึ่งเงินเดือนน้อยมากแต่ก็ต้องทำเพราะเรานอนอยู่บ้านป้ามาเป็นเดือนเราไม่มีงานทำต้องบอกก่อนว่าเงินน้อยมากค่ะที่เราทำนี้คือทำรอเวลาได้งานใหม่ค่ะ
เงินเดือนที่ได้คือ 7,500 บาทค่ะ(หัก อีก 375 บาท เหลือ7,125 บาท/เดือน)เราจบปวส.นะค่ะ งานที่ทำเป็นเอกสารทั่วไปในบริษัทขายสินค้าแห่งหนึ่ง
พอเราทำได้สักพักมีเงินเก็บเกือบหมื่นเราก็ออกมาอยู่ข้างนอกเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายมีค่าบ้าน+ค่าน้ำ+ค่าไฟ ประมาณ 2,300 บาท
ค่ารถจักรยานยนต์ที่เราผ่อนแม่ตั้งแต่เรียน ปวส. เดือนละ 1,000 บาทค่าเน็ตโทรศัพท์ เดือนละ 500 บาท นี้เป็นค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเราค่ะ
3,800บาท/เดือน ส่วนเงินที่เหลือเราใช้กินอยู่ในแต่ละเดือนค่ะ (อันนี้ต้องบอกเลยว่าเราไม่ได้ของเงินแม่หรือที่บ้านเลยค่ะ)
พอเรามาอยู่ได้ประมาณ 3เดือน พี่สาวเราก็มาขออยู่ด้วย (เนื่องจากพี่เราท้องแล้วพ่อเด็กไม่สนใจที่บ้านเรารู้เรื่องพอไปคุยก็ไม่รับผิดชอบพี่เราตอนแรกก็อยู่กับป้าพออยู่ได้ไม่นานก็มาอยู่กับเรา)
เราก็ไม่ได้ว่าอะไรให้อยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านเราจากที่ใช้จ่ายคนเดียวเราต้องหารสองซึ่งต้องบอกก่อนว่าเงินเราพอใช้บ้างไม่พอบ้าง
แม่เราก็ช่วยพี่เราให้งานพี่เราทำ(แม่เราขายของต่างจังหวัดพวกเครื่องประดับ)ซึ่งที่แม่ให้มาพี่เรานำมาช่วยจ่ายค่าน้ำบ้างค่าไฟบ้างต่างคนละครึ่งกับเรา(เพื่อนเราไม่ต้องจ่าย)ส่วนเรื่องงานบ้านพี่เราทำกับข้าว , ล้างจาน ซึ่งทำตอนช่วงที่เงินเราเหลือน้อย
ถึงทำเก็บข้างกินเอง(ตอนนั้นเราไม่มีตู้เย็นใส่น้ำแข็งแช่ในกระติ๊กเอา)
ส่วนเราก็กวาดขยะบ้างสลับกับพี่ส่วนมากจะเป็นพี่เราเพราะเราทำงาน
เราจำกวาดถูบ้านทุกอาทิตย์ สลับกับเพื่อนรวมขัดห้องน้ำด้วย และก็ผ้าเราก็เป็นคนไปซักและตาก ทุกครั้ง พอพี่เราใกล้คลอดลูกเพื่อนก็ออกจากบ้านเราเช่าอยู่คนเดียวเราเป็นคนจ่ายคนเดียวแม่เราเคยบอกจะให้ครึ่งแต่ก็ให้แค่ครั้งเดียวเราก็เข้าใจเลยไม่ว่าอะไรแต่แม่ให้พี่เราใช้เหมือนเดิม 500-1000/อาทิตย์ ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น พอพี่เราคลอดค่าใช้จ่ายก็ไม่พอขึ้นไปอีกเพราะของหลานเงินที่แม่ให้ไม่เคยพอเอาเงินเราออกทุกครั้งเราก็ไม่ว่าไม่อะไรเพราะเห็นว่าเป็นครอบครัวมีครั้งหนึ่งเราแบบไม่มีใช้จริงๆ นำทองไปขายเพื่อมาเลี้ยง พี่ หลาน แล้วก็เรา
(เงินเราได้เพิ่มเป็นเดือนละ 8,000 บาทหักเหลือเดือนละ 7,600 บาท)เราต้องพาผ้าหลานไปซักบ้านอาเราไม่ได้ซักเครื่องหยอดเหรียญแบบผ้าเรา อาทิตย์ละ 3-4ครั้ง แรกๆ เราเป็นคนตาก เพราะแม่ไม่ให้พี่ทำบอกพี่ผ่าคลอดมาผ่านไป3เดือนได้เราเลยย้ายบ้านเป็นบ้าน2ชั้นแต่ราคาเท่าเดิมอยู่แถวบ้านอาเรา
ซึ่งค่าบ้านเราจ่ายเองหมด (ตอนนั้นเราย้ายแผนกทำงานเงินเดือน8300 หักประกันสังคมหักประกันงานเนื่องจากเราไม่เอาที่ไปค้ำ เหลือเงิน7,385 บาท
ทำให้เงินไม่พอจ่ายอีกเราเลยต้องขอแม่แต่ไม่ได้ขอมาใช้เองขอมาซื้อของให้หลาน พี่เราก็ทำงานหนักกว่าเดิมเลี้ยงลูก กวาดบ้านคือทำเหมือนเดิมทุกอย่าง เราก็ ซักผ้าเป็นหลักอาทิตย์ละ 3-4ครั้งกวาดบ้านนานๆ ครั้ง สักพักพี่เราได้งานทำที่บ้านฝากให้ เราก็ได้ทำที่เดียวกัน ลูกพี่สาวเรา เราก็ช่วยเลี้ยง
ตอนพี่เราไปทำงานเสริมขายของวันเสาร์อาทิตย์ เราเลี้ยงหลาน 17.00-23.00 ตอนขายของเราก็เป็นคนจัดการเรื่องขายให้
(ขายในตลาดเป็นแผงเป็นของป้าเรา) เงินก็เงินเราออกหมด ตอนนี้ยังไม่คืนแต่กำไรไม่ได้เรานะได้พี่เรา
ตอนขนของเราก็ช่วยขน ตอนนั้นน้องชายยังไม่ปิดเทอมไม่ได้มาช่วย เรื่องค่าใช้จ่ายตอนย้ายบ้าน
เราจ่ายค่าบ้าน+น้ำ+ไฟ พี่เราจ่ายแต่ค่าเลี้ยงลูก 4,500 บาท ข้างบนที่พิมพ์ไปเป็นเรื่องเพื่อนำมาถามจุดนี้ค่ะพี่เรากับเราทะเลาะกันพี่ว่าเราไม่ช่วยทำอะไร(เราก็บอกว่าถึงเราไม่ช่วยเราซักผ้า กวาดบ้านบ้างถึงไม่เยอะ ลูกพี่เราตอนที่พี่เราทำอย่างอื่นเช่น กวาดบ้าน ล้างขวดน้ำลูก ตากผ้าลูก ล้างจาน เราก็ดูให้ )พี่เราก็ว่าเราแค่นี้นะ ซักผ้า แค่นี้ ทะเลาะกันครั้งแรก ไม่พูดกันเป็นอาทิตย์
พอมาครั้งที่สอง พี่เราปาของใส่เราแล้วว่าเราเรื่องเดิมซึ่งตอนนั้นเราพึ่งกวาดบ้านเสร็จ ก็ว่าเราเรื่องไม่ทำงานบ้านเหมือนเดิมเราก็ว่าพี่ไปว่าถ้าไม่มีพี่เราก็ดีกว่านี้ไม่ต้องยืมเงินป้ากับอามาใช้เพราะตอนนี้เงินเราไม่มีเหลือเลยติดลบต้องยืมคนอื่นซึ่งเราเป็นคนยืมส่วนมาก(เงินที่ยืมเราหารจ่ายกับพี่เราซึ่งเราก็จ่ายเยอะกว่าเพราะยืมค่าบ้านด้วย)ตอนแรกเราก็ว่าเราพูดแรงไปที่ว่าไม่มีพี่เราชีวิตเราดีกว่านี้แต่เราบังเอิญไปอ่านไลท์พี่ที่คุยกับแม่ บอกว่าทนไม่ไหวกับเรา
แม่เราก็ว่าต้องให้เราอยู่คนเดียวบ้างพอพี่เราตั้งตัวได้ก็ค่อยออกมาอยู่คนเดียว เราผิดหรอเราเหมือนอยากจะบอกแม่ว่าตอนเราเช่าบ้านกับเพื่อนเราก็เหมือนอยู่คนเดียวเพราเพื่อนเรากับบ้านเที่ยงคืนบ้างนอนบ้านแฟนบ้าง ?????
อันนี้เราอยากระบายเพราะไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังดี
เราเคยน้อยใจแม่ได้ก็แค่น้อยใจไม่เคยโกรธเพราะแม่เรามีลูก สามคน แต่แม่รักไม่เท่ากันนะสำหรับเรา (เราเป็นไม่เคยโกหกที่บ้านเเละแม่ ไม่หนี้เที่ยว ไปไหนเราบอก เราตั้งใจเรียน ไม่เคยทำที่บ้านผิดหวัง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเรา)กับพี่เราแม่เราซื้อของให้ไม่ว่าอะไรทำกล้องถ่ายรูปแม่หายไม่เคยว่าโกหกแม่ โกหกที่บ้านไปอยู่กับผู้ชายก็ไม่ว่า(ยังให้เราไปดูอีกว่าพี่เราเป็นไรป่าวติดต่อไม่ได้) กับน้องเราน้องเราอยากได้อะไรซื้อให้น้องเราเป็นพวกหัวสูงชอบใช้แบรนด์แม่เราไม่เคยว่า ซื้อมือถือให้พี่เราใช่ให้น้องเราใช่แต่ยังดีที่ซื้อให้เราด้วยแต่ตอนนั้นเรา 18 ถึงได้ พี่เราแม่ซื้อให้ตั้งแต่ 14-15
น้องเราเหมือนกัน เราก็ไม่เคยว่าน้องเราเรียนท่องเที่ยวใช่เงินเยอะอยากไปนู้นไปนี้ไปเรียนต่อจีนแม่ก็ให้ เรานะซื้อมือถือเองถึง 2เครื่อง เราจำได้เลย
เราโครตน้อยใจที่บ้านเลยแต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะย่าเราก็ตามใจน้องสาวเรา จ่ายค่ามือถือตอนที่น้องเราซื้อใหม่(ไม่ใช่เครื่องที่แม่ซื้อให้)
แต่เราไม่เคยได้จากย่าเลย พี่เราก็ย่าเคยซื้อออกค่ามือถือให้แถมค่าโน๊ตบุ๊คด้วย พอเรามือถือพังอยากได้อีกเครื่องตอนปวส. เราก็ซื้อเอง
เราจำเป็นต้องใช้โน๊ตบุ๊ค เราขอแม่นานๆๆๆมากตั้งแต่ปวช.3 เราเก็บเงินได้ 5000 บาท ปวสแม่เราซื้อให้บอกถ้าเราได้เกรด 3.2
ขึ้นจะคืน 5000บาทให้ เราก็ทำได้ เราจักรยานยนต์เราก็ซื้อเองตอนนี้เหลือ17000ค้างแม่แม่ซื้อเงินสดให้ พอเราทำงานมือถือเราก็พังอีก ใช้มา 3 ปีได้ เราใช้จนกดอะไรได้แล้วเราเลยขอแม่ซื้อแต่ไม่ได้ให้แม่ซื้อให้นะแค่ใช้บัตรแม่ แม่เราก็โอเครแต่พอน้องเรากลับจากจีนบอกอยากได้กล้องถ่ายรูป แม่เราก็ซื้อให้น้องแทนเราโครตน้อยใจเลยเพราะเราขอก่อนแต่ไม่ได้ ผ่านไป4-5 เดือนเราเลยใช้บัตรป้าเราแทน ซื้อเครื่องถูกๆใช้
เสียวหมี่มีโปรจัดกับเอไอเอส ราคา สามพันกว่าแบบรายเดือน เราก็ใช้
ขอบคุณ ทุกคนที่ เข้ามาอ่านและคอมเมนต์
เราอยากรู้ว่าเราผิดเรื่องพี่เราหรอ
เราอาจจะพิมผิดบ้างมั่วบ้างต้องขอโทษด้วยนะค่ะ